ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 40 คู่หมั้น
เย่เชียนมองไปยังโต๊ะที่อาจารย์ฉินหยูชี้ไปและเขาก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่ง เธอคนนั้นกำลังจ้องมองเขาราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสโอหังจนเย่เชียนอดคิดในใจไม่ได้ว่า ‘ทำไมสาวสวยคนนี้ถึงต้องทำหน้าทำตาให้ดูน่าเกลียดขนาดนั้นด้วย ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ออกจะหน้าตาสวยน่ารักมาก’
เย่เชียนส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายและเดินไปยังที่นั่งของเขา เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนตัวเขามีความสัมพันธ์กับเหล่าเด็กผู้หญิงพวกนี้มากนัก แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดี เพราะในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยรู้สึกขุ่นเคืองกับพวกหญิงสาวมามากมายโดยเฉพาะกับพวกเด็กสาวที่น่ารัก มันจึงทำให้เขาไม่ค่อยอยากจะเข้าไปพัวพันกับพวกสาวสวยสักเท่าไหร่นัก
หลังจากที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เย่เชียนก็ยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “ฉันชื่อเย่เชียน พวกเรากำลังจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกันดีไหม ?”
“อะไร ? นายคิดว่านี่เป็นประเทศหลังเขารึไง ?” เสียงของสาวน้อยที่จ้องมองเย่เชียนอย่างอาฆาตแค้นพูดขึ้น เธอพูดต่ออย่างตรงไปตรงมาว่า “นายน่ะเหมือนคุณลุงที่แก่แล้ว แล้วยังจะมาเรียนอีกเหรอ ? มันไม่เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์หรอกเหรอ ?”
เย่เชียนเหงื่อตกเล็กน้อยและคิดในใจ ‘นี่ฉันอายุมากแล้วจริง ๆ เรอะ ?! ถึงแม้ว่าฉันจะโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ฉันก็น่าจะยังไม่ดูเหมือนรุ่นลุงหนิ ใช่ไหม ?’
เย่เชียนคิดว่าเรื่องนี้มันตลกสิ้นดี เขาจึงตอกกลับไปว่า “ไม่มีพจนานุกรมเล่มไหนกล่าวเอาไว้ว่าถ้าอายุมากแล้วจะไม่สามารถเรียนรู้ได้… ตราบใดที่คนเรายังมีชีวิตมีลมหายใจอยู่ก็สามารถเรียนรู้ต่อได้อย่างไม่รู้จบ เธอไม่คิดอย่างนั้นเหรอ ?”
สาวน้อยแสนสวยส่ายหัวของเธออย่างช่วยไม่ได้และตอบว่า “ลุงน่ะแก่แล้ว แล้วจะเรียนทันเด็ก ๆ ได้ยังไงล่ะ ? ถึงจะเล่าเรียนไปฉันก็คิดว่าจะมีแต่น้ำเท่านั้นแหละที่จะไหลเข้าสู่สมองของลุง”
เย่เชียนหัวเราะโดยไม่สนคำพูดของสาวน้อย แต่กลับถามเธอไปว่า “เลิกเรียกฉันว่าลุงซะทีเพราะฉันไม่ใช่ลุงของเธอ” เขาแอบส่งสายตาดุดันให้เด็กสาวแวบหนึ่งก่อนจะปั้นหน้าทำทีเป็นไม่มีอะไรและพูดต่อว่า “อ้อใช่… ฉันได้ยินมาว่ามีเด็กผู้หญิงที่ชื่อจ้าวหยาอยู่ในคลาสเรียนนี้ด้วย ว่าแต่เธอคือใครล่ะ ? ชื่ออะไร ?”
ท่าทีของสาวน้อยดูเกร็งทันทีและเธอก็ถามเย่เชียนอย่างกระวนกระวาย “เอ่อ… นายถามหาเธอทำไม ?”
“ไม่มีอะไรหรอก… ฉันได้ยินมาว่าเด็กคนนั้นนิสัยไม่ดีแถมยังน่าเกลียดด้วย ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันควรต้องเตรียมตัวเอาไว้ดีกว่า เพื่อที่ฉันจะได้หลบหน้าเธอทัน ฉันกลัวเธอจะมารุกรานฉันน่ะ” เย่เชียนตอบพลางทำท่าทางกระวนกระวายใจ
สาวน้อยจ้องมองเย่เชียนอย่างเดือดดาลและต้องการที่จะกรีดร้องใส่เขา แต่ในเมื่อชั้นเรียนกำลังดำเนินอยู่ เธอจึงทำแบบนั้นไม่ได้และทำได้แค่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาแต่เต็มไปด้วยความโกรธ
“นายนั่นแหละที่น่าเกลียดและขี้เหร่! นายยังไม่เคยเห็นเธอแล้วนายจะรู้ได้ไงว่าเธอเป็นยังไง ?”
เย่เชียนมองดูเธอด้วยความประหลาดใจและถามว่า “ทำไมเธอต้องหงุดหงิดด้วยล่ะ หืม ? ฉันไม่ได้ว่าเธอซักหน่อย!”
“ฉะ… ฉัน… ฉัน” สาวน้อยผู้น่ารักพูดตะกุกตะกัก “ฉันไม่สนใจหรอก! แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่คบหากับคนอย่างนายแน่นอน!”
เย่เชียนมองเธอด้วยความสับสนแล้วพูดว่า “หรือว่า… ธะ… เธอจะเป็น…?”
“อะไร ? ฉันจะเป็นอะไร… นายต้องการจะพูดอะไรกันแน่ ?!” สาวน้อยถามอย่างเกรี้ยวกราด
“อ้อ… เปล่า ๆ ไม่มีอะไร…” เย่เชียนรีบตอบอย่างช่วยไม่ได้
อันที่จริงสิ่งที่เขาต้องการถามก็คือ ‘เธอเป็นเลสเบี้ยนหรอกเหรอ ?’ แต่เขาตัดสินใจว่ามันไม่ใช่คำถามที่ดีนักที่จะถามในเวลานี้ และนอกจากนี้มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ ไม่ใช่เรื่องของเขา
อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้ทุกคนล้วนมีอิสระในความรัก วิธีคิดใหม่ของสังคมคนรุ่นใหม่ ๆ ในประเทศอื่น ๆ ก็ยอมรับการแต่งงานของเพศเดียวกันแล้วทั้งนั้น ถ้าเธอเป็นเลสเบี้ยนจริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยและเขาเองก็จะไม่ตำหนิเธอเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“อะไร ? นายกำลังจะพูดอะไรเล่า ? ก็พูดมาเซ่!” สาวน้อยถามอย่างสงสัย
“ลืมมันไปซะ… คลาสเริ่มแล้ว” เย่เชียนตอบกลับอย่างเฉยเมย
“ไม่…! นายต้องบอกฉันเดี๋ยวนี้ พูดออกมานะ!!!” สาวน้อยยืนกรานอย่างดื้อดึง
เย่เชียนส่ายหัวแล้วตอบว่า “ถ้างั้นฉันจะพูดก็ได้ แต่จำเอาไว้นะว่า… เธอเป็นคนบังคับให้ฉันพูดเองน่ะ!”
“ทำไมนายต้องจู้จี้จุกจิกด้วย ? นี่นายไม่ได้เป็นผู้ชายหรอกเหรอ ?”
“เธอเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนั้นกับความเป็นผู้ชายของฉัน มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยซักนิด ฉันเป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิดแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองหาคำตอบมันด้วยตัวเองสิ! ฉันแค่อยากจะพูดว่าเธอกับจ้าวหยาน่ะเป็นคู่หูคู่เสี่ยวกันเหรอ ?” เย่เชียนพูดอย่างประหม่า
“ไอ้คู่หูคู่เสี่ยวนั่นมันคืออะไรล่ะ ?” สาวน้อยถามอย่างงุนงงแต่น่ารัก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เข้าใจ
“ก็ถ้าให้ฉันพูดตรง ๆ อย่างเป็นทางการก็คือ เธอสองคนน่ะ ‘มีใจเดียวกัน’ ก็… ถ้าให้ฉันอธิบายให้ฟัง… ยังไงดีล่ะ เอางี้… เธอกับจ้าวหยา พวกเธอควรชอบผู้ชาย แต่พวกเธอทั้งคู่กลับเลือกที่จะชอบผู้หญิงด้วยกันเองแทนไง… เธอเข้าใจคำอธิบายของฉันมั้ย ?” ลักษณะการพูดของเย่เชียนนั้นตรงไปตรงมาและต้องการขจัดความสับสนทั้งหมด และนี่ก็เป็นคำตอบที่จริงจังและจริงใจของเขา
“ไร้สาระ! ใครเป็นคนบอกนายห๊ะ ? ฉันจะไปฉีกปากของยัยนั่นเอง!” สาวน้อยจ้องเย่เชียนเขม็งอย่างโกรธเคือง เธอไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้เย่เชียนได้โต้แย้งใด ๆ ถ้าเย่เชียนกล้ายอมรับว่าเขาพูดเอง เด็กคนนี้อาจจะฆ่าเขาก็เป็นได้
“เอ่อคือ… อย่าเพิ่งโกรธสิ ฉันแค่เดาเอาเท่านั้น! ก็แค่คิดว่ามันแปลกมากเพราะตอนที่ฉันพูดถึงจ้าวหยา เธอดันโกรธและหงุดหงิดใส่ฉันซะได้ ดังนั้นฉันจึงเดาเอาเองไง ใจเย็น ๆ ก่อนนะใจเย็น ๆ ใจเยนนน ๆ” เย่เชียนพยายามพูดลากเสียงยานคางให้เธอเย็นลงเพราะเขาเห็นหน้าตาของเธอดูโกรธเกรี้ยวมากเกินไป
“ใจเย็น ๆ งั้นเหรอ ? ใจเย็นกับผีอะไรล่ะ !? ฉันจะกัดนายยยยย!!!” หลังจากที่สาวน้อยพูดจบ เธอก็คว้าแขนของเย่เชียนแล้วกัดลงไปเต็มปากเต็มคำ
“อ๊ากกกกกกกกก!”
เย่เชียนร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดเหลือทน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดที่ทำให้เธอโกรธจนถึงขนาดกัดเขาก็ตามแต่เขาก็ยังเคืองเธออยู่ดี เสียงของเขามันทำให้คนทั้งห้องหันมามองพวกเขาทั้งสองคนในทันที แม้แต่อาจารย์ฉินหยูก็ส่งสายตาโกรธเคืองพุ่งมาที่เย่เชียน
สาวน้อยไม่คิดว่าเย่เชียนจะร้องออกมาเสียงดังขนาดนี้จนทำให้ทุกคนในห้องมองมาที่พวกเขา ใบหน้าของเธอแดงก่ำทันทีและเธอก็จ้องมองเย่เชียนก่อนที่จะหันหน้าหนีไป
เย่เชียนฉีกยิ้มให้กับคนเหล่านั้นที่หันมามองเขาและพูดออกมาว่า “ไม่มีอะไร ๆ แค่ยุงกัดเฉย ๆ ครับ…”
ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น แม้จะไม่แน่ใจว่าสาเหตุมันเกิดมาจากอะไรแต่พวกเขาก็พอจะคาดเดาได้เล็กน้อย
เมื่อคลาสเรียนกลับเข้าสู่สภาวะปกติและหันความสนใจกลับไปที่อาจารย์ฉินหยูแล้ว เย่เชียนก็ยกแขนของเขาขึ้นมาดูก่อนจะพบว่ามีร่องรอยของฟันสองแถวที่แขนของเขา
“เธอเป็นหมาเหรอ ?!” เย่เชียนพูดออกมาอย่างหมดหนทาง
“นายนั่นแหละหมา หมาบ้าด้วย!” สาวน้อยตอบอย่างโกรธแค้น
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพึมพำกับตัวเองว่า “เย็นไว้ ทนไว้… ลูกผู้ชายที่ดีจะต้องไม่ทำร้ายผู้หญิง…”
สาวน้อยมองเย่เชียนราวกับว่าเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดและพึมพำกับตัวเองว่า “เขาเป็นคนดีจริง ๆ เหรอ ?” จากนั้นเธอก็ถามเย่เชียนว่า “เอาล่ะ… ไหนบอกฉันหน่อยซิว่าทำไมนายถึงถามถึงจ้าวหยา ?”
“แล้วเธอมายุ่งอะไรด้วยล่ะ… ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ” เย่เชียนตอบอย่างเฉยเมย เขารู้สึกงอนนิด ๆ เพราะเธอมากัดเขา!
“แล้วทำไมนายไม่บอกล่ะ! มันมีอะไรที่พิเศษกันนักกันหนา ฮึ๊!” สาวน้อยจ้องมองเย่เชียนอย่างดุดันเพื่อเผชิญหน้ากับเขาอย่างดื้อรั้น ในความเป็นจริงเธอดูน่ารักมากแม้จะกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเกรี้ยว
เย่เชียนเห็นว่าเธอน่ารักมาก เขาจึงรู้สึกอยากที่จะหยอกล้อเธออีกสักครั้ง เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดขึ้นว่า
“เธออยากรู้จริง ๆ เหรอ ? ก็ได้ ๆ… ฉันจะบอกความจริงให้ก็ได้… คือว่าพ่อของจ้าวหยา ท่านได้หมั้นเธอให้กับฉัน เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากจะเห็นตัวจริงของเธอไง ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ จ้าวหยาเป็นคู่หมั้นของฉัน”
“…”