ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 923 ชางกวนเจ้อถูกจับกุม
ตอนที่ 923 ชางกวนเจ้อถูกจับกุม
เย่เชียนเป็นผู้ถือหุ้น 60% ของบริษัททะเลสี่ทิศและภายใต้อำนาจอันเด็ดขาดนี้ทำให้ชางกวนเจ้อที่มีหุ้นเพียง 40 % ไม่มีทางที่จะต่อต้านการควบคุมของและสิทธิ์ของเย่เชียนได้และแผนการทั้งหมดของเขาก็ไม่ได้ผลจนเป็นเหตุทำให้เขาเกลียดเย่เชียนมากขึ้นไปอีก
เมื่อมองไปที่เย่เชียนอย่างดุเดือดแล้วชางกวนเจ้อก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ฉันวางแผนมานานหลายปีกลับกลายเป็นเครื่องมือของคนอื่น..แต่แกอย่าได้ใจไปล่ะเย่เชียนเพราะฉันจะไม่ปล่อยแกไป”
เย่เชียนก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้เลยว่ามีคนเคยพูดแบบนี้กับฉันตั้งกี่คนแต่ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตรอดอยู่จนถึงตอนนี้..เพราะงั้นนายดูแลตัวเองก่อนเถอะ..จนถึงตอนนี้แล้วนายคิดว่าไม่มีใครรู้สิ่งที่นายทำลงไปจริงๆงั้นเหรอ..ฉันชื่นชมผู้อาวุโสตระกูลชางกวนมาโดยตลอดแต่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมีหลานชายอย่างนายที่กล้าฆ่าทั้งพ่อกับแม่และปู่ของตัวเองได้ลงคอ..คนอย่างนายควรตกนรกขุมที่สิบแปดจริงๆ..ฉันไม่อยากเห็นบริษัททะเลสี่ทิศตกไปอยู่ในมือของคนอย่างนาย..เพราะงั้นนายเตรียมรับผลกรรมที่ทำเอาไว้ได้เลย”
ชางกวนเจ้อก็ถึงกับตกใจและนัยน์ตาของเขาก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าจากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วที่ว่าผู้ชนะคือราชาส่วนผู้แพ้ก็คือโจรเพราะงั้นฉันไม่มีอะไรจะพูด..แต่สิ่งต่างๆมันยังไม่จบหรอกนะเย่เชียนเดี๋ยวแกจะได้รู้เอง” เมื่อพูดจบชางกวนเจ้อก็ลุกขึ้นและกำลังจะเดินจากไปแต่เฟิงหลานหยุดเขาเอาไว้ที่ประตู “แกกำลังพยายามจะทำอะไร?..เย่เชียนแกจะฆ่าฉันงั้นเหรอ?” ชางกวนเจ้อพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยาม
“นายพูดอะไรของนาย..ฉันไม่ใช่นายหรอกนะและฉันก็ไม่อยากฆ่าใคร” เย่เชียนพูด “เพราะนายไม่เพียงแต่ฆ่าครอบครัวของตัวเองแต่ก็ยังสมรู้ร่วมคิดกับสายลับของประเทศญี่ปุ่นด้วย..ด้วยเหตุนี้ฉันจะปล่อยให้นายหนีไปแบบนี้ได้ยังไง..นายควรจะถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างเป็นทางการ”
“เย่เชียนแกนี่ช่างแสดงละครเก่งจริงๆ” ซางกวนเจ้อพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
เย่เชียนก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำเพราะงั้นอย่าได้โกรธเคืองกันเลย”
“เย่เชียนแล้วแกไม่ต้องการหุ้น 40% ของฉันงั้นเหรอ?” ชางกวนเจ้อพูด
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “แน่นอนว่าฉันต้องการมันเพราะอันที่จริงมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่นายจะเก็บหุ้น 40% ของบริษัทบริษัททะเลสี่ทิศเอาไว้..ฉันคิดว่านายก็น่าจะรู้ดีว่าอีกไม่นานนายก็จะถูกจับและตอนนั้นนายก็ไม่สามารถรับเงินปันผลและรายได้จากหุ้นได้ใช่มั้ย?..นอกจากนี้กรรมสิทธิ์ของนายก็จะถูกยกเลิกในที่สุดเพราะงั้นถ้านายฉลาดพอก็ปล่อยหุ้นนั้นไปซะ!”
“แกได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วบวกกับหุ้น 40% ของฉันเพราะงั้นแกก็ไม่ต้องการอะไรแล้วใช่มั้ย?..เพราะงั้นตราบใดที่แกปล่อยฉันไปฉันก็จะโอนทุนให้แกทันที” ชางกวนเจ้อพูด
“เป็นข้อตกลงที่น่าสนใจมาก” เย่เชียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แต่ก็นะถ้าฉันปล่อยนายไปนั่นก็เท่ากับว่าฉันปล่อยสัตว์ประหลาดไปน่ะสิแล้วแบบนี้ฉันจะกล้ามองหน้าบรรพบุรุษตระกูลชางกวนได้ยังไงกัน”
เย่เชียนยังคงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตัวเองโดยบอกกับเปล่าผู้บริหารบริษัททะเลสี่ทิศว่าเหตุผลที่เขาเข้ายึดบริษัททะเลสี่ทิศนั้นเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้บริษัททะเลสี่ทิศตกไปอยู่ในมือของคนอย่างชางกวนเจ้อ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลกระทบยังคงชัดเจนเพราะคนเหล่านั้นตระหนักดีถึงพฤติกรรมของชางกวนเจ้อและพวกเขารู้สึกกลัวเมื่ออยู่ใกล้ชางกวนเจ้อ ในตอนนี้การแสดงของเย่เชียนทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจขึ้นมากโดยธรรมชาติและผู้บริหารทั้งหมดนี้ก็เป็นเสาหลักของบริษัททะเลสี่ทิศดังนั้นหากพวกเขาไม่มั่นใจในเย่เชียนจริงๆมันก็ยากที่จะควบคุมได้ ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะต้องการครอบครองอย่างเต็มรูปแบบก็ตามแต่มันต้องใช้เวลา ด้วยเหตุนี้วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คือทำให้คนเหล่านี้มีเสถียรภาพก่อน
นอกจากนี้คนเหล่านี้คุ้นเคยกับธุรกิจของบริษัททะเลสี่ทิศเป็นอย่างดีและไม่สามารถไล่พวกเขาออกได้ ไม่เช่นนั้นบริษัททะเลสี่ทิศจะต้องเป็นอัมพาตทางธุรกิจอย่างแน่นอนและพวกเขาจะใช้เวลามากในการจัดระเบียบและพัฒนาใหม่ ดังนั้นวิธีนี้จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุดนั่นเอง
ชางกวนเจ้อถอนหายใจอย่างเย็นชาและพูดว่า “เย่เชียนแกนี่มันแสดงละครเก่งจริงๆ..แกคิดว่าฉันกลัวแกจริงๆงั้นเหรอ?..หลีกทางไปซะ!”
ณ จุดนี้ ชางกวนเจ้อก็ไม่ได้คาดหวังอะไรในเหล่านินจาญี่ปุ่นอีกแล้วเพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านินจาญี่ปุ่นเหล่านั้นไม่ถือว่าตนเองเป็นพันธมิตรที่แท้จริงเลยและพวกเขาก็กำลังหลอกใช้ตัวเองอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นตอนที่เขากำลังจัดการเครือน่านฟ้ากรุ๊ปทำไมพวกเขาถึงไม่บอกตัวเองถึงรายละเอียดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ป? ซึ่งถ้าหากเขารู้รายละเอียดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก่อนหน้านี้ล่ะก็เขาอาจจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบวันนี้อย่างแน่นอน
เมื่อพูดจบชางกวนเจ้อก็ปัดมือเฟิงหลานอย่างรวดเร็วและแสดงความเกลียดชังอย่างมากพร้อมกับเจตนาฆ่า ซึ่งเขาได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จีนโบราณมาตั้งแต่เด็กและความสามารถของเขาดีมากและเมื่อเขาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเขาก็เข้าร่วมการแข่งขันการประลองมวยใต้ดิน ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายและแน่นอนว่าเฟิงหลานเองก็รู้สึกได้ เย่เชียนเองก็กำลังคิดวิธีปรับปรุงการฝึกฝนของพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้พี่น้องเขี้ยวหมาป่าพัฒนาการฝึกฝนของพวกเขา เพียงแต่ว่าเย่เชียนก็ไม่กล้าลองใช้วิธีนี้เพราะท้ายที่สุดถ้าเขาพัฒนาการฝึกฝนของเขาอย่างรวดเร็วรากฐานก็จะไม่เสถียรและมันจะง่ายอย่างแน่นอน ซึ่งพวกเขาไม่เหมือนกับเย่เชียนที่มีโอกาสมากกว่าใครๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ผลักเฟิงหลานออกไปและพลังปราณที่เป็นเกลียวในร่างกายของเขาก็หมุนอย่างดุเดือดและปัดฝ่ามือของชางกวนเจ้ออย่างรวดเร็ว ชางกวนเจ้อรู้สึกได้ถึงพลังลงจนเขารีบถอยกลับและพยายามสวนกลับแต่เนื่องจากชางกวนเจ้อมักจะขันชกมวยใต้ดินอยู่เป็นประจำดังนั้นทักษะการชกของเขาจึงคาดเดาได้ง่ายมากแต่พลังโจมตีของเขาก็ไม่สามารถละเลยได้ ในแง่ของการเคลื่อนไหวชางกวนเจ้ออาจจะได้เปรียบกว่าเย่เชียนแต่เห็นได้ชัดว่าเขาเสียเปรียบเย่เชียนในด้านของพลังปราณ จากการปะทะชางกวนเจ้อก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างอันทรงพลังที่มีอยู่ในฝ่ามือของเย่เชียนได้
จากนั้นฝ่ามือของทั้งสองก็ปะทะกันและร่างกายของชางกวนเจ้อก็กระเด็นกลับไปสองสามก้าวและเลือดในร่างกายของเขาก็เดือดพล่านในทันที แม้กระทั่งฮัวหยาซินที่เผชิญหน้ากับพลังอันทรงพลังของฝ่ามือของเย่เชียนยังบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนั้นแล้วนับประสาอะไรกับชางกวนเจ้อ? พลังปราณที่เป็นเกลียวที่เข้าสู่ร่างกายของชางกวนเจ้อนั้นเป็นเหมือนสว่านที่ดำเนินการทำลายล้างอย่างต่อเนื่องจนชางกวนเจ้อพยายามที่จะหนีไปและในขณะที่เขาก้าวถอยหลังเย่เชียนก็พุ่งตามไปอย่างรวดเร็วและใช้ฝ่ามือโจมตีชางกวนเจ้ออีกครั้งจนชางกวนเจ้อกระเด็นออกไปราวกับว่าวที่แตกหักและกระแทกเข้ากับผนังห้องประชุมและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ชางกวนเจ้อรู้สึกประหลาดใจอย่างมากและต่อให้เขาจะเพิ่งรู้แล้วว่าเย่เชียนคือCEOตัวจริงของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปและรู้ว่าเย่เชียนคือราชาหมาป่าเย่เชียนที่เป็นถึงผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็ตามแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จีนโบราณแบบนี้ จากนั้นชางกวนเจ้อก็ใช้มือเช็ดรอยเลือดที่ปากแล้วพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าสามารถเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้างได้..แกนี่มันสุดยอดจริงๆเลยนะ”
“อันที่จริงฉันล่ะชื่นชมนายจริงๆแต่นายดันใช้ความสามารถในทางที่ผิด” เย่เชียนพูด “ถ้าเราไม่ใช่ศัตรูกันบางทีเราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้..แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย”
ในขณะนี้ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนและเมื่อเห็นเย่เชียนแล้วดวงตาของชายหนุ่มก็รู้สึกขอบคุณอย่างเห็นได้ชัดแต่ใบหน้าของเขาก็ยังดูเฉยเมยมาก “สวัสดีครับคุณเย่!” ชายหนุ่มกล่าวทักทาย
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหยานฮั่นจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเคยมีเรื่องราวมากมายกับเย่เชียนในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเห็นเขาเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมต้องขอรบกวนคุณอีกแล้ว..ฝากจัดการชางกวนเจ้อด้วย”
หยานฮั่นก็พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรจากนั้นเขาก็โบกมือให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปจับกุมตัวของชางกวนเจ้อ จากนั้นเขาก็บอกลาเย่เชียนและหันหลังเดินจากไป การที่ชางกวนเจ้อสมรู้ร่วมคิดกับนินจาของประเทศญี่ปุ่นและข้อมูลของชาติที่ตระกูลชางกวนขายให้กับศัตรูหรือข้อมูลของประเทศจะรั่วไหลไปเท่านั้นนั้นเย่เชียนจะไม่เข้าไปแทรกแซงโดยธรรมชาติและมันก็เป็นหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ แน่นอนว่าเย่เชียนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองไม่งั้นเขาจะถูกครอบงำด้วยการเมืองในที่สุด
นอกจากนี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนอาจต้องการถามชางกวนเจ้อเกี่ยวกับที่อยู่ของซงเจิ้งหยวนและกลุ่มนินจาที่จัดการกับสำนักหยุนหยานเหมินอย่างแน่นอน ดังนั้นการมอบชางกวนเจ้อให้กับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถือเป็นการช่วยหวงฟู่ชิงเตี๋ยนในการทำอะไรเพื่อฮัวหยาซินจนพวกเขาอาจจะคืนดีกันได้ใช่มั้ย?
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันในอนาคตและผมหวังว่าทุกคนจะทำหน้าที่ของตัวเองและทำงานได้ดี..อย่าเป็นเหมือนชางกวนเจ้อที่เอาแต่หักหลังคนอื่นและผมเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี..ผมเชื่อว่าด้วยความพยายามร่วมกันของพวกเราทุกคนจะทำให้บริษัททะเลสี่ทิศพัฒนาไปอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกและมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องอธิบายให้พวกคุณทราบคือบริษัททะเลสี่ทิศถูกซื้อกิจการโดยเครือน่านฟ้ากรุ๊ปซึ่งหมายความว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบริษัททะเลสี่ทิศจะเป็น บริษัทย่อยของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปอย่างเป็นทางการ..แน่นอนว่าผลประโยชน์และค่าตอบแทนทั้งหมดของพวกคุณจะเป็นไปตามมาตรฐานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลไป”
.
.