ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 2 ปล้นเครื่องบิน ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 ปล้นเครื่องบิน (2)
ตั้งแต่เย่เชียนเติบโตมา เขาปลิดชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน อาจจะมากถึงหนึ่งพันคนเลยทีเดียวที่ต้องตายลงด้วยน้ำมือของเขา เย่เชียนเป็นหัวหน้ากลุ่มเขี้ยวหมาป่าซึ่งเป็นตํานานในหมู่ทหารรับจ้าง
กลุ่มเขี้ยวหมาป่านั้น แต่เดิมถูกพิจารณาไว้ว่าเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดและมีสมาชิกแค่เพียงสิบคน ทว่าตั้งแต่ ‘ราชาหมาป่า’ อย่างเย่เชียนก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่ม เพียงสามปีต่อมากลุ่มเขี้ยวหมาป่ากลับเติบโตขยายตัวจนกลายเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่
เขาปกครองทุกอย่างโดยใช้เวลาเพียงแค่ปีเศษ และหลังจากที่โค่นล้ม เซี่ยป้าว ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกขนานนามว่าเป็นราชาแห่งกองกำลังทหารรับจ้างลงได้ ด้วยเหตุนี้จึงทําให้เย่เชียนอยู่เหนือจุดสูงสุดเสมือนกับราชันแห่งเหล่าทหารรับจ้างกองกำลังพิเศษนานาชาติ
……
กลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบัน
หลังจากที่เย่เชียนจัดการกับผู้ก่อการร้ายสองคนได้สำเร็จ เขาก็กระโจนเข้าใส่ผู้ก่อการร้ายคนสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในห้องผู้โดยสารก่อนจะพุ่งเข้าไปแย่งปืนแล้วเหนี่ยวไกทันที
ปัง!
ผู้ก่อการร้ายหันขวับไปหาจุดที่วิถีกระสุนพุ่งใส่อย่างทันควัน แต่ช้าไปเสียแล้ว ลูกกระสุนลูกนั้นมันฝังเข้าไปในหน้าผากของเขาอย่างจัง ขณะที่ผู้โดยสารโดยรอบร้องลั่นด้วยความตื่นตกใจกลัวทันทีที่ได้ยินเสียงปืน
เย่เชียนไม่ได้ใส่ใจต่อเสียงร้องเหล่านั้นมากนัก เขาเดินดุ่ม ๆ ไปที่ห้องนักบินซึ่งมีผู้ก่อการร้ายคนสุดท้ายที่ยังคงลอยนวลอยู่ข้างใน ถ้ามันรู้ว่าเพื่อนของมันตายไปหมดแล้ว ชะตากรรมของทุกคนคงจะจบไม่สวยเป็นแน่แท้ เพราะชายฉกรรจ์คนนี้ มันไม่เพียงแค่ถือ AK47 ไว้ในมือเท่านั้น ทว่ามันยังมีระเบิดติดไว้ที่เสื้ออีกลูก
ถ้ามันรู้ตัวทุกอย่างคงจบสิ้น!
“คุณครับ คุณช่วยปลอบใจผู้โดยสารพวกนี้ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปข้างใน” เย่เชียนพูดกับแอร์โฮสเตสสาวแล้วจึงค่อย ๆ เดินย่องไปยังห้องนักบินพร้อมกับปืนในมือ ระหว่างทางเขาก็คว้ามีดจากอกของผู้ก่อการร้ายที่เป็นหัวหน้าโดยไม่แยแสแม้เลือดจะเปื้อนมือ
เมื่อเย่เชียนมาถึงประตูห้องนักบิน เขาก็แอบมองเข้าไปด้านในและเห็นผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยนั่งสบาย ๆ จิบเครื่องดื่มโคล่าอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อนใด ๆ เลย ถัดไปใกล้ ๆ มีกัปตันชายวัยกลางคนในชุดยูนิฟอร์มนักบินสีขาวนั่งอยู่ ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยไม่ได้รับรู้ถึงการมาเยือนของเย่เชียน เขาจึงยังคงนั่งจิบโคล่าอย่างสบายใจ
“ผมบอกแล้วไงว่าเราวนเครื่องกลับไปที่เดิมไม่ได้ เพราะน้ำมันที่เรามีมันเหลือไม่พอที่จะทำแบบนั้น…” กัปตันกล่าวขึ้นอย่างหมดหวัง
เห็นได้ชัดว่าผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่กัปตันพยายามจะอธิบายเลยแม้แต่น้อย เขารู้แค่ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่มากหากปล่อยให้เครื่องบินลงจอดที่ประเทศจีน
“ถ้าบินย้อนกลับไปไม่ได้ งั้นทำไมแกไม่ไปลงจอดที่อื่นล่ะวะไอ้โง่! จะไปจอดที่ประเทศ T รึไม่ก็ประเทศ YN ก็ยังได้ แค่นี้ก็คิดไม่ได้ แกเป็นกัปตันประสาอะไรวะ!” ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความคิดความเข้าใจ
“แต่ถ้าเราบินเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศที่ไม่ได้ติดต่อขออนุญาตไว้ก่อนล่ะก็ พวกเขาอาจเห็นว่าเราเป็นศัตรูและเราอาจโดนยิงจากทางภาคพื้น…” กัปตันเริ่มรู้สึกหมดหนทางที่จะอธิบาย มันค่อนข้างยากลำบากในการขอเข้าน่านฟ้าในประเทศอื่น ๆ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เครื่องบินแปลกหน้าอาจถูกขีปนาวุธสอยร่วงก็เป็นได้
ผู้ก่อการร้ายได้ยินเช่นนั้นก็เดือดดาลทันที “พล่ามอะไรนักหนาวะ ? ข้าไม่มีตัวเลือกให้แกมากนักนะโว้ย! ถ้าไม่อยากตายก็หยุดพล่ามไร้สาระซะแล้วทำตามคำสั่งของข้าเดี๋ยวนี้ ข้าชักจะมีน้ำโหแล้ว!”
กัปตันได้แต่ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง ‘นี่มันเป็นกฎของเจียงฮู่หรือกระไรที่ผู้อ่อนแอจักต้องทำตามคำสั่งของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า’ กัปตันคิดในใจ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้ก่อการร้ายเพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ว่าเขาไม่มีตัวเลือกมากนัก
ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยรู้สึกได้ใจที่กัปตันว่าง่ายและเริ่มคล้อยตามคําที่เขาพูด ทันใดนั้นเอง เย่เชียนก็ผลักประตูเข้ามาแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบจนมันไม่มีเวลาได้ตั้งตัวเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยเห็นเย่เชียนก็ตกใจคว้าปืนขึ้นมา ทว่ายังไม่ทันได้เหนี่ยวไก เขาก็เห็นแสงสีแดงวูบขึ้นก่อนจะสิ้นชีวิตลงในทันที
เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองถูกฆ่าตายได้อย่างไร…
สําหรับเย่เชียนแล้ว การฆ่ามนุษย์นั้นสุดแสนจะง่ายดายเพราะเขาฝึกซ้อมมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ไม่รู้ประสาอะไรทั้งนั้น อีกทั้งเขายังมีพรสวรรค์และความเชี่ยวชาญเรื่องโครงสร้างร่างกายมนุษย์อย่างดีเยี่ยม ถ้าจะให้เขาชําแหละแซะทิ้งมันก็ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ยากที่จะหาศัตรูต่อกรด้วย ระดับความรู้ของเขานั้นแม้ในหมู่กลุ่มเขี้ยวหมาป่าด้วยกันเองก็ยังให้ความเคารพและยอมรับนับถือ
“ขอบคุณครับ! ขอบคุณจริง ๆ หากไม่ได้คุณแล้วล่ะก็ ทั้งผู้โดยสารและพนักงานทั้งหมดคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบากเป็นแน่ ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไป ผมขอทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่าครับ ? ผมหวังว่าคุณจะมากับผมเพื่อไปให้ปากคํากับตํารวจด้วยกัน” กัปตันโพล่งออกมาหลังจากที่ความตกใจในเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นของเขาทุเลาลง
เย่เชียนขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยแต่แล้วก็ต้องคลายมันออกเมื่อสัมผัสได้ว่าคําพูดของกัปตันไม่มีความนัยใด ๆ แฝงอยู่ แต่ถึงอย่างไร เย่เชียนก็ไม่ต้องการให้ชื่อของเขาเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่หน่วยงานของรัฐบาลจีนจะไม่ออกหมายจับและไล่ล่าเขาในภายหลัง
เมื่อกัปตันเห็นสีหน้าของเย่เชียนที่ดูเป็นกังวล เขาจึงอธิบายอย่างเร่งรีบว่า
“คุณครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดไป นี่มันเป็นเพียงแค่ขั้นตอนทั่วไปก็เท่านั้นเอง คุณจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา และผมเชื่อว่าผู้คนมากมายในวันนี้ย่อมอยากให้รางวัลแก่ฮีโร่ของพวกเขาเป็นแน่ คุณช่วยชีวิตของพวกเราไว้นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน” เย่เชียนไม่ได้อยากเป็นฮีโร่ เขาจึงปฏิเสธข้อเสนอของกัปตันไปอย่างไม่ต้องคิด
เขาเริ่มย่างเท้าเดินออกไปจากห้องนักบิน แต่ก็หยุดลงก่อนที่จะก้าวพ้นประตูและหันกลับมาพูดว่า
“เอ่อ… กัปตันครับ บนไฟลต์นี้มีหน่วยรักษาความปลอดภัยใช่ไหมครับ ถ้าเช่นนั้นคุณก็ยกความดีความชอบให้พวกเขาเถอะครับ มันคงจะเป็นประโยชน์กับพวกเขามากกว่าผม”
กัปตันผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบรับ เขาซาบชึ้งในน้ำใจและเข้าใจความหวังดีในคำพูดนั้นของเย่เชียน หน่วยรักษาความปลอดภัยพวกนั้นไม่ใช่คนของรัฐบาล หากพวกเขาได้รับความดีความชอบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไป มันก็จะเป็นผลงานที่ติดตัวพวกเขาไปตลอดและจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต เรียกได้ว่าเขาจะได้ทั้งรางวัลและคนสรรเสริญเยินยอมากมาย
ในไม่ช้าเครื่องบินก็ร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง โดยไม่รอช้า เย่เชียนรีบคว้ากระเป๋าลงจากเครื่องแล้วตรงไปยังทางออกทันที นักข่าวมากมายมายืนรอเที่ยวบินนี้ลงจอดอย่างชุลมุน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคาดหวังว่าจะได้ข่าวเด็ดจากปากของกัปตัน
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะมั่นใจว่ากัปตันจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเขาก็ตาม แต่เขาก็ยังคงรีบเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อตีตนออกห่างจากฝูงชน
ไม่นานนักกัปตันก็เดินออกมา ฝูงนักข่าวพากันแห่เข้าไปหาเขาแล้วรัวคําถามนับร้อยนับพันราวกับห่ากระสุน
กัปตันค่อย ๆ เล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด เว้นก็แต่เรื่องของเย่เชียนที่เขาจงใจข้ามไปและได้เผยว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนเที่ยวบินนี้เป็นผู้ที่จัดการเหล่าผู้ก่อการร้ายตามที่เขาได้รับปากกับเย่เชียนไว้ และนอกเหนือไปจากนั้น เขาก็ไม่มีอะไรที่จะเปิดเผยอีก