ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 60 เจรจาต่อรอง
“พวกแกเป็นใคร ?”
อู่หยางเฉิงขมวดคิ้วขณะพูด เขาไม่รู้ที่มาที่ไปและเจตนาของเย่เชียนกับหลี่เหว่ยยี่เลย แต่เมื่ออู่หยางเฉิงเห็นพวกเขาไม่ละสายตาจากตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่น ๆ อยู่ในใจ และมันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ ที่สองคนนี้มาที่นี่ ไม่นานเขาก็รวบรวมสติของเขาได้
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิง… ท่านจำผมไม่ได้จริง ๆ เหรอ ?” เย่เชียนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
อู่หยางเฉิงรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเย่เชียน และคิดว่าชายคนนี้ก็รู้อย่างแน่ชัดว่าตนนั้นเป็นใคร แต่ยังกล้าที่จะมาทำสิ่งเหล่านี้ในตอนกลางดึกแบบนี้อย่างไม่เกรงกลัวตำแหน่งในราชการของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าแกเป็นใคร ? แกเข้ามาในบ้านของฉันกลางดึกแบบนี้เพื่ออะไร ?” อู่หยางเฉิงถามอย่างประหม่า
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิง คุณนี่ขี้ลืมเสียจริงนะ คุณเองไม่ใช่หรือที่สั่งให้พวกตำรวจมาจับผม แถมยังบอกให้พวกเขาวิสามัญผมอีก” เย่เชียนตอบอย่างไม่แยแส
“แก… แกคือเย่เชียนเรอะ ?” อู่หยางเฉิงพูดด้วยความหวาดกลัว
อู่หยางเฉิงคาดว่าเย่เชียนคงจะหาวิธีหลบหนีออกจากเมืองและไปกบดานที่ไหนสักแห่งหลังจากที่หนีออกจากคุก ไม่ใช่บุกเข้ามาในห้องของเขาและแสดงตัวอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นี่เป็นการยั่วยุและตอบโต้อย่างไม่ต้องสงสัย ในสายตาของเขาตอนนี้ แม้ว่าเย่เชียนจะเป็นแค่คนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถจะต่อสู้หรือปะทะอะไรกับเย่เชียนได้เลย หลังจากฉุกคิดอยู่ชั่วครู่ อู่หยางเฉิงก็แสร้งทำเป็นพูดว่า
“ถูกต้องแล้ว คำสั่งนั้นน่ะมาจากฉันเอง งานเวิลด์เอ็กซ์โปใกล้เข้ามาแล้ว แต่จู่ ๆ แกก็ดันไปฆ่าข้าราชการคนนึงตาย นี่มันเหมือนเป็นการยั่วยุและท้าทายกับรัฐบาลโดยตรงเชียวนะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้แกเป็นกรณีตัวอย่างให้แก่คนอื่น ๆ เพื่อรักษาความสงบในเซี่ยงไฮ้นี้”
เย่เชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนว่าอู่หยางเฉิงนี่คงเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
“คุณรู้ดีว่าผมไม่ได้ฆ่าใคร… และผมเองก็ไม่อยากจะเสวนาและยุ่งเกี่ยวกับคุณด้วย” เย่เชียนฉีกยิ้มช้า ๆ ขณะที่มือก็แกว่งไฟล์กับเอกสารไปมา
“ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากผมส่งคลิปวิดีโอนี้ไปยัง CCDI” เย่เชียนพูดต่อ
อู่หยางเฉิงเริ่มตื่นตระหนกตกใจและหวั่นเกรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหากเย่เชียนทำเช่นนั้นจริง ๆ ล่ะก็ ไม่เพียงแต่เขาจะถูกกรรมการตรวจสอบวินัยควบคุมตัวและสอบสวนจนนำไปถึงการกักขังเท่านั้น แต่เขาก็จะต้องสูญเสียตำแหน่งผู้ว่าเทศบาลเมืองไปด้วยอย่างแน่นอน แต่อู่หยางเฉิงก็ยังพยายามทำนิ่งเฉยกับคำพูดของเย่เชียน เพราะเขาเองก็มีทนายที่ทั้งเก่งและมีฝีมือดีหลายคนที่เขาผูกสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ คิดได้ดังนั้น อู่หยางเฉิงก็พูดว่า
“นี่มันก็เป็นแค่เรื่องชีวิตส่วนตัวของฉัน CCDI ก็แค่ต้องตรวจสอบไปตามหน้าที่ นอกจากนี้ด้วยตำแหน่งและพรรคพวกของฉัน การที่จะทำให้เรื่องพวกนี้หายออกไปจาก CCDI มันก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ฉันคิดว่าแกคงไม่ได้เสี่ยงที่จะมาที่นี่เพื่อแค่เจอฉันและบอกเกี่ยวกับสิ่งนี้แค่นั้นหรอก แกบอกมาเถอะว่าจริง ๆ แล้วแกต้องการอะไรกันแน่ ?”
“นี่แกยังกล้าที่จะโอหังและอวดดีอยู่อีกเหรอ ? จะอวดตำแหน่งอะไรกันนักกันหนา เดี๋ยวก็ฆ่าให้ซะหรอก!!!”
หลี่เหว่ยยี่ตะคอกอย่างเดือดดาล แต่คำพูดของเขายังดูคลุมเครือมากนัก เพราะหลี่เหว่ยยี่ไม่ค่อยเก่งภาษาจีนสักเท่าไหร่ เขาอาศัยอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เกิดหรือไม่ก็จงใจพูด ทุกครั้งที่เขาพูดคำว่า ‘เฆี่ยน’ ที่หมายถึงการทรมาน เขามักจะพูดว่า ‘ฆ่า’ แทน จึงทำให้หลาย ๆ คนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มบ่อยครั้ง
อู่หยางเฉิงสั่นไปทั้งตัว เขาผู้มีตำแหน่งเป็นถึงเลขานุการคณะกรรมการเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ คงเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมากถ้าเขาจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของเด็กสองคนนี้
แต่ในขณะเดียวกัน อู่หยางเฉิงก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ฆ่าตน เพราะในตอนที่ตนนอนหลับอยู่ก่อนหน้านี้ พวกเขามีโอกาสถมถืดที่จะฆ่า แต่พวกเขากลับไม่ทำและเลือกที่จะเสวนาเรื่องพวกนี้กับเขาแทน อู่หยางเฉิงรู้ว่าเขาต้องยื้อเวลาให้ได้นานที่สุด และถึงแม้ว่าเขาจะต้องตกลงหรือสัญญาอะไรกับสองคนนี้ในตอนนี้ แต่เมื่อใดที่ถึงรุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้น ตำรวจทั้งหมดจะระดมพลตามล่าพวกเขาและจะวิสามัญจับตายพวกเขาในทันที
เย่เชียนฉีกยิ้มขณะที่เขาทำท่าทางห้ามหลี่เหว่ยยี่ให้หยุด หลี่เหว่ยยี่เป็นคนที่กล้าหาญ การฆ่านองเลือดนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ สำหรับเขาเลย มันไม่สำคัญเลยว่าอู่หยางเฉิงจะเป็นถึงรองผู้ว่าเทศบาลหรืออะไร เพราะพวกเขาเคยทำการสังหารผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในหลาย ๆ ประเทศมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ในมุมมองของเย่เชียน แม้ว่าการฆ่าอู่หยางเฉิงจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การฆ่าเขาด้วยวิธีนี้จะมีแต่ทำให้ตัวเขาเองถูกมองไม่ดี เพราะหน่วยเขี้ยวหมาป่ากำลังจะสร้างกองกำลังในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องการตัวตนที่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เย่เชียนรู้ดีว่า ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ เขาต้องผูกมิตรกับข้าราชการและคนของรัฐเอาไว้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงพันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันก็ตาม
ตอนนี้เย่เชียนมีพันธมิตรที่อยู่ในระบบของราชการและรัฐบาลคือ พี่ใหญ่และน้องสาม หากมีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็จะช่วยเย่เชียนโดยไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งในปัจจุบันของพวกเขาก็ยังคงไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีบางสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำเพื่อเย่เชียนได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องการแค่ไหนก็ตาม
อู่หยางเฉิงผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากนั้นเย่เชียนก็พูดขึ้นว่า “ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับท่านสักหน่อย!”
“อะไรล่ะ ?” อู่หยางเฉิงถามด้วยความประหลาดใจ
“มันง่ายมาก… ผมแค่อยากเป็นเพื่อนกับท่านเลขาอู่หยางเฉิงก็แค่นั้น… แต่ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นด้วยมั้ย ?” เย่เชียนพูดอย่างเยือกเย็น
“บอส…!” หลี่เหว่ยยี่จ้องมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกเย่เชียนทำท่าหยุดเอาไว้
หลี่เหว่ยยี่รู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะจริง ๆ แล้วเย่เชียนที่เขารู้จักนั้นเป็นคนดุร้าย แล้วทำไมวันนี้เขาถึงปล่อยอู่หยางเฉิงไปเสียง่าย ๆ แต่เมื่อหลี่เหว่ยยี่ตั้งใจมองดูเย่เชียนดี ๆ แล้ว มันก็ทำให้ทุกอย่างชัดเจน สุดท้ายแล้วบอสก็ยังเป็นบอสของเขาอยู่วันยังค่ำ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“เพื่อนเหรอ ? ทำไมล่ะ ?” อู่หยางเฉิงถามอย่างเย้ยหยัน
“เพราะชีวิตของคุณตกอยู่ในกำมือของพวกเราแล้วน่ะสิ” เย่เชียนตอบอย่างเย็นชา
“นี่คุณคิดว่าพวกเราทำอะไรคุณไม่ได้เหรอ ? พวกเรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการติดสินบนที่คุณรับเอาไว้และการขายชาติเกี่ยวกับโครงการของรัฐบาล ผมน่ะเป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ คนนึง แต่คุณน่ะเป็นถึงท่านอู่หยางเฉิง เลขานุการคณะกรรมการเทศบาลของเซี่ยงไฮ้ที่เป็นข้าราชการระดับสูง คุณไม่คิดว่าเราต้องสงบศึกกันสักหน่อยเหรอ ?”
อู่หยางเฉิงไม่ได้สงสัยอะไรมากในคำพูดของเย่เชียน แต่ทว่าบันทึกการรับสินบนของเขาทั้งหมดถูกซ่อนเอาไว้ที่นี่ ถ้าเย่เชียนพบพวกมันเข้าจริง ๆ แล้วนำไปเปิดเผยล่ะก็ อาชีพของเขาก็จะจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ อู่หยางเฉิงกัดฟันและตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือตัวเลือกอื่น นอกจากต้องเห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากที่เขาได้หลักฐานการรับสินบนกลับคืนมา เขาถึงจะสามารถจัดการกับพวกเย่เชียนได้
“ตกลง! เอางั้นก็ได้!” อู่หยางเฉิงแค่นเสียงตอบอย่างหมดหนทาง
เย่เชียนฉีกยิ้มด้วยความพอใจ ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ต้องการร่วมงานกับคนอย่างอู่หยางเฉิง แต่เขาจำเป็นต้องทำสิ่งนี้เพื่อซื้อเวลาให้กับตัวเอง เพราะในแวดวงรัฐบาลนั้นมีใครบ้างที่ไร้ซึ่งมิตรและศัตรู ? อู่หยางเฉิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้ และอีกอย่าง เย่เชียนเองก็มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจแล้ว
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิงคงเข้าใจแล้วสินะ… ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไม่พูดอะไรมากอีกต่อไป” เย่เชียนลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้อง
หลี่เหว่ยยี่จ้องมองแผ่นหลังเย่เชียนอย่างว่างเปล่า แต่จากนั้นเขาก็รีบเดินตามเย่เชียนไป
เย่เชียนหยุดชะงักเมื่อเขาเดินไปถึงประตูห้องนอน เขาหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ และพูดว่า
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิง… ท่านไม่ต้องส่งมือสังหารมาติดตามผมหรอก เพราะผมไม่เก็บข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้กับตัวของผม ถ้าผมตาย… มันจะถูกส่งไปยังโต๊ะของคณะกรรมการตรวจสอบวินัย อ้อ… อีกอย่างที่ผมอยากจะบอก ท่านอายุมากขนาดนี้แต่ยังแข็งแรงและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ผมชื่นชมเลย หึ ๆ ๆ”
เย่เชียนไม่พูดเปล่า เขาชูมือทำท่าถ่ายวิดีโอเย้ยหยันและความหมายของเขาค่อนข้างชัดเจนว่าจะสื่อถึงอะไร…