ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 898 คนที่คุ้นเคย
ตอนที่ 898 คนที่คุ้นเคย
คาสิโนและแหล่งเงินกู้ต่างพึ่งพาอาศัยกันและไม่ว่าจะในคาสิโนไหนก็จะมีแบบนี้เสมอ ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากความสนใจในกำไร อย่างไรก็ตามคาสิโนยังคงเป็นเจ้ามือรับแทงในท้ายที่สุดและคนปล่อยเงินกู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเกินไปไม่เช่นนั้นคาสิโนจะไม่อนุมัติให้พวกเขาเข้ามาเหยียบเพื่อทำธุรกิจดังกล่าว
ชายอ้วนหัวโล้นไม่ใช่คนประเภทที่ทำสิ่งที่ไม่มีขอบเขตแต่เนื่องจากเขาได้พบกับผู้หญิงคนนี้ในคาสิโนแห่งนี้เขาก็ตกหลุมรักเธอมาระยะหนึ่งแล้ว เขาจึงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะได้ครอบครองเธอดังนั้นกับดักนี้จึงถูกตั้งขึ้นโดยเจตนา
เมื่อเห็นว่าตู้ซุนให้เกียรติเย่เชียนมากเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาได้ทำให้คนที่ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองต้องขุ่นเคืองไปแล้ว อย่างไรก็ตาม คาสิโนมักจะคำนึงถึงผลประโยชน์เสมอ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วคาสิโนจะต้องมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่คอยดูแลจัดการสิ่งต่างๆแต่เย่เชียนนั้นแตกต่างออกไปเห็นได้ชัดว่าเย่เชียนไม่ใช่คนมาเก๊า ซึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของตู้ซุนแล้วชายอ้วนหัวโล้นก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ผู้จัดการตู้คุณไม่จำเป็นต้องออกหน้าจัดการสิ่งต่างๆด้วยตัวเองหรอกเดี๋ยวผมจะแก้ไขมันเอง..เขาเป็นใครกันเขามีสิทธิ์อะไร” ชายอ้วนหัวโล้นเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่สบอารมณ์และดวงตาของเขาฉายแววชั่วร้ายเพราะบนแผ่นดินมาเก๊าแล้วชายอ้วนหัวโล้นคนนี้ไม่เคยก้มหัวให้ใครเพราะงั้นเขาจะยอมได้อย่างไร
“คุณเปี๋ยครับคุณเย่เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของคาสิโนของเรา” ตู้ซุนพูดด้วยความไม่พอใจ “ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น?” จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เชียนอย่างขอโทษและพูดว่า “เขาไม่รู้เรื่องอะไรเพราะงั้นคุณเย่ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกครับเดี๋ยวผมจัดการให้เอง”
ชายอ้วนหัวโล้นก็ถึงกับตกตะลึงอย่างสมบูรณ์แบบและเขาเหลือบมองเย่เชียนอย่างหวาดผวาและพูดอะไรไม่ออก
เย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “นี่คุณแยกไม่ออกระหว่างเจ้าภาพกับแขกงั้นเหรอ..ผู้จัดการตู้ผมสงสัยในความสามารถของคุณในการบริหารจัดการจริงๆ..ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปคาสิโนแห่งนี้จะอยู่รอดได้ยังไงในอนาคต?”
“มันเป็นความผิดพลาดของผมเองครับ” ตู้ซุนสูดลมหายใจและพูด เขามักจะฟังคลูลอฟส์อังเดรพูดถึงเย่เชียนอยู่บ่อยๆและทุกครั้งที่เขายกย่องเย่เชียนเขาก็รู้บางอย่างเกี่ยวกับเย่เชียนด้วย ซึ่งเย่เชียนนั้นเป็นบุคคลที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้เลยในสายตาของเขา
ชายอ้วนหัวโล้นจะกล้าพูดอะไรที่ไหนในตอนนี้และเขาก็รีบคุกเข่าลงพร้อมกับตบตัวเองแล้วพูดว่า “ผมขอโทษครับคุณเย่..ผมมีตาหามีแววไม่ผมทำให้คุณขุ่นเคืองเพราะผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร..ให้ตายเถอะคุณเย่เชิญลงโทษผมได้เลยครับ”
“ผมเป็นใคร?..ผมไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะไปลงโทษคุณหรอกท่านเปี๋ย” เย่เชียนพูดอย่างเย้ยหยัน
ตู้ซุนก็ขยิบตาให้กับชายอ้วนหัวโล้นเพราะเขากลัวว่าเย่เชียนจะรำคาญการกระทำของชายอ้วนหัวโล้นที่พูดมากจนเกินไป ซึ่งผลลัพธ์ก็คงไม่อาจจินตนาการได้จนชายอ้วนหัวโล้นตัวสั่นไปทั้งตัวและเมื่อเขาเห็นสายตาของตู้ชุนแล้วเขากลับไม่เข้าใจว่าตู้ซุนกำลังจะสื่อถึงอะไรดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณเย่มันเป็นความผิดของผมเอง..สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นความผิดของผม..ผมมีตาหามีแววไม่..ผมขอโทษครับคุณเย่” หลังจากพูดจบชายอ้วนหัวโล้นก็ดึงมีดออกมาจากเสื้อคลุมของเขาแล้วแทงเข้าที่ต้นขาของเขาจนเลือดไหลออกมาทันที
เย่เชียนไม่แสดงสีหน้าใดๆและพูดอย่างเฉยเมยว่า “นี่คุณเข้าใจแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ!” ชายอ้วนหัวโล้นพูด
“เมื่อคุณทำสิ่งต่างๆที่นี่คุณควรจะเข้าใจและแยกแยะความสำคัญได้..ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกใครจะกล้ามาเดิมพันคาสิโนของเราในอนาคต..คุณต้องรู้กฎเมื่อคุณอยู่ในสถานที่ของคนอื่นแต่คุณยังกล้าแหกกฎและข่มเหงแขกของเราแบบนี้..คุณมั่นใจมากเลยงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า “ลูกค้าคือพระเจ้าแล้วการที่คุณมาทำแบบนี้ในสถานที่ของผมคุณคิดว่าคุณยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ค้ำฟ้าอย่างงั้นเหรอ?..คุณคิดว่าคาสิโนของเราเป็นบ่อนพนันกระจอกๆเหรอ?”
“ผมผิดไปแล้ว..ผมจะไม่ทำอีก” ชายอ้วนหัวโล้นพูด “ผมหวังว่าคุณเย่จะให้โอกาสผมสักครั้ง..ผมสัญญาว่ามันจะไม่มีครั้งต่อไป” จากนั้นเขาก็ใช้มีดแทงเข้าไปที่ต้นขาของเขาอีกครั้งและพูดว่า “ผมทำผิดกฎผมขอโทษจริงๆ”
“อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่” เย่เชียนพูด “ผมไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว..แต่ถ้ามีอีกครั้งคุณจะไม่ได้มาเหยียบมาเก๊าอีกตลอดชีวิต” จริงๆแล้วคาสิโนก็ขาดแคลนคนเหล่านี้ไม่ได้และถึงแม้ว่าชายอ้วนหัวโล้นคนนี้จะทำมากไปหน่อยแต่เขาก็ไม่ได้แย่ ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องการทำให้มันเป็นเรื่องยากแต่อย่างใด
ตู้ซุนรีบขยิบตาให้ชายอ้วนหัวโล้นและพูดว่า “คุณเย่ไม่เอาเรื่องแล้วเพราะงั้นรีบขอบคุณเขาสิครับ”
“ขอบคุณมากครับคุณเย่ที่ให้โอกาสผมได้แก้ตัว” ชายอ้วนหัวโล้นก็กระแทกศีรษะลงที่พื้นสามครั้งแล้วพูด
“เอาล่ะ..แยกย้ายกันได้แล้ว” เย่เชียนพูด
“ขอบคุณครับ!” ชายอ้วนหัวโล้นจะกล้าพูดมากกว่านี้ได้อย่างไรและเขาก็ดีใจมาก เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที
“เดี๋ยว!” เย่เชียนตะโกน
ชายอ้วนหัวโล้นก็หยุดอย่างกะทันหันและรู้สึกหวาดกลัวในใจ จากนั้นเขาก็หันไปมองเย่เชียนอย่างประหม่าและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า “คุณ…คุณเย่..มีอะไรอีกหรือครับ”
“เธอเป็นหนี้คุณหนึ่งแสนหยวนแล้วถ้าคิดดอกเบี้ยด้วยเธอต้องจ่ายคุณทั้งหมดเท่าไหร่?” เย่เชียนถาม
“ไม่…ไม่จำเป็นครับ” ชายอ้วนหัวโล้นพูดอย่างเร่งรีบ
“อะไรกันคุณคิดว่าผมจะเป็นคนแหกกฎรึไง?” เย่เชียนพูด “คุณคิดว่าผมกำลังกลั่นแกล้งคุณอยู่หรือเปล่า..ผมแค่จะทำในสิ่งที่ยุติธรรมเพราะเธอเป็นหนี้คุณเพราะงั้นเพื่อความยุติธรรมของตัวคุณเองคุณก็สมควรได้รับเงินคืน..ถ้างั้นจ่ายดอกเบี้ยเป็นสองเท่าของเงินต้นก็แล้วกัน..ผู้จัดการตู้ช่วยจ่ายให้เขาสองแสนหยวนจากบัญชีของคาสิโน..แต่จำเอาไว้ว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในคาสิโนของผม..ไม่งั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน”
“ครับ..ผมจะไม่ทำอีกในอนาคต” ชายอ้วนหัวโล้นพูด คนที่ไม่มีอำนาจจะเปิดคาสิโนในมาเก๊าได้อย่างไร? ในตอนนี้ชายอ้วนหัวโล้นก็ไม่หยิ่งผยองพอที่จะคิดว่าเขาสามารถต่อสู้กับเย่เชียนได้จริงๆเพราะท้ายที่สุดพวกเขาทั้งหมดก็ต้องพึ่งพาคาสิโนดังนั้นถ้าหากคาสิโนกีดกันพวกเขาล่ะก็พวกเขาจะทำธุรกิจได้อย่างไรในอนาคต?
เย่เชียนหันไปมองหญิงสาวและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “คุณ…เอ่อ…คุณมาที่คาสิโนนี้ทำไม..คุณรู้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณถ้าผมไม่ได้มาเจอคุณโดยบังเอิญ?”
หญิงสาวที่ดูเศร้าสร้อยก็พูดว่า “มันเป็นความผิดของนายทั้งหมด..ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ขณะที่เธอพูด เธอใช้ฝ่ามือตบหน้าเย่เชียนเบาและเย่เชียนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เฟิงหลานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และรีบขยิบตาให้ตู้ซุนซึ่งเขาก็เข้าใจและทั้งสองก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ
หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูเหว่ยประธานบริษัททะเลสี่ทิศที่มีรูปลักษณ์เหมือนเด็กสาวโลลิในร่างของปีศาจ ซึ่งนี่ไม่ใช่บริษัทของตระกูลชางกวนแต่เป็นสาขาสากลของเขตปกครองพิเศษไต้หวัน เมื่อเย่เชียนอยู่ในไต้หวันเขาได้ช่วยให้ผู้หญิงคนนี้ครอบครองสิทธิ์ในการบริหารบริษัทอีกด้วย
ตั้งแต่ที่เย่เชียนออกจากไต้หวันไปซูเหว่ยก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอกลวงราวกับว่ามีบางอย่างหายไปและเธอก็ทำงานหนักและหวังว่าเธอจะมอบความรักให้กับงานของเธอเพื่อลืมเย่เชียน อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงการหลอกลวงตัวเองเพราะเธอไม่เคยลืมเย่เชียนในใจของเธอเลย
ในท้ายที่สุดเธอเพียงแค่จ้างทีมผู้บริหารมืออาชีพมาดูแลบริษัทและตัวเธอก็พยายามค้นหาที่อยู่ของเย่เชียนด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เธอรู้เรื่องของเย่เชียนน้อยเกินไป แบบนี้เธอจะไปหาข่าวจากที่ไหนและดูเหมือนว่าเย่เชียนจะหายไปจากโลกแล้วภายใต้ภาวะซึมเศร้าทางจิตใจที่รุนแรงนี้เธอก็ถูกเพื่อนของเธอลากไปมาเก๊าเพื่อระบายความหดหู่ในใจด้วยการพนันด้วยเงิน อย่างไรก็ตามเธอก็แพ้พนันให้กับชายอ้วนหัวโล้นและโดนหลอกให้กู้ยืมเงิน ซึ่งแน่นอนว่าเงินหลักแสนแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอแต่ชายอ้วนหัวโล้นต้องการที่จะแบล็กเมล์เธออย่างชัดเจนและจุดประสงค์ของเขาก็เลวร้ายอย่างมากดังนั้นจึงก่อให้เกิดเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้
เย่เชียนก็ตกตะลึงและมองไปที่ซูเหว่ยแล้วพูดว่า “ยัยบ้ามันเกี่ยวอะไรกับฉันกัน?..เธอมาที่คาสิโนแห่งนี้โดยไม่มีเหตุผลและฉันก็เกลียดนักพนันที่สุดโดยเฉพาะผู้หญิงที่จมปลักอยู่กับการพนันแบบนี้”
“ก็ถ้าไม่ใช่เพราะนายแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ซูเหว่ยพูดอย่างขุ่นเคือง “ทำไมนายถึงจากไปโดยไม่บอกฉันเลย..นายรู้ไหมว่าฉันตามหานายมานานแค่ไหน..ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ตลอดเวลาเพราะฉันมีเงาของนายอยู่ในใจเสมอ..ถ้าไม่ใช่เพราะนายแล้วฉันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?..ฉันโทษนายแล้วโทษนายอีกมันเป็นเพราะนาย!”
เย่เชียนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่คิดจริงๆว่าจะทำอย่างไรกับซู่เหว่ยดีเพราะตอนที่เขาอยู่ที่ไต้หวันนั้นมันเป็นเพียงความรู้สึกชั่วคราวเท่านั้นแต่เขาไม่เคยคิดเกี่ยวกับความรักกับซูเหว่ยเลย อย่างไรก็ตามดอกไม้อาจหยุดบานสะพรั่งได้ เนื่องจากความเอาใจใส่ของเย่เชียนนั้นทำให้ความประทับใจของซูเหว่ยที่มีต่อเขายิ่งลึกซึ้งมากขึ้นซึ่งทำให้เธอสนใจและรักเย่เชียนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็คิดว่าตราบใดที่เธอพบเย่เชียนเธอก็สามารถมีโอกาสนั้น เมื่อเห็นท่าทางที่ดูจริงจังและเจ็บปวดของซูเหว่ยแล้วเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจและสงสารเธอและแน่นอนว่ามันยังมีอีกอารมณ์หนึ่งที่ปั่นป่วนอยู่ในใจของเขาเช่นกัน
“ก็ได้มันเป็นความผิดของฉันเอง” เย่เชียนพูด “เราไปคุยกันที่อื่นเถอะทุกคนมองมาที่เราหมดแล้ว..เธอเองก็ยังร้องไห้อยู่เพราะงั้นเธอไม่กลัวคนอื่นจะเอาไปนินทาเหรอ?”
“ฉันร้องไห้เพราะฉันมีความสุข” ซูเหว่ยพูด “ใครบอกให้นายหนีฉัน..ใครบอกให้นายเมินฉัน”
เย่เชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขาจึงพูดว่า “ยัยบ้า..ใครเมินเธอ?”