ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 9 แก้แค้น
ตอนที่ 9 แก้แค้น
เย่เชียนยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม แววตาของเขาแฝงไปด้วยความอำมหิตและดูเหมือนมันจะระเบิดจากความกระหายเลือดได้ทุกวินาทีขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ชายร่างท้วม
เจิ้งต้าฟู ชายร่างท้วมคนนั้นไม่ได้รับรู้ถึงหายนะที่กําลังจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเริงร่าอยู่กับเด็กสาวที่โยกตัวขึ้นลงอยู่บนตัวเขาเป็นจังหวะถี่ ๆ
ในมณฑลซานซี เจิ้งต้าฟูนั้นเป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก สมัยยังเด็กเขาไม่ได้เรียนหนังสือแต่ใช้เวลาเตร็ดเตร่ออกไปนอกเมืองเป็นประจําทําให้พ่อของเขาไม่พอใจอย่างมากที่เขาใช้ชีวิตแบบนี้ ต่อมาเขามีโอกาสได้เข้าไปบริหารเหมืองถ่านหินและเกิดรุ่งเรืองขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปี นอกจากนี้ บ้านของเขามีราคาหลายร้อยล้านหยวน ซึ่งถ้าเทียบกับคนรวยคนอื่น มันก็คงมีคนที่รวยกว่าเขาแน่นอน แต่เขาเหนือกว่าก็ตรงที่เขาเพิ่งได้รับกำไรมหาศาลจากการพนันและการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ ๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะมีความรู้ในด้านนี้เพียงแค่หางอึ่งก็ตาม แต่เขาคิดว่าตราบใดที่เขายังมีเงินและทรัพย์สินมั่งคั่งมากมาย มันก็มีโอกาสที่เงินจะไหลเข้ามาหาเขาเอง ด้วยความคิดเยี่ยงนี้ มันจึงผลักดันให้เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่กว้างขวาง
อะพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัยสําหรับเขาที่นี่ เขาได้ซื้อไว้ให้กับคนรักของตัวเอง นับตั้งแต่ที่เขาร่ำรวยมากขึ้น ภาพใบหน้าของภรรยาเก่าที่ชอบทำให้เขารําคาญใจก็เริ่มเลือนรางจางหายไป
เด็กสาวคนนี้ไม่เพียงแค่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับคนรักเก่าของเขาเท่านั้น แต่เธอยังเด็กและเด็ดกว่า ทว่าเธอยังเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัย เขาจึงเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูให้เธอได้เข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ด้วยเงินของเขาเอง เขาสงสัยว่าเขาจะเคารพตนเองได้อย่างไรถ้าหากเขาไม่ทําเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงทำสิ่งที่ใจเขาคิดว่าถูกต้องสำหรับตัวเองที่สุดแล้ว และทุกอย่างมันก็จะดีเอง ตราบใดที่เขายังมีเงินมากมายในกระเป๋า คนรวยอย่างเขาอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เมื่อวานก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เขาได้พิสูจน์แล้วว่าความคิดของเขานั้นถูกต้อง ที่สนามบิน เขาได้ทำร้ายร่างกายชายแก่เก็บขยะคนหนึ่งซึ่งเรื่องราวมันจบลงโดยที่เขาจ่ายเงินค่ารักษาเพียงแค่สองพันหยวนเท่านั้น เขาไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับอีแค่เงินก้อนเล็ก ๆ ก้อนนั้น ต่อให้เขาจะเสียเงินไปมากกว่านี้ ขนหน้าแข้งของเขาก็ไม่ร่วง
เย่เชียนเคาะประตู
แน่นอนว่าเมื่อเจิ้งต้าฟูได้ยิน เขาก็โวยวายขึ้นทันที
“ใครวะ ?! …ไอ้เวรเอ๊ย! ใครมันมากวนอารมณ์กันตั้งแต่เช้าวะเนี่ย… โอ้ว… โอ้วว… อา…”
“ผมเป็นตัวแทนของหน่วยงานอสังหาริมทรัพย์ รบกวนท่านกรุณาเปิดประตูด้วยครับ ผมต้องการตรวจสอบอะไรนิดหน่อย” เย่เชียนพูดอย่างรอบคอบ
ไม่นานหลังจากที่เย่เชียนเคาะประตูอย่างรุนแรง ประตูก็ถูกเปิดออกด้วยมือของเด็กสาวร่างบอบบาง เมื่อเธอเห็นเย่เชียน แววตาของเธอก็เป็นประกายราวกับฤดูไม้ผลิมาเยือนอย่างไรอย่างนั้น ส่วนตาอ้วนเจิ้งต้าฟูนั้น ขณะนี้เขานั่งอยู่บนโซฟาโดยวางเท้าทั้งสองพาดอยู่บนโต๊ะกาแฟอย่างสบายใจเฉิบ เขากระดิกเท้าไปมาพร้อมพูดว่า
“เร็ว ๆ สิวะ! รีบ ๆ ทํางานของแกให้เสร็จ ๆ แล้วไสหัวไปซะ” เจิ้งต้าฟูพูดด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียว
เย่เชียนมองเขาอย่างเย้ยหยันและพร้อมกันนั้นเขาหมุนตัวเหวี่ยงขาอย่างรวดเร็วหวดเข้าไปที่ตัวของเจิ้งต้าฟูอย่างรุนแรง
“อ๊ากกกกกกกกกก!” เจิ้งต้าฟูร้องตะโกนลั่นห้อง ร่างอ้วน ๆ ของเขากลิ้งลงไปที่พื้นเหมือนหมอนนุ่ม ๆ ก็ไม่ปาน เขาจ้องเย่เชียนเขม็ง แววตาแฝงความเคียดแค้น
“แก… กะ… แกเองเรอะ ? …แกคิดจะทําอะไรวะห๊ะ ?”
เห็นได้ชัดว่าเขาจำเย่เชียนได้ เพราะเขาคือคนที่นั่งเบาะถัดจากเย่เชียนบนเครื่องบินนั่นเอง และแน่นอนเขายังจำได้อีกว่าเย่เชียนคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละยังเป็นคนที่ฆ่าไอ้พวกผู้ก่อการร้ายสี่คนนั่นจึงทำให้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เมื่อวานนี้ที่สนามบินแกทำร้ายชายแก่ที่เก็บขยะคนนึง แกจำได้ไหมไอ้อ้วน ?” เย่เชียนถามไปเตะเขาไป ส่วนเด็กสาวคนรักของชายอ้วนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ร้องไห้อย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นใบหน้าของเจิ้งต้าฟูเลือดอาบเต็มหน้า
“เออ! จำได้ แต่แกหยุด… ได้โปรด… หยุดเถอะ ฉันจะให้เงินแกก็ได้… แกต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย” เจิ้งต้าฟูตะเบ็งเสียง ทว่าตอนนี้น้ำตาเขาไหลออกมาเพราะความกลัว
“แก! ไอ้เดนมนุษย์นี่! แกคิดว่าจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินงั้นเรอะ ?” เย่เชียนพูดแล้วลงแรงเหยียบเขาจนหน้ายู่แนบกับพื้น
คนจําพวกนี้มีแต่จะเอาเปรียบคนยากจนและคนซื่อสัตย์ เย่เชียนระบายความโกรธที่ถูกกักกั้นไว้ทั้งหมดออกมาด้วยแรงที่บดขยี้หน้านั้นกับพื้นไปมา
เจิ้งต้าฟูร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและอ้อนวอน
“แก! เอ่อ… พี่… พี่ชาย… อย่าทำผมเลย ผมขอร้องล่ะ ไว้ชีวิตผมเถอะ ชีวิตที่น่าสมเพชของผม…”
เย่เชียนฉุดกระชากลากเจิ้งต้าฟูมาที่หน้าโซฟา เขานั่งลงบนโซฟาและคาบบุหรี่ไว้ที่ปากอย่างสบาย ๆ พลางจ้องมองเจิ้งต้าฟูที่นอนร้องไห้เงียบ ๆ ไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกมาอีก
เจิ้งต้าฟูไม่หลงเหลือความอวดดีอีกต่อไป ทั้งน้ำมูก น้ำตา และเลือดสด ๆ ผสมปนเปอยู่บนใบหน้าของเขา เขามองเย่เชียนด้วยความกลัวจับใจและรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ชาย… ผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ ผมจะยอมทําทุกอย่าง…”
เย่เชียนเตะสีข้างของเจิ้งต้าฟูที่พยายามจะลุกขึ้นมา จากนั้นก็พูดว่า
“เฮอะ! ยอมทำทุกอย่างเรอะ ? งั้นแกลองใช้หัวสมองกลวง ๆ ของแกคิดแล้วบอกมาซิว่าแกจะชดใช้ยังไง ?”
“ผม… ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องชดใช้ความผิดนี้ยังไงมันถึงจะสาแก่ใจพี่ชาย…” เขาเงยหน้าขึ้นมองเย่เชียนแล้วพูดออกมาอย่างคนไม่มีทางสู้ ซึ่งวินาทีนั้นเองที่เขาได้มีโอกาสสบตากับเย่เชียนจัง ๆ
ชายอ้วนเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกของเย่เชียนที่จ้องเขม็งมาที่เขาก็รีบหลบตาไปทางอื่นทันที เขาพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมาและคิดขึ้นมาว่าก่อนหน้านี้ตัวเขาบอกไปแล้วว่าจะให้เงิน แต่คำตอบนั้นก็ทำให้เขาโดนเย่เชียนเตะ เขาจึงไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรได้อีกเพราะทั้งชีวิตนี้ เขาก็ใช้เงินแก้ปัญหามาตลอด เมื่อมาเจอกับคนอย่างเย่เชียนเขาจึงทำได้เพียงนั่งอาลัยอาวรณ์กับโชคชะตาของตัวเองที่ขึ้นอยู่กับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า
สำหรับเขาในตอนนี้ เย่เชียนราวกับยมบาล!
“ฉันจะบอกแกให้เอาบุญ แกต้องรีบไปที่โรงพยาบาลเหรินเหมินให้เร็วที่สุด เอาเงินไปให้ชายแก่คนที่แกไปทำร้ายเขาเมื่อวานนี้ซะ แล้วก็อย่าลืมขอโทษขอขมาท่านด้วย!” เย่เชียนตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ครับ! ผมจะไป… ทะ… ที่นั่น ทะ… ทันที ไม่ต้องห่วงเลยครับพี่!” เจิ้งต้าฟูพูดตะกุกตะกักเพราะเขากลัวว่าถ้าเขาไม่ตอบตกลง ชายผู้นี้คงจะระเบิดออกมาอีกอย่างรุนแรงเป็นแน่
เย่เชียนโยนก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้อง หลังจากที่เขาได้ล้างแค้นคืนให้พ่อของเขาสมใจปรารถนาแล้ว เขาก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่อีก แต่เมื่อเขากำลังจะออกไปจากห้อง เขากลับชะงักและฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้จึงเดินวกกลับไปหาเจิ้งต้าฟูที่กำลังมองเย่เชียนเดินเข้ามา
พลั่ก!
เสียงเท้าของเย่เชียนเตะตรงเข้าไปที่หัวของเจิ้งต้าฟูทําให้เขาสลบแน่นิ่งไป
“ถุย!” เย่เชียนถ่มน้ำลายด้วยความโมโหแล้วเดินจากไป
เมื่อเขาออกมาจากสวนเชียนเจียง รปภ.ก็ถามเขาว่า “จะกลับแล้วหรอครับ ?”
“ใช่!” เย่เชียนพูดอย่างไม่แยแส
เขารู้ว่าเขาไม่ควรใช้บัตรเพชรและบัตรทองที่เขามี แต่เขาก็จำเป็นต้องใช้มันเพื่อให้พ่อของเขาอยู่อย่างสบาย ๆ และพักผ่อนกับชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข เขาคิดว่าเขาควรเริ่มหางานทําดีหรือไม่ แต่เอาเข้าจริง เขาเองก็ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาที่สูงส่งและไม่มีประสบการณ์ในการทํางานมาก่อน ฉะนั้น การจะหางานทำมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขา
เย่เชียนก้มหน้าก้มตาเดินมองสองเท้าตัวเอง ในขณะที่เขาคิดถึงปัญหามากมายหลากหลายของการมีชีวิตอย่างสามัญชน เขาก็พบว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้เลย
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกลุ่มวัยรุ่นชายเจ็ดคนจ้องมองมาที่เขาอย่างประสงค์ร้าย หนึ่งในนั้นหน้าเหมือนโจรเมื่อคืนก่อน เย่เชียนไม่ได้คาดคิดว่าชายคนนี้จะถูกปล่อยออกมาได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งแน่ล่ะ… โจรอย่างมันคงไปตามพวกมาล้างแค้นเขาโดยไม่ต้องสืบ
“พี่ใหญ่ตง ไอ้หมอนี่แหละ! ถ้าไม่ใช่เพราะมันผมคงไม่โดนจับหรอก” โจรคนนั้นพูดแล้วชี้มายังเย่เชียนด้วยความโมโห
“จับตัวมันไว้!” ชายที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ตงตะโกนขณะมองไปยังเย่เชียนและส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ เข้าไปรุมทำร้ายเขา
แต่อนิจจา เสียงตะโกนของพี่ใหญ่ตงยังไม่ทันเงียบดี เย่เชียนก็ส่งพวกมันคนหนึ่งลอยขึ้นฟ้าไปด้วยเท้าข้างหนึ่งของเขาแล้ว ร่างนั้นตกลงมากระแทกใส่อีกคนอย่างแรง มือของเขานั้นก็ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อีกต่อไป เขาในตอนนี้เปรียบเสมือนกับเสือโคร่งตัวใหญ่ที่กระโจนเข้าใส่ฝูงแกะ เขามีทักษะการต่อสู้ที่เร็วและแรง เพียงแค่ไม่กี่วินาที เขาก็ส่งคนทั้งเจ็ดร่วงลงไปที่พื้นอย่างง่ายดาย
เย่เชียนเห็นว่ากลุ่มโจรพวกนี้ไม่มีใครที่สามารถตั้งรับการโจมตีของเขาได้เลย เขาจึงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพวกมันให้ถึงตาย
จากนั้นเย่เชียนก็เดินตรงไปหาพี่ใหญ่ตงที่นอนเจ็บอยู่อย่างช้า ๆ เขานั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดว่า
“พี่คือพี่ใหญ่ตงใช่ไหม ? ผมชื่อเย่เชียน… เชียนที่มีความหมายว่าอ่อนน้อมถ่อมตน! ว่าแต่มีอะไรอยากจะพูดกับผมไหมพี่ ? ฮ่า ๆ ๆ” เย่เชียนทำเป็นพูดจาไพเราะพลางหัวเราะอย่างสะใจปิดท้าย
“มะ… ไม่มีครับ!” พี่ใหญ่ตงตอบอย่างกระวนกระวาย “นะ… น้องชาย พวกพี่ไม่รู้ว่าน้องมีฝีมือระดับพระกาฬขนาดนี้ น้องยกโทษให้พวกพี่ซักครั้งเถอะนะ!”
“พี่ใหญ่ตงต้องล้อผมเล่นแน่ ๆ ผมต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายขอโทษไม่ใช่เหรอครับ?” เย่เชียนตอบกลับอย่างเย้ยหยัน
“หยุดล้อเล่นเถอะ พี่ขอโทษจริง ๆ” พี่ใหญ่ตงตอบอย่างหวาดกลัว
ปั่ก!
เสียงกำปั้นของเย่เชียนดังขึ้นจากหมัดที่เสยปลายคางของชายที่ลูกน้องเขาเรียกว่าพี่ใหญ่ตง
“นี่ผมดูเหมือนเป็นคนตลกขนาดนั้นเลยเหรอพี่ ? วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดีซะด้วยสิ พวกพี่นี่โชคไม่ดีเอาเสียเลยให้ตาย… ตั้งแต่ที่พวกพี่คิดจะมารุมผม ผมก็ไม่คิดที่จะปล่อยพวกพี่ไปง่าย ๆ อยู่แล้ว”
เย่เชียนค้นตัวของพี่ใหญ่ตงและหยิบกุญแจรถออกมาจากกระเป๋าของเขาก่อนจะพูดว่า
“เอาล่ะ… ผมจะเอารถพี่ไปและขายมันทิ้งซะ! ถ้าพี่มีปัญญาก็ลองตามหาผมดูก็แล้วกัน เข้าใจตามนี้นะ ?”