ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 931 หมาจนตรอก
ตอนที่ 931 หมาจนตรอก
เวลาเหมาะสมและสถานที่เหมาะสมนั้นเย่เชียนและคนอื่นๆได้จัดการศัตรูอย่างสมบูรณ์แบบและนอกจากนี้ภายใต้การกวาดล้างแบบปิดล้อมนั้นทำให้เหล่านินจาไม่สามารถตอบโต้ได้เลย..หลังจากไทจิอิเคดะตายเหล่านินจาก็สูญเสียความมั่นใจในการต่อสู้และพวกเขาทั้งหมดดูหวาดกลัวอย่าวมาก ในขณะที่สมาชิกหน่วยมังกรซ่อนเล็บต่อสู้อย่างดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
หลี่เหว่ยนั้นเป็นเหมือนคนบ้าที่ระบายความอึดอัดในใจทั้งหมดที่เขาได้รับจากซือจื้อเมื่อคืนนี้ เขาเป็นคนเลวทรามที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก เขาจงใจไม่ฆ่าอีกฝ่ายและเลือกตัดแขนและขาของอีกฝ่ายเพื่อทรมานจนถึงที่สุดและคนที่ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของเขาล้วนกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน
ตอนที่เธออยู่ในสำนักหยุนหยานเหมินนั้นฮัวหยาซินมักจะดูแลซงเจิ้งหยวนเป็นอย่างดีและมักจะสอนเขาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ถึงแม้ว่าความสามารถของเด็กคนนี้จะดีแต่เขาก็หลงใหลในพลังและอำนาจเกินไปจนไม่สามารถมีสมาธิกับศิลปะการต่อสู้ได้ ดังนั้นความสำเร็จของเขาจึงไม่ได้สูงมาก แต่หูวเค่อนั้นแตกต่างออกไปเพราะเธอไม่เพียงแต่เป็นที่รักของเหล่าลูกศิษย์และสาวกสำนักหยุนหยานเหมินเท่านั้นแต่ยังเป็นที่รักของปรมาจารย์เหมิงฉีผู้ที่สอนศิลปะการต่อสู้จีนโบราณแก่เธอ เหมิงฉีนั้นเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในสำนักหยุนหยานเหมินและความสามารถก็เหนือกว่าฮัวหยาซินอีก ซึ่งหลังจากได้ประลองกับเย่เจิ้งหรานเขาก็ได้นำประสบการณ์มากมายมาอุทิศตนเพื่อการศึกษาศิลปะการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้จีนโบราณที่ไม่เหมือนใครและภายใต้การสอนของเขาจึงทำให้หูวเค่อมีความโดดเด่นในศิลปะการต่อสู้โดยธรรมชาติและซงเจิ้งหยวนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอเลย
เมื่อเห็นนินจาญี่ปุ่นเหล่านั้นล้มลงทีละคนซงเจิ้งหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวและเขาก็ไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้อีกต่อไป เขารู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่ทำอะไรในตอนนี้เขาจะต้องพบกับจุดจบที่น่าเศร้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากหูวเค่อกำลังโจมตีเขาอยู่เขาจึงไม่มีโอกาสหลบหนีเลย เดิมทีศิลปะการต่อสู้ของเขาก็ด้อยกว่าหูวเค่ออยู่แล้วและตอนนี้เขายังสิ้นหวังในการต่อสู้อีก ดังนั้นความได้เปรียบของหูวเค่อจึงมีมากขึ้น ในตอนนี้ซงเจิ้งหยวนทำได้เพียงแค่ตั้งรับแต่ไม่สามารถโต้กลับได้เลย
“แกควรเลิกต่อต้านได้แล้วฉันสัญญากับอาจารย์ว่าฉันจะพาแกกลับไปหาท่าน..อย่าบังคับให้ฉันต้องฆ่าแกเลย” หูวเค่อพูด
ซงเจิ้งหยวนกฌถึงกับตกตะลึงเมื่อนึกถึงเรื่องนี้เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากเขาอยู่ต่อหน้าฮัวหยาซินล่ะก็เขาจะไม่มีโอกาสรอดเลยแม้แต่น้อย “ฉันจะไปขอโทษอาจารย์..ฉันจะกลับไปพร้อมกับเธอ” หลังจากที่ซงเจิ้งหยวนพูดจบเขาก็เลิกต่อต้านหูวเค่อ ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นหูวเค่อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะแม้ว่าเธอต้องการฆ่าซงเจิ้งหยวนจริงๆก็ตามแต่เขาก็เป็นเหมือนพี่ชายของเธอและเติบโตขึ้นมาพร้อมๆกัน ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถฆ่าพี่ชายได้ลงและนอกจากนี้เธอยังสัญญากับฮัวหยาซินเอาไว้ว่าจะพาตัวซงเจิ้งหยวนกลับไปให้เธอแล้วปล่อยให้ฮัวหยาซินเป็นคนตัดสินใจ
การต่อสู้สิ้นสุดลงและที่พื้นก็เต็มไปด้วยซากศพของนินจาญี่ปุ่นส่วนฝั่งหน่วยมังกรซ่อนเล็บก็ไม่มีใครเสียชีวิตและแค่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือมีสมาชิกคนหนึ่งถูกมีดแทงเข้าไปในท้องเท่านั้น ในตอนนี้ดวงตาของทุกคนหันไปทางซงเจิ้งหยวนอย่างโกรธเกรี้ยวและเมื่อเห็นเช่นนั้นซงเจิ้งหยวนก็ถึงกับหวาดผวาและรีบตามหูวเค่อไปในทันที
“ระวัง!” เย่เชียนตะโกนอย่างเร่งรีบแต่หูวเค่อก็ไม่มีเวลาตอบโต้ใดๆในเวลานี้ซงเจิ้งหยวนคว้าคอของหูวเค่อเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแล้วใช้มีดจ่อที่คอของหูวเค่อด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
“หยุดอย่าขยับ!..ถ้าใครขยับฉันจะฆ่าเธอทันที” ซงเจิ้งหยวนพูดอย่างสิ้นหวัง “ศิษย์น้องอย่าโทษฉันเลยเพราะเธอบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้”
เย่เชียนโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้หน่วยมังกรซ่อนเล็บหยุดเคลื่อนไหวแล้วพูดว่า “ซงเจิ้งหยวนแกก็น่าจะรู้ดีว่าแกไม่มีทางหนีได้เลย..แล้วทำไมแกถึงยังดิ้นรนขนาดนี้?”
“ถ้าฉันต้องตายฉันก็จะตายไปพร้อมๆกับศิษย์น้องและนั่นถือได้ว่าเราได้ใช้ชีวิตและความตายร่วมกัน..บนถนนแห่งความตายอย่างน้อยๆก็ยังมีเธออยู่ด้วย” ซงเจิ้งหยวนพูด “เย่เชียนแกรักศิษย์น้องใช่มั้ยเพราะงั้นก็อย่าขยับไม่งั้นถ้าฉันตกใจจนมือสั่นก็อย่ามาโทษฉันสำหรับผลที่จะตามมาก็แล้วกัน”
ที่ด้านนอกนั้นตอนแรกเฟิงหลานคิดว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้วและเมื่อเขากำลังจะลุกขึ้นและเข้าไปหาเย่เชียนแต่จู่ๆสถานการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเขาก็รีบใช้ปืนไรเฟิลเล็งไปที่ซงเจิ้งหยวนแต่ซงเจิ้งหยวนก็ไม่ได้โง่เพราะเขารู้ว่ามีมือปืนอยู่ในขณะนี้ดังนั้นหลังจากจับตัวหูวเค่อได้เขาก็รีบนำตัวเธอมาบังวิถีกระสุนอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่า…” เมื่อเห็นเย่เชียนประหม่าขึ้นซงเจิ้งหยวนก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า “พวกแกทำอะไรไม่ได้สินะ..สุดท้ายฉันก็เป็นผู้ชนะเสมอและฉันจะเป็นผู้ชนะตลอดไป!..เย่เชียนแกไม่สามารถเทียบกับฉันได้..แกรักหูวเค่อมากใช่มั้ย?..เอาสิวะถ้างั้นแกก็ต้องยอมตายเพื่อเธอได้!”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มและเดินเข้าไปอย่างช้าๆ “หยุด!” ซงเจิ้งหยวนตะโกนอย่างรุนแรง “แกคิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอ?..ถ้าฉันกลัวฉันคงไม่ทำเรื่องแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว…แกมีคุณสมบัติอะไรมาสู้กับฉัน..คุกเข่าลงแล้วก้มหัวขอโทษฉันสามครั้งซะแล้วฉันจะปล่อยหูวเค่อไป..ฉันอยากรู้จริงๆว่าแกรักเธอมากแค่ไหน”
หูวเค่อมองไปที่เย่เชียนและส่ายหัวอย่างขอโทษและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเพราะในความเห็นของเธอเย่เชียนเป็นคนที่ยืนอยู่เหนือใครเพราะงั้นเขาจะคุกเข่าลงให้คนอย่างซงเจิ้งหยวนได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าเธอจะต้องตายแต่เธอก็จะไม่ยอมให้เย่เชียนได้รับความอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
เย่เชียนเหล่มองออกไปข้างนอกแล้วใช้นิ้วลูบริมฝีปากของเขาเพราะเขารู้ว่าเฟิงหลานจะสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างชัดเจน “ซงเจิ้งหยวนแกจะให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าแกอย่างงั้นเหรอ..แกรู้มั้ยว่าชีวิตนี้ฉันจะคุกเข่าให้พ่อกับแม่ของฉันเท่านั้น..แกไม่สมควรได้รับมัน!” เย่เชียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“จริงเหรอ..ศักดิ์ศรีของแกมีค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าหัวเข่าของแกจะแข็งขนาดนั้น” ซงเจิ้งหยวนเยาะเย้ยและขยับมีดเข้ามาใกล้คอของหูวเค่ออีกเล็กน้อยและมันก็จ่ออยู่กับผิวหนังของเธอแล้วจนมีเลือดไหลออกมาที่คอของเธออย่างช้าๆ “แกจะคุกเข่ามั้ย?..ถ้าแกยังไม่คุกเข่าอีกก็อย่ามาโทษฉันที่หยาบคายแล้วกัน” ซงเจิ้งหยวนพูดอย่างฉุนเฉียว “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะไม่ทำ..แกไม่อยากให้หูวเค่อตายหรอกเพราะงั้นทำซะ!”
“ต่อให้ฉันจะอยากทำแค่ไหนแต่หูวเค่อก็ไม่ยอมให้ฉันทำหรอกเพราะในใจของเธอฉันเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่เหนือใครเพราะงั้นคนอย่างฉันจะไปคุกเข่าให้ไอ้สารเลวอย่างแกได้ยังไง..ถ้าฉันคุกเข่ามันไม่ใช่แค่การคุกเข่าแต่เป็นการดูถูกตัวเองและหูวเค่ออีกด้วย..เอาสิถ้าแกกล้าพอแกก็ฆ่าหูวเค่อซะสิ..ฉันสัญญาว่าแกจะต้องตายโดยไม่มีการฝังศพและแกจะเป็นสัมภเวสีตลอดไป” เย่เชียนพูด
“ใช่!..เย่เชียน..ฉันรักคุณที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นถ้าคุณคุกเข่าลงฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชีวิต” หูวเค่อพูด
เดิมทีซงเจิ้งหยวนต้องการใช้หูวเค่อเพื่อข่มขู่เย่เชียนจากนั้นก็ใช้หูวเค่อเป็นตัวประกันเพื่อออกไปจากที่นี่แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ซงเจิ้งหยวนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงแล้วเขาเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะในเมื่อพวกแกเลือกแบบนี้ก็อย่ามาโทษฉันที่โหดร้ายล่ะ..ศิษย์น้องอย่ามาโทษฉันเพราะเธอต้องไปโทษคนที่เธอรักที่ทำให้เธอต้องตายในวันนี้..ศักดิ์ศรีงั้นเหรอไร้สาระสิ้นดี!” เสียงนั้นจบลงซงเจิ้งหยวนก็ใช้มือง้างมีดเพื่อที่จะแทงเข้าไปที่คอของหูวเค่อ
หลี่เหว่ยกับเฟิงหลานนั้นเป็นคนที่ติดตามเย่เชียนมาเป็นเวลานานและพวกเขาก็มีความเข้าใจในสัญญาณต่างๆของเย่เชียนดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมพร้อมแล้วเมื่อเห็นเย่เชียนขยับนิ้วอย่างลับๆที่มุมปากของเขา ด้วยเหตุนี้เมื่อเห็นซงเจิ้งหยวนง้างมือขึ้นหลี่เหว่ยพุ่งเข้าไปคว้าข้อมือที่ถือมีดของซงเจิ้งหยวนและเย่เชียนก็พุ่งเข้าไปใช้มีดแทงเข้าไปที่ข้อมือของซงเจิ้งหยวนอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“แม่งเอ๊ย!” มีดคลื่นโลหิตแทงทะลุข้อมือของซงเจิ้งหยวนและในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของซงเจิ้งหยวนก็ถือมีดแล้วแทงเข้าไปที่แขนของเย่เชียนอย่างดุเดือด แต่เย่เชียนก็ทนต่อความเจ็บปวดแล้วคว้าตัวหูวเค่อออกมาจากนั้นหลี่เหว่ยก็โจมตีซงเจิ้งหยวนด้วยฝ่ามือจนเขากระเด็นถอยไปสองสามก้าวด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นโดยเฟิงหลานที่รอโอกาสเหนี่ยวไกแต่กระสุนนั้นไม่เล็งไปที่หัวของซงเจิ้งหยวนแต่เป็นขาของเขาแทน ด้วยมุมและวิสัยทัศน์ในการยิงของเฟิงหลานจึงทำให้กระสุนนั้นทะลุขาหนึ่งไปยังอีกขาหนึ่งจนซงเจิ้งหยวนล้มลงทันที
หากปราศจากคำสั่งของเย่เชียนนั้นหน่วยมังกรซ่อนเล็บก็คงจะเข้าไปจับกุมซงเจิ้งหยวนแล้วแต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ชะตากรรมของซงเจิ้งหยวนดีดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำอะไรใดๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นซงเจิ้งหยวนก็มองเย่เชียนด้วยความโกรธแต่นี่ก็เป็นความผิดของเขาเพราะเขาต้องการใช้หูวเค่อเป็นตัวประกันแล้วออกไปจากที่นี่ อย่างไรก็ตามเขาเพียงต้องการเอาชนะและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเย่เชียนเท่านั้นแต่มันกลับกลายเป็นผลสะท้อนกลับใส่ตัวเอง
จากนั้นหูวเค่อก็ยกแขนของเย่เชียนขึ้นด้วยความกังวลและเมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกมาเธอก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจจากนั้นเธอก็รีบฉีกเสื้อของเธอแล้วพันแผลให้เย่เชียน “เจ็บไหม?” หูวเค่อถามเบาๆและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเป็นห่วงเป็นกังวลและรู้สึกเป็นทุกข์
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจ็บหรอกแผลแค่นี้”
“จะไม่เจ็บได้ยังไงมีดแทงทะลุเข้าไปที่แขนเลยนะ” หูวเค่อพูดต่อ “อย่าทำแบบนี้อีกไม่งั้นฉันจะเสียใจไปตลอดชีวิตแล้วฉันจะอธิบายให้พี่สาวน้องสาวฟังได้ยังไง?” ขณะที่หูวเค่อพูดน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก” เย่เชียนพูด อย่างไรก็ตามถึงจะพูดอย่างนั้นแขนของเย่เชียนก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่งทำให้เย่เชียนตกใจและหูวเค่อเองก็ตกตะลึงเช่นกัน “บอส!..เส้นประสาทเสียหายหรือเปล่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ” หลี่เหว่ยพูด
เมื่อหลี่เหว่ยพูดเช่นนี้หูวเค่อก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกและน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาทันที หากเส้นประสาทของเย่เชียนเสียหายนั่นก็แสดงว่าแขนซ้ายของเย่เชียนจะขยับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะทำให้เย่เชียนมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากและเธอจะรู้สึกผิดและเศร้ามากขึ้นกว่าเดิม
.