ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 602 สูบเลือดสูบเนื้อ
ตอนที่ 602 สูบเลือดสูบเนื้อ
ไม่ว่าในกรณีใดชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นถึงบุคลากรของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน ดังนั้นเย่เชียนก็ไม่มีเหตุผลที่จะส่งเขาไปที่สถานีตำรวจเพราะมันเท่ากับปล่อยให้เขาตาย อีกอย่างเย่เชียนก็ไม่ได้มีความคับข้องใจกับเขาและนอกจากนี้เย่เชียนก็แค่ต้องการโต้กลับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องการเตือนหวงฟู่ชิงเตี๋ยนสำหรับเรื่องนี้
ถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะเป็นสาวกของม่อจื๊อส่วนม่อหลงก็เป็นผู้สืบทอดก็ตามแต่ถึงยังไงตำแหน่งทางการของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เป็นถึงผู้นำระดับชาติของรัฐบาลกลางในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็ตาม แต่ถ้าหากวันหนึ่งรัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งกำจัดเขาล่ะก็เย่เชียนเกรงว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนคงจะไม่อยู่ฝ่ายเขาอย่างแน่นอน
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็ไม่สนใจเสี่ยวเซียวอีกและเขาก็กดเบอร์โทรศัพท์ของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนทันที ซึ่งเมื่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนรับสายเขาก็ได้ยินเสียงของเย่เชียนและเขาก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็พูดว่า “หืมเย่เชียน..ทำไมเอ็งถึงได้โทรหาฉันล่ะ..เอ็งไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาตั้งหนึ่งปี?..ทำไมถึงไม่ส่งข่าวมาบ้างเลย..เอ็งจำไม่ได้เหรอว่าเรายังมีงานสำคัญที่ต้องทำอยู่”
เย่เชียนนั้นรู้ดีว่างานสำคัญที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดคืออะไรเพราะมันคือการยึดครองอำนาจทั้งหมดในเขตปกครองพิเศษไต้หวันซึ่งงานนี้ช่างไร้สาระหรับเย่เชียนและเขาก็ไม่สนใจที่จะจริงจังกับมันมากนัก ถ้าไม่ใช่เพราะโอกาสที่จะขยายอำนาจของเขาเพื่อเขี้ยวหมาป่าแล้วล่ะก็เย่เชียนก็คงจะไม่สนใจที่จะทำมัน แต่ด้วยเหตุนี้เย่เชียนจึงตกลงที่จะช่วย อย่างไรก็ตามหวงฟู่ชิงเตี๋ยนกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยเรื่องที่ส่งคนมาติดตามเขา
“ปู่!..เลิกเสแสร้งได้แล้ว..ตกลงว่าปู่ส่งคนมาคอยติดตามผมอยู่ใช่มั้ย?..ผมแค่อยากใช้ชีวิตอย่างเงียบๆเพราะงั้นอย่ามารบกวนผม!” เย่เชียนพูดต่อ “แล้วก็อย่าพูดเรื่องอะไรที่มันไร้สาระล่ะเพราะตอนนี้ลูกน้องของปู่อยู่ที่นี่แล้ว..เขาขับรถชนรถของผมเพราะงั้นปู่ต้องจ่ายค่าเสียหายให้ผมไม่งั้นผมจะโทรแจ้งตำรวจ..ปู่ก็น่าจะรู้นะว่ามันร้ายแรงแค่ไหนถ้าเขาถูกส่งตัวเข้าไปในสถานีตำรวจในฐานะสายลับ..ผมคิดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นคงจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆหรอก”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นชัดเจนมากเกี่ยวกับอารมณ์และนิสัยของเย่เชียน ดังนั้นการที่เย่เชียนได้พูดอะไรบางอย่างเช่นนี้นั่นก็หมายความว่าเย่เชียนมีบางอย่างที่ต้องการ อย่างไรก็ตามหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยังรู้ดีว่าเย่เชียนนั้นเป็นหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อนและตายด้านเพราะฉะนั้นถ้าหากจนไม่เห็นด้วยกับคำขอของเขาล่ะก็เย่เชียนก็จะทำทุกอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า “หืม..มีใครติดตามเอ็งอยู่งั้นเหรอ..ฉันไม่รู้จริงๆ..ดูเหมือนว่ามันเป็นความคิดของลูกน้องหรือไม่ก็หน่วยงานอื่น..เฮ้อ..ฉันที่เป็นถึงหัวหน้าแต่กลับไม่รู้เรื่องเพราะงั้นฉันเสียใจจริงๆ..เดี๋ยวฉันค่อยไปจัดการเรื่องนี้กับพวกเขาเพราะถึงยังไงมันก็เป็นความผิดของฉันอยู่ดี..เอาเถอะเอ็งบอกฉันมาเลยว่าจะให้ฉันชดเชยยังไง”
เย่เชียนนั้นไม่สนใจสิ่งที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนเสแสร้งแกล้งทำเพราะสำนักงานความมั่นคงแห่งชาตินั้นไม่ใช่องค์กรธรรมดาทั่วไปแต่เป็นองค์กรที่เป็นทางการและเข้มงวดที่สุดของประเทศชาติ ดังนั้นถ้าหากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนไม่สามารถควบคุมบุคลากรและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้ล่ะก็ฐานะผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเขานั้นคืออะไรและมันคงจะไร้ประโยชน์สิ้นดี? “ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากหรอก..เขารับรถชนรถของผมเพราะงั้นปู่ก็น่าจะรู้นะว่าปู่ต้องทำยังไง” เย่เชียนพูด
“ฉันเข้าใจหน่า..เงินใช่มั้ย?..เอาล่ะบอกมาสิว่ามันเท่าไหร่” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นรู้ดีว่าเขากำลังจะสูญเสียเงิน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะเปลี่ยนเรื่องอีกต่อไป
“อย่างน้อยๆก็ประมาณสิบล้านหยวน..แต่เนื่องจากเราก็รู้จักกันมานานเพราะงั้นผมจะลดให้เหลือเก้าล้านหยวนพอ” เย่เชียนพูด
“หือ…” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถึงกับตกใจไปกับวายร้ายเย่เชียนจากนั้นเขาก็พูดว่า “ไอ้เด็กนี่..นั่นมันรถยนต์หรือเรือบรรทุกเครื่องบินกันแน่ทำไมมันถึงมีมูลค่าตั้งสิบล้านหยวนล่ะ”
“ทำไมมันจะไม่ถึงล่ะ..มันเป็นรถคลาสสิคสุดหรู..ปู่จะมาดูมันด้วยตาของตัวเองไหมล่ะ..หรือไม่ก็ถามลูกน้องของปู่ก็ได้” เย่เชียนพูดเบาๆ “นี่มันสมเหตุสมผลที่สุดแล้วเพราะถ้าเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินจริงๆปู่จะใช้เงินสิบล้านซื้อมันได้ไหมล่ะ?..เอาสิเดี๋ยวผมจะให้เงินปู่สิบหลานหยวนแล้วปู่ไปหาเรือบรรทุกเครื่องบินให้ผมก็แล้วกัน..เอาเถอะ..รถของผมมันเป็นรถหรูที่หายากมากผมบอกได้เลยว่าเงินสิบล้านหยวนน่ะมันน้อยสุดแล้วถ้าเทียบกับความหายากของมัน”
“รถหรูแค่ไหนแต่มันก็ไม่น่าจะแพงถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง..อีกอย่างมันก็แค่ถูกรถชนเองไม่ใช่เหรอมันน่าจะซ่อมได้หนิ..เพราะงั้นไอ้ราคาที่เอ็งเรียกตั้งสิบล้านหยวนเนี่ยเอ็งไม่หน้ามืดไปหน่อยเหรอ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดหวงฟู่ “เอ็งต้องการสูบเลือดสูบเนื้อฉันใช่มั้ย?..อย่าพูดถึงมันอีก”
“บ้าเอ๊ย..ปู่คิดว่าผมหลอกปู่งั้นเหรอ..ปู่รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นรถประเภทไหน..นี่คือรถโบราณคลาสสิคและยิ่งไปกว่านั้นกว่าผมจะได้ซื้อมันมาจากนักสะสมของเก่าเนี่ยมันไม่ใช่แค่ผมใช้เงินไปหลายสิบล้านดท่านั้น..แต่ยังรวมไปถึงศักกิ์ศรีและมิตรภาพมากมายเพราะมันมีเพียงคันเดียวในโลกและไม่สามารถซ่อมได้..และไม่ว่าจะซ่อมสักแค่ไหนมันก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อยู่ดี” เย่เชียนพูด
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นรู้ดีว่าเย่เชียนขู่กรรโชกทรัพย์และมันไม่มีรถคันใดที่มีมูลค่าสิบล้านหยวนจริงๆในกรณีนี้ นอกจากนี้เย่เชียนก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินเลย ซึ่งเย่เชียนทำแบบนี้ก็เพียงเพื่อปลอดภัยคุกคามและความกังวลเกี่ยวกับการถูกสะกดรอยตามนั่นเอง “อย่าอ้างนู่นอ้างนี่เลย..เอ็งก็แค่ต้องการให้ฉันขอโทษ..ก็ได้ๆฉันจะขอโทษ..ฉันไม่ควรส่งคนตามเอ็งไปเลย..แบบนี้ตกลงมั้ย?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดอย่างหมดหนทาง
“ปู่จะพูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูก..ผมน่ะเป็นคนมีเหตุผลที่สุด..ลูกน้องปู่ตั้งใจขับรถมาชนรถของผมเพราะงั้นการเสียเงินไปบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติ..นอกจากนี้ผมก็เห็นแก่ปู่เพราะผมคิดว่าปู่คงไม่อยากให้คนของปู่เข้าไปอยู่ในสถานีตำรวจหรอกใช่มั้ย?” เย่เชียนพูด
“ให้ตายเถอะไอ้เด็กนี่!..เอ็งอย่าใจร้ายนักสิ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นรู้สึกหมดหนทางจริงๆและใครจะรู้ว่าเย่เชียนจะทำอะไรอีกและถ้าหากเย่เชียนทำจริงๆล่ะก็ปัญหาก็จะควบคุมไม่ได้อีกแล้วและมันจะยิ่งแย่ลงไปอีกมากเท่านั้น
“อย่าไปคิดแบบนั้นสิ” เย่เชียนฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “เราก็รู้จักกันมานานและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับม่อหลงก็ยิ่งเหมือนครอบครัวเดียวกันขึ้นไปอีก..เอาหน่าอย่าไปคิดเล็กคิดน้อย”
‘นี่มันรีดไถกันชัดๆ’ หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดในใจอย่างลับๆ แต่เขาไม่ได้พูดออกมาเพราะเขาไม่ต้องการต่อร้องต่อเถียงกับเย่เชียนอีกต่อไปและเขาก็คิดเสียว่ามันเป็นการจ่ายเงินเพื่อขจัดปัญหาที่เกิดขึ้น “เอาล่ะๆ..ในเมื่อเราก็รู้จักกันมานานเพราะงั้นมาคุยเรื่องตัวเลขกันเถอะ..อย่าขี้เหนียวเกินไปล่ะ!” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“แบบนี้แหละ!..ผมล่ะชอบทำธุรกิจกับปู่จริงๆ” เย่เชียนพูด “เราก็คนกันเองและแทบจะบอกได้ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันเพราะงั้นผมจะลดให้ปู่เป็นแปดล้านก็แล้วกัน..ถ้าปู่ไม่พอใจผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะพูดยังไงดี”
เย่เชียนนั้นเหมือนแวมไพร์ที่สูบเลือดสูบเนื้อที่คิดว่าเงินแปดล้านหยวนนั้นยังจะทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพอใจได้อยู่อีก “ก็ได้!..แปดล้านก็แปดล้าน..ฉันจะไม่ต่อร้องต่อเถียงกับเอ็งอีก..จากนี้ไปทางใครทางมัน!” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“ดูสิ่งที่ปู่พูดสิมันทำร้ายความรู้สึกของผมมาก” เย่เชียนพูดต่อ “ผมจะบอกเลขบัญชีให้ปู่..จากนั้นปู่ก็โอนเงินมาก็แล้วกัน”
“บัดซบ..เอ็งนี่มันตายด้านจริงๆ..ฉันประชดขนาดนี้แต่เอ็งยังจะเอาเงินฉันอยู่อีกเหรอ?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดอย่างหดหู่
“ปู่น่ะรวยจะตายปู่คงไม่สนใจเงินแค่นี้หรอกใช่มั้ย?..ผมเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนสงสารผมเถอะ..อย่าทำเหมือนผมเป็นคนอื่นสิ” เย่เชียนยื้มอย่างมีความสุขและพูด
“เอ็งมันไม่ต่างกับโจร!” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดอย่างหดหู่และวางสายไป
ผู้ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆก็ถึงกับตกตะลึงและถึงแม้ว่าเขาจะรู้จักความสามารถและพลังของเย่เชียนมาพอสมควรแล้วก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าเย่เชียนจะกล้าคุยกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแบบนี้ อย่าว่าแต่ความกลัวเลยเพราะไม่เพียงแค่เย่เชียนไม่แสดงความเคารพหรือความกลัวต่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเท่านั้นแต่เย่เชียนยังขู่กรรโชกทรัพย์หวงฟู่ชิงเตี๋ยนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ เพราะงั้นสิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มงงงวยอย่างมากและเขาก็ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชียนกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเลย
เย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ชายหนุ่มแล้วพูดว่า “ผมล่ะอิจฉาคุณจริงๆที่มีหัวหน้าที่ดีแบบนี้..ในอนาคตคุณต้องฟังและทำตามปู่เขาดีๆล่ะแล้วเขาก็จะตอบแทนคุณอย่างดี..ถึงแม้ว่าเขาจะดูเย็นชาอยู่ตลอดเวลาก็ตามแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักลูกน้องของเขา”
ชายหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่จากนั้นเขาก็พูดว่า “ผมไปได้แล้วใช่มั้ย?”
“ไม่ต้องกังวลไป..รอก่อนๆ” เย่เชียนยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “เงินยังมาไม่ถึง..คุณจะออกไปได้ก็ต่อเมื่อปู่โอนเงินมาแล้ว”
ชายหนุ่มกลอกตาไปมาและสบถอย่างดุเดือดในใจว่า “ไอ้หมอนี่ช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกิน!”
“อาจารย์คะเมื่อกี้นี้โทรหาใครหรอ?” เสี่ยวเซียวโน้มตัวไปข้างหน้าและถามด้วยความสงสัย
“อย่าถามเยอะ..เธอรู้ไหมว่าความอยากรู้อยากเห็นน่ะมันเหมือนคมดาบ..เพราะงั้นอย่าสู่รู้มากเพราะมันจะฆ่าเธอ” เย่เชียนพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก..ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย..หึ!” เสี่ยวเซียวขดริมฝีปากและพูดอย่างโกรธเคือง
“ฟังนะ..เธอลืมกฎของฉันอีกแล้วเธอต้องเคารพครูบาอาจารย์แล้วฉันจะรับเธอเป็นลูกศิษย์..แต่ถ้าทำแบบนี้ฉันจะรับเธอเป็นศิษย์ได้ยังไง?” เย่เชียนพูด
“เอ่อ?..ฉันลืมไปเลย..ขอโทษค่ะท่านอาจารย์ฉันขอโทษ..ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” เสี่ยวเซียวถึงกับผงะและพูดอย่างเร่งรีบ
“ถ้าทำอีกงั้นเหรอ..ครั้งต่อไปฉันจะโยนเธอทิ้งแล้วก็อย่ามาพูดล่ะว่าฉันใจร้าย..จำเอาไว้ว่าคำพูดของอาจารย์นั้นถูกต้องเสมอและเธอต้องทำในสิ่งที่อาจารย์สั่งให้เธอทำเท่านั้น..ถ้าอาจารย์บอกให้ทำเธอก็ต้องทำ..แต่ถ้าสิ่งไหนที่อาจารย์ไม่ได้สั่งก็ไม่ต้องทำ..และเธอจะไม่พูดในสิ่งที่อาจารย์ไม่ยอมให้เธอพูด..เข้าใจมั้ย?” เย่เชียนพูดอย่างมีความสุข
“ฉันรู้ค่ะท่านอาจารย์..ฉันจะทำทุกอย่างที่อาจารย์สั่งให้ทำในอนาคต” เสี่ยวเซียวพูด อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ดูไม่ใส่ใจกับคำพูดของเย่เชียนและคำตอบของเธอก็ดูไร้สาระมาก แต่เย่เชียนก็ไม่สนใจเรื่องนี้เพราะเขาไม่ต้องการที่จะรับผู้หญิงคนนี้เป็นลูกศิษย์แบบเล่นๆอยู่แล้ว
ขณะพูดอยู่จู่ๆโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นและเย่เชียนก็มองดูมันจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข
.
.
.
.
.
.
.