ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 273 ความอ่อนโยนของซ่งหลัน
ตอนที่ 273 ความอ่อนโยนของซ่งหลัน
เย่เชียนนั้นสามารถเข้าใจความหมายในคำพูดของอิดาอับส์ได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะนั่นก็คือทำการใช้ฐานทัพของกลุ่มโจรสลัดบลูวอเตอร์เป็นฐานที่มั่นของเขี้ยวหมาป่าในทะเล อย่างไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยที่ว่าอิดาอับส์นั้นต้องการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มโจรสลัดซาตานหรือไม่นั้นเย่เชียนก็ต้องแสร้งทำเป็นสับสนและพูดว่า “กลุ่มโจรสลัดบลูวอเตอร์? ..ผมไม่เข้าใจเลยกัปตันอิดาอับส์ช่วยอธิบายให้ฟังผมที”
นั่นเป็นวิธีที่ดีสำหรับการเสวนากับคนที่มีไหวพริบ ซึ่งเย่เชียนก็จงใจแสร้งทำเป็นสับสนและอิดาอับส์เองก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ด้วยเนื่องจากการเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันนั้นอิดาอับส์ก็จะไม่สงสัยอะไรใดๆ “กลุ่มโจรสลัดบลูวอเตอร์ก็ต้องมีฐานทัพเป็นของตัวเองในแปซิฟิกแห่งนี้..และเขี้ยวหมาป่าก็จะใช้ฐานนั้นเป็นฐานทัพของเขี้ยวหมาป่ายังไงล่ะ” อิดาอับส์พูด
“แต่ผมไม่รู้ว่าฐานของพวกเขาอยู่ที่ไหนน่ะสิ” เย่เชียนพูด
“ฮ่าฮ่า..นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะถึงยังไงก็ต้องมีแผนภูมิและพิกัดการเดินเรือบนเรือรบของพวกมันและโดยปกติแล้วพวกมันจะต้องทำเครื่องหมายและบันทึกเอาไว้ด้วย” อิดาอับส์พูด
เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและมีสีหน้าที่บ่งบอกถึงความขอบคุณปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “ถ้างั้นผมต้องขอรบกวนกัปตันอิดาอับส์ในเรื่องนี้ด้วยนะครับ”
“เอาหน่าๆ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ..ก็เราเป็นสหายกันไม่ใช่หรือ” อิดาอับส์พูด
“ใช่ๆ ..เราเป็นสหายกัน” ด้วยรอยยิ้ม
ในคืนนั้นอิดาอับส์ยืนกรานที่จะดึงเย่เชียนไปนอนกับเขาซึ่งเรื่องนี้ทำให้เย่เชียนถึงกับหวาดกลัวอย่างมาก และเย่เชียนก็คิดไปต่างๆ นาๆ ว่ามันคงเป็นเพราะอิดาอับส์อยู่ท่ามกลางทะเลมาเป็นเวลานานกับเหล่าชายฉกรรจ์และเขาก็คงเหงาจนจิตใจเปลี่ยนไปหรือเปล่า และหลังจากเห็นการแสดงออกที่กระวนกระวายของเย่เชียนเย่เชียนแล้วอิดาอับส์ก็เดาได้ทันทีว่า เย่เชียนกำลังคิดอะไรอยู่และเมื่อเป็นเช่นนั้นอิดาอับส์ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและรีบบอกกับเย่เชียนว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแท้ๆ และเขาก็ยังสามารถเผชิญหน้ากับผู้หญิงได้ถึงสามคนพร้อมๆ กัน ซึ่งเย่เชียนก็โล่งอกและหัวเราะอย่างเชื่องช้า
อย่างไรก็ตามเย่เชียนนั้นสามารถมองเห็นได้ถึงความเป็นมิตรของโจรสลัดชาวตะวันตกเหล่านี้ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้น่ากลัวเท่ากับตำนานที่ผู้คนเล่าขานกันมาเพราะพวกเขาก็มีด้านที่อ่อนโยนและเป็นมิตรเช่นกัน คืนนั้นเย่เชียนก็นอนในกระท่อมเดียวกันกับอิดาอับส์แต่พวกเขาก็ไม่ได้นอนร่วมเตียงเดียวกันใดๆ เพราะพวกเขาเพียงคุยกันจนดึกดื่นและแยกย้ายกันไป
เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็ขึ้นเรือบรรทุกสินค้าที่ได้คืนมาและเริ่มเดินทางกลับโดยมีเรือบรรทุกน้ำในแล่นตามหลังมาด้วย ซึ่งเดิมทีอิดาอับส์อยากให้เย่เชียนอยู่อีกสักสองสามวันแต่ทว่าเย่เชียนนั้นก็คิดว่าจะจากแผ่นดินมานานเกินไปและซ่งหลันก็คงจะกำลังเป็นห่วงเขาอย่างมากและสถานการณ์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ก็เปลี่ยนไปทุกๆ วันเย่เชียนจึงไม่สามารถโล่งใจและไม่สามารถอืดอาดยืดยาดได้
บนท้องทะเลอันกว้างใหญ่นั้นมีกลุ่มโจรสลัดมากกว่าหนึ่งกลุ่มอยู่แล้วในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ ดังนั้นอิดาอับส์จึงไม่สามารถโล่งใจได้มากนักเขาจึงออกไปส่งเย่เชียนด้วยเรือรบพิฆาตเป็นการส่วนตัวโดยส่งให้ใกล้แผ่นดินที่สุดเท่าที่จะไปได้อย่างปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะไม่มีการคุ้มกันของอิดาอับส์ก็ตามแต่โจรสลัดส่วนใหญ่ก็จะไม่แทรกแซงใดๆ ตราบเท่าที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับมิตรภาพของเย่เชียนกับกลุ่มโจรสลัดซาตาน ทว่าสาเหตุที่กลุ่มโจรสลัดบลูวอเตอร์ทำเช่นนั้นก็เป็นเพราะพวกเขามีความบาดหมางกับกลุ่มโจรสลัดซาตานอยู่ แต่ทว่าพวกนั้นก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าตัวเองจะถูกกวาดล้างอย่างง่ายดายภายใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่เป็นดั่งบ้านของพวกเขาเอง
ราชสีห์ยังต้องตายบนภูเขาและป่าลึกและมนุษย์ก็ต้องตายที่ดินแดนของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประสบการณ์ในครั้งนี้ยังทำให้เหล่าลูกเรือในเครือน่านฟ้ากรุ๊ปได้พบกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากเพราะพวกเขาสามารถดื่มและพูดคุยกับเหล่าราชาแห่งโจรสลัดได้และเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ เลยเพราะใครได้ยินก็เป็นต้องอิจฉากันทั้งนั้น อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ได้สั่งห้ามและกำชับเอาไว้ว่าไม่ให้พวกเขาบอกเรื่องนี้กับใครโดยเด็ดขาด
การผจญภัยในท้องทะเลของเย่เชียนในครั้งนี้อาจพูดได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยสิ้นเชิงเพราะเขาได้รับเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์มาอย่างง่ายดายและนอกจากนี้เขายังสร้างความสัมพันธไมตรีแบบพันธมิตรที่ดีกับกลุ่มโจรสลัดซาตานที่เป็นดั่งราชาแห่งท้องทะเลได้อีก และยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถได้รับเงินอีกจำนวนมากมายมหาศาลจากกลุ่มโจรสลัดซาตารได้อีกด้วยในอนาคต และด้วยความช่วยเหลือเหล่านี้ก็ทำให้ฐานทัพเรือของเขี้ยวป่าหมาในทะเลนั้นสามารถสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตัดเส้นทางการขนส่งสินค้าของตงเซียงกรุ๊ปและป้องกันไม่ให้สินค้าของพวกนั้นมาถึงฮ่องกงและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับตงเซียงกรุ๊ปนั้นจะต้องมหาศาลอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าตงเซียงกรุ๊ปก็ยังเลือกวิธีการขนส่งทางอากาศได้แต่ทว่าค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางอากาศนั้นเป็นตัวเลขที่มิอาจยอมรับได้เลย
…
เมื่อเข้าใกล้ท่าเรือของแผ่นดินจีนแล้วเย่เชียนก็ได้ใช้วิทยุช่องทางพิเศษเพื่อติดต่อกับซ่งหลันและเมื่อเย่เชียนกับคนอื่นๆ มาถึงที่ท่าเรือซ่งหลันก็รออยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อเธอเห็นเย่เชียนซ่งหลันก็รีบวิ่งไปหาอย่างหมดห่วงและกอดเย่เชียนเอาไว้อย่างแน่น ซึ่งเย่เชียนก็ตกตะลึงเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มอย่างรวดเร็วและโอบกอดซ่งหลันเอาไว้อย่างมีความสุข เพราะหลังจากผ่านพ้นไปหลายวันแล้วซ่งหลันก็ต้องเป็นห่วงเย่เชียนอย่างมากและดูเหมือนว่าเธอจะเครียดจนดูซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
ม่อหลงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเพราะเขาคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้วและเขาก็แยกตัวออกไปอย่างเงียบๆ
“เอาล่ะๆ ..พี่หลันมีหลายคนกำลังมองพี่อยู่นะ..พี่เป็นถึงประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแล้วมาร้องไห้แบบนี้พี่ไม่กลัวพวกเขาหัวเราะเยาะเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มกว้างๆ
“ก็ให้เขาหัวเราะไปสิ” ซ่งหลันพูด “นายก็รู้หนิว่าฉันเป็นห่วงนายมากแค่ไหน..ตอนนายออกเรือไปทุกวันนี้น่ะฉันกินอะไรไม่ลงและนอนไม่หลับเลยนะ”
“คุณก็รู้ว่าผมจะต้องกลับมา” เย่เชียนพูด “บอกเลยว่าไม่ได้กลับมามือเปล่าด้วย..มันยอดเยี่ยมมาก!”
ซ่งหลันจ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “หมายความว่าไง?” เพราะเมื่อครั้งก่อนที่ซ่งหลันเสนอความคิดที่จะให้กลุ่มโจรสลัดซาตานไปโจมตีการขนส่งสินค้าทางทะเลของตงเซียงกรุ๊ปและตอนนี้เมื่อเธอได้ยินเย่เชียนพูดแบบนี้แล้วเธอก็ตื่นเต้นอย่างมากและก็แปลกใจในเวลาเดียวกัน
เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ไปกันเถอะ..กลับไปคุยกันเถอะ”
“อ่าห๊ะ” ซ่งหลันพยักหน้าและจับมือของเย่เชียนและเดินอิงไหล่ของเย่เชียนไปที่รถ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เย่เชียนก็คงจะดันซ่งหลันออกไปอย่างแน่นอนเพราะเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้นางฟ้าตนนี้มากเกินไปเพราะกลัวว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาและเธอจะหลอกล่อตัวเองในตกอยู่ในภวังค์ แต่ทว่าตอนนี้ซ่งหลันนั้นกำลังเป็นห่วงเขาและคิดถึงเขาอย่างมากแล้วร่างกายของเธอก็ซูบผอมลงซึ่งทำให้เย่เชียนมีความอบอุ่นในหัวใจเพราะความห่วงใยของเธอ
เมื่อพวกเขามาถึงสำนักงานใหญ่ของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแล้วและขึ้นไปยังออฟฟิศของซ่งหลันและหลังจากนั้นเย่เชียนก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เขาเผชิญในทะเลและเมื่อเขาบอกว่าเขาได้พบกับโจรสลัดกลุ่มอื่นๆ ในทะเลนั้นร่างกายของซ่งหลันก็เริ่มสั่นเล็กน้อยเพราะความตึงเครียด และถึงแม้ว่าเย่เชียนจะยืนอยู่ตรงหน้าเธอทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ก็ตามแต่เธอก็อดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกหวาดกลัวที่จะเสียเย่เชียนไป
หลังจากที่ได้ยินว่าเย่เชียนและกลุ่มโจรสลัดซาตานได้บรรลุข้อตกลงและเป็นพันธมิตรกันอย่างเป็นทางการแล้วซ่งหลันก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากแต่ก็ยังคงกังวลอยู่หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เย่เชียนการร่วมมือกับกลุ่มโจรสลัดซาตานในครั้งนี้ก็เหมือนกับหมาป่าที่ว่ายน้ำเข้าถ้ำโจรสลัดเลยนะ..พวกนั้นไม่ธรรมดา..พวกเขาสามารถกลืนกินมนุษย์ได้โดยไม่ต้องคายกระดูกออกมาเลยนะ”
เย่เชียนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “รู้แล้วๆ ..ผมก็รู้เรื่องนี้ดีเหมือนกัน..เอาเถอะถึงแม้กลุ่มโจรสลัดซาตานจะมีความคิดที่น่ากลัวก็ตาม..ถึงยังไงพวกเขาก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี..อย่าลืมสิว่าผมคือราชาหมาป่านะ..ถ้าพวกเขามีความคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเราล่ะก็..ผมก็จะปิดถ้ำและขย้ำโจรสลัดซ่ะเลย”
“ถึงยังไงเราก็ต้องระวัง” ซ่งหลันพูด
“ได้..ผมจะระวัง” เย่เชียนพูด
“ตอนนี้พวกตงเซียงกรุ๊ปได้รับแบบแผนการบูรณาการเมืองมาแล้ว..และเงินในมือก็ต้องหนาด้วย..ซึ่งการโจมตีของกลุ่มโจรสลัดซาตานในทะเลนั้นพวกตงเซียงกรุ๊ปก็คงจะลำบากไม่น้อยเลยล่ะ” มุมปากของซ่งหลันฉีกขึ้นเป็นรอยยิ้มและพูด
เย่เชียนเองก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มไปด้วยและจิตสังหารภายในดวงตาของเขาก็ปะทุขึ้นเมื่อนึกถึงการกระทำของตงเซียงกรุ๊ปที่มีต่อเขี้ยวหมาป่าแล้วเย่เชียนก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที “นี่มันแค่เริ่ม..เพราะหลังจากนี้ผมจะเล่นอะไรที่มันยิ่งใหญ่อลังการกว่านี้..ผมต้องการให้ตงเซียงกรุ๊ปถูกทำลายจนสูญสิ้นจนไม่สามารถพลิกกลับมาได้อย่างสมบูรณ์..จะเป็นยังไงกันนะถ้าผมได้รับโครงการฟื้นฟูเมืองมาเนี่ย” เย่เชียนพูด
“นายจะทำอะไร!” ซ่งหลันถาม
เย่เชียนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ประธานสุดสวยของผมไม่ต้องกังวลไป..ผมขอพูดสั้นๆ ก็แล้วกันว่าผมสัญญาเลยว่าแผนโครงการฟื้นฟูเมืองครั้งนี้จะเป็นของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเราในไม่ช้าก็เร็ว..เริ่มเตรียมการออกแบบและนโยบายกันรึยังล่ะฮ่าฮ่า”
“เห้อ!” ซ่งหลันถอนหายใจพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่เย่เชียน
“คืนนี้นายมีธุระอะไรหรือเปล่า?” ซงหลันถามหลังจากหยุดไปชั่วขณะ
“เอ่อ..ไม่มีอ่ะ..ทำไมเหรอ” เย่เชียนถาม
ซ่งหลันยิ้มอย่างมีเสน่ห์และจับคางของเย่เชียนขึ้นและพูดว่า “น้องชายที่แสนดีของฉัน..นายคงไม่ได้ลืมสิ่งที่นายสัญญากับฉันก่อนที่นายจะออกทะเลไปใช่มั้ย..หืม?”
“เดี๋ยว…” เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “พี่หลัน..พี่คงไม่ได้อยากทำแบบนั้นจริงๆ หรอกใช่มั้ย..คือผม..ผม..เราจะทำแบบนั้นกันจริงๆ หรอ”
“อะไรเนี่ย..นายคิดอะไรของนายอยู่” ซ่งหลันพูด
เย่เชียนยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “เอ้า..ก็เราจะทำอย่างว่ากันไม่ใช่หรอ..ไม่งั้นผมจะเปลี่ยนใจแล้วอย่ามาตะโกนด่าผมทีหลังก็แล้วกัน!”
ซ่งหลันเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “นายนี่มัน! ..” หลังจากหยุดไปพักหนึ่งเธอก็พูดต่อ “อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลนะ..ฉันแค่จะบอกให้นายกลับบ้านเร็วๆ นะคืนนี้..เพราะเขาไม่ได้กินมื้อเย็นด้วยกันมานานแล้ว..และฉันก็มัวแต่กังวลเกี่ยวกับการออกทะเลของนายอยู่”
เย่เชียนยิ้มอย่างโง่เขลาและพูดว่า “ไม่มีปัญหา..ผมจะทำอาหารเองคืนนี้”
จู่ๆ ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นอย่างกะทันหันและเย่เชียนก็ยิ้มอย่างขอโทษกับซ่งหลันและหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและทันทีที่รับสายก็มีเสียงร้องไห้ที่น่าเศร้าและดูหวาดกลัวดังเข้ามาและเย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงอย่างมาก “พี่ชายคะ..หนูเบงเบ็งเอง” เสียงเด็กน้อยก็ดังมาจากสายโทรศัพท์
“เบงเบ็งเกิดอะไรขึ้น..มีคนทำร้ายหนูหรอ!” เย่เชียนถามด้วยความกังวลอย่างมาก เพราะสำหรับเด็กคนนี้นั้นเย่เชียนเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู แต่จีเมิงฉิงที่เป็นแม่ของเธอคนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย ซึ่งเขาเพียงแค่คิดว่าเบงเบ็งเป็นเด็กที่น่ารักและน่าเอ็นดูอย่างมาก
“พี่ชายคะ..คือ..แม่เขามีเลือดออกมา..หนูกลัวเหลือเกิน..งื้อๆ!” เบงเบ็งพูดขณะที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เย่เชียนขมวดคิ้วอย่างแน่นและยืนขึ้นพร้อมพูดว่า “อย่าร้องไห้นะ..เดี๋ยวพี่ชายจะรีบไปหาหนู..รอพี่ชายก่อนนะ” หลังจากพูดแล้วเย่เชียนก็วางสายโทรศัพท์ไป ซึ่งเย่เชียนนั้นอาจเห็นอกเห็นใจและสงสารจีเมิงฉิงในตอนแรกแต่ด้วยการกระทำของ จีเมิงฉิงในภายหลังนั้นก็ทำให้เย่เชียนไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจและความสงสารต่อเธออีกต่อไป เพราะเธอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอจะขออยู่เคียงข้างเย่เชียนแต่ทว่าในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เย่เชียนจากไปเธอก็ไปตกหลุมรักคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะว่าเย่เชียนนั้นหึงเธอหรืออิจฉาหรือหวงเธอใดๆ แต่มันเป็นเพราะเธอนั้นกำลังเล่นตลกกับความรู้สึกของตัวเธอเองและเขาอย่างมาก
.
.
.
.
.
.
.