ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 893 แพ้อย่างหมดท่า
ตอนที่ 893 แพ้อย่างหมดท่า
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับเย่ห่าวหรานแล้วในที่สุดฉินหยูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขนของเธอแล้วพูดด้วยความรักและโกรธว่า “อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้อีกนะ..อย่าขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียวสิ..ลูกทำให้แม่กลัวแทบตาย” ลมหายใจแห่งความรักของแม่นั้นเกินคำบรรยายใดๆ อย่างสิ้นเชิง
การกระทำของเย่ห่าวหรานทำให้เย่เชียนกังวลเล็กน้อยและถึงแม้ว่าเขาจะมีความสุขมากที่เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะแต่เย่เชียนก็ไม่ได้ต้องการให้เขาเป็นอัจฉริยะที่รู้เพียงว่าจะต้องจมอยู่ในโลกของตัวเองและไม่สนใจสิ่งรอบตัวเช่นนั้นจนขาดความสามารถ เพื่อสื่อสารกับผู้คน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาสั้นๆ และดูเหมือนว่าเย่เชียนจะต้องสั่งสอนเย่ห่าวหรานอีกมากในอนาคต
เย่ห่าวหรานฉลาดมากถึงแม้ว่าเขาจะอายุเพียงสองขวบเท่านั้นแต่เขาก็เลือกที่จะนอนคนเดียว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เย่เชียนพอใจมากและยกย่องเขาว่ามีเหตุผลที่ดี ฉินหยูเองก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและมองเย่เชียนอย่างดุร้ายแต่เย่เชียนไม่ได้ตระหนักถึงมันและดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจเธอเลย
คืนนั้นเย่เชียนกับฉินหยูก็มีอะไรกันจนถึงเช้าซึ่งหลังจากอยู่ด้วยกันได้ไม่นานพวกเขาก็จะถูกพรากจากกันอีกครั้งและมันทำให้เย่เชียนรู้สึกผิดอย่างมาก อย่างไรก็ตามฉินหยูก็ไม่ได้พูดอะไรถึงแม้ว่าเธอจะลังเลเล็กน้อยที่จะยอมแพ้แต่เมื่อเธอเลือกเย่เชียนแล้วเธอก็ชัดเจนมากว่าเย่เชียนนั้นเป็นดั่งมังกรที่บินอยู่บนสวรรค์ทั้งเก้าและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกกักขังเอาไว้ในสถานที่ใดๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นฉินหยูก็กอดเย่ห่าวหรานและไปส่งเย่เชียนที่สนามบินพร้อมกับเย่หลิน ซึ่งเย่ห่าวหรานนั้นก็รู้สึกมีความสุขที่เย่เชียนซื้อหนังสือให้เขามากมายเมื่อวานนี้และทัศนคติของเขาที่มีต่อเย่เชียนก็ดีขึ้นเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาเรียกเย่เชียนง่ายๆ ว่า “พ่อ” สิ่งนี้ทำให้เย่เชียนตื่นเต้นมากและมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ในหัวใจของเขา
หลังจากบอกลาพวกเขาอย่างไม่เต็มใจเย่เชียนก็ขึ้นเครื่องบินไปยังมาเก๊า หลังจากเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงมาเก๊าแล้วในเวลาบ่ายโมย จากนั้นเย่เชียนก็นั่งแท็กซี่จากสนามบินและตรงไปยัง Fallen Paradise ของมาเก๊า หลังจากบอกชื่อคาสิโนแล้วคนขับแท๊กซี่ก็ขับรถไปที่ฟอลเลนพาราไดซ์ทันที ในมาเก๊านั้นไม่มีใครไม่รู้จักฟอลเลนพาราไดซ์เลยจริงๆ เพราะนั่นคืออาณาจักรแห่งเงินและสถานที่แห่งโอกาสที่ซึ่งคุณสามารถรวยได้ในชั่วข้ามคืนหรือคุณอาจสูญเสียทุกอย่างในชั่วข้ามคืนก็เป็นได้ แน่นอนว่าฟอลเลนพาราไดซ์ใช้เพื่อหลอกลวงผู้คนเท่านั้น คาสิโนทุกแห่งจะไม่มีวันปล่อยให้นักพนันรวยอย่างง่ายๆ อยู่แล้วเพราะผู้เล่นจะสามารถกอบโกยเงินได้แค่บางส่วนแต่ในไม่ช้าก็เร็วผู้เล่นก็ต้องสูญเสียเงินทุนและกำไรทั้งหมดเพราะความโลภของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฟอลเลนพาราไดซ์เป็นชื่อที่กำหนดโดยคลูลอฟส์อังเดรเดิมทีคาสิโนแห่งนี้มีชื่อว่าคาสิโนจินหัวแต่เนื่องจากคลูลอฟส์อังเดรเข้ามารับช่วงต่อจึงได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดตามมาตรฐานโลกและรูปแบบธีมของคาสิโนในลาสเวกัสจนดึงดูดผู้คนจำนวนมากทั้งนักพนันในและต่างประเทศ
ที่ชั้นแรกเป็นล็อบบี้คาสิโนที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องเล่นการพนันทุกชนิดพร้อมกับบริกรสาวสุดเซ็กซี่ที่คอยให้บริการซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเล่นการพนันที่ชั้นนี้ได้ตามปกติ ที่ชั้นสองเป็นห้องส่วนตัวVIPสำหรับความบันเทิงและการรักษาความปลอดภัยก็สูงขึ้นตามธรรมชาติและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกที่ หากเป็นสมาชิกของโรงแรมหรือแขกที่มีฐานะทางการเงินที่ดีก็จะสามารถขึ้นไปบนชั้นสามเพื่อเพลิดเพลินกับการพนันในรูปแบบคาสิโนครบวงจร ยิ่งไปกว่านั้นที่ชั้นสี่ยังมีห้องการพนันแบบVIPที่สามารถเข้าได้แต่บุคคลที่มีอิทธิพลและแขกVIPระดับสูงเท่านั้น
ระหว่างทางคนขับตื่นเต้นมากที่จะได้คุยกับเย่เชียนเกี่ยวกับการไปทัวสวรรค์ในการหาเงินที่นั่นและล้มละลายจนหมดตัว เขายังเตือนเย่เชียนด้วยว่าจะดีกว่าถ้าเล่นการพนันแต่พอเหมาะและไม่มากจนเกินไปเพราะนั่นเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้มายังคาสิโนแห่งนี้อย่างมาก
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและไม่พูดอะไรใดๆ เพราะเย่เชียนเองก็ไม่เก่งในเรื่องนี้และเขาก็ไม่ได้ชอบมันมากนักแต่ก็ไม่คัดค้านหรือมองว่ามันไม่ดีเช่นกัน เพราะบางคนที่เล่นการพนันที่นี่อาจจะโลภและต้องการรวยในชั่วข้ามคืนแต่เย่เชียนคิดว่าผู้คนควรมาที่นี่เพื่อค้นหาความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ๆ ใช่ไหม? เมื่อคิดเช่นนั้นหัวใจของเย่เชียนก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที
ยกตัวอย่างเช่นชางกวนหยานยู่ที่ครอบครัวของเขามีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายไปทั้งชีวิตดังนั้นโดยปกติแล้วการมาที่นี่ของเขาก็เพื่อแสวงหาความสุขและคงามบันเทิงไม่ใช่การพยายามเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน ซึ่งการพนันก็เหมือนการดื่มและการสูบบุหรี่ มันสามารถเสพติดได้และเมื่อเขามาที่นี่ชางกวนหยานยู่ก็รู้สึกได้ว่าคนอื่นนั้นเขารถและชื่นชมเขาเพราะตราบใดที่เขามีเงินเขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการและเขาก็สนุกกับมันมาก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนศึกษาว่าหากบุคคลทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์สิ่งนั้นจะกลายเป็นนิสัยและการพนันก็เหมือนกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่อนคลายและปล่อยวางเลยและไม่ช้าก็เร็วคนเหล่านั้นจะล้มละลาย ปรมาจารย์ด้านการพนันในโลกนี้มีมากมายแล้วเขาทำเงินได้ตลอดงั้นหรือ? ส่วนใหญ่ก็มักจะจบลงด้วยการถูกนักพนันรายอื่นหักมือหรือเท้าและนำเงินของเขากลับไป เทพเจ้าแห่งการพนันมันมีแค่ในภาพยนตร์เท่านั้น
ในฟอลเลนพาราไดซ์มีผู้เชี่ยวชาญการพนันคอยดูแลสอดส่องการพนันอย่างทั่วถึงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นออกนอกเส้นทางหรือใช้การโกงใดๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการพนันเหล่านี้จะไม่เล่นการพนันเพราะพวกเขารู้ดีกว่าใครที่มีอิทธิพลและอำนาจดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเสี่ยง ซึ่งผู้ชนะเพียงคนเดียวในโลกการพนันคือเจ้ามือเสมอเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเพราะนักลงทุนเหล่านั้นเป็นเพียงตัวหมากรุกและมีเพียงเจ้ามือตัวจริงเท่านั้นที่จะได้รับกำไรทั้งหมด
รถหยุดอยู่ที่หน้าประตูคาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์และหลังจากเย่เชียนลงจากรถแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองและถึงกับตกใจ ซึ่งอธิบายได้คำเดียวว่ามันหรูหรามาก เย่เชียนนั้นไม่ได้โทรหาหลี่เหว่ยกับเฟิงหลานแต่เดินเข้าไปเพียงลำพังและเดินไปรอบๆ ห้องล็อบบี้และเมื่อมองไปที่เหล่าผู้คนที่ตะโกนอย่างมีชัยเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
เย่เชียนก็เดินไปแลกชิปพนันและเล่นตู้สล๊อตอยู่พักหนึ่งแต่มันก็ไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไหร่ “ท่านคะจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ” พนักงานเสิร์ฟในชุดกระต่ายเดินเข้ามาถามและในมือถือเครื่องดื่มเอาไว้แทบจะทุกชนิดเช่นไวน์,เบียร์,น้ำผลไม้ ซึ่งค่าจ้างของบริกรเหล่านี้ไม่สูงนักแต่พวกเธอก็พึ่งพาผลตอบแทนและกำไรจากนักพนันในรูปแบบทิป หากเธอบริการให้กับนักพนันที่ชนะได้กำไรนั่นก็เป็นเรื่องปกติที่คนเหล่านั้นจะให้รางวัลเป็นทิปแก่พวกเธอ นักเสี่ยงโชคมักจะเป็นแบบนี้เพราะเวลาชนะก็จะมีความใจกว้างและใช้เงินตามใจชอบโดยไม่รู้ว่าเงินที่ได้มานั้นกำลังจะสูญหายไปในอีกไม่ช้า
เย่เชียนหันไปมองเธอและหยิบแก้วไวน์จากถาดแล้วพูดว่า “ขอบคุณครับ” จากนั้นเย่เชียนก็วางชิปที่เหลืออยู่ในมือของเขาลงบนถาดแล้วพูดว่า “ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการพนันสักเท่าไหร่และตอนนี้ชิปมันก็เหลืออีกเยอะเพราะงั้นผมให้คุณทั้งหมดเลยก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะท่าน!” กระต่ายสาวบันนี่พูดอย่างเร่งรีบเพราะชิปบนถาดของเธอนับได้อย่างน้อยๆ ก็ 20,000 หยวนใช่ไหม? สิ่งนี้ทำให้เธอประหลาดใจอย่างมากเพราะหลังจากทำงานอยู่ในคาสิโนมานานเธอก็พอจะรู้นิสัยของนักพนันเหล่านี้แต่เห็นได้ชัดว่าเย่เชียนยังไม่ได้รับเงินหรือกำไรใดๆ เลยแม้แต่น้อยแต่กลับใจดีเช่นนี้ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจจนเธอนั้นมองว่าเย่เชียนแตกต่างไปจากนักพนันทั่วๆ ไป
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ และโบกมือให้เธอออกไปจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาหลี่เหว่ย “ฉันอยู่ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งลงมาหาฉันหน่อย!” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็วางสายไป
ด้านข้างกระต่ายสาวบันนี่เพิ่งเล่าให้เพื่อนร่วมงานของเธอฟังอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับเย่เชียนซึ่งทำให้พวกเธออิจฉาอย่างมากและพวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะหันความสนใจไปที่เย่เชียน จากนั้นพวกเธอก็หยอกล้อกันว่าให้ไปแต่งงานกับเย่เชียนเพราะดูเหมือนว่าเย่เชียนจะเป็นเศรษฐีหนุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนไม่รู้เรื่องนี้
จากนั้นไม่นานหลี่เหว่ยกับเฟิงหลานก็ลงมาจากลิฟต์และมันเป็นลิฟต์พิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่คาสิโน ซึ่งข้างหลังเขามีชายวัยกลางคนเดินตามมาด้วย “บอส!..ผมขอแนะนำให้บอสรู้จัก…” หลี่เหว่ยพูดอย่างตื่นเต้น
ก่อนที่เขาจะพูดจบเย่เชียนก็ขัดจังหวะเขาและพูดว่า “ไม่จำเป็นฉันรู้จักเขา..ผู้จัดการคาสิโนคุณตู้ซุนใช่มั้ย?”
ชายวัยกลางคนก็ตะลึงครู่หนึ่งและโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งและพูดว่า “คุณเย่มีสายตาที่ดีจริงๆ ..มิสเตอร์คลูลอฟส์อังเดรบอกกับผมว่าคุณกำลังมาที่คาสิโนเพราะงั้นผมก็พยายามจินตนาการว่าคุณเย่นั้นจะเป็นคนแบบไหน..ผมไม่คิดเลยว่าจะยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้..ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณเย่มานานแล้วคุณเป็นมังกรในหมู่มังกรจริงๆ ..หัวหน้าของเราคุณคลูลอฟส์อังเดรชื่นชมคุณเย่อย่างมาก”
กระต่ายสาวบันนี่และเพื่อนร่วมงานของเธอที่อยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นฉากดังกล่าวเพราะตู้ซุนเป็นผู้จัดการของที่นี่และเขาก็มีสถานะและอำนาจมากที่สุด ดังนั้นมันจึงยากมากสำหรับคนธรรมดาที่จะได้พบกับเขาและตอนนี้เขาก็โค้งคำนับเย่เชียนด้วยความเคารพอีกด้วยซึ่งทำให้พวกเธอคาดเดาถึงตัวตนของเย่เชียนไปต่างๆนาๆ
“มิสเตอร์คูลลอฟ์อังเดรก็พูดเกินจริงไปหน่อย” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณเย่อยากเล่นสักสองสามเกมมั้ย?” ตู้ซูนพูด
“ผมไม่อยากเล่นแล้ว..เมื่อกี้ผมเล่นตู้สล๊อตไปมีแต่แพ้กับแพ้” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ตู้ซุนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นักพนันส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ต่างก็ต้องการเงินแต่ใครจะสามารถชนะและกอบโกยเงินออกไปได้จริงๆ กัน..เราเปิดธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่อกอบโกยเงินเช่นกันเพราะงั้นการขาดทุนนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ..ด้วยเหตุนี้เราจึงมีเกมมากมายหลายประเภทเพื่อดึงดูดนักพนันให้มาที่นี่บ่อยขึ้นเพื่อหมุนเวียนเงิน..เพราะงั้นมันจึงไม่ง่ายเลยที่ใครจะเดินกลับไปพร้อมกับเงินก้อนโต”
หลังจากหยุดชั่วขณะตู้ซุนก็พูดต่อ “คืนนี้มีแขกผู้มีเกียรติสองสามท่านและทั้งหมดเป็นลูกหลานจากครอบครัวมหาเศรษฐีจากสิงคโปร์..เพราะงั้นคุณเย่อยากลองเล่นกับพวกเขาสักสองสามเกมมั้ยล่ะ?”
“ลองดูก็ได้” อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่มีอะไรทำและกำลังเบื่อๆ อยู่พอดีเพราะงั้นเขาจึงพยักหน้าและพูด
“เอาชิปมายี่สิบล้านแล้วไปส่งที่ห้องVIP” ตู้ซุนพูดกับกระต่ายสาวบันนี่ข้างๆ
เย่เชียนก็หันไปเหลือบมองไปที่กระต่ายสาวบันนี่ที่ส่งไวน์ให้เขาก่อนหน้านี้และยิ้มให้ จากนั้นเย่เชียนก็เดินตามตู้ซุนไปที่ลิฟต์ เมื่อเห็นเช่นนั้นกระต่ายสาวบันนี่ก็มีความสุขและเธอก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเพราะเธอไม่เข้าใจว่าเย่เชียนหมายถึงอะไรจากรอยยิ้มของเขาเมื่อครู่นี้ เป็นไปได้ไหมที่เขาจะสนใจเธอ? เมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็ส่ายหัวอย่างแรงและรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อแลกชิปพนัน
.
.
.
.
.
.