ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 282 หูวเค่อสาวงามผู้ลึกลับ
ตอนที่ 282 หูวเค่อสาวงามผู้ลึกลับ
ถึงแม้ว่าชื่อเสียงของราชาหมาป่าเย่เชียนจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหนก็ตามและไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาจะยอดเยี่ยมเพียงใดแต่เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักฆ่าจากองค์กรดาร์คลิลลี่ที่มาพร้อมกับปืนและไม่ทราบจำนวนนั้นเย่เชียนก็ไม่คิดที่จะประมาทไปสู้ด้วยมือเปล่า เมื่อเขาคิดเช่นนี้แล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรไปหาแจ็ค
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาหดหู่ใจก็คือโทรศัพท์มือถือนั้นไม่มีสัญญาณซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แปลกอย่างมากเพราะโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนนั้นส่งสัญญาณโดยตรงผ่านดาวเทียมของเขี้ยวหมาป่า และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็อยู่ในบ้านกลางเมืองที่ศิวิไลซ์เช่นนี้แล้วโทรศัพท์จะไม่มีสัญญาณได้อย่างไร ซึ่งตอนนี้มันก็แปลกอย่างมากเพราะว่าโทรศัพท์มันไม่มีสัญญาณจริงๆ
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวซึ่งเขาคาดว่านักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าเอาไว้ใกล้ๆ อย่างแน่นอน เพราะป้องกันไม่ให้เขาโทรขอความช่วยเหลือหรือกำลังเสริมจากภายนอก เมื่อเขาหันหน้าไปหาหูวเค่อที่อยู่ข้างๆ เธอก็ยิ้มแหยงๆ เหมือนจะรู้ว่าโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้การได้
“ช่างมันเถอะ..คุณควรไปหาที่ซ่อนก่อนดีกว่า..เดี๋ยวผมจะล่อนักฆ่าพวกนั้นออกไปเอง” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูด นั่นก็เพราะว่าถ้าหากหูวเค่อไม่ไปหลบซ่อนในทีที่ปลอดภัยก่อนล่ะก็เย่เชียนก็จะไม่มีเวลามาปกป้องหูวเค่อในขณะที่เขาไปจัดการกับนักฆ่าเหล่านั้น จากนั้นเย่เชียนก็พาหูวเค่อไปที่ประตูห้องน้ำและผลักเธอเข้าไปพร้อมพูดว่า “คุณแอบอยู่ที่นี่ก่อนนะอย่าออกมา..ผมจะไปจัดการพวกนั้นก่อน..จำเอาไว้นะว่าอย่าออกมาถ้าผมไม่ได้กลับมา!”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็ปิดประตูและกวาดสายตามองไปรอบๆ และเข้าไปในครัวทันที ซึ่งเมื่อเย่เชียนจากไปหูวเค่อก็แอบเปิดประตูห้องน้ำและยิ้มเล็กยิ้มน้อยและไม่เพียงแค่เธอไม่ได้มีสีหน้าที่ดูตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อยแต่เธอยังก็ดูเฉยเมยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ และเมื่อเธอมองไปที่เย่เชียนที่เดินเข้าไปในครัวหูวเค่อก็พึมพำกับตัวเองว่า “น่าเสียดายจังนะ..พี่สาวหยู..”
เย่เชียนก็เดินเข้าไปในครัวและคว้าตะเกียบมาหนึ่งกำมือแล้วเดินออกไป ซึ่งเมื่อเย่เชียนกำลังจะออกไปข้างนอกจู่ๆ ทันใดนั้นนักฆ่าจากองค์กรดาร์คลิลลี่จำนวนสี่คนก็ผลักเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเดินเข้ามา และทันทีที่ประตูถูกเปิดออกนักฆ่าเหล่านั้นก็กราดยิงแบบสุ่มไปทั่วบ้าน
ในขณะนั้นบ้านก็เต็มไปด้วยร่องรอยของรูจากกระสุนปืนและสำลีที่โซฟาก็ปลิวว่อนไปทั่วบ้าน ซึ่งเย่เชียนก็ซ่อนตัวอยู่ด้านข้างและแอบด่าในใจอย่างลับๆ ว่า “แม่งเอ๊ย..ยัยพวกนี้ประจำเดือนมาผิดปกติรึไงวะ..ทำไมถึงได้เกรี้ยวกราดแบบนี้”
นักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่ทั้งสี่ส่งสัญญาณมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้าค่อยๆ ค้นหาและเป้าหมายและเดินตรงไปยังห้องน้ำที่หูวเค่อซ่อนอยู่ เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้แล้วเพราะงั้นเขาจึงปาตะเกียบไม้ไผ่สองอันจากมือเขาและมันก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและแทงทะลุเข้าไปในลำคอของนักฆ่าสาวทั้งหมดทันที จากนั้นเย่เชียนก็รีบกลิ้งหลบไปที่อีกจุดและซ่อนตัวอยู่หลังตู้อีกด้านหนึ่งโดยไม่ลังเลใดๆ
เย่เชียนเรียนรู้ทักษะนี้มาจากอู๋หวนเฟิงนั่นเอง แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่เย่เชียนสามารถทำได้ดีเหมือนคราวนี้ เพราะการที่จะฆ่านักฆ่าเหล่านี้ด้วยตะเกียบไม้ไผ่นั้นอย่างน้อยๆ ก็ต้องทำเช่นนี้ถึงสี่ครั้งถึงจะมีโอกาสฆ่าได้ทั้งหมด เพราะแม้แต่เย่เชียนเองก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าวันนี้เขาทำได้ดีเช่นนี้ได้อย่างไร
ทันทีที่เย่เชียนกลิ้งตัวบนพื้นนั้นกระสุนหลายนัดก็ถูกยิงอย่างถาโถมกันเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากด้านนอกของหน้าต่าง ซึ่งทำให้เย่เชียนถึงกับเหงื่อตกเพราะยังมีนักฆ่าอีกสามคนที่อยู่ข้างนอกพร้อมปืนในมือและกำลังจับตามองเขาอยู่ด้านนอกหน้าต่างซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะตอบโต้ได้ ซึ่งในความเป็นจริงเย่เชียนนั้นกังวลเกี่ยวกับมือปืนซุ่มยิงเสียมากกว่าเพราะการปรากฏตัวของเขาในชั่วพริบตาและถ้าหากเขาเปิดเผยตัวให้เธอคนนั้นเห็นล่ะก็เขาก็อาจจะถูกเธอยิงเข้าที่หัวก็เป็นได้
ยังมีนักฆ่าเหลืออยู่อีกตั้งสามคนซึ่งทำให้เย่เชียนถึงกับผงะไปและยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพวกเธอเห็นร่างของเย่เชียนกลิ้งออกมาจากหลังกำแพงแล้วพวกเธอก็กราดยิงทันทีจนกระทั่งเย่เชียนไปซ่อนตัวอยู่หลังตู้พวกเธอถึงจะหยุดยิง จากนั้นพวกเธอก็หันไปมองเพื่อนที่กลายเป็นศพไปแล้วบนพื้นโดยมีตะเกียบไม้ไผ่ปักอยู่ที่ลำคอของพวกเธอพร้อมกับเลือดสดๆ ที่ไหลออกมา
พวกเธอทั้งสามก็มองหน้าของกันและกันซึ่งคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยก็ส่งสัญญาณมือให้อีกสองคนและทั้งสามก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเย่เชียนอย่างช้าๆ ในรูปแบบสามเหลี่ยม จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาในห้องน้ำและพวกเธอทั้งสามคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและนักฆ่าหัวหน้าหน่วยก็ส่งสัญญาณมืออีกครั้งให้กับนักฆ่าสาวคนหนึ่งและให้เธอเข้าไปตรวจดู ส่วนเธอและอีกคนหนึ่งก็ยังคงอยู่ตรงนั้น
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลอย่างมากเมื่อเห็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถปรากฏตัวได้เลยมิฉะนั้นเขาก็จะมีรูกระสุนหลายร้อยรูอยู่ทั่วร่างกายของเขาอย่างแน่นอน
“ผู้นำเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่..ราชาหมาป่าเย่เชียนกลายเป็นเต่าที่หัวหดอยู่ในกระดองแล้วเหรอ..ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปล่ะก็ฉันไม่รู้ว่าเขี้ยวหมาป่ายังมีหน้าเรียกตัวเองว่าราชาแห่งโลกทหารรับจ้างอยู่หรือเปล่า” นักฆ่าหัวหน้าหน่วยพูดอย่างเย้ยหยัน
“อย่าหงุดหงิดไปเลย..พวกคุณคงไม่ได้สนองตัณหาและระบายอารมณ์กับผู้ชายมานานแล้วใช่มั้ยล่ะ..ผมไม่ใช่เต่าหัวหดหรอกน่ะ..แต่มีบางอย่างของผมที่คล้ายๆ หัวเต่าอยู่น่ะ” เย่เชียนพูดอย่างไร้ยางอาย
สีหน้าของนักฆ่าทั้งสองก็เปลี่ยนไปอย่างมากแต่เพราะพวกเธอสวมหน้ากากอยู่จึงมองไม่เห็นการแสดงออกของพวกเธอ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเธอโกรธและฉุนเฉียวอย่างมาก ซึ่งพวกเธอเองก็รู้ดีว่าราชาหมาป่าเย่เชียนไม่ใข่คนขี้ขลาดแต่อย่างใด และเมื่อพวกเธอได้ยินเสียงของเย่เชียนแล้วพวกเธอต่างก็ชะงักไปชั่วขณะและไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพราะกลัวว่ามันจะเป็นกับดักของเย่เชียน
เมื่อเห็นว่านักฆ่าคนนั้นกำลังจะเข้าไปใกล้ประตูห้องน้ำแล้วเย่เชียนก็ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ อีกต่อไป เขาจึงรีบกลิ้งออกมาจากหลังตู้และปาตะเกียบไม้ไผ่ในมือของเขาออกไปอีกครั้ง แต่ทว่ามันก็น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่เป็นตามที่หวังเอาไว้เพราะนักฆ่าคนนั้นก็หลบตะเกียบไม้ไผ่ที่เย่เชียนปาออกมาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันช่วงเวลาที่เย่เชียนกลิ้งออกมาจากหลังตู้นักฆ่าก็ยิงตอบโต้เย่เชียนไปแต่โชคดีที่เย่เชียนกลิ้งหลบได้ทันเวลาและซ่อนตัวอยู่หลังสิ่งกีดขวางอีกครั้ง
เมื่อนักฆ่ากำลังจะผลักประตูห้องน้ำแล้วเย่เชียนก็ถึงกับผงะไปและไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วเขาจึงกลิ้งม้วนไปตรงจุดนั้นและทั้งร่างของเขาก็พุ่งเข้าไปหานักฆ่าอย่างรวดเร็วพร้อมกับมีดโลหิตหมาป่าในมือของเขาและกำลังจะแทงไปที่นักฆ่าคนนั้น
จู่ๆ ทันใดนั้นเย่เชียนก็ต้องตกตะลึงไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเย่เชียนเห็นว่ามือนักฆ่าคนนั้นเพิ่งจะก้าวเข้าไปในห้องน้ำเพียงก้าวเดียวแต่จู่ๆ เธอก็กรีดร้องและกระเด็นออกมาและไม่ใช่เพียงแค่เย่เชียนเท่านั้นที่ตกตะลึงเพราะแม้แต่นักฆ่าทั้งสองคนที่เหลือก็ต้องตกใจที่เห็นเพื่อนของเธอที่เพิ่งจะก้าวเข้าไปในห้องน้ำแต่กลับกระเด็นออกมาราวกับว่าวที่ถูกพายุซัดกระเด็นไปที่กำแพงของบ้านอย่างรุนแรงและล้มลงกับพื้นทันที
เย่เชียนก็จ้องมองเข้าไปในห้องน้ำและเห็นหูวเค่อที่กำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อยราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นในสายตาของเธอเลย เย่เชียนก็รู้สึกได้ว่าสมองของเขายังไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้เพราะการเคลื่อนไหวของหูวเค่อนั้นทำให้เขาต้องตกใจอย่างสิ้นเชิงและเย่เชียนก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่หูวเค่อจะส่งนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่กระเด็นไปแบบนั้น และเมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็รู้สึกว่าถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ต่อหน้าหูวเค่อก็ตามแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเธออยู่ดีเพราะเธอคนนี้มีความลับมากเกินไป
“ระวัง!” การแสดงออกของหูวเค่อเปลี่ยนไปและเธอก็ตะโกนอย่างเร่งรีบ
โดยไม่ลังเลและคิดอะไรเลยแม้แต่น้อยเย่เชียนก็กลิ้งตัวหลบทันทีซึ่งกำแพงด้านหลังของเขาก็มีรูกระสุนยาวเป็นแถว เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อเพราะเขาเกือบจะตายไปแล้ว
เมื่อเห็นนักฆ่าที่อยู่อีกฝั่งเหลืออยู่เพียงสองคนเย่เชียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเพราะจะจัดการได้ง่ายกว่ามาก และเมื่อเห็นนักฆ่าทั้งสองเดินเข้ามาเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่หูวเค่อในห้องน้ำและพูดว่า “นี่คุณผู้หญิง..มัวทำอะไรอยู่..ทำไมไม่ช่วยผมบ้างล่ะ”
“ก็คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าคุณจะคอยปกป้องฉันน่ะ?” หูวเค่อพูดอย่างประชดประชัน
เย่เชียนจ้องเขม็งหูวเค่ออย่างหงุดหงิดและพูดว่า “โถ่..ก็คุณดุร้ายอย่างกับแม่ยายเลยหนิ”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็กลิ้งหลบไปมาและพุ่งเข้าไปที่จุดนั้นและคว้าเท้าของนักฆ่าทั้งสองคนเอาไว้บีบข้อเท้าของพวกเธอจากนั้นก็บิดอย่างรุนแรงจึงทำให้นักฆ่าทั้งสองไม่มั่นคงและล้มลงกับพื้นทันที หลังจากนั้นเย่เชียนก็ใช้มีดโลหิตหมาป่าในมือของเขาแทงเข้าไปที่หลังของเธอคนหนึ่งจนทะลุ ซึ่งความรุนแรงนั้นมากเกินไปจนทำให้เลือดของพวกเธอพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ
ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของเย่เชียนก็กำลังบีบคอของนักฆ่าคนสุดท้ายอยู่และจากนั้นก็บีบอย่างรุนแรงและมีเสียง “กรึก” กระดูกคอของนักฆ่าคนนั้นก็หัก
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่หูวเค่อที่อยู่ในห้องน้ำและพูดว่า “ถ้าคุณเก่งขนาดนี้ก็ซ่อนตัวอยู่ข้างในนั้นไปตลอดชีวิตเลยก็แล้วกัน..อย่าออกมาอีก” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็รีบวิ่งออกจากบ้านทันทีเพราะยังมีมือปืนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของบ้านซึ่งเย่เชียนก็เชื่อว่าเธอได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านแล้วและเย่เชียนก็ต้องฆ่าเธอก่อนที่เธอจะหนีไปได้
ในเมื่อทุกคนกล้ามาเยือนเขาที่หน้าประตูแห่งนรกแล้วเย่เชียนก็ไม่มีความคิดที่จะปล่อยเธอออกไปง่ายๆ เช่นนี้
การต่อสู้ระยะประชิดของมือปืนซุ่มยิงนั้นอ่อนแออย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักในการจัดการกับนักฆ่าคนนั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เย่เชียนสับสนก็คือทั้งเธอและนักฆ่าคนอื่นๆ ต่างก็เหมือนกันเพราะเย่เชียนไม่พบอะไรจากพวกเธอเลยเช่นอุปกรณ์รบกวนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ แล้วทำไมโทรศัพท์มือถือของเขาถึงไม่มีสัญญาณเช่นนี้กัน?
ด้วยความประหลาดใจเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูซึ่งก็พบว่าสัญญาณมันเต็มหลอดแล้วและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
เมื่อเย่เชียนหันกลับไปมองในบ้านก็เห็นว่าหูวเค่อออกมาจากห้องน้ำแล้วและนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร แต่ทว่าตอนนี้สิ่งของต่างๆ ในห้องนั่งเล่นก็ได้รับความเสียหายจากนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่ไปหมดแล้ว เย่เชียนจึงเดินเข้าไปช้าๆ นั่งลงข้างๆ หูวเค่อและจ้องมองใบหน้าที่ไร้ที่ติของหญิงสาวคนนี้อย่างงุนงง
“คุณมองอะไรของคุณคะ?” หูวเค่อเหลือบมองไปที่เย่เชียนและถาม
“ผิวของคุณสวยมาก!” เย่เชียนพูดขณะที่เขาเอื้อมมือไปสัมผัสกับแขนของหูวเค่อ “มันเนียนมาก..คุณใช้เครื่องสำอางอะไรหรอ?”
หูวเค่อเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็พูดมา..อย่านอกเรื่อง”
“คุณไม่คิดว่าคุณทำตัวลึกลับไปหน่อยหรอ?” เย่เชียนพูด “เราเองก็รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว..แต่ผมไม่รู้เลยว่าคุณมีทักษะการต่อสู้ที่ดีแบบนี้”
“นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณไม่เคยสนใจฉันเลยยังไงล่ะ..คุณมัวแต่ไปสนใจพี่สาวหยูและหยาเอ๋ออยู่สองคน..คุณก็เลยไม่รู้อะไรเลย” หูวเค่อพูด
เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยเห็นได้ชัดเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ร้ายกาจมากที่หยิบยกประเด็นต่างๆ มาโจมตีเขาก่อน ซึ่งเธอคอยซ่อนทักษะและความสามารถของเธอเอาไว้โดยตลอดและตอนนี้เธอก็เขาว่าเขาไม่เคยสนใจเธอเช่นนี้ “ถามตรงๆ เลยนะทำไมทักษะการต่อสู้ของคุณถึงได้ดีขนาดนี้..ผมเองยังทำไม่ได้เหมือนคุณเลย..การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็ทำให้นักฆ่าของดาร์คลิลลี่กระเด็นไปแบบนั้นน่ะ” เย่เชียนนั้นกำลังเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นจริงๆ
“หึ..คุณคิดว่าคุณเก่งที่สุดในโลกงั้นหรอคะ” หูวเค่อเหลือบมองเย่เชียนและพูด แต่เห็นได้ชัดเลยว่าคำตอบเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เย่เชียนถามและเห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่ต้องการตอบคำถามของเย่เชียน
.
.
.
.
.
.
.