ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 284 ล่าหัว ตอนที่ 1
ตอนที่ 284 ล่าหัว ตอนที่ 1
ตู้เหลียงเฉิงจิบไวน์ในแก้วอย่างช้าๆ และพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณเหว่ยเคยได้ยินชื่อกองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าหรือเปล่า? ”
“ทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า?” เหว่ยตงเซียงส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันไม่เคยได้ยินเลย..แล้วเรื่องนี้มันในเกี่ยวข้องอะไรกับเย่เชียนล่ะ..เขาเป็นทหารรับจ้างเหรอ?”
“กองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเป็นที่รู้จักกันในฐานะราชาแห่งโลกทหารรับจ้าง..และในต่างประเทศความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เทียบได้กับกลุ่มมาเฟียของฉันในเซี่ยงไฮ้เลย” ตู้เหลียงเฉิงพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนน่ะเป็นถึงผู้นำของทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่มีฉายานามว่าราชาหมาป่าเย่เชียน!”
เหว่ยตงเซียงกรุ๊ปขมวดคิ้วอย่าแน่นและพูดว่า “ฮึ่ม..ก็ไม่แปลกใจแล้วที่ขนาดส่งนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่ออกไปกำจัดแต่กลับไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย..ฉันไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะมีตัวตนแบบนี้..ยังไงก็เถอะต่อให้องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของเขาจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหนในต่างประเทศก็ตาม..เพราะที่นี่คือแผ่นดินจีน! ..และมังกรที่แข็งแกร่งจะไม่สามารถบดขยี้แม้แต่หมาป่าได้ยังไง! ..แก๊งชิงและตงเซียงกรุ๊ปของฉันต่างก็เป็นมังกรไม่ใช่งูตัวเล็กๆ ..ถ้าพวกนั้นอยากเข้ามาก็ให้มันมากันได้เลย”
“ฉันเองก็ไม่ได้กลัวพวกนั้นหรอก..ด้วยความแข็งแกร่งของเหล่ามาเฟียของฉันแล้วฉันไม่ปล่อยให้พวกมันมาข้ามหน้าข้ามตาเหยียบหัวฉันหรอก..ฉันก็แค่อยากจะบอกคุณเหว่ยว่าเย่เชียนไม่ใช่เด็กธรรมดาๆ ที่จะจัดการได้เฉยๆ ก็แค่นั้น..” ตู้เหลียงเฉิงพูดด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของเขา
ตู้เหลียงเฉิงพูดง่ายๆ แต่เหว่ยตงเซียงไม่ใช่คนโง่และเขาก็เข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าตู้เหลียงเฉิงหมายถึงอะไร หลังจากเงียบกันไปชั่วครู่เหว่ยตงเซียงก็พูดว่า “แล้วประธานตู้ต้องการแบบไหนเท่าไหร่?”
“ครึ่งต่อครึ่ง..ห้าสิบต่อห้าสิบ” ตู้เหลียงเฉิงพูดอย่างจริงจังและชัดเจน
ร่องรอยของความไม่สบอารมณ์อย่างมากฉายอยู่ภายในดวงตาของเหว่ยตงเซียงและจากนั้นเขาก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วพร้อมพูดว่า “ประธานตู้..คุณไม่รู้สึกว่าคุณกำลังโลภเกินไปหน่อยหรือ..คุณได้ควักเงินทุนอะไรเลยในครั้งนี้…และจะให้ฉันแบ่งหุ้นให้คุณตั้งครึ่งนึงมันจะไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ”
“คุณเหว่ยอย่าลืมสิว่าถ้าหากคุณไม่มีแก๊งมาเฟียและเด็กๆ ของฉันแล้วคุณจะแจกจ่ายและกระจายสินค้าของคุณได้ยังไง? ..พวกเราน่ะมีความมั่งคั่งอย่างแท้จริงและเราก็สามารถร่ำรวยและทำเงินได้มากกว่าเดิมเสมอ..สิ่งที่คุณกินน่ะเป็นอาหารอันโอชะเสมอ..อย่างน้อยๆ เราก็ต้องยิ่งใหญ่ไปด้วยกันสิ” ตู้เหลียงเฉิงพูด
การแสดงออกของเหว่ยตงเซียงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและมืดมนอย่างมากและเขาก็คิดกับตัวเองในใจว่า ‘ได้เลยตู้เหลียงเฉิง! ..เมื่อไหร่ที่ฉันจัดการกับเย่เชียนได้แล้วล่ะก็..แกจะเป็นคนต่อไป!’ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเหว่ยตงเซียงก็พูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะๆ ..ยังไงก็เถอะเท่าที่ฉันรู้มาฉินเทียนแห่งหงเหมินกรุ๊ปน่ะสนิทสนมกับเด็กคนนั้นมาก..เพราะงั้นเราจะไม่นั่งเฉยๆ อยู่แบบนี้หรอก”
“หึ..ถึงแม้ว่าหงเหมินกรุ๊ปจะมีอำนาจมากแค่ไหนก็เถอะแต่ในเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ก็เป็นถึงถิ่นของแก๊งชิงของฉัน..หงเหมินกรุ๊ปน่ะอยู่ในการจับตามองของฉันมาโดยตลอด..ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก..เพราะแก๊งชิงของฉันกับหงเหมินกรุ๊ปน่ะบาดหมางกันมานานแล้ว..ฉันตู้เหลียงเฉิงคนนี้จะจัดการกับหงเหมินกรุ๊ปด้วย” ตู้เหลียงเฉิงพูดอย่างมั่นใจ
เหว่ยตงเซียงก็แอบหัวเราะอย่างลับๆ และคิดอย่างลับๆ ว่า “จะดีที่สุดเลยถ้าพวกแกทั้งสองพ่ายแพ้ไปและฉันก็จะยิ่งใหญ่ที่สุด” เหว่ยตงเซียงหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วจิบเบาๆ จากนั้นก็พูดว่า “ถ้างั้นก็ขอให้การร่วมมือในครั้งนี้นำไปสู่ชัยชนะ!”
“ยินดีกับการร่วมมือ..และขอให้นำไปสู่ชัยชนะ!” ตู้เหลียงเฉิงยกแก้วไวน์ขึ้นมาและชนแก้วกับเหว่ยตงเซียง
พวกเขากำลังเดินหน้ากำจัดเย่เชียนและมันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครที่มีความสามารถมากกว่ากันและจะเป็นผู้ชนะซึ่งท้ายที่สุดแล้วผู้ชนะที่แท้จริงก็จะได้ครอบครองเมืองเซี่ยงไฮ้
…..
ยามค่ำคืนทั่วท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำราวกับว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาเยือน
เฟิงหลาน,หลิวเทียนเฉิน,เจมส์,วิลเลี่ยมได้เดินทางกลับจากประเทศเมียนมาร์แล้ว พายุลูกใหญ่ที่กำลังจะโหมกระหน่ำท่ามกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ และสงครามในค่ำคืนนี้จะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญและเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเมืองเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
เย่เชียนนั้นก็อยู่กับหวงฟู่เส้าเจี๋ยเพราะท้ายที่สุดแล้วหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เป็นถึงทายาทของตระกูลหวงฟู่อันยิ่งใหญ่และไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นักที่จะให้หวงฟู่เส้าเจี๋ยเข้าร่วมในการต่อสู้แบบเผชิญหน้ากะนตรงๆ เพราะถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับหวงฟู่เส้าเจี๋ยล่ะก็มันจะเลวร้ายอย่างมากและเขาจะอธิบายกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหวงฟู่ถิงเตี๋ยนผู้เป็นพ่อของหวงฟู่เส้าเจี๋ยได้อย่างไร ซึ่งในกรณีที่ทั้งสองคนนี้ปะทุโทสะขึ้นมาล่ะก็เย่เชียนเองหรือแม้แต่เขี้ยวหมาป่าทั้งหมดก็คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นแน่
หลี่เหว่ย,ชิงเฟิง,เฟิงหลาน,ม่อหลง,หลิวเทียนเฉิน,เจมส์และวิลเลี่ยมต่างก็แยกกันไปล่าหัวสมาชิกอาวุโสของแก๊งชิงและเครือชิงกรุ๊ปแต่ละคนตามข้อมูลที่ฉินเทียนมอบให้ เพราะจะต้องฆ่าสมาชิกอาวุโสทั้งหมดของแก๊งชิงในค่ำคืนนี้ รหัสของปฏิบัติการนี้ก็คือ กวาดล้าง..ล่าหัว!
เย่เชียนพาหวงฟู่เส้าเจี๋ยไปที่ไนท์คลับใกล้ๆ ซึ่งมันเป็นเสมือนดั่งสำนักงานใหญ่ของแก๊งชิงอีกด้วยและเป็นสถานบันเทิงที่ครบวงจรที่พร้อมบริการอย่างครอบคลุมในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ เดิมทีหวงฟู่เส้าเจี๋ยรู้สึกมืดมนและไม่สบอารมณ์อย่างมากเพราะเย่เชียนไม่ยอมให้เขามีส่วนร่วมในปฏิบัติการกวาดล้างล่าหัวในครั้งนี้ แต่เมื่อเขารู้ว่าเย่เชียนพาตัวเองมาที่สโมสรไนท์คลับของศัตรูแบบนี้แล้วเขาก็มีความสุขอย่างมากและยิ้มทันทีและความทุกข์ใจก่อนหน้านี้ของเขาก็ถูกลบล้างออกไปจนหมด
“อาจารย์! ..ผมได้ยินหลี่เหว่ยพูดว่าที่นี่มีสาวๆ จากทั่วทุกมุมโลกเลยใช่มั้ย..ทั้งสาวๆ ญี่ปุ่นและสาวๆ จากยุโรป..ทั้งสาวอเมริกัน..รัสเซียและแม้แต่สาวไทยสวยๆ ด้วยใช่มั้ย” หวงฟู่เส้าเจี๋ยถามอย่างตื่นเต้น
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้าหลี่เหว่ยพูดแบบนั้นก็น่าจะใช่..เพราะเขาน่ะเชี่ยวชาญด้านนี้มาก”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “โถ่..อาจารย์ผมคิดอยู่แล้วล่ะว่าอาจารย์น่ะใจดีกับผมที่สุดในโลก..ตอนแรกผมก็คิดว่าอาจารย์น่ะไม่เชื่อมั่นในตัวผมซ่ะอีก..เพราะอาจารย์ไม่ยอมให้ผมไปมีส่วนร่วมในภารกิจล่าหัว..แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ก็พาผมมาเปิดโลกที่นี่..อาจารย์ใจดีที่สุดเลย..ผมน่ะเก็บความบริสุทธิ์ของผมมาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว..และคืนนี้แหละผมจะพิชิตสาวๆ ต่างชาติเหล่านั้นอย่างสง่าผ่าเผยและแสดงให้พวกเธอรู้ว่าสุภาพบุรุษชาวจีนอย่างพวกเราน่ะเร่าร้อนและร้อนแรงที่สุดในโลก!”
เย่เชียนก็ไม่ได้ที่จะกลอกตาของเขาขึ้นและลงไปที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยและพูดว่า “หา! ..นายทำเป็นงั้นเหรอ..อย่าเลยๆ ..เดี๋ยวพวกผู้ชายชาวจีนจะเสียหน้ากันเปล่าๆ”
“อาจารย์ดูถูกความสามารถของผมเกินไปแล้ว..ร่างกายของผมน่ะต่อให้เผด็จศึกสาวๆ เหล่านั้นถึงสามร้อยรอบก็ไม่หวั่น!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยเดินเข้าไปหาเย่เชียนด้วยท่าทางที่ดูจริงจังอย่างมากและทุบหน้าอกของตัวเองอย่างหนักแน่นและพูด
“เอาเถอะๆ ..ระวังจะถูกสาวๆ ขย้ำเอาก็แล้วกัน” เย่เชียนพูดขณะที่เขาเดินเข้าไปที่ไนท์คลับ
ที่ทางเข้าของไนท์คลับมีหญิงสาวสองคนในชุดกี่เพ้าพร้อมเครื่องสำอางบนหน้าเบาๆ รูปร่างสูงและดูดีโดยเฉพาะขาของพวกเธอนั้นเรียวยาวและขาวมาก ที่ส่วนกลางของชุดกี่เพ้านั้นจะสามารถเห็นบั้นท้ายของพวกเธอได้เล็กน้อย
ซึ่งในกองทัพนั้นเหล่าทหารต่างก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบอย่างเข้มงวด และเมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านี้แล้วก็แตกต่างกันอย่างมาก เพราะตอนที่เขาอยู่ในเมืองหนานจิงนั้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตกองทัพหรือชมรมชาร์ปไนฟ์เพียงเท่านั้น แต่ทว่าบางครั้งพวกเขาก็ออกไปเที่ยวแสงสีกันบ้างเล็กน้อยแต่ทว่าหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรมากเกินไปเพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็อยู่ภายใต้จมูกและตาของพ่อของเขา แต่ทว่าตอนนี้มันต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิงเพราะที่นี่ห่างจากเมืองหนานจิงและหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ตัดสินใจที่จะปลดปล่อยความสุขออกมา
นับตั้งแต่ที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยมาที่เมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้เขาก็ถูกขังอยู่ในสำนักงานใหญ่ของไอร่อนบลัดมาโดยตลอดและถูกทรมานโดยสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าเหล่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นในยามที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ชิงเฟิงกับหลี่เหว่ยก็มักจะคุยกันข้างๆ เขาว่าสาวๆ และพนักงานคนไหนสวยบ้าง,บั้นท้ายคนไหนใหญ่บ้าง,หน้าอกของคนไหนใหญ่กว่ากันบ้าง,ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้มันทำให้เขารู้สึกใคร่ในตัณหาและมีอารมณ์ความต้องการหญิงสาวอย่างมาก นั่นก็เพราะว่าวัยหนุ่มสาวกำลังเป็นช่วงเวลาแห่งความคึกคะนองนั่นเอง
“ยินดีต้อนรับค่ะ!” หญิงสาวต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพบนใบหน้าของพวกเธอพร้อมกับสะบัดเอวของพวกเธอเล็กน้อย
“อ่าห๊ะ!” เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยและเดินเข้าไปข้างใน แต่ทว่าหวงฟู่เส้าเจี๋ยกำลังตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิงเพราะเมื่อพนักงานสาวทั้งสองที่ต้อนรับก้มโค้งคำนับลงหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างที่ขาวๆ นูนๆ จากพวกเธอ ซึ่งเย่เชียนก็ไมได้สนใจแต่เมื่อเย่เชียนเห็นว่าหวงฟู่เส้าเจี๋ยไม่ได้เข้ามาด้วยเขาก็ผงะไปชั่วขณะและหันหัวกลับไปและเห็นหวงฟู่เส้าเจี๋ยที่ยังคงยืนอยู่ที่นั่นและกำลังจ้องมองไปที่หน้าอกของพนักงานสาวต้อนรับทั้งสองด้วยสายตาที่อันร้อนแรงคู่หนึ่งพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากจมูก
เมื่อเห็นรูปลักษณ์และการแสดงออกของหวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วพนักงานสาวต้อนรับทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มซึ่งรอยยิ้มของพวกเธอนั้นมีเสน่ห์อย่างมากและเลือดกำเดาของหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ยิ่งไหลลงมาเรื่อยๆ
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและเตะก้นของหวงฟู่เส้าเจี๋ยไปเบาๆ และพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ว่า “หมดกัน..หน้าตาและศักดิ์ศรีของฉันถูกนายทำลายทิ้งไปหมดแล้ว”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยรีบเช็ดเลือดที่จมูกออกอย่างร้อนรนและโน้มตัวไปข้างๆ ของเย่เชียนและกระซิบเบาๆ ว่า “อาจารย์ช่วยถามพวกเธอให้ผมหน่อยจะได้มั้ย..ชีวิตนี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้วผมไม่สนใจสาวๆ ชาวต่างชาติแล้ว..ผมอยากนอนกับพวกเธอทั้งสองนี้”
เย่เชียนจ้องเขม็งเขาและพูดอย่างหมดหนทางว่า “เฮ้ยเอาจริงดิ..อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
“ไม่ๆ ..ผมจะไม่เสียใจอย่างแน่นอน..อาจารย์ถามให้ผมหน่อยนะ” หวงฟู่เส้าเจี๋ยอ้อนวอนและวิงวอนเย่เชียนอย่างซุกซน
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเบาๆ และมองไปที่พนักงานสาวต้อนรับทั้งสองและพูดว่า “สาวๆ ..ผมขอถามหน่อยสิว่าเขาต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะได้นอนกับพวกคุณทั้งสอง”
เห็นได้ชัดเลยว่าใบหน้าของพนักงานสาวทั้งสองก็ดูเย็นชาขึ้นมาทันที แต่ทว่าทุกคนที่มาที่นี่ต่างก็เป็นลูกค้าของพวกเธอทั้งหมดเพราะฉะนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถที่จะหยาบคายกับลูกค้าได้ “ขอโทษนะคะ..พวกเราไม่ได้ทำแบบนั้นค่ะ” หนึ่งพนักงานสาวต้อนรับพูด
เย่เชียนก็หันหน้าไปมองหวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วพูดว่า “นายได้ยินแล้วใช่มั้ย..งั้นก็เลิกคิดซะเถอะ”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ยังคงดื้อรั้นและเขาก็จับแขนของเย่เชียนและพูดว่า “อาจารย์พูดอีกๆ ..ลองพูดโน้มน้าวพวกเธอดีๆ สิ..พวกเธออาจจะยอมก็ได้”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะ..นายจะอวดอ้างสรรพคุณของนายเพื่อทำให้พวกเธอยอมปีนป่ายขึ้นมาบนตัวนายบนเตียงอย่างงั้นน่ะเหรอ” เย่เชียนพูด
“โถ่อาจารย์..ก็ผมชอบพวกเธอนี่หน่า” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูด
เย่เชียนแสยะยิ้มและหันไปพูดกับพนักงานสาวต้อนรับทั้งสองว่า “สาวๆ ..ผมขอถามตรงๆ อีกครั้งนะ..คือเขาต้องทำยังไงพวกคุณถึงจะยอม”
“ขอโทษจริงๆ นะคะ..เราไม่ทำแบบนั้นค่ะ” พนักงานต้อนรับพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
“ได้ยินแล้วหนิ..พอเถอะไอ้บ้านี่..เข้าไปได้แล้ว!” เย่เชียนเตะก้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยจากนั้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เดินโซซัดโซเซเข้าไปไนท์คลับและหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เดินสะดุดไปมาตลอดทางและหันกลับไปมองพนักงานสาวต้อนรับทั้งสองตลอดเวลา และการกระทำที่ดูซุกซนและตรงไปตรงมาแบบนี้ของหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ทำให้พนักงานสาวต้อนรับทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างเชื่องช้าและขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปข้างในจู่ๆ เขาก็หยุดและถามขึ้นมาว่า “เอ่อสาวๆ ..คือ..นายน้อยเหว่ยเฉิงหลงมารึยัง?”
“นายน้อยเหว่ยมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วละค่ะ” พนักงานสาวต้อนรับตอบ
มุมปากของเย่เชียนฉีกขึ้นเป็นรอยยิ้มและพูดว่า “อ่าห๊ะ..ขอบคุณมาก!” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนออกมากองหนึ่งจากเสื้อเขาและส่งมอบให้กับพนักงานสาวต้อนรับทั้งสองประมาณหนึ่งโหล ซึ่งมันเป็นเพียงแค่เงินเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการได้รับข้อมูลเช่นนี้เพราะเขาจะได้รับยิ่งกว่านั้นอย่างมากในค่ำคืนนี้
“ขอบคุณค่ะ! ..ขอบคุณค่ะ!” พนักงานสาวต้อนรับทั้งสองก็พูดอย่างเร่งรีบและประหลาดใจอย่างมาก
.
.
.
.
.
.
.