ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 903 ทำโทษ
ตอนที่ 903 ทำโทษ
เหตุการณ์ที่กะทันหันนี้ไม่เพียงแต่ทำให้นักพนันตกใจแต่เย่เชียนเองก็ตกตะลึงด้วยเพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าเฟิงหลานจะทำในตอนนี้
เมื่อหลี่เหว่ยเห็นว่าเป็นเฟิงหลานที่โจมตีเขาหลี่เหว่ยก็ถึงกับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พี่เฟิงหลานบ้าไปแล้วงั้นเหรอ..นี่พี่ทำอะไรอยู่เนี่ย..พี่ทำเตะผมทำไม?”
เฟิงหลานก็ยิ้มอย่างขอโทษให้เหล่านักพนันและพูดว่า “ผมต้องขอโทษด้วยครับ..พวกคุณเชิญเล่นต่อให้ตามสบาย..นี่แค่เรื่องส่วนตัวไม่มีอะไร” จากนั้นเขาก็หันไปมองหลี่เหว่ยแล้วพูดว่า “ฉันเตือนนายไปกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ไหนอีก..นายอยากแพร่เชื้อเอดส์ให้พวกเธองั้นเหรอ?”
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมาเหล่านักพนันก็ถึงกับสะดุ้งในทันที ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าการแพร่เชื้อเอดส์นั้นเกิดจากเลือดและการมีเพศสัมพันธ์แต่ก็ยังกลัวมากอยู่ดีจากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งหนีกันไปราวกับกลัวที่จะติดโรคระบาด ซึ่งผู้หญิงที่ถูกหลี่เหว่ยกอดก่อนหน้านี้ก็กรีดร้องด้วยความตกใจและเป็นลมไปในทันที
หลี่เหว่ยห็มองไปที่เฟิงหลานด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “นี่พี่กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย..อย่าทำให้ผมอับอายสิ..หรือพี่อิจฉาผมที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงหลายๆคนเหมือนผม?”
“ฉันไม่อยากให้นายทำร้ายจิตใจของผู้คนหญิงไหนอีก” เฟิงหลานพูด “กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้” หลังจากนั้นเฟิงหลานก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อคว้าเสื้อหลี่เหว่ยและเดินขึ้นไปชั้นบนและใบหน้าของหลี่เหว่ยก็ดูมึนงงอย่างมากและเขาก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฟิงหลานในวันนี้
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วส่ายหัวพร้อมกับเดินตามไป
เมื่อพวกเขาไปถึงสำนักงานหลี่เหว่ยก็หลุดพ้นจากเฟิงหลานและหลี่เหว่ยก็พูดว่า “นี่มันอะไรกันเนี่ย..พี่จะทำอะไรกันแน่?”
“ฉันบอกให้พี่เฟิงหลานทำแบบนี้เอง” เย่เชียนพูด
หลี่เหว่ยก็ถึงกับผงะไปเล็กน้อยและพูดอย่างงุนงงว่า “บอส..มันเกิดอะไรขึ้น?”
“หลี่เหว่ยตอนนี้นายไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปแล้วแต่นายกลับทำตัวเหมือนเด็กๆนายอยากจะทำแบบนี้ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?..ซือจื้อนั้นเธอยอดเยี่ยมมากเพราะงั้นนายควรจะซื่อสัตย์กับเธอได้แล้ว” เย่เชียนพูดต่อ “นอกจากนี้ฉันเชื่อซือจื้อไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลแบบนั้นและเธอก็ยังใจดีมากด้วยเพราะงั้นบางทีเมื่อนายอยากที่จะมีแฟนมากกว่าหนึ่งคนในอนาคตเธอก็คงจะไม่คัดค้าน”
“ใช่!..ดูนายตอนนี้สิ..พวกเราโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วนะมันไม่ใช่ชีวิตเหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะงั้นมันหมดเวลาทำตัวไร้สาระแล้ว..การมีภรรยานั้นมันสบายแค่ไหนนายรู้หรือเปล่า?..เธอไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่หวังจะเอาเงินจากนายอย่างเดียว..ฉันถามหน่อยนายไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างเหรอไง?” เฟิงหลานพูดอย่างเห็นด้วย
“บอสไม่รู้หรอกว่าซือจื้อน่ะไม่ได้ดีอย่างที่บอสคิดเลย..เธอโหดร้ายมากเพราะงั้นถ้าบอสให้ผมอยู่กับเธอล่ะก็เธออาจจะฆ่าผมตอนไหนก็ได้” หลี่เหว่ยบ่น
“นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับนายฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอก” เย่เชียนพูดต่อ “ฉันสัญญากับซือจื้อเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะส่งตัวนายให้กับเธอ..ส่วนสิ่งที่นายอยากทำในอนาคตมันไม่ใช่เรื่องของฉันแต่ฉันจะให้คำแนะนำแก่นายและเตือนนายว่าถ้านายยังทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆนายจะไม่เหลืออะไรเลย..นายต้องการแบบนั้นเหรอ?”
หลี่เหว่ยทำหน้ามุ่ยและพูดว่า “บอส..ตอนนี้มันยังมีอีกหลายอย่างที่รอให้ผมไปจัดการและยิ่งไปกว่านั้นกองทัพเรือไอร่อนบลัดของเราก็ยังไม่เรียบร้อยดีเพราะงั้นถ้าผมอยู่กับผู้หญิงคนนั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้เลย..นอกจากนี้บอสก็น่าจะรู้ว่าเธอมาจากCIAของอเมริกาเพราะงั้นถ้าเธอรู้เรื่องกองทัพเรือของเรามันคงจะไม่ใช่เรื่องดี..บางทีสักวันหนึ่งเธออาจจะทำให้กองทัพเรือสหรัฐมาถล่มพวกเรา”
“ทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี..แล้วทำไมนายถึงไม่สยบเธอด้วยตัวเองล่ะแล้วพวกเราก็ใช้เธอเป็นสายในCIAให้พวกเราแบบนั้นดีมั้ย?” เย่เชียนแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “นอกจากนี้กองทัพเรือไอร่อนบลัดก็ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงแล้วอย่ามาโกหกฉันเลย”
หลี่เหว่ยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเพราะเมื่อเห็นเย่เชียนที่แสยะยิ้มแบบนี้แล้วเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป
“เอาล่ะเรื่องนี้ถือว่าฉันพูดไปแล้ว..เราไปเตรียมตัวดูการแสดงกันดีกว่า” เย่เชียนพูด “ว่าไงพี่เฟิงหลาน..แจ็คว่าไงบ้าง?”
“เรียบร้อยแล้ว..พี่น้องจากบริษัทไอร่อนบลัดจะมาถึงมาเก๊าในพรุ่งนี้เช้า” เฟิงหลานพูดต่อ “สมาชิกทั้งหมดถูกคัดเลือกโดยแจ็คซึ่งพวกเขาเป็นยอดฝีมือทั้งหมด”
“เยี่ยมไปเลย” เย่เชียนพูด “เมื่อเรื่องนี้จบลงหลี่เหว่ยนายต้องกลับไปที่ปักกิ่งกับฉันเพราะมันยังมีเรื่องรอให้เราจัดการอยู่..ส่วนพี่เฟิงหลานก็อยู่ที่นี่เพื่อรับมือกับตระกูลซงเพราะพวกนั้นยังมีอิทธิพลมากในมาเก๊า..เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ก็เลี่ยงไปก่อนและรอผมมาสมทบอีกครั้งหลังจากจัดการเรื่องที่ปักกิ่งเสร็จ”
“ได้เลยบอสไม่ต้องห่วง” เฟิงหลานพูด
เย่เชียนถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “เฮ้อฉันเป็นห่วงชิงเฟิงจริงๆ…ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นยังไงบ้าง” หลี่เหว่ยและเฟิงหลานก็อดไม่ได้ที่จะผงะและทั้งคู่ก็ตบไหล่ของเย่เชียนเบาๆเพื่อส่งสัญญาณให้เขาสบายใจ คนที่ไม่มีประสบการณ์ผ่านชีวิตและความตายนั้นจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ระหว่างพวกเขาเลย ซึ่งมิตรภาพที่แท้จริงนี้คือเหตุผลที่ทำไมเขี้ยวหมาป่าถึงได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
คาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงแต่หลังจากเที่ยงคืนนั้นก็จะมีลูกค้าและนักพนันน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดและทุกอย่างก็ไม่ต่างจากตอนปกติ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็รู้ดีว่าคืนนี้เป็นคืนที่สำคัญมาก
ชางกวนหยานยู่ในอตนนี้ก็ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินอีกครั้งแต่ทั้งหมดก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนและด้านนอกของประตูก็มีคนของเปี๋ยเจ้อเจ้ามือปล่อยเงินกู้ที่คอยเฝ้าระวัง ซึ่งตู้ซุนก็ไม่ได้บอกรายละเอียดพวกเขาเพียงแค่บอกว่ามีคนที่สำคัญมากถูกขังอยู่ที่นี่และบอกให้เปี๋ยเจ้อจัดการคนมาเฝ้าระวังที่นี่เอาไว้อย่างแน่นหนา
เมื่อวานเปี๋ยเจ้อได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเย่เชียนดังนั้นเขาจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเลและหวังว่าเรื่องนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีและหวังว่าสิ่งที่ผิดที่เขาทำเมื่อวานนี้จะสามารถลบล้างไปได้ แน่นอนว่าตู้ซุนไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการต่อสู้กับตระกูลซงและอย่างน้อยๆก็ตอนนี้จนกว่าสิ่งต่างๆจะเกิดขึ้นในคืนนี้
ในมุมมืดๆของคาสิโนเย่เชียน,หลี่เหว่ยและเฟิงหลานก็กำลังรออยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆและมันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ซึ่งเย่เชียนเชื่อว่าอีกไม่นานคนของซงหยานเจิ้งจะมาที่นี่อย่างแน่นอน
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปจนประมาณตีสองพวกเขาก็เห็นร่างห้าถึงร่างแอบลอบเข้าไปที่ชั้นใต้ดินและหนึ่งในนั้นก็คือชางกวนอู๋เต๋อ เดิมทีซงหยานเจิ้งต้องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจัดการเรื่องนี้แต่ท้ายที่สุดชางกวนหยานยู่ก็เป็นลูกชายของชางกวนอู๋เต๋อดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยโล่งใจนักและขอไปหาลูกชายด้วยตัวเอง
อีกห้าคนที่เหลือเป็นยอดฝีมือที่รับใช้ตระกูลซงมานานและพวกเขาทั้งหมดก็เคยสังกัดกองกำลังพิเศษของกองทัพแห่งชาติและทักษะของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ก็ติดตามซงหยานเจิ้งมานานและถือได้ว่าพวกเขาเป็นทหารที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย ดังนั้นเรื่องแบบนี้จึงเล็กน้อยสำหรับพวกเขาและพวกเขาก็ไม่ได้เคร่งเครียดกับมันเลย
“บอส..พวกนั้นมันมืออาชีพเลยนี่หน่า” หลี่เหว่ยเอนตัวเข้าไปข้างๆหูของเย่เชียนและพูดเบาๆ “แค่เห็นก็คันไม้คันมือแล้ว”
“อย่าเพิ่งพูด!” เย่เชียนพูด “อย่าเพิ่งเลยเพราะโอกาสหน้ายังมี..คืนนี้ดูการแสดงของพวกเขาไปก่อน”
หลี่เหว่ยก็ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยและดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่คนเหล่านั้นและดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้ ถ้าเย่เชียนไม่อยู่ที่นี่เขาคงจะไม่สนใจอะไรเลยและรีบพุ่งไปหาคนเหล่านั้นทันที “อย่าประมาทเพราะทักษะการต่อสู้ของชางกวนอู๋เต๋อไม่ได้อ่อนแอ..จำเอาไว้ว่านายต้องระวังคนที่มาจากตระกูลศิลปะการต่อสู้จีนโบราณเอาไว้..ไม่งั้นนายเองที่เป็นฝ่ายตาย” เย่เชียนจ้องไปที่หลี่เหว่ยและพูด
หลี่เหว่ยก็แลบลิ้นแต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาเองก็รู้ลิมิตความสามารถของตัวเองเช่นกัน ซึ่งเขาก็สังเกตเห็นได้ว่าทักษะของชางกวนอู๋เต๋อนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนและถ้าเขาเผชิญหน้ากันล่ะก็เขาอาจจะแพ้
หลังจากนั้นไม่นานคนที่เฝ้าประตูที่อยู่ข้างนอกก็ร้องคร่ำครวญและไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งพวกเขาเป็นเพียงพวกอันธพาลและมาเฟียธรรมดาๆและถึงแม้ว่าจะไม่มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อย่างชางกวนอู๋เต๋อก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอดีตหน่วยรบพิเศษเหล่านี้เลย
ชางกวนหยานยู่นั้นถูกขังอยู่ในห้องลับและมีคนของเปี๋ยเจ้อเฝ้าอยู่สองคน “ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่ที่ลูกชายของฉันถูกขังอยู่” ชางกวนอู๋เต๋อพูด “ไปจัดการพวกมันให้หมด..อย่าทำให้พวกมันไหวตัวทันล่ะไม่งั้นมันจะไปดึงดูดผู้คนและสิ่งต่างๆจะยากขึ้น”
“อย่ากังวลไปครับคุณชางกวนตอนที่เราอยู่ในกองทัพเราปฏิบัติภารกิจเด็ดหัวมาหลายครั้งและนี่มันก็แค่พวกนักเลงธรรมดาๆ” หนึ่งในนั้นพูด เมื่อเสียงนั้นจบลงเขาก็ชี้ไปที่ทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาและทั้งสองพยักหน้าจากนั้นก็ย่องเข้าไป เมื่อพวกเขาไปถึงด้านข้างของนักเลงทั้งสองทันใดนั้นหน่วยรบพิเศษก็ใช้มือบิดคอของคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยมจนไม่มีโอกาสได้ตอบสนองใดๆ
จากนั้นก็หากุญแจจากร่างของนักเลงทั้งสองและเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วเห็นชางกวนหยานยู่ถูกขังอยู่ในนั้น เมื่อเห็นเช่นนั้นชางกวนอู๋เต๋อก็รู้สึกตื่นเต้นทันที “พวกฟอลเลนพาราไดซ์นี่ไร้สมองเกินไปหรือเปล่า?..พวกมันเอานักเลงกระจอกๆสองคนมาเฝ้านายน้อยเนี่ยนะ?”
ชางกวนอู๋เต๋อก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “หึ..เย่เชียนแกเมื่อตอนกลางวันอวดดีถึงขนาดนั้นแต่กลับโง่กว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก” ชางกวนอู๋เต๋อรีบวิ่งไปเพื่อแก้มัดให้ชางกวนหยานยู่
.
.