ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 268 สารท้าทาย
เรื่องของหวังฮุ่ยนั้นเย่เชียนก็ไม่ได้อะไรมากจนเกินไปเพราะเขาไม่ได้อยากจะเข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานของบริษัท ส่วนการที่หวังฮุ่ยจะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากเครือน่านฟ้ากรุ๊ปหรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับว่าโรงงานของเขาปฏิบัติตามข้อกำหนดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปหรือไม่ เพราะเย่เชียนก็แค่อยากจะสานต่อความฝันที่เขามีเมื่อเขายังเป็นเด็ก และตอนนี้เขาก็แค่อยากจะบอกให้หวังฮุ่ยได้รู้ว่าคนที่เป็นลูกจ้างนั้นก็เป็นมนุษย์เช่นกันและพวกเขาก็มีจิตใจเหมือนกันและพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นดั่งแรงผลักดันของการพัฒนาของโรงงานนั่นเอง
สำหรับเย่เชียนแล้วเรื่องของหวังฮุ่ยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรและมันก็ไม่คุ้มที่จะเสียเวลากับเรื่องนี้มากเกินไป เพราะเย่เชียนต้องมุ่งเน้นที่ไปที่ตงเซียงกรุ๊ปให้มากขึ้น เพราะสำหรับเย่เชียนแล้วตงเซียงกรุ๊ปก็ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของเย่เชียนในตอนนี้และมันก็เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเขี้ยวหมาป่าอีกด้วย
วิธีการโจมตีตงเซียงกรุ๊ปนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วจะโจมตีตงเซียงกรุ๊ปได้อย่างไรนั่นก็เพราะว่าตงเซียงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่หนึ่งในสามของเซี่ยงไฮ้และเห็นได้ชัดเลยว่าค่อนข้างยากที่จะกวาดล้างตงเซียงกรุ๊ปจากตลาดหุ้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องกัดเซาะอุตสาหกรรมทั้งหมดทีละขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง และตงเซียงกรุ๊ปที่เป็นผู้ลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดของจีนเพราะฉะนั้นสิ่งนี้ก็เป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของตงเซียงกรุ๊ปเช่นกัน และเป็นไปไม่ได้เลยที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติจะไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เพียงแต่พวกเขายังไม่พบเวลาที่เหมาะสมที่จะกวาดล้างยันต้นตอของตงเซียงกรุ๊ปทั้งหมดได้ ดังนั้นเย่เชียนก็แค่ต้องเพิ่มเปลวไฟและเติมเชื้อไฟลงไปเพื่อที่จะเขาจะได้ค่อยๆ ทำลายตงเซียงกรุ๊ปไปทีละน้อยๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเหว่ยเฉิงหลงยังเป็นตัวการของเหตุการณ์ที่ทำให้อู๋หวนเฟิงได้รับบาดเจ็บอีกด้วย เพราะฉะนั้นเย่เชียนจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร ถึงยังไงก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองเซี่ยงไฮ้ก็เปลี่ยนไปอย่างมากและเหว่ยเฉิงหลงก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดายเหมือนก่อนแล้ว ซึ่งมันก็ง่ายมากที่จะฆ่าเหว่ยเฉิงหลงในทันที แต่เมื่อฆ่าไปแล้วสถานการณ์โดยรอบมันก็จะวุ่นวายและลำบากมากขึ้นเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้นั้นพูดง่ายกว่าทำเพราะมันเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก
ต้องบอกเลยว่าวิธีการดังกล่าวนั้นมันจะเหมือนดั่งเหตุการณ์ที่แสนโกลาหลอลหม่านอย่างมากเพื่อบรรลุเป้าหมาย เมื่อเย่เชียนกำลังตระหนักถึงวิธีการกวาดล้างตงเซียงกรุ๊ปแล้วเขาก็ได้รับสายโทรศัพท์จากซ่งหลันแต่ทว่าซ่งหลันก็ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจนมากนักทางโทรศัพท์ แต่เย่เชียนรู้สึกแปลกอย่ามากเมื่อได้ยินน้ำเสียงของเธอ เพราะฉะนั้นเย่เชียนก็ตระหนักได้ว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเย่เชียนจึงไม่กล้าที่จะอืดอาดยืดยาดต่อไปและรีบขับรถตรงไปยังสำนักงานใหญ่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปทันที
พนักงานต้อนรับคนนี้ก็รู้จักตัวตนของเย่เชียนในฐานะCEO ใหญ่ของบริษัทแล้วและเมื่อเธอเห็นเย่เชียนเดินเข้ามาเธอก็รีบลุกขึ้นยืนและทักทายด้วยความเคารพว่า “สวัสดีค่ะคุณเย่!” เย่เชียนก็ไม่ได้มีเวลามาสนใจเธอเพราะเขารีบเดินตรงเข้าไปในลิฟต์ นั่นก็เพราะว่าซ่งหลันไม่เคยโทรหาเขาเรื่องบริษัทเลยและการได้ยินน้ำเสียงที่ดูกระวนกระวายของเธอเมื่อครู่นี้นั้นมันจะต้องเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะหยอกล้อหรือทำตัวสบายๆ ได้
เมื่อพนักงานต้อนรับมองไปที่ร่างของเย่เชียนที่หายไปในลิฟต์อย่างเร่งรีบเธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอย่างมากเพราะคนใน บริษัทต่างก็บอกว่า CEO ที่อยู่เบื้องหลังคนนี้เป็นคนที่ใจดีอย่างมากแล้วทำไมกับเธอที่เพิ่งจะทักทายเขาไปแต่เขากลับเพิกเฉยต่อเธอเช่นนี้ หรือเขาจะโกรธเคืองเธอเพราะวันนั้นเธอเห็นเขาเป็นพนักงานทำความสะอาดที่มาสมัครงานกัน?
อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เธอก็คิดว่าคนจากแผนกฝ่ายบุคคลคงจะมีคำสั่งไล่เธอออกแล้ว
แน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่รู้ว่าเขาได้สร้างความกังวลให้กับพนักงานต้อนรับอย่ายมากเพราะใบหน้าที่บึ้งตึงและความเร่งรีบของเขา หลังจากเดินตรงไปที่ออฟฟิศของซ่งหลันแล้วเย่เชียนก็เห็นเธอนั่งอยู่พร้อมใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พี่หลันเกิดอะไรขึ้น? ..พี่ดูเครียดมากเลยนะ?” เย่เชียนถามทันทีเมื่อเขาเดินเข้าประตูไป
“มาดูนี่สิ!” ซ่งหลันกวักมือเรียกเย่เชียนและเย่เชียนก็เดินไปที่คอมพิวเตอร์ของซ่งหลันและเห็นว่ามีจดหมายข้อความท้าทายอยู่และมีตราประทับรูปหัวกะโหลกอีกด้วย
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า “ใครส่งจดหมายนี้มา”
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดมันน่าจะถูกส่งมาจากกลุ่มโจรสลัดซาตาน” คิ้วของซ่งหลันก็ขมวดแน่นเช่นกันและเธอก็รู้สึกได้ถึงความจริงจังของเรื่องนี้ เพราะคราวนี้เพชรที่ถูกส่งมาจากแอฟริกาใต้ในครั้งนี้ล้วนมีราคาแพงโดยมีมูลค่ารวมอย่างน้อยๆ 500 ล้านหยวนและมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกที่มีมูลค่ารวมอย่างน้อยหนึ่งพันล้านหยวนและที่สำคัญไปกว่านั้นเพชรชุดนี้ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าประจำของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปอีกด้วยแล้วถ้าหากไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนดล่ะก็ชื่อเสียงของบริษัทก็จะเสียหายอย่างมากและยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่ากองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะทรงพลังแค่ไหนก็ตามถึงยังไงพวกเขาก็เป็นเพียงราชาบนแผ่นดินเท่านั้น เพราะกลุ่มโจรสลัดซาตานนั้นเป็นเจ้าแห่งท้องทะเลที่แท้จริงในมหาสมุทรแปซิฟิก และการให้เขี้ยวหมาป่าเคลื่อนพลและออกปฏิบัติการบนท้องทะเลเพื่อต่อกรกับกลุ่มโจรสลัดซาตานนั้นมันก็เหมือนกับกับการให้กลุ่มโจรสลัดซาตานขึ้นมาต่อสู้กับเขี้ยวหมาป่าบนบกซึ่งถิ่นใครก็ถิ่นมันและการชนะเจ้าถิ่นนั้นก็ยากอย่างมาก
“ฉันไม่เข้าใจเลยเพราะตามกำหนดการขนส่งทางเรือนั้นน่าจะมาถึงท่าเรือของประเทศจีนตั้งนานแล้วและเมื่อเช้านี้ฉันเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาและพบว่ามีคนส่งจดหมายท้าทายนี้มาให้..เพราะงั้นฉันเลยเชื่อว่าตอนนี้เรือบรรทุกสินค้าได้ถูกพวกเขาปล้นไปแล้ว” ซ่งหลันพูด “เย่เชียนเราจะทำยังไงดี”
เย่เชียนยิ้มอย่างเย็นยะเยือกและพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีคนกล้าส่งสารมาท้าทายเขี้ยวหมาป่าของผม..ช่างน่าสนใจจริงๆ”
เมื่อเห็นเจตนาฆ่าและจิตสังหารที่ปะทุขึ้นในสายตาของเย่เชียนแล้วซ่งหลันก็พูดอย่างร้อนรนว่า “เย่เชียนอย่าไปยุ่งกับพวกโจรสลัดเลย..พวกนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ..นอกจากนี้เขี้ยวหมาป่าก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำสงครามทางทะเลอีกด้วย..แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นอยู่กับทะเลมาโดยตลอดเรื่องนี้เราต้องพิจารณากันให้ดีๆ”
เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป..ผมรู้ดีว่าพวกโจรสลัดมันน่ากลัวแค่ไหน และที่พวกนั้นมันอยู่รอดในมหาสมุทรแปซิฟิกมาได้นานหลายปีภายใต้การโจมตีของกองทัพเรือของจากประเทศต่างๆ นั้นมันก็ไม่ง่ายเลย..พี่หลัน! ..ผมจำได้ว่าพี่เคยบอกผมเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดซาตานในครั้งที่แล้วว่าถ้าหากเราต้องการโจมตีธุรกิจของตงเซียงกรุ๊ปเราก็ต้องใช้กลุ่มโจรสลัดซาตานและปล่อยให้พวกนั้นปล้นเรือขนส่งของตงเซียงกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ”
“ใช่!” ซ่งหลันพยักหน้าและพูดว่า “ตอนนั้นฉันคิดอย่างนั้นแต่มันก็มีความยุ่งยากอยู่มาก..เพราะจุดสำคัญที่สุดก็คือพวกเรานั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากลุ่มโจรสลัดซาตานอยู่ที่ไหนมหาสมุทรแปซิฟิก? ..มันกว้างใหญ่มาก..ถ้าเราไม่มีพิกัดที่แน่นอนล่ะก็ฉันเกรงว่าต่อให้ผ่านไปสองหรือสามปีเราก็ไม่สามารถดำเนินการได้หรอก”
เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดว่า “ใช่เมื่อก่อนเราไม่มี..แต่ตอนนี้เราก็มีแล้วหนิ!” เย่เชียนพูดพร้อมกับชี้ไปที่คอมพิวเตอร์และพูดว่า “พี่หลันส่งข้อความตอบรับกลับไปและบอกให้พวกเขาระบุสถานที่และเวลานัดหมายมาได้เลย”
“เย่เชียนโจรสลัดพวกนี้มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยนะและพวกมันก็ป่าเถื่อนมาก..เงินที่เสียไปเรายังหาใหม่ได้..แต่ถ้านายจะไปเสี่ยงแบบนี้ฉันไม่ยอม..ฉันไม่เห็นด้วย!” ซ่งหลันพูดอย่างหนักแน่นและเป็นห่วง
เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ถ้าเราไม่เข้าไปในถ้ำเสือเราก็จะไม่ได้ลูกเสือ..พี่หลันไม่ต้องเป็นห่วงผมไม่เป็นอะไรหรอก..นอกจากนี้พวกโจรสลัดก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าตัวเงิน..พวกนั้นมันไม่ทำอะไรหรอก..พี่ไม่เชื่อผมหรอ?”
“ฉันรู้ว่านายเก่ง..แต่ในทะเลอันกว้างใหญ่นายคนเดียวหรือแม้แต่เขี้ยวหมาป่าทั้งหมดของนายจะไปทำอะไรล่ะ..พวกนั้นมันมีเรือรบพิฆาตที่ทันสมัยที่สุดและมีขีปนาวุธอีก..ไม่ว่าพวกนายจะแข็งแกร่งแค่ไหนพวกนายก็ต้องตายอยู่ใต้ทะเลอยู่ดี..เพราะงั้นอย่าพูดเรื่องนี้อีก..ฉันไม่เห็นด้วยที่พวกนายจะไปเสี่ยงแบบนี้” ซ่งหลันยืนกรานอย่างจริงจัง
เงินนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยและชื่อเสียงของบริษัทก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นกันสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรเทียบได้กับชีวิตของเย่เชียนเลยเพราะถ้าหากสิ่งเหล่าสูญเสียไปพวกเขาก็สามารถหามันใหม่ได้แต่ชีวิตของคนนั้นมีเพียงแค่ชีวิตเดียวไม่สามารถหาใหม่ได้
“พี่หลันผมรู้ว่าพี่เป็นห่วงผม..ผมจัดการได้พี่ไม่ต้องห่วง..ผมสัญญากับพี่นะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะมีชีวิตกลับมาหาพี่..พี่ว่าไง?” เย่เชียนโน้มตัวไปหาซ่งหลันและพูดอย่างประจบประแจงใกล้ๆ เธอ เย่เชียนนั้นไม่รู้ว่าซ่งหลันห่วงใยเขามากแค่ไหนแต่เขายืนยันที่จะไปเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรสลัดเหล่านั้นโดยไม่สนใจความรู้สึกของซ่งหลันเลย แต่ทว่านั่นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายควรจะทำในสถานการณ์เช่นนี้มากนักเพราะไม่งั้นมันก็จะทำให้ผู้หญิงเป็นห่วงมากกว่าเดิม
“ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นแล้ว!” ซ่งหลันพูด
“โถ่..เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่..ถ้างั้นผมจะสัญญากับพี่เลยว่าผมจะเป็นผู้ชายของพี่เมื่อผมกลับมา..ตกลงมั้ย?” เย่เชียนเข้าใจน้ำเสียงของซ่งหลันในประโยคนั้นเป็นอย่างดี ซึ่งในตอนแรกมันก็ดังแล้วจากนั้นค่อยๆ ลดลงและเงียบงันไปในทันที ซึ่งเรื่องนี้นั้นเย่เชียนก็ไม่เต็มใจที่เพิกเฉยได้เลย
“แล้วไงล่ะ..ถึงยังไงนายก็เป็นผู้ชายของฉันอยู่ดี” ซ่งหลันพูดต่อ “ฉันไม่ยอม..ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้นายไปเสี่ยงแบบนี้”
เย่เชียนรู้สึกหมดหนทางและยืนเกาหัวตัวเองอย่างช่วยไม่ได้จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “พี่หลันพี่ก็อยู่กับผมมานานหลายปีแล้ว..พี่ก็น่าจะรู้นิสัยของผม..ผมไม่ใช่คนแบบนั้น..ผมไม่ใช่คนที่จะเดินไปหาความตายหรอกนะ..ถึงเรื่องนี้มันจะอันตรายมากก็ตาม..เพราะพวกกลุ่มโจรสลัดซาตานปล้นสินค้าของเราและเรียกค่าไถ่และอาจจะฆ่าพวกเราทีหลังก็ได้เรื่องนี้ไม่มีใครยืนยันได้..แต่ยังไงก็เถอะผมก็มั่นใจที่ผมจะสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้..และถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามคาดก็เถอะ..แต่ผมก็มั่นใจได้ว่าผมสามารถหนีจากพวกเขาได้อย่างปลอดภัยและกลับมาที่ประเทศจีนเพื่อกลับมาหาพี่”
ซ่งหลันค่อยๆ หันหน้าไปและมองไปที่เย่เชียน
“พี่หลัน..พี่ก็เชื่อในตัวผมมาตลอด..แต่ทำไมวันนี้พี่ถึงไม่เชื่อผมล่ะ..วันนี้ผมยังมีอุดมการณ์และคำสาบานของผมอีก..ถ้าผมทำตามสัญญาไม่ได้มันก็ไม่ใช่ผมแล้ว..ปล่อยผมไปเถอะ..ได้มั้ย?” เย่เชียนพูดต่อ
ซ่งหลันหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “นายจะไปจริงๆ เหรอ”
“ใช่!” เย่เชียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ถ้าอย่างนั้นนายก็สัญญากับฉันนะว่าถึงแม้ว่านายกำลังจะตายนายก็ต้องอดทนและกลับมาตายที่แผ่นดินจีนให้ได้” ซ่งหลันพูดต่อ “ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้ทรัพย์สมบัติและอำนาจทั้งหมดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพื่อทำให้พวกกลุ่มโจรสลัดซาตานถูกฝังเอาไว้ใต้ท้องทะเล!” เย่เชียนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าทรัพยากรทางการเงินและอำนาจของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจริงๆ แล้วนั้นมันยอดเยี่ยมมากแค่ไหน เพราะถ้าเธอใช้ทรัพยากรทางการเงินและอำนาจกับเครือข่ายทั้งหมดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแล้วก็สามารถสร้างกองทัพเรือรบที่ทรงพลังได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ และยิ่งไปกว่านั้นเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็ยังมีคงามสัมพันธ์และสัมพันธไมตรีที่ดีกับประมุขและผู้นำหลายประเทศ ซึ่งกลุ่มโจรสลัดซาตานนั้นก็เป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับประเทศอื่นๆ อีกเช่นกัน เพราะถ้าหากเย่เชียนเป็นอะไรไปเพราะกลุ่มโจรสลัดซาตานจริงๆ แล้วล่ะก็ ซ่งหลันก็สามารถทำลายกลุ่มโจรสลัดซาตานได้อย่างเต็มกำลัง
แน่นอนว่าสิ่งนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ซ่งหลันหวังจะได้เห็นเลยเพราะสิ่งที่ซ่งหลันหวังเป็นอย่างมากก็คือการที่เย่เชียนได้กลับมายังประเทศจีนอย่างปลอดภัยและกลับมาอยู่เคียงข้างเธอนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในชีวิตของเธอ
.
.
.
.
.
.
.
.