ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 901 โกรธเกรี้ยว
ตอนที่ 901 โกรธเกรี้ยว
หลังจากปรึกษาหารือกับชางกวนหยานยู่แล้วการกระทำของเย่เชียนในวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการทำตามแผนที่พวกเขาวางเอาไว้และมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้การเจรจาดำเนินไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามความเย่อหยิ่งของซงหยานเจิ้งนั้นค่อนข้างอยากที่จะรับได้
ท้ายที่สุดแล้วคาสิโนฟอลเลทพาราไดซ์แห่งนี้ก็เป็นอาณาเขตของเย่เชียนใช่มั้ย? ดังนั้นไม่ว่าตระกูลซงในมาเก๊าจะมีอิทธิพลมากถึงขนาดไหนแต่อย่างน้อยๆพวกเขาก็ต้องรู้วิธีแยกแยะระหว่างเจ้าบ้านกับผู้มาเยือนใช่ไหม? ถึงแม้ว่าซงรุ่ยราชาพนันแห่งตระกูลซงจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตามแต่เขาก็ไม่ควรที่จะทำตัวอวดดีในพื้นที่ของคนอื่นไม่ใช่หรือ? ผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลตัวจริงควรจะทำสิ่งต่างๆอย่างสมเกียรติและรู้จักให้เกียรติผู้อื่นจริงๆ ซึ่งถ้าคนเหล่านี้มีทัศนคติแง่ลบก็มีแต่จะนำภัยพิบัติมาสู่ตัวเขาเองเท่านั้น
สิ่งที่เย่เชียนไม่ชอบมากที่สุดคือซงหยานเจิ้งที่คิดว่าเขาเป็นจักรพรรดิแห่งมาเก๊าจริงๆและทุกคนก็ต้องก้มหัวให้เขา ยิ่งไปกว่านั้นซงหยานเจิ้งผู้นี้ก็กำลังคุกคามเย่เชียนอยู่ซึ่งเป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่ชอบเพราะยิ่งใครข่มขู่เขามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อมองไปที่ซงหยานเจิ้งแล้วเย่เชียนก็ถอนหายใจและพูดว่า “ผมรู้ว่าตระกูลซงของคุณมีอำนาจมากในมาเก๊าแต่มาเก๊าแห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่ของคุณเช่นกัน..คุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน..คุณกำลังยืนอยู่บนสนามหญ้าของผมและถ้าผมต้องการจะฆ่าคุณผมก็สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้..จากนั้นผมก็แค่ปิดคาสิโนแห่งนี้และย้ายไปที่อื่นมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก!”
ซงหยานเจิ้งก็ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เพราะจากเริ่มจนถึงปัจจุบันเขาไม่รู้เลยว่าเย่เชียนเป็นคนอย่างไรและสำหรับเขาเย่เชียนดูเหมือนคนโง่จริงๆและมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดาอะไรเมื่อคนงี่เง่าแบบนี้ทำสิ่งต่างๆ ซึ่งถ้าหากเย่เชียนคิดแบบนั้นเย่เชียนก็คงจะลงมือทำจริงๆและก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นซงหยานเจิ้งจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ประหม่าว่า “คุยกับคนอย่างคุณมันเปลืองน้ำลายจริงๆ”
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าคำเหล่านี้ขาดความมั่นใจเพราะถ้าหากเย่เชียนทำอย่างนั้นจริงๆเขาจะต้องตายอย่างแน่นอนใช่มั้ย? ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่ายังไม่สายเกินไปที่จะแก้แค้นในอีกสิบปีข้างหน้า
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “ในเมื่อพวกคุณอยากออกไปก็เชิญแต่ผมไม่ไปส่งหรอกนะ..อีกอย่างผมไม่รับประกันความปลอดภัยของนายน้อยชางกวนหรอกเพราะผมได้ยินมาว่าโสเภณีชายเป็นที่นิยมมากในประเทศไทยเพราะงั้นผมจะให้เขาใช้หนี้ ด้วยการทำงานนั้น..เดี๋ยวผมจะส่งเขาไปที่ประเทศไทยในอีกไม่กี่วันนี้”
“เย่เชียนฉันขอเตือนแกเลยนะว่าถ้าแกกล้าทำอะไรลูกชายของฉันแกจะต้องเสียใจ..ถ้าลูกชายของฉันเป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บล่ะก็แกตายแน่”
“ก็เอาสิเดี๋ยวผมจะรอ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ออกไปซะ!”
ชางกวนอู๋เต๋อและซงหยานเจิ้งก็ถอนหายใจด้วยความโกรธและทั้งสองก็เดินออกไปทันที วันนี้พวกเขาโกรธเกรี้ยวอย่างมากเพราะสำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลระดับต้นๆของประเทศจีนและมีอยู่ไม่กี่คนที่ทำให้พวกเขาโกรธได้ แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกโกรธเกรี้ยวและรู้สึกว่าอิทธิพลของพวกเขาช่างไร้ประโยชน์จริงๆ โดยเฉพาะซงหยานเจิ้งซึ่งอยู่ในมาเก๊า บนอาณาเขตของเขาเองยิ่งไปกว่านั้นในตอนแรกที่ชางกวนอู๋เต๋อมาหาเขาแล้วบอกว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างไรก็ตามใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้จนเขาต้องเสียหน้าในเมืองของเขาแบบนี้
เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินออกจากสำนักงานไปใบหน้าของตู้ซุนก็ซีดเล็กน้อยและพูดอย่างประหม่าว่า “คุณเย่ครับวันนี้เราทำเกินไปหรือเปล่า..ตระกูลซงในปัจจุบันมีอำนาจมากและไม่ว่าจะพวกใต้ดินหรือเจ้าหน้าที่ต่างก็หวั่นเกรงเขากันทั้งนั้น..ผมเกรงว่าคาสิโนของเราจะเดือดร้อน..ถ้าเขาส่งคนมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาแล้วใครจะกล้ามาเล่นการพนันที่คาสิโนของเราในอนาคตล่ะครับ”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วและท่าทางของเขาก็ดูไม่น่าพอใจอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโกรธและพูดว่า “ตู้ซุนคุณเป็นคนของคลูลอฟส์อังเดรและเป็นหุ้ส่วนครึ่งหนึ่งของคาสิโนแต่ผมนั้นเป็นคนนอก..แต่ผมก็ไม่คิดที่จะยอมให้พวกนั้นมาข่มเหงและเอาเปรียบเราแบบนี้หรอก..ที่นี่คือที่ของเราและไม่ว่าตระกูลซงในมาเก๊าจะทรงอิทธิพลแค่ไหนแต่ผมก็จะไม่ยอมให้เขามาข่มเหงเราได้หรอก..คุณต้องชัดเจนเพราะคุณเป็นถึงตัวแทนของตระกูลมาเฟียคลูลอฟส์คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย”
“คาสิโนของเรามีบอดี้การ์ดอยู่กี่คน?” เย่เชียนหันไปมองตู้ซุนและถาม
“ไม่นับพนักงานประจำคาสิโนก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและบอดี้การ์ดประมาณห้าสิบคน..แต่ยังมีคนของคุณเปี๋ยอีกสองสามร้อยคนแต่ว่าอำนาจของตระกูลซงในมาเก๊านั้นยิ่งใหญ่เกินไปผมจึงคิดว่าคุณไป๋ไม่น่าจะกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน” ตู้ซุนพูด “หากเราพึ่งพาคนเพียงห้าสิบคนของเราเมื่อมีคนสร้างปัญหาที่นี่เราจะไม่มีทางควบคุมมันได้เลย”
“คุณเปี๋ยอย่างงั้นเหรอ..คุณช่วยไปบอกเขาว่าชีวิตคือการพนันและถามเขาว่าเขาต้องการที่จะเป็นใหญ่ในเมืองนี้หรือเปล่า..เขาจะยอมจำนนตลอดไปอย่างงั้นเหรอ..ถ้าเขาเต็มใจจะช่วยล่ะก็ในอนาคตเขาจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน..แต่ถ้าเขาปฏิเสธก็บอกเขาไปว่าในอนาคตไม่เพียงแต่ในมาเก๊าแต่ยังรวมไปถึงประเทศจีนทั้งประเทศและแม้แต่โลกทั้งโลกเขาก็จะไม่สามารถอยู่ได้!..ถ้าเขาไม่เชื่อก็ลองดู” เย่เชียนพูด
“ได้ครับ” ตู้ซุนตอบอย่างเร่งรีบ
“เขาถือได้ว่าเป็นงูเจ้าที่ของที่นี่และเขาค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับกิจการของมาเก๊าเพราะงั้นถ้าเขาจัดการสิ่งต่างๆมันจะค่อนข้างง่ายกว่า..อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถหวังเพิ่งพวกเขาทั้งหมดได้..พี่เฟิงหลานโทรไปหาแจ็คและบอกให้เขาส่งคนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดมาที่นี่ด่วน..ผมเชื่อว่ามันไม่มีใครกล้ากระตุกหนวดเสือหรอก” เย่เชียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“ผมต้องอยู่เฝ้าระวังข้างๆบอส” เฟิงหลันพูด “บอสคิดว่าพวกเขาจะทำยังไงต่อ?”
มุมปากของเย่เชียนก็ฉีกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ผมเชื่อว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำอะไรในตอนนี้เพราะชางกวนหยานยู่ยังคงอยู่ในกำมือของเรา..ถ้าผมเดาไม่ผิดพวกเขาน่าจะลงมือคืนนี้..เฟิงหลานไปเตรียมตัวและทำตามแผนเดิมของเราซะ”
ตู้ซุนก็เหลือบมองทั้งสองคนว่างเปล่าและพูดว่า “แผนอะไรหรือครับ?”
เย่เชียนก็หันไปมองเขาแล้วพูดว่า “อย่ากังวลและทำตามที่เฟิงหลานบอกเถอะ..อย่าคิดว่าผมไม่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนคนของผมล่ะ..ผมแค่กลัวว่าในกรณีที่เราทำแบบนี้แล้วถ้ามีอะไรผิดพลาดมันจะไม่สาวไปถึงคุณ”
ตู้ซุนก็พยักหน้าและพูดว่า “ครับคุณเย่ไม่ต้องห่วงว่าผมจะพูดมากเกินไป..ถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกผมได้เลย”
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาล่ะผมขอไปทำธุระก่อน..พวกตระกูลซงคงยังไม่กล้าทำอะไรอย่างแน่นอนเพราะงั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไร..แต่คุณยังต้องระวังให้ดี”
เฟิงหลานก็หัวเราะและพูดว่า “ฉันคิดว่าบอสควรไปบอกน้องสะใภ้ก่อนเพราะถ้าพวกเธอไม่รู้อะไรเลยเธออาจเป็นอันตรายได้..อย่างน้อยๆบอกให้พวกเธอเตรียมตัวล่วงหน้าเอาไว้”
“พี่เฟิงหลานอย่าพึ่งตกใจไป..พวกน้องสะใภ้ของพี่ทุกคนเป็นคนฉลาดเพราะงั้นอย่างกังวลไปพวกเธอไม่เป็นอะไรหรอก” เย่เชียนพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ข้าเชื่อเช่นนั้น” เฟิงหลานกล่าว
“เอาล่ะผมขอตัวก่อน..ฝากจัดการสิ่งต่างๆด้วย” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็เดินออกไปและปิดประตู แน่นอนว่าเฟิงหลานกับตู้ซุนจะต้องคุยกันเรื่องการเตรียมตัวอย่างแน่นอน
หลังจากออกจากคาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์ไปแล้วชางกวนอู๋เต๋อกับซงหยานเจิ้งก็ขึ้นรถและเขาก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “ออกรถ!”
“คุณซงผมต้องขอโทษจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะผมแล้วคุณคงไม่ต้องเสียหน้ามากถึงขนาดนี้..ไอ้หมอนั่นเย่เชียนมันเป็นใครกันแน่เพราะแม้แต่คุณซงมันยังไม่เห็นหัวคุณเลย..มันอวดดีเกินไป” ชางกวนอู๋เต๋อพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณชางมันไม่ใช่ความผิดของคุณ..เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเพราะผมรับปากกับคุณเอาไว้แล้วเพราะงั้นเดี๋ยวผมจัดการให้เอง..คาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์มันจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนกันเชียวที่มาเก๊าแห่งนี้..พวกมันคงจะยังไม่เข้าใจสินะว่าใครเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในมาเก๊า!”
“คุณซงครับเย่เชียนคนนั้นเป็นใครกันเหรอ?” ชางกวนอู๋เต๋าพูด “ผมไม่เคยได้ยินชื่อเย่เชียนในมาเก๊าเลย”
“ผมเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกัน..เจ้าของคาสิโนแห่งนี้ตอนแรกเขาคือฮัวซงเจี๋ยแห่งไหหลำและพวกนี้ก็เข้ามายึดครองในภายหลัง..ซึ่งหลังจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมันก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นฟอลเลนพาราไดซ์และธุรกิจก็เฟื่องฟูอย่างมาก..ตระกูลซงของเราอยู่ในแวดวงการพนันมาโดยตลอดและคาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์แห่งนี้ก็แย่งลูกค้าของเราไปมากมายอีกด้วย” ซง หยานเจิ้งพูด “ยังไงก็ตามมันก็ถูกบริหารจัดการโดยตู้ซุนมาโดยตลอดและผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อเย่เชียนมาก่อนเลย..ส่วนเบื้องหลังของคาสิโนแห่งนี้ก็มีมาเฟียรัสเซียคอยสนับสนุนอยู่เพราะงั้นเย่เชียนน่าจะมาจากที่นั่น”
“มาเฟียรัสเซียงั้นเหรอ!..หืม..ที่นี่คือประเทศจีนเพราะงั้นพวกรัสเซียจะมาทำอะไรได้..อีกอย่างผมคิดว่าเย่เชียนไม่ได้มาจากพวกรัสเซียแต่เป็นประเทศจีนนี่แหละ” ชางกวนอู๋เต๋อพูดต่อ “มาเฟียรัสเซียนั้นโหดเหี้ยมก็จริงแต่เมื่อพวกมันมาเหยียบประเทศจีนพวกมันก็แค่แก๊งอันธพาลธรรมดาๆสำหรับพวกเรา..มังกรที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้และไม่ต้องพูดถึงคุณซงที่เป็นมังกรแห่งมาเก๊าเลย”
ซงหยานเจิ้งก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “ถูกแล้วพวกมาเฟียรัสเซียทำอะไรไม่ได้หรอกเพราะที่นี่คือประเทศจีน..ไม่ต้องกังวลไปเพราะมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในตอนนี้..อีกอย่างปัญหาของคุณก็เป็นเหมือนปัญหาของตระกูลซงของผมด้วยและผมจะไม่ปล่อยพวกมันไปอย่างแน่นอน”
.
.