ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 906 ปู่กับหลาน (2)
ตอนที่ 906 ปู่กับหลาน (2)
ชางกวนซินหยางนั้นแทบไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชางกวนเจ้อเลยเพราะในสายตาของเขาชางกวนเจ้อเป็นเพียงแค่ลูกหลานคนหนึ่งของตระกูลเท่านั้นและถ้าหากยังมีประโยชน์ต่อตระกูลอยู่เขาก็จะปล่อยให้ชางกวนเจ้อใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ชางกวนเจ้อไม่เพียงแต่จะไม่ทำประโยชน์ให้แก่ตระกูลแล้วแต่ยังคิดที่จะทำลายตระกูลอีกด้วย ซึ่งทำให้ชางกวนซินหยางโกรธเกรี้ยวอย่างมาก
ชางกวนซินหยางนั้นยังรู้ชัดเจนว่าชางกวนเจ้อนั้นเกลียดตัวเองดังนั้นเขาจึงมั่นใจมากว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกิดจากชางกวนเจ้อและไม่ว่าชางกวนเจ้อจะพูดอะไรเขาก็จะไม่เชื่อ ซึ่งในวันนี้เขาโทรไปหาชางกวนเจ้อและบอกให้มาที่นี่นั้นไม่ใช่เพื่ออยากฟังคำอธิบายแต่เป็นการฆ่าทิ้งนั่นเอง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ชางกวนซินหยางสับสนอย่างมากเพราะหลังจากเขาพูดคำสั่งของเขาออกไปแล้วแต่เหล่าลูกศิษย์ก็ยังไม่ตอบสนองใดๆใจทำให้เขาตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปและแน่นอนว่าชางกวนเจ้อก็หัวเราะอย่างไร้ความปรานีและพูดว่า “ตาแก่เอ๊นแกอยากจะฆ่าฉันงั้นเหรอ?..คนพวกนี้เป็นคนของฉันเพราะงั้นพวกเขาจะไม่ฟังแกหรอก”
ชางกวนซินหยางก็ถึงกับตกใจและหันไปมองลูกศิษย์เหล่านั้นและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “พวกแกกำลังพยายามจะกบฏงั้นเหรอ?..อย่าลืมว่าพวกแกทั้งหมดคือลูกศิษย์ของตระกูลชางกวนและฉันก็ไม่เคยปฏิบัติกับพวกแกอย่างเลวร้ายเลยไม่ใช่เหรอ?”
“อะไรกันคนอย่างแกต้องการความภักดีอย่างงั้นเหรอ..น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความภักดีและเหตุผลที่แกทำดีต่อพวกเขาพวกว่าแกต้องการใช้ประโยชน์จากพวกเขาไงเพราะงั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องมีผู้นำที่เหมาะสมและนั่นคือฉันยังไงล่ะ” ชางกวนเจ้อพูดอย่างภาคภูมิใจ “พาตาแก่นี่ไปขังซะ..ฉันจะค่อยๆฆ่าเขาทั้งเป็นอย่างช้าๆเอง”
“พวกแกลองมองย้อนกลับไปว่าใครเป็นคนทำให้พวกแกมีวันนี้..เอาล่ะฉันจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและก็ลืมๆมันไปซะ..ไม่อย่างงั้นก็อย่ามาโทษที่ฉันโหดเหี้ยมก็แล้วกัน” ชางกวนซินหยางตะโกนเสียงดังเพราะคนพวกนี้ถูกเขาฝึกฝนมากับมือและเขารู้ดีถึงความสามารถของแต่ละคน ซึ่งโดยปกติคนเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชางกวนซินหยางเลยแต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ช่องท้องและเลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาจะไม่สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่เลยและถ้าทำเช่นนั้นจริงๆเขาก็น่าจะตายเพราะเสียเลือดมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกศิษย์เหล่านี้หันปืนและหอกมาทางเขา
“บัดซบจริงๆแกป้องกันตัวเองไม่ได้แล้วและจะให้ใครกลัวแกอีก..จับตาแก่ไปขังซะ!” ชางกวนเจ้อตะโกนอย่างฉุนเฉียวและโดยไม่ลังเลใดๆลูกาเหล่านั้นก็รีบเดินไปที่ชางกวนซินหยางและคนเหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกฝนโดยชางกวนซินหยางเอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังจะทรยศผู้เป็นอาจารย์ซึ่งค่อนข้างตลก ยิ่งไปกว่านั้นชางกวนซินหยางยังตระหนักดีถึงความสามารถของพวกเขา ซึ่งในเวลานี้เขาไม่มีกำลังมากพอที่จะรับมือกับพวกเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียวและไม่มีตัวช่วยใดๆอีกต่อไป ซึ่งองครักษ์เหล่าที่รับใช้ตระกูลชางกวนก็ไปมาเก๊ากับชางกวนอู๋เต๋อเพราะเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำอะไรตัวเองในบ้านตระกูลของชางกวนแบบนี้ ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้สถานการณ์นี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
ชางกวนซินหยางก็ต่อสู้กลับในขณะที่ระงับความเจ็บปวดในช่องท้องของเขาและเขาเองก็แก่มากแล้วและเสียเลือดไปมาก ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงน้อยกว่ามากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อเผชิญกับการโจมตีของยอดฝีมือหลายคนเขาก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก “ตาแก่ถ้าอยากตายเร็วขนาดนั้นก็ดิ้นรนต่อไป..ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเลือดของแกจะหมดตัวตอนไหน” ชางกวนเจ้อพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“ชางกวนซินหยางคนนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวและบุกน้ำลุยไฟมานานหลายปีแล้วฉันจะถูกคุกคามโดยพวกแกได้ยังไง..ไอพวกเด็กน้อยแกมาเอาชีวิตของฉันไปสิวะถ้าพวกแกมีความสามารถพอ..ฉันบอกแกได้เลยว่าถึงแม้ว่าฉันจะตายไปแต่สมาชิกในตระกูลจะไม่ปล่อยพวกแกไปอย่างแน่นอน” ชางกวนซินหยางพูด
“จริงเหรอ..แกประเมินค่าคนในตระกูลชางกวนสูงเกินไป..แกคิดว่าพวกเขาจะจริงใจกับแกเหรอ..หืม..แกคิดว่าคนอื่นๆจะล้างแค้นแทนแกงั้นเหรอ..แต่แก่ผู้เป็นอมตะมันน่าตลกดีนะ” ชางกวนเจ้อพูดด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยันและคำเมื่อพูดนั้นจบลงร่างกายของซ่างกวนเจ้อก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน ต่อยหน้าอกของซ่างกวนซินหยางอย่างดุเดือด ทันใดนั้น ร่างของซ่างกวนซินหยางก็บินออกไปราวกับว่าวหักและตกลงมาอย่างหนักบนพื้น
ชางกวนเจ้อนั้นไม่ได้มีสถานะที่ดีเท่ากับชางกวนหยานยู่เลยแม้แต่น้อยเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้เก็บความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลชางกวนเอาไว้ในใจและใช้มันเป็นแรงผลักดันในการต่อสู้ของเขา ซึ่งแน่นอนว่าทักษะการต่อสู้ของเขานั้นสูงกว่าของชางกวนหยานยู่มาก ด้วยการโจมตีด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขานี้ไม่ใช่สิ่งที่ชางกวนซินหยางผู้ได้รับบาดเจ็บจะสามารถต้านทานได้เลยจนซี่โครงสามซี่บนหน้าอกของเขาหักทันที จากนั้นชางกวนซินหยางก็กระอักเลือดออกมาและบาดแผลที่หน้าท้องของเขาก็ถูกฉีกขาดออกจากกันระหว่างการต่อสู้ที่รุนแรงและเลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด เนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป ใบหน้าของซ่างกวนซินหยางซีดอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นชางกวนซินหยางก็มองไปที่ชางกวนเจ้ออย่างโกรธเกรี้ยวและพูดว่า “ไอ้หลานอกตัญญู..แกไม่กลัวฟ้าผ่าตายเลยรึไง..แกกล้าฆ่าแม้แต่ปู่แท้ๆของแก”
“ปู่งั้นเหรอ..ฮ่าๆ” ชางกวนเจ้อหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “แกเคยมองฉันว่าเป็นหลานชายเมื่อไหร่กัน..ทำไมแกถึงมองว่าฉันเป็นสมาชิกของตระกูลชางกวน?..ตั้งแต่แม่ของฉันตายไปชางกวนอู๋เต็อก็พายัยจิ้งจอกนั่นมาที่บ้าน..หลังจากนั้นแกปฏิบัติต่อฉันเหมือนหมาตั้งแต่หยานยู่เกิดมาและกีดกันฉันทุกวิถีทางฉันไม่ได้เป็นคนรับใช้สักหน่อย..หลังจากที่แกส่งฉันไปต่างประเทศแกเคยสนับสนุนฉันมั้ย?..แกเคยโทรหาฉันไหมแกส่งเงินให้ฉันไหม..ถ้าฉันไม่ได้ไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองล่ะก็ฉันคงอดตายไปแล้ว..เพราะงั้นแกเคยคิดว่าฉันเป็นสมาชิกของตระกูลชางกวนจริงๆงั้นเหรอ?..หลายปีที่ผ่านมาฉันได้ระงับความเกลียดชังเหล่านี้ไว้ในใจและสาบานว่าไม่ช้าก็เร็วฉันจะต้องเอาคืนร้อยเท่าพันเท่าและในที่สุดแกก็ได้รับจุดจบที่แกสมควรได้รับสักที..คนแรกคือแกจากนั้นชางกวนอู๋เต๋อจากนั้นก็สองแม่ลูกนั่น..ฉันอยากจะทรมานพวกแกทีละคนเพื่อลบล้างความอัปยศของฉัน!”
“แกคิดว่าแกทำได้งั้นเหรอ..ถ้าอู๋เต๋อกลับมาแกตายแน่” ชางกวนซินหยางพูด
“เขาจะกลับมาได้งั้นเหรอฉันเกรงว่าเขาจะไม่กลับมาและต่อให้เขาจะกลับมาฉันก็เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้ว..ทันทีที่เขากลับมาฉันสัญญาว่าพ่อลูกทั้งสองจะลงหลุมตามแกไป” ชางกวนเจ้อยิ้มอย่างชั่วร้าย
“แกทำไปเพื่ออะไรนี่เป็นการแก้แค้นพวกเรางั้นเหรอ..ไม่ว่าเราจะทำอะไรแต่พวกเราก็คือครอบครัว..แกไม่กลัวสวรรค์ลงโทษเลยงั้นเหรอ?” ชางกวนซินหยางพูด
“อย่ามาพูดแบบนี้กับฉัน..ครอบครัวงั้นเหรอ?..สวรรค์ลงโทษงั้นเหรอ?” ชางกวนเจ้อพูด “ฉันทำสิ่งที่ถูกต้องและฉันก็แค่เอาสิ่งที่ฉันสมควรได้รับและศักดิ์ศรีของฉันกลับคืนมาเท่านั้นเอง..เอาล่ะตาแก่ถ้าแกยอมโอนหุ้น40%ของบริษัททะเลสี่ทิศมาให้ฉันล่ะก็ฉันจะไว้ชิวิตแก..ไม่งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เห็นแก่ความเป็นปู่กับหลานก็แล้วกัน”
“ฮ่าๆที่แท้แกก็ต้องการฮุบบริษัทเอาไว้นี่เอง..อย่าโง่ไปหน่อยเลยถึงแม้ว่าฉันจะตายไปฉันก็จะไม่มีวันให้หุ้นส่วนนั้นกับแก!” ชางกวนซินหยางพูด
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่..ถึงแม้ว่าแกจะรักษาหุ้นในมือเอาไว้ได้แต่มันก็ไร้ประโยชน์เพราะเมื่อฉันจัดการชางกวนอู๋เต๋อได้แล้วจากนั้นหุ้นที่เหลือก็จะเป็นของฉัน..ซึ่งมันมากกว่าที่แกถืออยู่เพราะงั้นเหล่าผู้ถือหุ้นจะไม่กล้าขัดขวางฉันและฉันจะได้ครอบครองบริษัททะเลสี่ทิศอย่างสมบูรณ์แบบ..แกไม่รู้เหรอว่าฉันทำอะไรเมื่อตอนที่ฉันอยู่ในประเทศอเมริกา..ฉันไล่ซื้อหุ้นทีละเล็กทีละน้อยจากบริษัทเล็กๆจนได้มันมาเป็นเจ้าของ”
คิ้วของชางกวนซินหยางก็ขมวดเข้าหากันและหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “ฉันตกหลุมพรางของแกแต่อู๋เต๋อจะไม่ตกหลุมพรางแกโดยเด็ดขาด..ตราบใดที่ข่าวจากเมืองหลวงแพร่ออกไปความตายของแกก็จะมาเยือน..แกคิดว่าแกจะทำได้เหรอมันก็เป็นแค่ความฝันโง่ๆ”
“จริงเหรอถ้าอย่างงั้นฉันจะทำให้แกดู” ซางกวนเจ้อพูด “ไม่ต้องกังวลไปฉันจะไม่ฆ่าแกหรอก..ถ้าฉันฆ่าแกเกมจะดำเนินต่อไปยังไงและอีกอย่างส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็ยังไม่เริ่ม..แต่ทักษะการต่อสู้ของแกนั้นสูงมากเพราะงั้นฉันจึงไม่สามารถปล่อยแกเอาไวได้” ขณะที่เขาพูดชางกวนเจ้อก็เดินไปข้างหน้าชางกวนซินหยาง
“แก..แกจะทำอะไร?” ชางกวนซินหยางตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“เพื่อป้องกันสิ่งนั้นไม่ให้เกิดขึ้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการทำลายศิลปะการต่อสู้ของแกซะ” หลังจากที่เขาพูดจบชางกวนเจ้อก็หยิบมีดปอกผลไม้จากบนโต๊ะชึ้นมาแล้วขว้างมันออกไป ทั้งหมดที่ได้ยินคือเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพชของชางกวนซินหยางภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดนั้นช่างน่ากลัวอย่างยิ่งและผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน่าขนลุก ซึ่งในตอนนี้ชางกวนซินหยางได้กลายเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์และเขาไม่สามารถแม้แต่จะยืนขึ้น
“แก… ไอ้สารเลวฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่” เหงื่อก็หยดออกจากหน้าผากของชางกวนซินหยางและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชังอย่างมาก
“สารเลวอย่างงั้นเหรอ?..อย่างน้อยๆฉันก็ไม่ได้ฆ่าแกเพราะงั้นอย่ามาพูดกับฉันแบบนี้..แต่ถ้าแกทำตัวไม่ดีล่ะก็แกได้ตายแน่!” ชางกวนเจ้อพูดอย่างภาคภูมิใจ
.