ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 802 การปรากฎตัวของหลัวจ้าน
ตอนที่ 802 การปรากฎตัวของหลัวจ้าน
แน่นอนว่าเย่เชียนไม่ได้มีการเตรียมการใดๆมาก่อนเพราะเขาแค่บังเอิญผ่านเมืองหนานจิงและเพราะต้องมาต่อไฟต์เครื่องบินที่เมืองนี้เท่านั้นและเขาก็ไม่ได้คิดที่จะมาจัดการสิ่งต่างๆเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามคำพูดของเย่เชียนก็ทำให้หม่าซานเหอประหม่าอย่าวมากและไม่รู้เลยว่าเย่เชียนนั้นเตรียมวิธีรับมืออย่างไรเอาไว้ ซึ่งถ้าหากเย่เชียนเตรียมการเอาไว้จริงๆล่ะก็หม่าซานเหอก็ไม่สามารถที่จะต้านทานได้เลย เดิมทีหม่าซานเหอนั้นคิดว่าเย่เชียนมาที่นี่โดยไม่มีการเตรียมตัวใดๆเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เชียนพูดหัวใจของหม่าซานเหอก็พันกันยุ่งเหยิงและเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี อันที่จริงเขายังคงกลัวเย่เชียนอยู่ในใจเพราะเขาเองก็ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความสามารถและอิทธิพลหรืออำนาจของเย่เชียน หากมันเป็นดั่งที่เย่เชียนพูดล่ะก็เขาจะไม่สามารถบรรลุความปรารถนาและเป้าหมายของเขาได้เลย
เมื่อเห็นสีหน้าของหม่าซานเหอดูเปลี่ยนไปเย่เชียนก็แอบยิ้มในใจแล้วพูดออกมาว่า “ผมพูดไปแล้วนะว่าถ้าคุณต้องการที่จะถอนตัวคุณก็สามารถมาคุยกับผมได้ตรงๆ..ผมจะไม่ขัดขวางไม่ให้คุณร่ำรวยและมีชีวิตที่ดีเลยแต่สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิตกำลังถูกคุกคามและไม่มีใครเป็นข้อยกเว้นทั้งนั้น..แต่คุณกลับทำแบบนี้ต่อหน้าผมคุณเป็นคนโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ความมั่นใจของหม่าซานเหอถูกเย่เชียนทำลายไปทีละเล็กทีละน้อยและหลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อไปว่า “บางครั้งมันก็โชคดีที่คนๆหนึ่งจะได้เลือกวิธีการตายของเขาเองถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะไม่สามารถเลือกได้ก็ตาม..คุณควรจะรับเอาไว้จริงๆเพราะถ้ามนุษย์เลือกวิธีการตายของตัวเองไม่ได้ล่ะก็คนๆนั้นจะพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตไปและจะตายอย่างอนาถ..ผมกับเหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าน่ะเรามีวิธีการทรมานเจียนตายจนอย่างจะตายอยู่หลายวิธี..ซึ่งใช้ในการลงโทษผู้ที่ทรยศในองค์กร..ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันจะเป็นการทรมานที่นิยมใช้กันในสมัยราชวงศ์ชิงและยิงมีการทรมานแบบสายลับอีกมากมาย..คุณคิดว่าคุณจะสามารถทนได้อย่างงั้นหรอ?..โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียว”
หม่าซานเหอนั้นดิ้นรนอยู่ภายในใจและสูญเสียอาการอย่างมาก หลังจากใช้เวลาอยู่บนท้องถนนสายนี้มาเป็นเวลานานหม่าซานเหอก็ได้ละทิ้งความกลัวตายของเขาไป ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เย่เชียนพูดว่าการเลือกวิธีการตายนั้นมีความสำคัญมากสำหรับเขาเพราะถึงตายก็ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรีใช่ไหม?
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของเย่เชียนหัวใจของหม่าซานเหอก็กระวนกระวายอย่างมากแต่ถ้าเขายอมแพ้ไปแบบนี้สิ่งที่เขาทำมานานหลายปีมันจะไม่เป็นการเสียเวลาหรอกเหรอ? เขามีความสามารถในการทนต่อผลที่ตามมาจากความล้มเหลวได้หรือไม่? ถ้ากลัวความตายที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนั้นความตายก็ไม่มีค่าอะไรเลย
สถานการณ์จมอยู่ในบรรยากาศที่ตึงเครียดและดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรอการตัดสินใจของหม่าซานเหอ แน่นอนว่าบอดี้การ์ดเหล่านี้มีความกังวลอย่างมากเพราะกลัวว่าหม่าซานเหอจะตัดสินใจอะไรที่โง่เขลา แน่นอนว่าพวกเขาไม่สนใจว่าหม่าซานเหอจะตายอย่างไรแต่พวกเขาไม่อยากตายที่นี่แบบนี้เพราะในใจพวกเขานั้นสาปแช่งหม่าซานเหอมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว เดิมทีพวกเขาตั้งใจสนับสนุนหม่าซานเหอเพราะตราบใดที่หม่าซานเหอถอนตัวจากบริษัทอย่างราบรื่นพวกเขาก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่หม่าซานเหอพูดในตอนแรกนั้นชัดเจนมากว่าทุกคนในห้องประชุมต้องตายทุกคนแต่ในเวลานี้พวกเขายังไม่เห็นข้อเท็จจริงตรงหน้าพวกเขาอีกเหรอว่าพวกเขาเขาถูกหลอกใช้โดยหม่าซานเหอและหยูซิง
การแสดงออกของเย่เชียนยังคงเหมือนเดิมและเป็นการแสดงออกที่เฉยเมยมากแต่เขาก็ตื่นตัวมากเช่นกันเพราะต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อใดที่หม่าซานเหอเคลื่อนไหวเย่เชียนก็จะเคลื่อนไหวเช่นกันทันที เย่เชียนนั้นตรวจสอบระยะห่างของเขาจากหม่าซานเหอด้วยสายตาและเห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นปัญหาในการหลีกเลี่ยงกระสุนเหล่านั้นและไปหาหม่าซานเหอเพื่อกำจัดเขา
อย่างไรก็ตามยังมีเย่หานหลินที่อยู่เคียงข้างเขาอยู่และเย่เชียนก็ไม่รู้เลยว่าเย่หานหลินจะทำอย่างไร หากมีพี่น้องเขี้ยวหมาป่าอยู่ที่นี่ด้วยเย่เชียนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลหรือสื่อสารกับพวกเขาเลยว่าจะต้องทำอย่างไรภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตามเย่หานหลินนั้นแตกต่างออกไปเพราะพวกเขานั้นรู้จักกันได้ไม่นานและไม่มีความเข้าใจกันปริยายไอรีนโนเวล
เย่เชียนแอบส่งสัญญาณโดยการขยิบตาให้เย่หานหลินอย่างเงียบๆเพื่อให้เขาเตรียมพร้อม ส่วนเย่หานหลินก็ตกตะลึงสักอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเข้าใจ
หลังจากนั้นครู่หนึ่งหม่าซานเหอก็เงยหน้าขึ้นมองเย่เชียนและพูดว่า “แกรู้ไหมว่าฉันเกลียดอะไรในตัวแกมากที่สุด?..สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือรอยยิ้มที่มั่นใจของแกราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของแกทั้งหมด..ให้ฉันบอกแกมั้ยว่ามันไม่ใช่ทุกสิ่งในโลกนี้ที่แกจะควบคุมมันได้และแกก็ไม่สามารถควบคุมฉันได้..แกคิดว่าแกจะหลอกฉันได้เพียงแค่คำพูดแบบนั้นน่ะเหรอ?..ถ้าคนของแกอยู่ที่นี่ก็ไปเรียกออกมาซะ..ฉันรู้ดีว่าพวกเขี้ยวหมาป่าน่ะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ฉันยังไม่เห็นพรรคพวกของแกเลยสักคน..ฉันอยากเจอพวกแกจริงๆ”
ถึงแม้ว่าหม่าซานเหอจะดูมุ่งมั่นมากแต่เขาก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ในใจและเมื่อพูดออกไปเขาก็ตัวสั่นเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขานั้นประหม่าอย่างมากแต่เมื่อพูดในสถานการณ์เช่นนี้มันช่างน่าขันจริงๆ อย่างไรก็ตามนี่ถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจของหม่าซานเหอแล้วดังนั้นเย่เชียนจึงขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจและพร้อมที่จะเคลื่อนไหวทุกเมื่อ
“ไม่เชื่อเหรอ?” เย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างมั่นใจแล้วพูดว่า “ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูสิ..เมื่อไหร่ที่คุณลงมือคุณก็จะได้รู้ว่าผมโกหกหรือเปล่า”
หม่าซานเหอนั้นก็ลังเลอย่างมากเขาจึงพยายามมองเข้าไปข้างในดวงตาของเย่เชียนเพื่อหาอะไรบางอย่างแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะในดวงตาของเย่เชียนไม่มีอะไรเลยนอกจากความมั่นใจและเขาก็ไม่เห็นความผิดปกติในดวงตาของเย่เชียนเลย
“ทำไม?..ในเมื่อคุณไม่กล้าแล้วคุณจะทำแบบนี้ไปทำไม..เอาสิตราบใดที่คุณสั่งคนของคุณเมื่อนั้นคุณก็จะได้รู้ว่าผมโกหกหรือไม่โกหกกันแน่” เย่เชียนพูดต่อ “คุณกลัวอย่างงั้นเหรอ?..ถ้าคุณกลัวแล้วคุณคิดที่จะมากำจัดผมทำไม?”
สีหน้าของหม่าซานเหอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “เย่เชียนแกคิดว่าฉันกลัวแกจริงๆงั้นเหรอ..ในเมื่อแกอยากตายขนาดนั้นฉันจะสนองความต้องการให้เอง” หม่าซานเหอพูด “ฉันไม่ได้คิดที่จะฆ่าแกเลยฉันแค่อยากจะเจรจากับแกเพื่อถอนตัวออกจากบริษัท..แต่แกบีบคั้นให้ฉันทำแบบนี้เองเพราะงั้นมันก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องนี้จบ”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมแต่คุณล้ำเส้นและเกินขอบเขตมากไป..ผมไม่อนุญาตให้ใครมาทำแบบนั้นกับผม” เย่เชียนพูด “อันที่จริงมันก็ง่ายมากเพราะคุณแค่บอกกับผมตรงๆแต่คุณกลับทำแบบนี้กับผม..คุณเห็นผมเป็นอะไร?..เย่เชียนคือคนที่ทุกคนสามารถล้อเล่นได้อย่างงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป..มาดูบทสรุปกันดีกว่าแล้วก็อย่ามาโทษฉันที่ไม่เห็นความเป็นพี่น้องก็แล้วกัน” หม่าซานเหอพูด จากนั้นเขาก็เหลือบมองลูกน้องของเขาแล้วพูดว่า “ถ้าพวกแกจะโทษใครก็ไปโทษเย่เชียนเถอะ..ถ้าพวกแกไม่ฆ่าเขาล่ะก็เขาจะเป็นฝ่ายฆ่าพวกแกแทน..พวกแกสามารถระบายความโกรธกับเขาได้ตามที่ต้องการแต่ท้ายที่สุดพวกแกต้องทำให้แน่ใจว่าเขานั้นตายจริงๆ..หลังจากนี้ไปพวกแกจะไม่โดดเดี่ยวและไร้จุดหมายบนท้องถนนอีกต่อไป”
บอดี้การ์ดเหล่านั้นดูประหม่าและลังเลอย่างมากและทุกคนต่างก็จ้องไปที่หม่าซานเหออย่างโกรธกเกรี้ยวแต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรใดๆเพราะกลัวว่าหม่าซานเหอจะระเบิดโทสะออกมาอย่างกะทันหัน ดังนั้นพวกเขาจึงลังเลที่จะลงมือ
ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกอีกครั้งและทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง แน่นอนว่าลูกน้องของหม่าซานเหอทุกคนก็หันไปเช่นกัน ปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่สง่างามรูปร่างสูงกำยำจนทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึง
เย่เชียนก็ไม่ได้ที่จะหยุดและตกตะลึงเล็กน้อยแต่การแสดงออกของเฉิงเหวินนั้นเปลี่ยนไปเป็นความโล่งใจอย่างมากเพราะในที่สุดความกดดันของเขาก็ลดลงไปหลังจากการปรากฏตัวของชายคนนี้ แต่สีหน้าของหม่าซานเหอนั้นเริ่มดูประหม่าและกระวนกระวายและเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าชายผู้นี้จะปรากฏตัวออกมาในเวลานี้
เขาคนนั้นคือใคร? เขาคือหลัวจ้านที่เป็นผู้ติดตามและมือขวาของเฉินฟู่เฉิง ซึ่งหลังจากที่เย่เชียนประสบความสำเร็จในการสืบทอดอุตสาหกรรมของเฉินฟู่เฉิงแล้วหลัวจ้านก็ถอนตัวออกจากบริษัทและไม่ได้ถามเกี่ยวกับกิจการและการพัฒนาของบริษัทอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเขาเคยพูดกับเย่เชียนเอาไว้ว่าหากมีอะไรร้ายแรงเกี่ยวกับบริษัทเกิดขึ้นเขาก็จะกลับมาช่วยเสมอ
หม่าซานเหอนั้นมีความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งต่อหลัวจ้านมากกว่าที่เขากลัวเย่เชียนเสียอีกเพราะเขาไม่เคยเห็นวิธีการของเย่เชียนด้วยตาของเขาเองแต่เขาเคยเห็นวิธีการของหลัวจ้านมาหลายครั้งเมื่อตอนที่ยังติดตามเฉินฟู่เฉิงอยู่ ซึ่งประสิทธิภาพในการต่อสู้ของหลัวจ้านนั้นน่าตกใจอย่างมาก
หลัวจ้านนั้นปลีกตัวไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษแล้วและถ้าหากเฉิงเหวินไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในครั้งนี้หลัวจ้านก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ได้เกิดขึ้นกับบริษัทของตน การที่มีคนทรยศองค์กรนั้นเป็นสิ่งที่หลัวจ้านไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเฉินฟู่เฉิงจะมอบทุกอย่างให้กับเย่เชียนแล้วก็ตามแต่มันก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ไปได้
เมื่อหลัวจ้านเหลือบมองไปรอบๆหลัวจ้านก็เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้ในทันที จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้เย่เชียนแล้วมองไปที่เฉิงเหวินอย่างดุเดือด เห็นได้ชัดว่าหลัวจ้านนั้นโทษเฉิงเหวินที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
จากนั้นหลัวจ้านก็หันไปมองหม่าซานเหอแล้วพูดว่า “คุณซาน..คุณทำเกินไปหน่อยหรือเปล่า..พวกเราควรจะภักดีกับคนที่เป็นหัวหน้าไม่ใช่เหรอ..นี่คุณเห็นบริษัทเป็นคณะละครตลกหรือยังไง?..ถ้าผู้มีพระคุณให้อะไรกับเราแล้วเราก็ควรเชื่อฟังคำสั่งและสนับสนุนสิ..ถึงแม้ว่าผมจะลาออกจากบริษัทไปแล้วแต่ผมก็จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำลายระบบการบริหารจัดการหรือทรยศเด็ดขาด..ถ้าใครต้องการทำลายบริษัทคนๆนั้นก็เป็นศัตรูของหลัวจ้านคนนี้”
“หลัวจ้านแกไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่แกก็พูดได้สิ” หม่าซานเหอพูด “ตั้งแต่เย่เชียนเข้ายึดครองธุรกิจของบริษัทเขาทำอะไรบ้าง?..เขาโยนธุรกิจทั้งหมดของบริษัทให้พวกเราแต่ตัวเองกลับหนีไปใช้ชีวิตอย่างสบายใจเฉิบไม่ดูแลอะไรสักอย่าง..ฉันไม่ต้องการให้อุตสาหกรรมของประธานเฉินตกไปอยู่ในมือของเขาจนมันพังทลาย”