ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1054 แลกเปลี่ยน (2)
“คุณคงจะได้รับคำขอจากผู้บริหารของบริษัทเหมืองแร่ไป๋ซ่งเตี๋ยแล้วใช่ไหมคะ”
ลู่เซิ่งเพิ่งจะตรวจสอบการดำเนินงานของโถงเก้าชีวิตสาขาหนึ่งจบ พวกซูฉินก็มาหา
พวกเธอนั่งลงที่ห้องพักผ่อนซึ่งอยู่ด้านข้าง
เพิ่งจะนั่งลง ซูฉินก็ถามลู่เซิ่งอย่างจริงจังด้วยความอดรนทนไม่ไหว
“หมายถึงบริษัทค่วงอวิ๋นนั่นน่ะเหรอ” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างแปลกใจ “ทำไมกัน มีปัญหาเหรอ”
“ไป๋ซ่งเตี๋ย พลังของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา คุณจะต้องระวังตัวด้วยนะคะ” ซูฉินกล่าวเสียงจริงจัง
“ในบรรดามนุษย์อย่างพวกเรา มีหลายคนที่ไม่ได้อาศัยการปะทะกันซึ่งหน้าเอาชนะ พวกเขามีแผนการและกระบวนท่ามากมาย หา ากคุณไม่ระวังอาจตกหลุมพรางได้”
“อย่างนั้นเหรอ” ลู่เซิ่งหัวเราะ “ฉันอยากจะเห็นว่าเธอจะใช้กระบวนท่าอะไรกับฉันได้ นอกจากนี้ พวกเธอวางใจเถอะ ใน นเมื่อฉันตอบรับแล้วว่าจะร่วมมือกับพวกเธอ ก็ไม่มีทางลังเลแน่”
“พวกเราแค่อยากจะให้คุณระวังคนคนนี้ไว้เท่านั้นค่ะ” ซูฉินร้อนใจ แต่เธอรู้ว่าเวลานี้เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์
เธอรู้จักไป๋ซ่งเตี๋ย หัวหน้าทีมกระบี่กางเขน อีกฝ่ายมีพลังแข็งแกร่งเหนือธรรมดา ต่อให้จะไปอยู่ในทีมเทวทูตหรือท ทีมปีศาจ ก็ยังอยู่ในอันดับต้นๆ
ต่อให้จะไม่ใช่คนที่โดดเด่นอะไรนักในโลกอันตรายซึ่งมีระดับพลังงานสูงถึงขีดสุดใบนี้ เธอก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยว วกับไป๋ซ่งเตี๋ยมาไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถพิเศษบางอย่าง
ลู่เซิ่งมองความกังวลของพวกเธอออก จึงยิ้มให้
“พวกเธอมานี่เพื่อเตือนฉันเรื่องนี้น่ะเหรอ”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ” ซูฉินเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกเราหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากคุณ”
“เรื่องอะไรกัน ขุมกำลังของโถงเก้าชีวิตสามารถจัดการปัญหาเล็กๆ ให้กับพวกเธอได้อย่างง่ายดาย” ลู่เซิ่งว่า
เขามีความมั่นใจในการพูดประโยคนี้ โดยเฉพาะหลังจากดึงเนเซียนมาเป็นพวกได้ไม่นาน
เมื่ออำนาจของเขาเพิ่มพูนขึ้น ย่อมมีความมั่นใจในการกล่าวประโยคนี้
พวกซูฉินสบตากัน ต่างก็เห็นความดีใจจากในสายตาของอีกฝ่าย
พวกเธอนึกไม่ถึงว่าหลังจากได้รับความเชื่อใจจากลู่เซิ่งแล้วจะคุยกันได้ง่ายขนาดนี้
ครั้งนี้กระบี่กางเขนแสดงให้เห็นว่าจะลงมือบดขยี้ตรงๆ นักฆ่าของอีกฝ่ายซุ่มอยู่ในเขตใกล้ๆ เมื่อวานสมาชิกคนหนึ่ง งของพวกเธอเกือบจะได้รับบาดเจ็บ
“คืออย่างนี้ค่ะ เมื่อวานสหายของพวกเราคนหนึ่งพบว่าอีกฝ่ายได้มาซุ่มอยู่ใกล้ๆ ที่พัก…ครั้งนี้ที่มา พวกเราอยา ากจะขอยืมขุมกำลังของคุณเพื่อช่วยตามหาคนคนนี้ ฉันมอบสิ่งของพิเศษจากบ้านเกิดบางส่วนให้คุณเป็นสิ่งตอบแทนได้ นะคะ”
ซูฉินพูดพลางหยิบผลไม้สีเขียวอันหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
มันคือผลไม้ทรงกลมขนาดเท่ากำปั้น บนผิวมีลวดลายเล็กๆ ที่แวววาว ทั้งยังส่งกลิ่นสดชื่นจางๆ
“สิ่งนี้ชื่อผลจันทร์สว่าง หากกินครั้งหนึ่ง จะเสริมพลังกาย ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ และชดเชย…เอ่อ…ความสามารถพิเศษ ษในตัวได้ระดับหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเอามาสร้างบ่อจันทร์กระจ่างได้” ซูฉินเปลี่ยนคำพูดเพื่ออธิบายใหม่
ลู่เซิ่งรับมาอย่างฉงน
“กินตรงๆ แบบนี้เลยเหรอ” เขาถาม
“ค่ะ กินตรงๆ เลย” ซูฉินพยักหน้า “แต่แบบนี้อาจจะสิ้น…”
ลู่เซิ่งโยนผลไม้เข้าปากแล้วเคี้ยวเบาๆ
ผลไม้ชิ้นนี้เหมือนมีเนื้อเยอะ แต่พอเข้าปากกลับกลายเป็นของเหลว ไหลลงไปตามลำคอ ก่อนจะหายสาบสูญไปโดยใช้เวลาไม ม่ถึงหนึ่งวินาที
เพิ่งจะลงสู่ท้อง ลู่เซิ่งก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีกระแสความร้อนที่บรรยายไม่ถูกสายหนึ่งค่อยๆ เกิดขึ้น แล้วแผ่กระจ จายไปทั่วร่างกาย
“ของสิ่งนี้…พวกเราสามารถผลิตเป็นชุดๆ ได้ ในแต่ละวันฉันสามารถดูดซับพลังของแสงจันทร์มาสร้างสองชิ้น ถ้าแช่น้ำ ำไว้แล้วเอาไปอาบแสงจันทร์ จะทำให้น้ำเกิดพลังพิเศษขึ้นได้ มีผลส่งเสริมคล้ายๆ กัน”
ซูฉินมองลู่เซิ่งกินผลไม้หมดในคำเดียวอย่างอดนึกเสียดายไม่ได้
นี่เป็นผลต้นแบบของบ่อจันทร์สว่างนะ…
การกินแบบนี้เป็นการผลาญพลังงานแสงจันทร์ที่เธอสั่งสมมาหลายปี
ต่อให้เธอจะครอบครองสายเลือดของไนท์เอลฟ์ระดับสูงสุด ก็ทนกับการสิ้นเปลืองแบบนี้ไม่ไหวเหมือนกัน…
“ยังมีอีกไหม” ลู่เซิ่งผู้ซึ่งไม่รู้เลยว่าตัวเองเพิ่งกินว่าที่บ่อแสงจันทร์ไป เช็ดมือและมองไปยังซูฉิน
“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ…” ซูฉินเอ่ยเสียงแหบพร่า “ผลไม้ที่คุณเพิ่งกินไป ฉันต้องสะสมแสงจันทร์หลายปี ถึงค่อยผลิตออก กมาได้”
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าถ้าเอาผลไม้แบบนี้ไปแช่น้ำแล้วจะทำให้น้ำเกิดประโยชน์คล้ายๆ กันได้สินะ คงสภาพได้นานขนาด ดไหนล่ะ” ลู่เซิ่งเกิดความสนใจ
“ผลไม้จะหลอมละลายและกำหนดตำแหน่งกลายเป็นบ่อแสงจันทร์ ขอแค่มีบ่อแสงจันทร์ ก็จะผลิตน้ำแสงจันทร์ได้อย่างต่อเนื่อ องค่ะ” ซูฉินแนะนำอย่างเจ็บปวด
ความจริงเมื่อครู่เธอกำลังจะบอกว่า การกินตรงๆ แบบนี้จะสิ้นเปลืองมาก...
สุดท้าย
“มีผลแบบนี้ด้วยเหรอ” ลู่เซิ่งนึกยินดี ทีมเทพเจ้าสมกับที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์พันลึก มีทุกสิ่งทุกอย่างครบ
บ่อจันทร์สว่างนิรันดร์สามารถสร้างขึ้นมาได้
“ค่ะ ตอนนั้นฉันเสี่ยงชีวิตเพื่อความสามารถนี้ สุดท้ายก็อาศัยโชคค่อยเอามาครองได้ น่าเสียดาย เป้าหมายแรกสุดของ ฉันไม่ใช่การสร้างบ่อจันทร์กระจ่าง…” ซูฉินกล่าวอย่างฝืดเฝือ
“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวเธอหามาให้ฉันหลายๆ ชิ้นหน่อย ฉันจะตอบแทนอย่างงาม” ลู่เซิ่งโบกมือใหญ่ มอบภารกิจให้
“งั้นคุณช่วยฉันยกระดับพลังของวิชาพันโซ่ตรึงมังกรหน่อยได้ไหมคะ…ชิ้นหนึ่งยกระดับหนึ่งขั้น ซูฉินถามอย่างระ ะมัดระวัง”
ตามคำใบ้ของเทพเจ้า ปรมาจารย์หวังมู่ตรงหน้าน่าจะมีความสามารถยกระดับพลังให้พวกเขาได้โดยตรง
ลู่เซิ่งงุนงงเช่นกัน ซูฉินรู้ด้วยเหรอว่าเขามีวิธีทำให้พวกเธอยกระดับพลังได้โดยตรง
แต่เขาคิดอีกที นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทางเทพเจ้าบอกมาก็ได้
แม้เขาจะมั่นใจว่าตัวเองมีพลังแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่าเทพเจ้าในตำนานนี้
“ฉันมีวิธีการยกระดับพลังของพวกเธอโดยตรงจริงๆ แต่ว่า วิธีการสำเร็จเร็วแบบนี้จะสร้างผลที่ตามมาไม่น้อย ทั้งยัง งส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกาย…ถึงขั้นที่อายุขัยก็อาจจะ…”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่สำเร็จก็พอ” ซูฉินรีบตอบ คนสามคนด้านหลังเธอพากันผุดสีหน้ายินดี
ทีมศัตรูกำลังจะมาถึง ถ้าหากเวลานี้ยกระดับพลังของวิชาพันโซ่ตรึงมังกรได้ อย่างนั้นวิชาภายนอกนี้ก็จะก่อให้เกิดก การป้องกันและการส่งเสริมที่ไม่เลวต่อพวกเขาในระดับหนึ่ง
“การยกระดับง่ายมาก วิชาพันโซ่ตรึงมังกรเป็นวิชาแข็งกร้าวที่ตัดสินจากความแข็งแกร่งทางกายเนื้อโดยธรรมชาติอยู่แล ล้ว ดังนั้นถ้ายกระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อได้ ก็จะยกระดับพลังของวิชานี้ได้ ฉันมีวิธีฝึกฝนอย่างหนึ่งที่ทำ ำให้กายเนื้อของพวกเธอแข็งแกร่งขึ้นมากในเวลาสั้นๆ ได้ แต่อาจจะเจ็บนิดหน่อย…” ลู่เซิ่งอธิบาย
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราไม่กลัวเจ็บ” พวกซูฉินพากันส่งเสียง
ลู่เซิ่งไม่ได้โกหกจริงๆ วิธีฝึกฝนแบบจำกัดตัวเองในแบบข้ามขั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นรูปแบบนรก จะสามารถยกระดั บความแข็งแกร่งทางกายเนื้อในความเป็นจริงของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วโดยเบิกเอาศักยภาพมาใช้ก่อน
“ก็ได้ พวกเราหาเวลาแล้ว…”
“ตอนนี้เลยค่ะ” ซูฉินตัดบทด้วยสีหน้าแน่วแน่
“คนหนึ่งยกระดับหนึ่งครั้ง ต้องแลกผลจันทร์สว่างหนึ่งผล” ลู่เซิ่งเสนอราคา เขาสนใจในตัวผลไม้ชนิดนั้นมาก
หลังกินผลไม้ไป รู้สึกได้ว่าความทรหดเพิ่มขึ้นมาก จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกได้ว่ามีกระแสความร้อนสายหนึ่งทะลักอ ออกแล้วแล้วขยายไปทั่วทั้งตัวทุกๆ ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
“ค่ะ” ซูฉินรู้สึกเสียดาย แต่หากคิดอีกมุม ผลจันทร์สว่างของตนคงหาผู้ซื้อที่ดีขนาดนี้ไม่ได้แล้ว
“วันละคน วันนี้ใครก่อน” ลู่เซิ่งไม่คิดอะไรมาก อย่างไรเขาก็จัดการเรื่องนี้ได้ด้วยหนึ่งฝ่ามือ
“ผม” เต๋อเอิ้นเพิ่งตายมาหมาดๆ เลยชืดชาต่อความเจ็บปวดและความเป็นตายแล้ว จึงเสนอตัวออกมา
ลู่เซิ่งพยักหน้าพลางลุกขึ้นช้าๆ
เต๋อเอิ้นลุกตาม ร่างสูงหนึ่งเมตรเก้าสิบเซ็นติเมตรของเขา ถือว่าสูงมากเมื่ออยู่ต่อหน้าคนธรรมตา แต่กลับผอมกว ว่าลู่เซิ่งอย่างชัดเจน
“จะทำยังไงเหรอครับ ทำตรงนี้เลยเหรอครับ” เขาถามอย่างระมัดระวัง
“ไม่เป็นไร ไม่นานก็เสร็จ” ลู่เซิ่งยื่นมือขวาออกมากดไหล่เต๋อเอิ้นเบาๆ
“ไม่เป็นไร มาเถอะ ถ้าความเจ็บปวดแค่นี้ยังทนไม่ได้ ผมก็ไม่เลือกอาชีพสายกายเนื้อแต่แรกหรอก” เต๋อเอิ้นยิ้มอย่าง งปลอดโปร่ง ถอดเสื้อให้เห็นกล้ามเนื้อสีสำริดที่หนั่นแน่น
สักพักต่อมา
“แม่จ๋า พระ…พระเจ้าช่วย…ช่วยลูกด้วย… แม่จ๋า ไม่…ไม่ไหวแล้ว…จะตายแล้ว”
เต๋อเอิ้นกลิ้งไปทั่วพื้นอย่างอ่อนแรง แต่เขาไม่ได้ร้องไห้…หากกำลังหัวเราะอยู่
“บอกไปแล้วนะว่าจะเจ็บนิดหน่อย เจ็บนิดหน่อยจริงๆ ที่เหลือเป็นความสุขทั้งนั้น” ลู่เซิ่งยืนยักไหล่อยู่ด้านข้าง
“เธอดูสิ ตอนนี้เขามีความสุขมากเลยไม่ใช่เหรอ” เขาชี้เต๋อเอิ้นบนพื้น
“…ประมุขโถง…หน้าเขาเขียวแล้วนะคะ…” ซูฉินอดเตือนไม่ได้ ขณะมองเต๋อเอิ้นหัวเราะลั่น เธอก็อยากจะเปลี่ยนใจ จขึ้นมา
“ไม่เป็นไร เพียงแต่หัวเราะจนหัวใจวายนิดหน่อยเท่านั้น เดี๋ยวฉันตบๆ ให้” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างไม่แยแส
“หัวใจวาย…” พวกซูฉินตกใจ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปกดตัวเต๋อเอิ้นไว้ พร้อมช่วยเหลือเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
เต๋อเอิ้นหัวเราะจนใบหน้าเป็นสีม่วงแล้ว
ลู่เซิ่งเข้าไปตบใส่หัวของเขาฉาดหนึ่ง
เปรี้ยง
เขาว่องไวถึงขีดสุด แค่ขยับตัวครั้งเดียวก็ไปถึงด้านหลังเต๋อเอิ้นแล้ว จากนั้นก็ตบใส่ ห้องทั้งห้องสั่นไหว
เต๋อเอินร่างกระตุก กระอักเลือดออกมา จากนั้นก็ตาเหลือกและสลบไป
พวกซูฉินอกสั่นขวัญแขวน
“ไม่เป็นไร แค่หมดแรงเท่านั้น กลับไปพักผ่อนก็ใช้ได้แล้ว” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างนิ่งเฉย
พวกซูฉินรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะ หัวใจเต้นโครมคราม เวลานี้ได้ยินว่าเรียบร้อยแล้ว ก็รีบพุ่งไปหามคนขึ้น ก่อน นจะรีบบอกลาลู่เซิ่ง แล้วหามเต๋อเอิ้นออกจากสาขาไป
ลู่เซิ่งมองส่งพวกเขาจากไปพลางถอนใจ
จากนั้นเขาก็ไปดูดซับหินกิเลนที่ได้มาใหม่จากโกดัง หลังเก็บเกี่ยวพลังอาวรณ์ส่วนหนึ่ง ค่อยมุ่งหน้าไปบ้านตัวเอง อย่างเอื่อยเฉื่อย
การเจรจาต่อรองกับบริษัทค่วงอวิ๋นในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก บริษัทค่วงอวิ๋นครอบครองกำลังผลิตแร่หินกิเลนใน นจังหวัดสิบกว่าแห่ง ถ้าหากตกลงกันได้ ก็เป็นไปได้ถึงขีดสุดที่จะได้พลังอาวรณ์เข้าบัญชีมาหลายพันล้านหน่วย
ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร ลู่เซิ่งก็ต้องเจรจาเอาธุรกิจนี้มาให้ได้
ถ้าหากราบรื่น หลังจากนี้ บางทีเขาอาจจะเข้าสู่ชีวิตที่หกไขกระดูกได้ ส่วนผู้หญิงที่ชื่อไป๋ซ่งเตี๋ยนั่น การที่อ อีกฝ่ายต้องการเจอเขาต่อหน้าโดยไม่เลือกวิธีการเช่นนี้ ทำให้เขาก็อยากเอาชนะเธอตรงๆ เหมือนกัน อาจจะเพาะเมล็ดทำ ำลายจิตในใจเธอ แล้วปราบพยศโดยไม่ต้องสู้ก็ได้
เมื่อวานเขาสั่งให้หงซื่อพาคนไปยังบริษัทค่วงอวิ๋นแล้ว
หากเจรจาได้ พวกเขาจะไปรับช่วง
หากเจรจาไม่ลงตัว พวกเขาจะไปแย่งชิง
เขาลู่เซิ่งทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยชอบวิธีการอ้อมค้อมเหล่านั้น ทุกคนควรจริงใจ ฝ่ายหนึ่งจ จ่ายเงินฝ่ายหนึ่งรับของ ถ้าไม่สำเร็จ ฝ่ายหนึ่งค่อยมอบคนฝ่ายหนึ่งค่อยมอบของ
อย่างไรเมื่อการแลกเปลี่ยนสำเร็จ ทุกคนก็ยังเป็นเพื่อนกัน การผลัดเวลากันไปมาเป็นการผลาญเวลาของสองฝ่ายโดยใช่เห หตุ