ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 878 อดีตของซือจื้อ
ตอนที่ 878 อดีตของซือจื้อ
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มแหยงๆเพราะเขานั้นตั้งใจเข้าหาซือจื้อเองแต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงคนนี้มีตัวตนที่ลึกลับขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อดูจากสถานการณ์แล้วเหมือนว่าเธอจะรู้จักกับหูวเค่อมาเป็นเวลานานซึ่งทำให้เย่เชียนหมดหนทางมากกว่าเดิม
หูวเค่อจ้องมองไปที่เย่เชียนอย่างดุเดือดแต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา แต่เธอหันไปมองซือจื้อแล้วพูดว่า “แล้วทำไมคุณถึงมาที่ประเทศจีน?”
“ถ้าฉันบอกว่าฉันมาเพื่อช่วยเย่เชียนคุณจะเชื่อมั้ย?” ซือจื้อพูดด้วยรอยยิ้ม
“หมายความว่าไง” หูวเค่อถามต่อ
“ฉันแน่ใจว่าคุณต้องไม่เชื่อฉันแน่ๆ” ซือจื้อพูดต่อ “แต่ไม่ต้องกังวลไปครั้งนี้ฉันทำงานในเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็เพราะเรื่องส่วนตัว..เพราะงั้นคุณไม่ต้องกังวลหรือระแวงอะไร..แต่ถ้าจะไปแจ้งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติฉันก็ไม่ว่าอะไร”
“เอาเถอะ” หูวเค่อพูด “แต่ถ้าฉันรู้ว่าคุณมีแผนจะทำอะไรที่จีนล่ะก็ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไป”
“ฉันตัวคนเดียวฉันจะไปทำอะไรแผ่นดินใหญ่ได้” ซือจื้อพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
“หึ” หูวเค่อหันหน้าหนีอย่างโกรธเกรี้ยวและไม่ได้พูดอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการบอกหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่สามารถพลิกท้องฟ้าได้แล้วเขาก็คงจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าซือจื้ออยู่ที่ปักกิ่งใช่มั้ย?
“เอ่อ..พวกคุณช่วยเลิกคุยเรื่องในอดีตของพวกคุณกันก่อนจะได้มั้ย..มาพูดถึงเรื่องบริษัททะเลสี่ทิศกับตระกูลชางกวนกันดีกว่า..นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำมากที่สุด” เย่เชียนยิ้มอย่างเชื่องช้าและขัดจังหวะการสนทนาของพวกเธออีกครั้ง อย่างไรก็ตามโชคดีที่ครั้งนี้หญิงสาวทั้งสองดูไม่เคร่งเครียดเหมือนก่อนหน้านี้
เมื่อพูดเช่นนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ซือจื้อแล้วพูดต่อ “คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยจะได้มั้ย..ผมอยากรู้ว่าชางกวนหยานยู่และชางกวนอู๋เต๋อได้ส่วนแบ่งมาได้ยังไง”
“ชางกวนหยานยู่คุณเคยเจอเขาที่หน้าประตูทางเข้าบาร์ครั้งก่อนและมันน่าจะง่ายสำหรับคุณที่จะจัดการกับคนแบบนี้ใช่ไหมล่ะ..ชางกวนหยานยู่นั้นเป็นลูกหลานที่วันๆไม่ทำอะไรเลยนอกจากเที่ยวและดื่มกินตลอดทั้งวัน..ซึ่งงานอดิเรกของเขาคือการพนันและเขาใช้เงินเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง..เท่าที่ฉันรู้เขามักจะไปที่คาสิโนในมาเก๊าเพื่อเล่นการพนันอยู่บ่อยๆ..ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเขาน่าจะไปมาเก๊าเมื่อสองวันที่แล้ว” ซือจื้อพูด “ฉันไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องวิธีการใช่มั้ยฉันคิดว่าคุณควรจะรู้ว่าต้องทำยังไง”
คาสิโนมาเก๊า? เย่เชียนอดนึกถึงฮัวเจี๋ยไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้ามือการพนันรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนั้น และยังมีคาสิโนของตัวเองในมาเก๊าอีกด้วย ซึ่งตั้งแต่คลูลอฟส์อันเดรร่วมมือกับเขาเพื่อโค่นล้มฮัวเจี๋ยแล้วการพนันทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกิจการคาสิโนของมาเก๊าก็ถูกส่งมอบให้กับคลูลอฟส์อังเดรและดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นวิธีการที่สะดวกอย่างมาก
“แต่ปัญหาก็คือตัวตนของคุณเยาในปักกิ่งนั้นชัดเจนเกินไปและฉันก็คิดว่าคนในตระกูลชางกวนก็รู้จักคุณดี..เพราะงั้นถ้าคุณออกมายืนบนเวทีมันก็คงจะไม่ดีนักเพราะงั้นคุณควรจะปล่อยให้คนอื่นจัดการดีกว่า” ซือจื้อเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณเย่น่าจะให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณทำแทนนะ”
“ใคร” เย่เชียนถามอย่างงุนงง
“หลี่เหว่ย!” ซือจื้อพูด “เจ้านั่นเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมเยอะมากเขาจึงเหมาะสำหรับภารกิจในครั้งนี้”
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและมองไปที่ซือจื้อด้วยความประหลาดใจเพราะแม้แต่ตัวตนของหลี่เหว่ยเธอก็สามารถรับรู้ได้ ดูเหมือนว่าตัวตนของเธอคงจะไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ทุกเรื่องจริงๆ..ในเมื่อเจ้ารู้จักผมดีขนาดนี้แล้วคุณไม่กลัวว่าผมจะฆ่าปิดปากคุณเหรอ?”
ซือจื้อก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเป็นคนที่รักความงดงามอยู่เสมอเพราะงั้นคุณจะฆ่าผู้หญิงสวยๆได้ยังไง” อย่างไร”
“ผมจะพิจารณาข้อเสนอของคุณและถ้ามันสำเร็จผมก็จะทำตามข้อตกลงกับคุณ” เย่เชียนพูด
“ฉันเชื่อว่าคุณเย่ต้องทำได้อยู่แล้ว” ซือจื้อพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ยังมีข่าวลือมากมายในโลกนี้และบางเรื่องก็เอาจริงเอาจังไม่ได้..หลายคนมักจะเห็นแค่ผิวเผินแล้วก็ตัดสินในสิ่งต่างๆ..แต่ฉันคิดว่าคุณไม่มีวันเป็นแบบนั้นหรอกใช่มั้ยล่ะ?”
เย่เชียนมึนงงเล็กน้อยและไม่เข้าใจสิ่งที่ซือจื้อพูด อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมและต่อให้เขาถามซือจื้อก็คงจะไม่บอกอะไรอยู่ดีเพราะผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินไป
อาหารมื้อนี้ค่อนข้างมีประโยชน์แต่เย่เชียนก็รู้สึกสับสนมากขึ้นและไม่รู้ว่าซือจื้อนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเรียกชื่อหลี่เหว่ยและอธิบายนิสัยและตัวตนของหลี่เหว่ยได้ภายในประโยคเดียวราวกับว่าเธอรู้จักหลี่เหว่ยเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เย่เชียนประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
หลังจากออกจากร้านอาหารแล้วซือจื้อก็ไม่ได้ขอให้เย่เชียนไปส่งเธอแต่บอกให้เย่เชียนพาหูวเค่อกลับไปที่โรงแรมซึ่งค่อนข้างไม่คาดคิดสำหรับเย่เชียนและดูเหมือนว่าเย่เชียนจะเข้าใจซือจื้อผิดไป ซึ่งดูเหมือนว่าเธอไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด
หลังจากขึ้นรถเย่เชียนก็ขับรถไปที่โรงแรมและระหว่างทางหูวเค่อขมวดคิ้วแน่นพร้อมใบหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจังมากจนทำให้เย่เชียนกลัวที่จะพูดอะไรออกมา หลังจากเงียบไปนานในที่สุดเย่เชียนก็ทำลายความเงียบโดยพูดว่า “เค่อเอ๋อร์ดูเหมือนคุณจะรู้จักเธอเป็นอย่างดีเลยนะ..มีอะไรระหว่างพวกคุณสองคนงั้นเหรอ?”
หูวเค่อก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “คิดนั่นแหละดูสนิทสนมกับเธอดีนะ..ชอบมั้ยล่ะ?”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เค่อเอ๋อร์ที่รักคุณเองก็รู้ว่านอกจากคุณแล้วผมไม่มีที่ในใจสำหรับคนอื่นอีกแล้ว..ใช่ผมยอมรับว่าซือจื้อมีเสน่ห์มากแต่เธอฉลาดเกินไปสำหรับความชอบของผม..ยิ่งไปกว่านั้นตามสถานการณ์ปัจจุบันซือจื้อไม่ได้สนใจผมเลยและแรงจูงใจของเธอก็ทำให้ผมสับสนมาก..มีข่าวลือในบริษัทว่าเธอเป็นคนรักของชางกวนเจ้อแต่เธอจะทำลายชางกวนเจ้องั้นเหรอ?”
เย่เชียนกลอกตาไปมาแล้วหูวเค่อก็พูดว่า “คุณไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายที่ซือจื้อพูดงั้นเหรอ?..เธอต้องการให้คุณเชื่อในข่าวลืออย่างชัดเจนแต่ข่าวลือนั้นอาจไม่เป็นแบบนั้นจริงๆ..พูดให้เข้าใจก็คือเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชางกวนเจ้อเลย”
เย่เชียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและหลังจากนึกถึงสิ่งที่ซือจื้อพูดอย่างรอบคอบแล้วก็ดูเหมือนจะมีหมายความอย่างนั้นจริงๆ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมเธอถึงบอกผมเรื่องนี้ล่ะ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง..ผู้หญิงคนนี้ทำตัวแปลกๆอยู่เสมอและไม่สามารถเดาได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่” หูวเค่อพูด
“คุณน่าจะเล่าถึงเรื่องในอดีตระหว่างคุณกับเธอให้ผมฟัง..สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคุณสองคนนั้นคืออะไร..ตอนที่ผมฟังพวกคุณคุยกันก่อนหน้านี้ผมเหมือนอยู่คนละโลกกับพวกคุณและเหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานเลย” เย่เชียนพูด
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหูวเค่อก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดอย่างช้าๆว่า “เดิมทีเธอชื่อซูซี่..เธอเคยเป็นสมาชิกของสำนักความมั่นคงแห่งชาติจีนซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อำนวยการหวงฟู่..ฉันกับเธอเราเคยได้ร่วมงานกัน..เธอมาจากครอบครัวในชนบทและเธอก็สามารถเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติด้วยความสามารถของเธอเองโดยไม่มีความสัมพันธ์เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น..ครั้งหนึ่งฉันได้ไปทำภารกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับเธอเพื่อจับกุมสายลับที่ทรยศองค์กร..แต่ในวินาทีสุดท้ายซือจื้อละทิ้งงานนี้เพื่อเงินก้อนโตและฉันก็ไม่รู้เลยว่าเธอมีเหตุผลอะไรในตอนนั้น..ซึ่งเธอบอกแค่ว่าตอนนี้เธออยากพักแล้วเธอเหนื่อยกับชีวิตในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ..ซึ่งตอนนั้นฉันสามารถหยุดเธอได้แต่ฉันไม่ได้ทำเพราะฉันลังเลจนเธอหนีไป..ต่อมาฉันบอกเรื่องนี้กับผู้อำนวยการหวงฟู่และเขาก็โกรธมากจนต้องส่งสายลับไปลอบสังหารซือจื้อ..คุณก็น่าจะรู้ว่าข้อมูลลับสุดยอดของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาตินั้นมีเยอะมากและถ้าหากข้อมูลต่างๆรั่วไหลออกไปล่ะก็มันจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหูวเค่อก็พูดว่า “ใครจะไปรู้ว่าซือจื้อสมรู้ร่วมคิดกับCIAของสหรัฐอเมริกาและทำให้ข้อมูลของสายลับจีนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติถูกเปิดเผยเกือบหมด..ในตอนนั้นฉันเองก็ยังถูกรายล้อมไปด้วยบุคลากรของCIA..ซึ่งอันที่จริงด้วยความสามารถของฉันในตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเองก็สามารถรอดออกมาได้แต่ในเวลานั้นซือจื้อไม่ได้หยุดฉันและขอให้CIAหลีกทางและปล่อยฉันไป..ซึ่งหลังจากนั้นซือจื้อก็ได้เข้าร่วมCIAอย่างเป็นทางการและมีส่วนร่วมในการวิจัยที่ลับเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณของจีน..ในสมัยก่อนถึงแม้ว่าทักษะของเธอจะไม่ธรรมดาแต่เธอก็ยังไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้โบราณเลยแต่เมื่อกี้นี้ที่ฉันจับมือกับเธอเห็นได้ชัดว่าเธอมีพลังบางอย่างและในช่วงเวลาสั้นๆเธอก็สามารถมีพลังดังกล่าวได้ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นว่าโครงการวิจัยลับที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นประสบความสำเร็จแล้ว”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า “มันคือโครงการอะไร?”
“ชาวอเมริกันให้ความสนใจในศิลปะการต่อสู้โบราณของจีนมาโดยตลอดและพวกเขาต้องการนำศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณเข้าสู่กองทัพเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพ..อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้มากนักและกระบวนการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณก็ค่อนซับซ้อน..ดังนั้นพวกเขาจึงคิดเกี่ยวกับการใช้ผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์ของการดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อเข้าถึงขอบเขตของศิลปะการต่อสู้ตำราจีนโบราณของเราและกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์” หูวเค่อพูด “จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับซือจื้อในวันนี้ดูเหมือนว่าการวิจัยที่นั่นคงจะประสบความสำเร็จแล้ว”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆมันเป็นไปได้ไหมว่าจู่ๆปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณจำนวนมากจะปรากฏตัวขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างกะทันหัน? นอกจากนี้ด้วยพลังของวิทยาศาสตร์พวกเขายังมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ธรรมดาอีกด้วย “ซือจื้อทำงานในเครือน่านฟ้ากรุ๊ปมานานแล้วเพราะงั้นผมก็คิดว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนคงจะรู้เรื่องนี้มานานแล้วใช่มั้ย?..แต่เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรแบบนี้คุณคิดว่ามันมีปัญหาหรือเปล่า..หรือปู่กำลังวางแผนอะไรอยู่ “เย่เชียนพูดด้วยความประหลาดใจ
“ไม่หรอก..ซือจื้อเธออยู่ที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมานานและต่อมาก็ได้เข้าร่วมCIAของสหรัฐอเมริกาเพราะงั้นเธอจึงรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆดี..ฉันเชื่อว่าเธอคงไม่คิดที่จะหลบเลี่ยงสายตาของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรอกเพราะมันเป็นเรื่องยาก” หูวเค่อพูด
.
.