ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 884 อธิบายแผน
ตอนที่ 884 อธิบายแผน
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนอยู่กับเย่เชียนมานานซึ่งหลังจากเทียนเฟิงก่อตั้งองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้ไม่นานหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เฝ้าดูเย่เชียนเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นตลอดตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าบางครั้งเย่เชียนดูเหมือนจะไร้หัวใจแต่ในความเป็นจริงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เข้าใจนิสัยของเย่เชียนดีและรู้ดีว่าเย่เชียนนั้นมีศีลธรรมและคุณธรรมในสิ่งต่างๆและไม่เคยข้ามเส้นนี้ไป ดังนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงยินดีที่จะช่วยและสนับสนุนเย่เชียนเสมอ
เขารู้ดีว่าสิ่งที่เย่เชียนตัดสินใจไปแล้วนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้และตราบใดที่เย่เชียนไม่ทำอะไรที่เลวร้ายเกินไปจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสังคมล่ะก็หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เต็มใจช่วยเขา นอกจากนี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนเองก็อยู่ในเมืองหลวงปักกิ่งมาเป็นเวลานานเขาจึงเข้าใจเกี่ยวกับตระกูลชางกวนอย่างชัดเจน ซึ่งแท้จริงแล้วตระกูลชางกวนนั้นก็ทำอะไรที่ข้ามเส้นไปมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปคืออะไร? นั่นคืออาณาเขตของเย่เชียนซึ่งเป็นอาณาจักรทางเศรษฐกิจที่สร้างโดยองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเพราะงั้นตระกูลชางกวนจะสามารถครอบครองมันได้งั้นหรือ? สิ่งที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปทำให้ประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีอิทธิพลต่อสังคมมากและมีกระแสตอบรับที่ดีในสังคมมาตลอดโดยเฉพาะกองทุนและมูลนิธิเพื่ออนาคตซึ่งค่อยๆพัฒนาจากกองทุนสงเคราะห์นักเรียนไปสู่สังคมภายนอกและประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเครือน่านฟ้ากรุ๊ปล่ะก็มันจะไม่เพียงดึงดูดความไม่พอใจอย่างมากของประชาชนคนในประเทศแต่จะดึงดูดความสนใจจากต่างประเทศอีกด้วย ดังนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของสมาคมระหว่างประเทศอื่นๆในประเทศจีนอย่างล้นหลามและผลกระทบนี้ก็ร้ายแรงอย่างมากเช่นกัน
เย่เชียนก็หยุดเล็กน้อยแล้วจิบซุ๊ปหูฉลามจากนั้นก็พูดว่า “จากการตรวจสอบของผมหุ้น80%ของบริษัททะเลสี่ทิศทั้งหมดอยู่ในมือของสมาชิกตระกูลชางกวนและส่วนที่เหลืออีก20%หมุนเวียนอยู่ในตลาดหุ้น..ดังนั้นเป้าหมายที่วางแผนไว้ล่วงหน้าของเราคือการกวาดหุ้น20%ในตลาดซึ่งพี่หลันจะเป็นผู้ดำเนินการเอง..หลังจากนั้นส่วนที่เหลืออีก80%ก็เป็นหน้าที่ของผม..ซึ่งหุ้น40%อยู่ในมือของชางกวนซินหยางหัวหน้าตระกูล..ส่วน20%ที่เหลืออยู่กับผู้จัดการสาขาต่างๆ..อีก20%ก็อยู่ในมือชางกวนหยานยู่และชางกวนอู๋เต๋อคนละ10%..เพราะงั้นถ้าหากเราได้หุ้นจำนวนเหล่านี้มาแผนการของเราก็จะสำเร็จลุล่วง..นอกจากนี้ผมยังได้เริ่มดำเนินการฟ้องร้องตระกูลชางกวนแล้วเพราะการลงทุนโฆษณาของพวกเขาในครั้งนี้ถูกกำหนดโดยผมและมันคือกับดักเพราะในไม่ช้าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะฟ้องร้องบริษัททะเลสี่ทิศต่อศาล..ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวนักลงทุนและผู้ถือหุ้นทั้งหมดจะต้องหวั่นเกรงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีของบริษัททะเลสี่ทิศอย่างแน่นอนและในเวลานั้นเราก็จะเริ่มรวบรวมหุ้นจากทุกฝ่ายตามขั้นตอน..ที่สำคัญกว่านั้นคือเหตุการณ์โฆษณาครั้งนี้จะนำไปสู่ความโกรธเกรี้ยวของตระกูลชางกวนที่มีต่อชางกวนเจ้ออย่างแน่นอน”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันรู้สึกโล่งใจมากถ้าเป็นเรื่องตลาดหุ้นเพราะความสามารถของซ่งหลันคงจะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอนแต่บริษัททะเลสี่ทิศเป็นธุรกิจครอบครัวเพราะงั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างแน้นแฟ้นเพราะงั้นการนำหุ้นของพวกเขามาถือครองนั้นมันไม่ง่ายเลย”
“ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนไม่มีความขัดแย้งหรอกเพราะแม้แต่เขี้ยวหมาป่าของผมยังมีความขัดแข้งภายในกันเลย..ดังนั้นตระกูลศิลปะการต่อสู้จีนโบราณอย่างตระกูลชางกวนที่แข่งขันกันด้านธุรกิจทำไมจะไม่มีความขัดแย้งภายใน?..ถ้าเราใช้ความขัดแย้งนี้และแยกแยะสิ่งต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์มันเป็นผลดีอย่างมาก” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “เอาเถอะปู่ถ้าผมคิดจะทำอะไรมันต้องดีเสมอเพราะงั้นสบายใจได้..ปู่เองนั่นแหละที่ทำตัวลับๆล่อๆหรือปู่วางแผนการชั่วๆอยู่?”
“ไอ้หนูเอ็งกำลังพูดเรื่องอะไร..ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดอย่างเร่งรีบ “ลืมมันไปซะ..เอ็งจัดการเรื่องของตัวเองไปเถอะฉันขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจแล้ว..ไม่ต้องห่วงฉันรู้จักเจ้าหน้าที่ในปักกิ่งหลายคนเดี๋ยวฉันจะไปบอกให้พวกเขาปิดหูปิดตาซะ”
“ขอบคุณนะปู่” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของเขาและพูดว่า “เอาล่ะมันเย็นแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะ..พวกเอ็งตั้งใจกินไปเถอะเดี๋ยวฉันจัดการค่าใช้จ่ายเอง”
“คุณไม่ได้พยายามจะแอบหนีเหรอ..พวกเราไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นนะ..อย่าทิ้งเราเอาไว้ที่นี่” หลี่เหว่ยพูด
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนจ้องมองเขาอย่างดุเดือดและพูดว่า “ในหมู่พี่น้องเขี้ยวหมาป่าเอ็งเป็นคนที่แย่ที่สุดเลย..ฉันขอเตือนเลยนะว่าถ้าเอ็งทำอะไรผิดพลาดร้ายแรงในอนาคตฉันจะไม่ยกโทษให้เอ็งเด็ดขาด..เอ็งระวังตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน” หลังจากพูดแบบนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ลุกขึ้นและเดินออกไปและไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป
หลี่เหว่ยก็กะพริบตาปริบๆและมองไปที่เย่เชียนจากนั้นก็ถามอย่างงุนงงว่า “บอส!..หวงฟู่ชิงเตี๋ยนหมายความว่ายังไงเหรอ?”
“นั่นสิ!..ปกติเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ใช่มั้ย?..ไม่ว่าเขาจะยุ่งแค่ไหนแต่เขาก็ไม่น่าจะอารมณ์เสียถึงขนาดนั้น” เฟิงหลานพูดด้วยท่าทางมึนงงและประหลาดใจ
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน..ฉันสงสัยเขาคงเป็นซือจื้อตอนที่อยู่ที่สนามบินหรือเปล่า..ผมก็สงสัยอยู่ว่าระหว่างเธอกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นคงมีความลับอะไรบางอย่างและมันต้องเป็นความลับสุดยอดอย่างแน่นอน”
“บอสหมายถึงพวกเขารักใคร่กันงั้นเหรอ?” หลี่เหว่ยพูด
เย่เชียนกลอกตาไปมาแล้วพูดว่า “นายคิดเรื่องแบบนี้เป็นอย่างเดียวงั้นเหรอ?..ฉันหมายความว่าตัวตนของซือจื้ออาจไม่ง่ายอย่างที่เราคิด”
“บอสกำลังจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติงั้นเหรอ?” หลี่เหว่ยพูด
“ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นสายลับสองหน้าและบางทีเธออาจจะยังเป็นสมาชิกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติด้วยเพราะงั้นเมื่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเห็นเธอที่สนามบินเขาก็เลยไม่ออกมาจากรถ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “เอาล่ะ..ลืมมันไปเถอะอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย..เรามาคุยกันในสิ่งที่จะทำดีกว่า..ฉันได้ข้อมูลมาว่าชางกวนหยานยู่เป็นคนที่เสเพลที่เอาแต่เที่ยวเล่นดื่มกินไปวันๆและชอบการพนันมาก..เขามักจะไปเล่นการพนันที่มาเก๊าเป็นระยะๆ..ผมติดต่อไปหาคลูลอฟส์อังเดรแล้วและพรุ่งนี้พวกคุณจะบินไปมาเก๊าและจัดการชางกวนหยานยู่ซะ..หลี่เหว่ยนี่คงไม่เป็นปัญหาสำหรับนายใช่มั้ย?”
“ไม่ครับบอส!” หลี่เหว่ยพูด
“แล้วบอสจะไม่ไปกับพวกเราเหรอ” เฟิงหลานถามด้วยความสงสัย
“ถ้าเขาเห็นผมที่นั่นเขาจะรู้ตัวและแผนการจะล้มเหลวเพราะงั้นทั้งสองคนต้องลุยกันไปก่อนเพราะผมต้องไปเซี่ยงไฮ้..ผมไม่ได้กลับไปนานแล้วเพราะงั้นผมต้องแวะไปหาโรวโร่วกับครอบครัวก่อน” เย่เชียนพูด
“โห..ผู้ชายที่มีภรรยาแล้วมันดีแบบนี้นี่เอง” หลี่เหว่ยพูดด้วยความชื่นชมพร้อมตบปากของเขา
เย่เชียนก็กลอกตาไปมาและพูดว่า “เอาเถอะคราวนี้นายต้องตั้งใจทำผลงานดีๆให้ฉันและทันทีที่เรื่องนี้จบลงเราจะต้องไปสมทบคนอื่นๆที่ญี่ปุ่นเพราะฉันเป็นห่วงฝั่งนั้นมาก..ถึงแม้ว่าม่อหลงกับหน่วยหม่าป่าเพชฌฆาตจะอยู่ที่นั่นแต่ฉันก็ยังกังวลอยู่ดี”
“บอส..หลินเฟิงแห่งเซเว่นคิลกับบอสสนิทกันไม่ใช่เหรอ..เขาคุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นมากกว่าเราเพราะงั้นถ้าเขาสามารถช่วยได้ก็ควรเป็นทางเลือกที่ดีใช่มั้ย” เฟิงหลานพูด
“ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้นแต่ตอนนี้หลินเฟิงมีธุระสำคัญที่ต้องทำฉันเลยไม่อยากรบกวนเขา..งานนี้เราต้องจัดการเรื่องของเขี้ยวหมาป่าของเราด้วยตัวเอง” เย่เชียนพูดต่อ “เดี๋ยวผมจะพาพี่กับหลี่เหว่ยไปพักที่โรงแรมและพรุ่งนี้เช้าก็รีบเดินทางไปมาเก๊าเพื่อเตรียมการซะ!”
เฟิงหลานและหลี่เหว่ยก็พยักหน้าและตอบ เมื่อทั้งสามกำลังจะลุกขึ้นและออกไปจู่ๆประตูห้องส่วนตัวVIPก็ถูกผลักเปิดออก และหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตู เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ต้องตกตะลึงและรีบชำเลืองมองเขาเพราะกลัวว่าเขาจะเผลอพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับศึกชี้ชะตาระหว่างพวกเขาทั้งสอง
ไป๋ฮวยก็หันไปมองหลี่เหว่ยกับเฟิงหลานแล้วพูดว่า “อ้าว..พวกนายก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอเยี่ยมไปเลย”
ทั้งสองก็สูญเสียอาการไปชั่วขณะและไม่เข้าใจว่าไป๋ฮวยหมายถึงอะไร หลังจากนั้นไม่นานหลี่เหว่ยก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ไป๋ฮวยกินข้าวหรือยังมากินด้วยกันสิ..ไหนๆก็มาแล้วมาร่วมวงกันสิ”
ไป๋ฮวยก็แสยะยิ้มและพูดว่า “ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่นิสัยของนายก็เหมือนเดิมตลอดเลยนะ” หลังจากนั้นไม่นานไป๋ฮวยก็พูดต่อ “ฉันรู้เรื่องที่ญี่ปุ่นแล้วและนายก็ไม่มีเวลามากพอขนาดนั้นเพราะนายต้องจัดการเรื่องที่นี่แหละเตรียมตัวอีก..เพราะงั้นฉันจะไปช่วยชิงเฟิงเอง..ตราบใดที่ตอนนี้เขายังไม่ตายฉันรับปากเลยว่าเขาจะไม่เป็นอะไร”
เย่เชียนก็ตกตะลึงและพูดว่า “ไม่จำเป็น..เพราะผมจะรีบไปช่วยเขาเองเมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จ”
ไป๋ฮวยก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “นายประเมินฉันต่ำไปหรือเปล่า..ถ้านายไม่สามารถรักษาสภาพจิตใจและร่างกายให้ดีที่สุดนายก็จะต้องตายเข้าใจมั้ย?..นายอยู่ที่นี่แหละเดี๋ยวฉันจัดการเองเพราะนายต้องเตรียมตัวให้ดีและนายกับฉันเราต้องเท่าเทียมกันอย่างยุติธรรม”
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้โดยรู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนสิ่งที่ไป๋ฮวยตัดสินใจได้แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเย่เชียนก็จะติดหนี้ไป๋ฮวยมากกว่าเดิมและเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต่อสู้อย่างเต็มที่ได้อย่างไร?