ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 891 คนที่เคารพบูชา
ตอนที่ 891 คนที่เคารพบูชา
หัวหน้ากลุ่มอายุประมาณสามสิบและเย่อหยิ่งอย่างมาก ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าคนกลุ่มคนเหล่านี้ เมื่อเขาเดินมาข้างหน้าเย่เชียนชายคนนั้นก็พูดว่า “นายคือคนที่ทำให้หัวหน้าเกิ่งขุ่นเคือง?..นายนี่กล้าไม่เบาเลย”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า “คุณคงไม่อยากทำแบบนี้หรอกใช่มั้ย?..คุณคงจะมีศีลธรรมในวงการใต้ดินผมเชื่อแบบนั้น..คุณคิดดูว่าตาแก่คนนั้นต้องการภรรยาของผมเพราะงั้นคุณช่วยปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปหน่อยจะได้หรือเปล่า”
หัวหน้ากลุ่มก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ฉันรู้ว่ามันไม่แย่แต่คุณเกิ่งเป็นผู้ว่าจ้างของพวกเราเพราะงั้นถ้านายทำให้เขาขุ่นเคืองนายก็ต้องไปอธิบายและไปเคลียร์กับเขาเอง..นายเองก็เป็นลูกผู้ชายเพราะงั้นนายน่าจะแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องใช้กำลังนะ”
“ผู้ว่าจ้างเหรอ?..ไม่เป็นไรผมรู้ว่าคุณมาที่นี่เพราะหน้าที่ของคุณเพราะงั้นเพื่อเห็นแก่คุณที่ใช้เหตุผลก่อนผมก็จะปล่อยผ่านสักครั้ง..ถ้างั้นคุณก็ปล่อยเรื่องนี้ไปและอย่ามารบกวนภรรยาและลูกๆของผมอีกในอนาคต..ส่วนเกิ่งหูวเดี๋ยวผมจะไปคุยกับเขาเอง” เย่เชียนพูด
หัวหน้ากลุ่มก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “น้องชายพวกเราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเนื่องจากฉันได้รับเงินจากเขามาแล้วเพราะงั้นฉันก็ต้องทำหน้าที่ของฉัน..ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันยุ่งยากเลย..ถ้างั้นนายก็ไปคุกเข่าลงต่อหน้าหัวหน้าเกิ่งแล้วขอโทษเขาแค่นั้น..เดี๋ยวฉันจะช่วยพูดให้เองนายคิดว่าไง?”
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคุณเทียนฉันบอกหัวหน้าหวังแล้วว่าให้เขาช่วยจัดการไอ้หมอนี่..อย่างน้อยๆก็หักแขนหักหาของมันทิ้งแล้วเอาจ้าวหลิงมาให้ฉันซะ” เกิ่งหูวพูด
เทียนเจี๋ยก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมองเกิ่งหูวและพูดว่า “นี่คุณกำลังสั่งผมอยู่งั้นเหรอ?” เทียนเจี๋ยคนนี้ไม่เคยชอบหน้าเกิ่งหูวผู้นี้เลยแต่พวกเขาก็อยู่ในแวดวงใต้ดินเช่นนี้ดังนั้นต่อให้ความรู้สึกส่วนตัวจะเป็นอย่างไรก็ต้องไม่เอามารวมกับงานเพราะนี่เป็นกฎการรับเงินจากผู้อื่นและต้องทำตามสิ่งที่ผู้ว่าจ้างร้องขอเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเกิ่งหูวคนนี้ก็มีทรัพย์สินและธุรกิจค่อนข้างกว้างขวางในเมืองเซี่ยงไฮ้และเขาได้ติดต่อกับเสือแห่งเซี่ยงไฮ้อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าเกิ่งหูวจะรู้ว่าเสือแห่งเซี่ยงไฮ้จะไม่ชอบเขามากนักแต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ตราบใดที่ยังสามารถทำธุรกิจร่วมกันได้อยู่นั่นเอง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกคุณเทียน..แต่ไอ้หมอนี่มันหยิ่งผยองมากมันไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเลย” เกิ่งหูวพูดอย่างเร่งรีบ “ถ้าเรื่องนี้จบฉันจะให้ค่าตอบแทนหัวหน้าเทียนอย่างดี”
เทียนเจี๋ยก็ถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดว่า “พี่เสือเป็นคนสั่งให้ผมมาที่นี่ไม่งั้นผมคงไม่มาทำอะไรไร้สาระแบบนี้หรอกมันโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมเกินไป..ผมคิดว่าพี่เสือคงไม่รู้รายละเอียดของเรื่องนี้เลยใช่มั้ยไม่งั้นเขาคงไม่สั่งให้ผมมาทำอะไรแบบนี้หรอก..เพราะงั้นถ้าผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผมและคุณก็อย่าเรียกร้องอะไรอีก..พวกเรามีกฏของมาเฟียอยู่”
“ก็ได้ๆ..ว่ากันตามนั้นเลยหัวหน้าเทียน!” เกิ่งหูวพูดแล้วพยักหน้าซ้ำๆ
จากนั้นเทียนเจี๋ยก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “น้องชายฉันได้ทำในสิ่งที่ต้องทำไปแล้วเพราะงั้นนายก็ไม่ควรจะทำอะไรให้มันยุ่งยากจนเกินไป..แล้วนายคิดว่าไงนายจะทำตามคำแนะนำของฉันหรือเปล่า”
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “คุณมีหลักการของคุณและผมก็มีหลักการของผมด้วย..ถ้างั้นเราก็มาทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้นสิด้วยการสู้ตัวต่อตัว..ถ้าคุณทำให้ถอยไปได้แม้แต่ก้าวเดียวผมก็จะยอมทำทุกสิ่งที่คุณขอให้ทำ..แต่ถ้าคุณแพ้คุณก็แค่กลับไปแล้วลืมเรื่องนี้ไปซะ..ผมไม่ได้คิดที่จะดูถูกคุณและผมก็แค่เดิมพันกับคุณเพราะคุณเป็นคนดี..คุณเป็นคนมีเหตุผลและพูดคุยก่อนจะลงมือทำสิ่งต่างๆ..สิ่งที่ผมพูดไปคุณตกลงมั้ย?”
เทียนเจี๋ยก็มองเย่เชียนจากหัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “เยี่ยมมาก..นายมีความกล้าหาญและความเย่อหยิ่งซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายตัวจริงควรจะมี..เอาสิถ้านายชนะฉันจะยอมทำตามสิ่งที่นายพูดและไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็จะทำ”
“พ่อคะใจเย็นๆสิอย่าสร้างปัญหาเลย” เย่หลินหันไปมองที่เย่เชียนแล้วพูด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และขยับเก้าอี้แล้วเดินออกไป จากนั้นเขาก็ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและถอดเสื้อออกเผยให้เห็นรอยสักหัวราชาหมาป่าเปื้อนเลือดบนหน้าอกของเขาอย่างน่ากลัวพร้อมกับบาดแผลบนร่างกายจนใครที่เห็นต่างก็หวาดผวา จ้าวหลิงที่เห็นก็ถึงกับตกตะลึงและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจจนอดคิดไม่ได้ว่า ‘ชายคนนี้ต้องผ่านอะไรมามากมายอย่างแน่นอน’
เทียนเจี๋ยก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวและร่างกายของเขาก็แน่นิ่งไป ซึ่งสายตาของเย่เชียนเปลี่ยนไปในทันทีและมีจิตสังหารและเจตนาฆ่าเต็มเปี่ยมและมันเพียงพอที่จะทำให้เขาหวาดผวาอย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นเทียนเจี๋ยก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและระงับความกลัวในใจและพูดว่า “น้องชายนายคือสมาชิกเขี้ยวหมาป่างั้นเหรอ?”
เย่เชียนก็รู้สึกแปลกใจอย่างมากและถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
“มีตาหามีแววไม่..ผมขอโทษครับ..ช่วยยกโทษให้ผมด้วย” เทียนเจี๋ยโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งแล้วพูดวว่า “หัวหน้าใหญ่ของเราพี่เสือเขาเล่าเรื่องเขี้ยวหมาป่าให้เราฟังอยู่บ่อยๆและบอกจากใจเลยว่าพี่น้องของพวกเราทุกคนซาบซึ้งและนับถือพวกคุณมาโดยตลอดและหวังว่าชาตินี้จะได้เจอพวกคุณในสักวันหนึ่ง..ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ในที่สุดผมก็ได้พบกับสมาชิกเขี้ยวหมาป่าในวันนี้ ”
“พี่เสือ?” เย่เชียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พวกคุณคือคนของไอ้เสือหวังหูอย่างงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ!..คุณรู้จักหวังหูใช่มั้ย?” เทียนเจี๋ยพูดด้วยความประหลาดใจ หวังหูชายหนุ่มคนนั้นเมื่อเขาเห็นหัวหมาป่าที่หน้าอกของเย่เชียนเขาจึงตามหาช่างสักยอดฝีมือคนหนึ่งและให้ช่างสักเลียนแบบหัวหมาป่าของเย่เชียนสำหรับตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามรอยสักของเย่เชียนก็เป็นรอยสักเลือดนกพิราบและสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ระดับสูง ดังนั้นรอยสักของหวังหูจึงไม่สามารถเทียบได้ นอกจากนี้หากปราศจากความยินยอมของเย่เชียนหวังหูก็ไม่กล้าสักลายที่เหมือนกันทุกประการอยู่แล้ว แต่เมื่อมองแวบแรกความแตกต่างนั้นก็ไม่มากเท่าไหร่และความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวก็ไม่มี เมื่อหวังหูไปโรงอาบน้ำกับพวกเขาบ่อยครั้งเขาก็มักจะอวดว่าหัวหมาป่าบนหน้าอกของเขานั้นยอดเยี่ยมเพียงใดพร้อมกับเล่าเรื่องราวขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่และความรุ่งโรจน์ของเย่เชียน ซึ่งผู้คนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาต่างก็ชื่นชอบเย่เชียนและเขี้ยวหมาป่าอย่างมาก
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ผมไม่ได้แค่รู้จักเขาเฉยๆเพราะผมโตมาพร้อมกับเขาและเขาก็เรียกผมว่าพี่สองเสมอ”
เทียนเจี๋ยก็ถึงกับตกใจและรีบคุกเข่าลงพร้อมกับพูดว่า “ผมขอโทษครับพี่สอง!” เหล่ามาเฟียที่อยู่ข้างหลังเขาก็ถึงกับตกตะลึงและไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไปและรีบคุกเข่าลงทีละคน คราวนี้เกิ่งหูวที่ดุร้ายก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์แบบและเขาก็ได้ยินคำพูดของเย่เชียนอย่างชัดเจนเพราะแม้แต่หวังหูผู้นั้นก็ยังต้องการเรียกเย่เชียนว่าพี่สองเลย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าขนาดเขายังทำตัวโอ้อวดในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ทุกที่เพราะฉะนั้นสำหรับหวังหูในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้แล้วแตกต่างกับเขาอย่างสิ้นเชิง
เย่เชียนก็เอื้อมมือไปพยุงเทียนเจี๋ยลุกขึ้นและพูดว่า “พวกคุณทั้งหมดเป็นพี่น้องของผมเพราะงั้นพวกคุณไม่ใช่คนนอก..ตอนแรกที่คุณมาที่นี่ผมก็เดาได้ว่าคุณต้องเป็นคนของไอ้เสืออย่างแน่นอนและผมก็พอใจกับการกระทำของคุณในวันนี้มาก..คุณไม่ได้รังแกหรือข่มเหงคนอื่นและคุณยังให้โอกาสและทางเลือกอีกด้วย..ด้วยเหตุนี้คุณจึงไม่ได้ผิดอะไร..แต่ไอ้เสือที่รู้ว่าเกิ่งหูวคนนี้ไม่ใช่คนดีแต่ก็ยังจะช่วยเขาอีก..เสือแห่งเซี่ยงไฮ้ที่คุณพูดถึงใช่ไอ้เสือหวังหูหรือเปล่า?”
เทียนเจี๋ยก็ยิ้มเจื่อนๆและรีบอธิบายว่า “คุณเย่..หัวหน้าคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกไม่งั้นเขาจะไม่มีวันเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆ..คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอก” เย่เชียนพูด “หวังหูติดตามผมมาตั้งแต่เด็กๆเพราะงั้นผมก็รู้จักเขาเป็นอย่างดีและที่ผมพูดก็เป็นแค่เรื่องตลกขำๆเท่านั้นเพราะผมเองก็เชื่อใจเขาเหมือนกัน”
“คุณเย่ครับแล้วเรื่องนี้คุณต้องการให้ผมจัดการยังไงคุณสั่งมาได้เลยครับ” เทียนเจี๋ยพูด
เย่เชียนก็หันไปมองเกิ่งหูวแล้วพูดว่า “ในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้คุณยิ่งใหญ่มากเลยใช่มั้ยท่านเกิ่ง..ผมควรจะทำยังไงกับคุณดี”
เกิ่งหูวก็ถึงกับสั่นไปทั้งตัวและคุกเข่าลงแล้วพูดอย่างประม่าว่า “ผมมีตาหามีแววไม่..ผะ..ผมขอโทษจริงๆอย่าทำอะไรผมเลยปล่อยผมไปเถอะ..ผมจะทำตามที่คุณต้องการผมจะไม่เข้าใกล้คุณครูจ้าวอีกในอนาคต”
“โถ่ๆคุณพูดแบบนั้นได้ยังไง” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณพูดอย่างงั้นแล้วชื่อเสียงของคุณจะไม่เสื่อมเสียเหรอ..ชื่อเสียงของคุณเกิ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้นั่นโด่งดังมากเลยไม่ใช่เหรอ?..ผมจะกล้าทำร้ายคุณเหรอ?..บอกผมทีคุณต้องการให้ผมทำยังไง?”
“ผมไม่กล้าหรอกครับ..อย่าทำผมเลย” เกิ่งหูวพูดด้วยใบหน้าเศร้าๆ “ผมมันลูกนอกสมรส..ผมมันไอ้สารเลว..ผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง..ผมมันไร้ประโยชน์ให้ตายเถอะ!” เกิ่งหูวพูดด้วยความกระวนกระวาย “จะให้ผมทำอะไรก็ยอมขอแค่ไว้ชีวิตผมก็พอแล้ว”
เย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณพูดเองนะ?”
“พ่อคะ..เขาทำให้เราเสียเวลากินอาหารอร่อยๆไปเพราะงั้นทำไมพ่อไม่ให้เขารับผิดชอบทุกอย่างบนโต๊ะไปเลยล่ะ..การปล่อยให้อาหารเน่าเสียไปเปล่าๆมันน่าเสียดายนะ” เย่หลินชำเลืองมองไปที่โต๊ะอาหารแล้วพูด
เย่เชียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและครุ่นคิดอย่างลับๆ ‘ช่างโหดร้ายเหลือเกิน’ เขายิ้มอย่างช่วยไม่ได้และหันไปมองเกิ่งหูวแล้วพูดว่า “คุณได้ยินที่ลูกสาวของผมพูดมั้ย..มันน่าเสียดายที่ไม่มีใครกินและปล่อยให้อาหารเน่า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเกิ่งหูวก็หันไปมองอาหารที่เหลือบนโต๊ะและในทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่โศกเศร้าเพราะอาหารบนโต๊ะนั้นมีหลายอย่างจนน่าหวาดกลัวและอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาจะต้องกินจนท้องแตกตายเลยไหม? อย่างไรก็ตาม เขายังมีทางเลือกในสถานการณ์นี้หรือไม่? เขาแค่เกลียดสิ่งที่เขาแสร้งทำในตอนนี้เท่านั้นไม่งั้นเขาคงจะไม่ต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้เลย ซึ่งถ้าเขาไม่ทำตามคำพูดของเย่เชียนล่ะก็เขาคงจะไม่สามารถอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้และแม้แต่ชีวิตของเขาคงจะรักษามันเอาไว้ไม่ได้ บางทีอาจมีคนเห็นร่างของเขาที่ริมแม่น้ำหวงภู่ในเช้าวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้
“อะไรกันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” เย่เชียนพูด
“ไม่ๆ..ผมจะกิน..ผมจะกินมันให้หมด” เกิ่งหูวจะกล้าขัดขืนหรือปฏิเสธที่ไหน? จากนั้นเขาก็คลานไปที่โต๊ะอาหารและคว้าอาหารบนโต๊ะแล้วยัดเข้าปากอย่างไม่หยุดยั้ง ในตอนนี้เขาไม่มีความคิดอะไรใดๆเพราะเขาแค่หวังว่าเย่เชียนจะปล่อยเขาไปเท่านั้น เขาจะกล้าคิดอย่างอื่นได้อย่างไร?
.
.
.