ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 181 การมาเยือนของฟอลคอนจอห์น
แจ็คเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างประหม่าว่า “เอ่อ… บอส ผมโทรมาขัดจังหวะบอสทำเรื่องอย่างว่ารึเปล่าเนี่ย ?”
“นายรู้แล้วยังจะมาถามอีกทำไม ?” เย่เชียนขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “เอาล่ะ มีอะไรก็รีบบอกมา ฉันรู้ว่าถ้านายโทรหาฉันนอกเวลาแบบนี้ มันก็แสดงว่านายต้องมีบางอย่างที่สำคัญที่จะคุยกับฉันอยู่แล้ว”
“ฮันเตอร์จอห์นมาที่นี่แล้วบอส! ผมเลยอยากถามบอสว่าเราจะทำยังไงกันต่อดี” แจ็คพูด
“ฮันเตอร์ฟอลคอนจอห์นน่ะนะ ? เขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” เย่เชียนถาม
“เมื่อสองวันที่แล้ว! แต่ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นนะบอส ยังมีหน่วยหลักอีกหลายสิบคนเลยที่มาด้วย ตอนนี้พวกนั้นกำลังพักอยู่ในโรงแรมที่จัดไว้ให้โดยตงเซียนกรุ๊ป” แจ็คตอบ
เย่เชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หรือว่าจะเป็นเพราะเขาไปเอาชนะทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬทั้งสี่คนได้เมื่อครั้งก่อน มันอาจจะดึงดูดความสนใจของฟอลคอนจอห์นก็เป็นได้ แต่สิ่งที่เย่เชียนไม่เข้าใจก็คือคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนกำลังทำอะไรกันอยู่ ? เพราะตอนนี้มีเหล่าสมาชิกของเหยี่ยวดำทมิฬเคลื่อนพลมาที่เมืองเซียงไฮ้แห่งนี้แล้วเป็นจำนวนมากแต่พวกเขากลับไม่รู้ไม่เห็นเรื่องพวกนี้ มันจะเป็นไปได้หรือ? หรือพวกเขาจะมีจุดประสงค์อื่น ? เย่เชียนขมวดคิ้วแน่นและพึมพำว่า “ปู่เอ้ยปู่… นี่ปู่กำลังมีแผนอะไรกันแน่เนี่ย ?”
“บอสครับ ยังอยู่มั้ย ?” แจ็คเรียกเมื่อเย่เชียนไม่ได้พูดเป็นเวลานานสักพักหนึ่ง
เย่เชียนฟื้นคืนจากความครุ่นคิดของเขาและพูดว่า “มีอะไรเกิดขึ้นที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนหรือเปล่า ? ที่เซี่ยงไฮ้มีพวกเขาแฝงตัวอยู่ตั้งเยอะ แต่การที่พวกนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยนี่มันแปลกมาก”
แจ็คเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “จริงด้วย… นี่มันไม่ใช่สไตล์ของปู่เลย ถ้าเป็นเหมือนเมื่อก่อนล่ะก็ ผมเกรงว่าพวกเหยี่ยวดำทมิฬเหล่านั้นจะต้องไปนั่งคุกเข่าดื่มชาและปรับทัศนคติกับปู่เขาตั้งแต่ย่างเท้าก้าวแรกเข้ามาในเขตเซี่ยงไฮ้อย่างแน่นอน”
เย่เชียนก็ครุ่นคิดอีกครั้งอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “เราหยุดแผนการของเราเอาไว้ชั่วคราวก่อนแล้วกัน คอยดูสถานการณ์ตอนนี้ไปก่อน นายช่วยส่งจดหมายถึงฟอลคอนจอห์นในนามของฉันให้ที ฉันอยากดูปฏิกิริยาของพวกเขา อย่าลืมให้ความสนใจกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติด้วย… การเคลื่อนไหวของปู่นั่นคาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ เลยแฮะ”
“จัดไปบอส ผมรู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง บอสไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย” แจ็คพูด
เย่เชียนตอบตกลงจากนั้นก็วางสายไป
……
ณ บ้านของฉินหยู
ที่ห้องของสาวงามหูวเค่อ เธอกำลังสนทนาทางวิดีโอกับปู่ของเธออยู่ ถ้าหากว่าเย่เชียนได้เห็นหน้าชายชราบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เธอล่ะก็ เขาจะต้องประหลาดใจอย่างมากแน่นอน แต่น่าเสียดายนักที่เย่เชียนไม่สามารถมาเห็นได้
“หลานสาวที่น่ารักของปู่… ทำไมหนูถึงรีบเรียกปู่ขนาดนี้” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นใจดี
“ตอนนี้พวกทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬมาที่เมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว… อย่าบอกนะว่าคุณปู่ไม่รู้น่ะ” หูวเค่อพูด
ชายชราหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “อ้าว! ปู่ก็ต้องรู้อยู่แล้วสิ ตั้งแต่ที่พวกเขาย่างเท้าเข้ามาในประเทศจีน พวกเขาก็อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของสหายของเราจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแล้วล่ะ”
หูวเค่อถามด้วยความประหลาดใจว่า “แล้วทำไมคุณปู่ถึงไม่ทำอะไรเลยล่ะคะ ? ตอนนี้เมืองเซี่ยงไฮ้ก็ยุ่งเหยิงมากพออยู่แล้ว ยิ่งคนกลุ่มนี้เข้ามาอีก หนูกลัวว่ามันจะวุ่นวายกว่านี้อีกน่ะสิ”
ชายชราหัวเราะและพูดว่า “หลานเอ๋ย… หนูลืมที่ปู่เคยสอนไปแล้วหรือว่าผู้นำที่ดีต้องเรียนรู้วิธีใช้ความขัดแย้งในทุก ๆ รูปแบบเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่สูงสุดน่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเหยี่ยวดำทมิฬก็เป็นแค่ตัวตลกและหมากที่มีชีวิตเท่านั้นแหละ พวกนั้นมันไม่สามารถก่อให้เกิดพายุลูกใหญ่ได้หรอก”
“แต่ถึงยังไงคนจากเหยี่ยวดำทมิฬถึงกับมาลอบยิงที่หน้าบ้านพักของพี่หยูเมื่อไม่นานมานี้เองนะคะ ถ้าบังเอิญเย่เชียนไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย หนูเกรงว่าลุงฉินอาจจะตายไปแล้วก็ได้” หูวเค่อพูด
“ปู่รู้…” ชายชราพูดเบา ๆ ต่อ “แล้วหนูคิดว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคือฉินเทียนหรือว่าเย่เชียนกันแน่ล่ะ ?”
เมื่อชายชราพูดเช่นนี้ หูวเค่อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอรู้จักตัวตนของที่แท้จริงของเย่เชียน เธอก็รู้สึกสนใจเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่หูวเค่อเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นว่า “คุณปู่พูดแบบนี้เพื่อจะบอกหนูว่าในเหตุการณ์ลอบยิงเมื่อไม่นานมานี้เป้าหมายจริง ๆ ไม่ใช่ลุงฉินแต่เป็นเย่เชียนงั้นเหรอคะ ? แต่คุณปู่คะ… ถ้าเกิดว่าเป้าหมายเป็นเย่เชียนจริง ๆ คุณปู่ไม่คิดที่จะช่วยเขาจัดการเรื่องนี้เหรอคะ ? อย่าลืมสิว่าเขาคือความหวังที่ดีที่สุดที่จะได้เป็นผู้สืบทอดของคุณปู่”
ชายชราหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “โอ้… หนูกังวลขนาดนั้นเชียวหรือ ? หลานสาวของปู่หนูชอบหนุ่มน้อยคนนั้นใช่มั้ย ?”
ใบหน้าของหูวเค่อเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอกระวนกระวายตอบอย่างร้อนรนว่า “คุณปู่คะ! คุณปู่กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย นี่หนูจริงจังนะ”
ชายชราหัวเราะอย่างมีความสุขและพูดว่า “หูวเค่อ… หลานไม่ต้องมาปิดบังอะไรปู่หรอก อย่าลืมว่าปู่เลี้ยงดูหนูมาตั้งแต่เล็ก ๆ นะ ปู่คนนี้ก็ต้องรู้จักนิสัยใจคอของหลานสาวเป็นอย่างดีสิ เย่เชียนแฟนของหนูน่ะ ต่อให้พวกเหยี่ยวดำทมิฬมารวมตัวกันทั้งฝูงก็ยังไม่สามารถทัดเทียมฝีมือกับเขาได้เลย เขาต้องเป็นผู้สืบทอดของปู่ได้อยู่แล้วอย่างแน่นอน และไม่ต้องกังวลไป หากเขาไม่เป็นอย่างที่ปู่คาดหวังเอาไว้ เพราะถึงยังไงปู่ก็เชื่อว่าพ่อหนุ่มน้อยคนนั้นจะใช้เวลาไม่นานในการเคลื่อนไหวการใหญ่… ปู่รู้จักเขาดี เรื่องพวกนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก เพราะเขาจะต้องชำระแค้นพวกมันคืนอย่างแน่นอน ในเมื่อพวกเหยี่ยวดำทมิฬกล้ามาลอบสังหารเขาแล้วจะให้เขาปล่อยพวกเหยี่ยวดำทมิฬไปง่าย ๆ ได้ยังไงล่ะ”
หูวเค่อเงียบไปครู่หนึ่ง เธอกำลังคิดถึงเย่เชียนผู้ที่เป็นถึงผู้นำของราชาแห่งโลกทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า และคิดว่าทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬนั้นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบในโลกของทหารรับจ้าง การที่เย่เชียนจะจัดการกับคนพวกนั้นก็คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับเขา
“ทำไมคุณปู่ถึงได้มั่นใจขนาดนั้นล่ะคะ ? ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเย่เชียนล่ะก็ คุณปู่จะเสียใจเอานะ” หูวเค่อทำหน้ามุ่ย
ชายชราหัวเราะเบา ๆ และพูดหยอกล้อว่า “ปู่จะเสียใจหรือหนูจะเสียใจกันแน่ หืม ? ทักษะที่ดีของเขาน่ะไม่ใช่พรสวรรค์อย่างเดียวของเขาหรอกนะ”
หูวเค่อบุ้ยปากและมองไปที่ชายชราผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์จากนั้นก็พูดว่า “หนูขี้เกียจคุยกับปู่แล้ว… หนูไปนอนดีกว่า”
ชายชรายิ้มกว้างอย่างมีความสุขและพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “ถ้างั้นปู่จะไม่รบกวนหลานสาวคนดีของปู่แล้วก็ได้ ไปนอนเถอะหลานรัก หนูไม่ต้องเป็นห่วง ปู่จะไม่ปล่อยให้หนุ่มน้อยคนนั้นต้องเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน”
……
ณ ในโรงแรมไฮแอทในห้องวีไอพี
ฟอลคอนจอห์นและทหารรับจ้างอีกหลายสิบคนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นโดยมีโฆษณาที่น่าเบื่อในทีวีฉายอยู่ มีชายสี่คนยืนอยู่ตรงหน้าของฟอลคอนจอห์นด้วยความสำนึกผิด พวกเขาต่างก็ก้มหน้าต่ำราวกับว่าเป็นเด็กที่ทำผิดพลาดร้ายแรง ฟอลคอนจอห์นเหลือบมองชายทั้งสี่คนอย่างเย็นชาและพูดว่า “ไหนเล่ามาซิ… มันเกิดอะไรขึ้น ?”
ชายสี่คนนี้คือทหารรับจ้างสี่คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเย่เชียนในโรงพยาบาลวันนั้น เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามของฟอลคอนจอห์นแล้ว พวกเขาทั้งสี่คนก็ยิ่งรู้สึกละอายใจอย่างมาก พวกเขาก้มหน้าลงอย่างหมดหนทางและเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟอลคอนจอห์นฟังอย่างละเอียด
ฟอลคอนจอห์นเงียบไปครู่หนึ่งและบ่นพึมพำว่า “ประเทศจีนเนี่ยมันเป็นเหมือนกับมังกรซ่อนเล็บหรือไม่ก็เสือซ่อนเขี้ยวจริง ๆ แล้วพวกนายรู้จักตัวตนของเด็กคนนั้นหรือเปล่า ?”
ทั้งสี่คนได้แต่ส่ายหัวไปมา
“ถูกเขายำมาซะเละขนาดนี้ แต่พวกนายก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใครงั้นเหรอ ? นี่พวกนายไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือไงกัน ?” ฟอลคอนจอห์นตะคอก
“ได้… ได้ยินมาจากเหว่ยเฉินหลงแห่งตงเซียนกรุ๊ปแค่ว่าคนคนนั้นชื่อเย่เชียน” หนึ่งในสี่คนนั้นพูดเสียงสั่น
“ห๊ะ… เย่เชียน ?” ฟอลคอนจอห์นถึงกับผงะไปชั่วขณะและขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า “ราชาหมาป่าเย่เชียนที่เขาร่ำลือกันน่ะเหรอ ? เขาจะมาอยู่ในประเทศจีนนี่ได้ยังไง ?”
“ตอนแรกผมก็คิดอย่างนั้นแหละครับ คิดว่าจะเป็นแค่คนชื่อเหมือนกันเฉย ๆ ” หนึ่งในนั้นเหลือบมองไปที่ฟอลคอนจอห์นอย่างลับ ๆ และพูดอย่างแผ่วเบา
“ไม่ว่าจะใช่เขาหรือไม่ เราก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอย่างด่วนเลย” ฟอลคอนจอห์นพูดจบก็เอนหลังพิงโซฟาและขมวดคิ้วเข้าหากัน