ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1049 ร่วมมือ (1)
พิธีกรรมทำให้ลู่เซิ่งเข้าใจคร่าวๆ ว่า แสงดาวสีครามเป็นขุมกำลังระดับอะไร
ส่วนจะเข้าร่วมหรือไม่ เขาไม่มีความเห็นใดๆ ยังไม่เอ่ยถึงว่าองค์กรน่ากลัวนี้มีปัญหาทางจิต
เขาไม่มีวันเห็นด้วยกับแนวคิดประหลาดบ้าบอที่พวกเขาประกาศ
ในโถงดาวสงคราม
ลู่เซิ่งกับชายชราต่างเงียบเสียง ไม่พูดอะไรกันอีก
ทั้งสองต่างรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีปัญหา จึงหยุดคุยกัน
“อย่างนั้น ตอนนี้ฉันจะส่งเธอกลับไป ความจริงเธอที่อยู่ที่นี่เป็นแค่เงาเท่านั้น ร่างของเธอยังคงอยู่ที่ดาวแฝดคู่ ดังนั้นจะกลับไปได้เร็วมาก” ชายชราเอ่ยอย่างราบเรียบ
“เข้าใจล่ะ รบกวนด้วย” ลู่เซิ่งพยักหน้า
“หวังว่าวันหน้าจะได้ร่วมมือกัน” ชายชรายื่นมือมาในตอนสุดท้าย
ทั้งสองจับมือกัน
ตอนที่ปล่อยมือ ลู่เซิ่งรู้สึกได้ว่ามีสัมผัสประหลาดที่บรรยายไม่ถูกห่อหุ้มตัวเองไว้เหมือนผลไม้แช่แข็ง
พอเขาปล่อยการต่อต้าน ร่างก็ถูกพลังบางชนิดดึงให้ยืดขึ้น ด้านหน้ามืดลง ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางมืดมิดที่ทอดยาวเส้นนั้นอีกรอบ
แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน
ภาพสีรุ้งหลายภาพปรากฏขึ้นรอบๆ เส้นทาง
บนพื้นดินมีสีแดงฉาน
ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังคร่ำครวญ หมอบกราบกับพื้นพร้อมวิงวอนต่อเทพเจ้า
น้ำท่วมซัดผ่าน ไฟโหมกระพือ แผ่นดินไหว อุกกาบาต พลังรังสีระเบิด ปืนรางไฟฟ้าแรงดึงดูด ลำแสงเลเซอร์
อาวุธทำลายล้างมากมายพากันสังหารผู้คนในภาพ
มนุษย์นับไม่ถ้วนถูกภัยพิบัติทำลายจนพินาศ เมื่ออยู่ต่อหน้าภัยพิบัติและอาวุธทำลายล้าง ชีวิตก็ไร้หนทางราวกับมด
แสงสีรุ้งมากมายสะท้อนบนใบหน้าลู่เซิ่ง
เขาผุดสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ในใจนึกถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่ในระบบดาวปรภพโดยไม่รู้ตัว
โลกที่เจ็บปวดและสิ้นหวังเหมือนกันใบนั้น มนุษย์เหมือนกับปศุสัตว์ ถูกมารดาแห่งปรภพเพาะพันธุ์เป็นเสบียง
ภาพหายไปเองโดยไม่รู้ตัว ด้านหน้าเขาสว่างขึ้น ตัวเขายืนอยู่ริมทะเลสาบเทียมอีกรอบ สองเท้าเหยียบบนพื้น
“การส่งตัวเมื่อกี้ทำให้เจอผลกระทบจากคลื่นปริศนา หวังว่าจะไม่ส่งผลต่อจิตใจของแกนะ”
ริมทะเลสาบมีคนยืนอยู่คนหนึ่ง เป็นใบหน้าที่ลู่เซิ่งคุ้นเคยพอดี
“เนเซียนหรือ” ลู่เซิ่งงุนงง เขากลับนึกไม่ถึงว่าเนเซียนจะมาโผล่ที่นี่เอง
พึงทราบว่าเขาน่าจะเป็นคนของสหพันธ์พลังจิต เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับแสงดาวสีคราม
“การที่ฉันมาอยู่ที่นี่ทำให้แกประหลาดใจมากเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน แกว่าเรื่องราวจะสงบเร็วขนาดนี้เหรอไง” เนเซียนหัวเราะเบาๆ
“แกมาที่นี่ ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าทิ้งเหรอไง” ลู่เซิ่งลุกขึ้นแล้วใช้นิ้วโป้งเปิดคอเสื้อ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กำยำดุจเหล็กกล้า พร้อมลงมือได้ทุกเวลา
“นายแน่ใจนะว่าจะลงมือกับฉันจริงๆ ด้วยระดับของพวกเรา เกิดลงมือกันที่นี่ จะก่อให้เกิดพลังทำลายล้างมากมาย นายควรตระหนักไว้ด้วย” เนเซียนกล่าวอย่างไม่ถือสา
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้แกเข้าร่วมองค์กร”
“ฉันเพิ่งบอกไปเองว่า ฉันต้องการเวลาพิจารณา” ลู่เซิ่งกล่าวพลางขมวดคิ้ว
“นายต้องการเวลาพิจารณา แต่พวกเราไม่ต้องการ” เนเซียนหัวเราะ
ข้างตัวเขามีหญิงวัยกลางคนเจ้าของใบหน้าเฉยชาสวมกระโปรงเขียวโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
ผู้หญิงคนนี้ถือโคมไฟสีเขียวขนาดกะทัดรัด ด้านในโคมไฟมีแสงสีเขียวอ่อนๆ สาดลอดออกมา
“หมายความว่าไง” ลู่เซิ่งผุดสีหน้าเคร่งขรึมทันที แต่เสียงเพิ่งขาดไป เขาก็รู้สึกว่ามีพลังงานที่เย็นเยียบและแปลกประหลาดแทงเข้าสมองของตัวเอง
“อั่ก…”
เขาถอยหลังไปหลายก้าว ขณะกำลังจะโคจรวิชาเกลียวเก้าชีวิตนั่นเอง
พรึ่บ!
แสงสีเขียวสาดออกจากโคมไฟเหมือนสายฟ้าแลบ แล้วพุ่งหายเข้าไปในหน้าผากของลู่เซิ่ง
ลู่เซิ่งพลันชะงัก ตัวแข็ง ยืนนิ่งสนิท
“สมกับเป็นแสงปีศาจน้ำแข็ง ลำแสงพลังงานแข็งแกร่งที่แช่แข็งจิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้” เนเซียนยิ้มพลางถอนใจชมเชย
“ผู้เข้มแข็งที่เทียบกับฉันได้ กลับถูกตรึงไว้ง่ายๆ แบบนี้”
“ตอนนี้จิตของเขาแยกออกจากร่างกายชั่วคราว พวกเราต้องฉีดยาคลายกล้ามเนื้อเข้าไปบางส่วน แล้วค่อยฝังชิปเข้าไปในสมอง” หญิงวัยกลางคนเอ่ยเสียงเรียบ
“อย่างนั้นก็ลงมือเลย แสงปีศาจน้ำแข็งควบคุมตัวเขาได้ครึ่งชั่วโมง มีเวลามากพอใช่ไหม” เนเซียนถาม
“เพียงพอแล้ว แค่สิบนาทีก็เสร็จ” หญิงวัยกลางคนเข้าใกล้ลู่เซิ่งช้าๆ พร้อมปลดนาฬิกาข้อมือออกมา นาฬิกาข้อมือโลหะสีเงินที่เรียวยาวเปลี่ยนรูป ขยายใหญ่ และพองตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กลายเป็นอุปกรณ์โลหะสีเงินขนาดฝ่ามือ
เข็มโลหะหลายแท่งดีดออกมาจากอุปกรณ์
เธอถือเข็มโลหะเข้าใกล้ลู่เซิ่ง
เคร้ง!
เข็มโลหะแทงใส่ผิวลู่เซิ่งอย่างแรง ส่งเสียงปะทะที่แข็งทื่อ
“ผิวแข็งไปหน่อย ฉันจำเป็นต้องทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังของเขาคลายตัว” หญิงวัยกลางคนหันไปมองเนเซียน
“ไม่มีปัญหา” เนเซียนชี้นิ้ว ของเหลวที่เหมือนสายน้ำสีทองอ่อนลอยออกมาจากแขนเสื้อของเขาไปถึงผิวหนังบนแขนลู่เซิ่ง ไม่นานก็ซึมเข้าไป
ผิวหนังตรงนั้นอ่อนนุ่มอย่างรวดเร็ว
หญิงวัยกลางคนเล็งตำแหน่งแล้วแทงเข็มโลหะเข้าแขนลู่เซิ่งอย่างแรง
เข็มเริ่มฉีดของเหลวลึกลับสีเงินอ่อนเข้าไป
“หลังจากเข้าไปในตัว จักรกลจิ๋วพวกนี้จะว่ายไปถึงสมองของเขา แล้วจะติดตั้งชิบที่พวกเราต้องการด้วยตัวเอง”
“เร็วที่สุดใช้เวลาเท่าไหร่” เนเซียนเพิ่งเคยเห็นกระบวนการฝังการควบคุมเป็นครั้งแรก
“ราวสองนาที” หญิงวัยกลางคนตอบ
ไม่นานการฉีดยาก็จบลง หญิงวัยกลางคนถอนเข็มโลหะออกมา
“ตอนนี้พวกเราแค่ต้องรอ...หือ” เธอออกแรง รู้สึกผิดปกติ
“เป็นอะไรไป” เนเซียนมองเธออย่างประหลาดใจ
หญิงวัยกลางคนแสดงสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะจับเข็มด้วยสองมือ “ถอนไม่ออก”
เธอออกแรงจับอุปกรณ์แล้วดึง
“กล้ามเนื้อของเขาแน่นเกินไป เข็มโลหะเลยงอแล้วไปเกี่ยวกล้ามเนื้อเข้า ไม่ต้องห่วงหรอก ใกล้ได้แล้ว” เธอเริ่มใช้พลังจิต พลังบิดเบี้ยวหลายสายครอบคลุมสองมือของเธอ ช่วยเพิ่มพละกำลังให้
“ระวังเลือดเขาด้วย เลือดเขามีพลังกัดกร่อนรุนแรงมาก อย่าไปโดนนะ” เนเซียนเตือน
“ฉันรู้ค่ะ คุณเคยบอกมาก่อน” หญิงวัยกลางคนพยักหน้า “แต่ว่า…แต่ว่า…”
เหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากเธอ
“ฉันต้องการยาคลายกล้ามเนื้อมากกว่านี้” เธอหันกลับไปพูดกับเนเซียนเสียงดัง
ซู่…
อย่างค่อยเป็นค่อยไป เงามืดกลุ่มหนึ่งเริ่มครอบคลุมใบหน้าและร่างเธอโดยไม่รู้ตัว
ใต้แสงจันทร์ ปีกเนื้อขนาดใหญ่ค่อยๆ สยายออก เงาที่ทอดลงมาบิดเบี้ยวน่ากลัวเหมือนมารร้าย
หญิงวัยกลางคนร่างแข็งทื่อ พอเห็นใบหน้าของเนเซียนผิดปกติ พลันค่อยๆ หันหน้ากลับไปอย่างเกร็งๆ
“กะ…เกิด…อะไรขึ้นหรือ”
พรึ่บ
ฝ่ามือใหญ่โตที่ใหญ่กว่ากะโหลกของเธอสองเท่าจับผมเธอเบาๆ แล้วดึงขึ้น
ร่างลู่เซิ่งกลายเป็นสีดำสนิท ลวดลายแนวตั้งที่เหมือนกับผ้ากระจายทั่วผิวกล้ามเนื้อ ดวงตาของเขาในคืนเดือนมืดเปล่งประกายเป็นสีแดงเข้มราวอัญมณี
เพียงแต่แสงนี้กลับไม่สะดุดตาเท่าร่างกายที่สูงถึงสามเมตรกว่าๆ ของเขา
ผมยาวสบายสีแดงปลิวไสวตามลมอยู่ด้านหลังเขา
“ต่ำต้อยจริงๆ”
ลู่เซิ่งยกร่างหญิงวัยกลางคนขึ้นจนอยู่ในระดับความสูงเดียวกับตัวเอง
“กรี๊ดดด”
หญิงวัยกลางคนกรีดร้อง พลังจิตหลายสายฉีกทึ้ง กระแทกกระทั้น และเชือดเฉือนแขนลู่เซิ่ง แต่นอกจากสะเก็ดไฟเล็กๆ ที่ระเบิดออกมาแล้ว ก็ไม่มีผลอะไรอีก
“พวกแกต้อนรับแขกที่จะช่วยเหลือพวกแกแบบนี้เหรอ” ลู่เซิ่งบีบมือ
เปรี้ยง
ของหนักสีดำชิ้นหนึ่งกระแทกทรวงอกของเขาอย่างรุนแรง
นั่นคือก้อนโลหะที่มีหนามแหลมมากมายก้อนหนึ่ง ลักษณะเหมือนกับค้อน
แต่พลังกระแทกอันยิ่งใหญ่ทำให้หนามแหลมรอบตัวมันหักหมดสิ้น ก้อนโลหะแบนราบแล้วกลิ้งตกลงด้านข้าง
ลู่เซิ่งกุมหน้าอกพลางหยัดร่างขึ้น หญิงวัยกลางคนในมือกลับไม่ได้โชคดี ถูกเสียงดังสนั่นกระแทกจนเลือดไหลออกจากทวารและเสียชีวิตไปแล้ว
เขาทิ้งศพก่อนจะก้าวเท้า
ตูม!
พื้นสิบกว่าเมตรรอบๆ พังทลายและแตกร้าว ร่างใหญ่โตของลู่เซิ่งกลายเป็นเงาดำแล้วต่อยหมัดใส่เนเซียนทันที
“โล่พลังจิต” เนเซียนจับจี้อัญมณีสีแดงก้อนหนึ่งตรงหน้าอก แค่นเสียงพร้อมกับถอยหลังหลายก้าว
ด้านหน้าพลันปรากฏโล่โปร่งแสงสีแดงเข้มขึ้น
เปรี้ยง!
ลู่เซิ่งต่อยหมัดใส่โล่ กระแสอากาศระเบิด การสั่นสะเทือนไร้รูปร่างขยายตัวอย่างรวดเร็ว บนพื้นรอบคนทั้งสองแตกร้าวเป็นร่องรอยนับไม่ถ้วน
ต้นไม้และก้อนหินทั้งหมดบนพื้นในรัศมีมากกว่าร้อยเมตรระเบิดเป็นผุยผงโดยมีพวกเขาเป็นศูนย์กลาง
เปรี้ยงๆๆ
น้ำในทะเลสาบระเบิดสาย น้ำสีขาวขึ้นมาหลายสิบสาย ละอองน้ำกระจัดกระจายไปทั่วเหมือนกับฝนเทียม
เนเซียนหน้าแดงก่ำ ปราดถอยไปด้านหลัง สะกิดปลายเท้ากับผิวทะเลสาบแล้วเหินร่างไปด้านหลังต่อ
ลู่เซิ่งไล่ตามไป ทั้งสองบินเป็นระยะทางมากกว่าพันเมตรในไม่กี่วินาทีเหมือนกับเงาลวงตา ก่อนจะมาถึงใจกลางทะเลสาบ
“แสงแทนตัว” เนเซียนสั่งพลังจิตให้บิดตัวและหมุนวนด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็หดตัว ก่อนระเบิดอย่างฉับพลัน
ตูม!
พลังระเบิดอันรุนแรงพลันแยกทั้งสองออกจากกัน
ผิวทะเลสาบถูกระเบิดเป็นหลุมน้ำยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายสิบเมตร น้ำมากมายกระจายขึ้นท้องฟ้าแล้วโปรยหมอกออกมา
เนเซียนผุดสีหน้าบูดบึ้ง เขานึกไม่ถึงว่าหวังมู่จะต้านทานแสงปีศาจน้ำแข็งได้ดีขนาดนี้ ความจริงเขาคำนวณการต้านทานไว้แล้ว ตามการคาดการณ์ อย่างเร็วที่สุด หวังมู่จะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงค่อยดิ้นหลุดได้ นึกไม่ถึง
เขากระโดดเบาๆ ร่างลอยค้างอยู่กลางอากาศ
“วันนี้พอเท่านี้ ครั้งหน้า ฉันจะ…”
พรึ่บ
ลู่เซิ่งโผล่ขึ้นด้านหลังเขาเหมือนกับเคลื่อนย้ายในพริบตา แล้วตะปบมือใส่คอเขา
“แก” เนเซียนสีหน้าเปลี่ยนแปลง ยกสองแขนขึ้นโดยสัญชาตญาณ พลังจิตกลายเป็นโล่ยักษ์สีแดงเข้มด้านหน้าเขาอีกครั้ง
ตูม!
กระแสอากาศสีขาวระเบิด เขาถูกฟาดลงจากกลางอากาศ แล้วจมลงไปในผิวทะเลสาบ
ตูม!
ผิวทะเลสาบเปิดออก คลื่นยักษ์ที่สูงถึงสิบกว่าเมตรกระจายขึ้นจากตรงกลาง
ลู่เซิ่งเดินย่ำอากาศลงมาอย่างช้าๆ ปีกเนื้อสีดำกางออกจากด้านหลังร่างกายที่กำยำล่ำสัน
“อันชุทส์ จงโบยบิน ทองคำ…” เนเซียนพุ่งออกจากน้ำด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม
ลู่เซิ่งโผล่ขึ้นด้านหน้าเนเซียนเหมือนเคลื่อนย้ายในพริบตา เอามือข้างหนึ่งอุดปากเขา ส่วนอีกมือหนึ่งกดเขาไว้แล้วกระชากไปด้านหลัง
จากนั้นเขาก็ล็อคหัวและขาเนเซียนไว้ ก่อนกระทุ้งเข่าขึ้นด้านบน
เปรี้ยง!
เนเซียนตัวงอ น้ำหูน้ำตาไหลออกมา
เขานอนหงายกลางอากาศ เอวและสันหลังถูกกระแทกหัก
ปราการพลังจิตที่ก่อนหน้านี้ขวางลู่เซิ่งไว้ได้ เมื่อมาอยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายในตอนนี้ ราวกับไม่ดำรงอยู่
……………………………………….