ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1121 เชื้อเชิญ (1)
“มีวิธีอะไรที่ใช้แยกแยะคนที่หลอมรวมกับคัมภีร์แรกเริ่มได้บ้าง” ลู่เซิ่งถามคำถามสำคัญตรงๆ
“ไม่มีหรอก” หญิงผิวดำตอบอย่างสงบ
“ต่อให้มี คำถามแบบนี้คงไม่มีคนตอบมั้ง” ผู้หญิงร่างผอมเพรียวคนหนึ่งด้านข้างเธอ อดเอ่ยด้วยรอยยิ้มไม่ได้
“ถ้ามี อย่างนั้นการจะให้คนบอกสิ่งที่อยากรู้ ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับฉัน” ลู่เซิ่งผุดสีหน้าเรียบเฉย
“นอกจากนี้ ทางอิซราน่ะ ขอโทษที่พูดตรงๆ เขากราบฉันเป็นอาจารย์และเข้าร่วมสำนักมารลวงสิบดวงใจของฉันแล้ว หากจะจากไป เขาก็ต้องทรยศสำนัก หรือทำผิดกฎสำนัก แน่นอนว่าถ้าเป ป็นอย่างนั้น พวกเธอก็ไม่จำเป็นมาขอร้องฉัน เป็นเพราะต่อจากนั้น ฉันจะฆ่าเขาทิ้ง”
ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หญิงผิวดำกับผู้ช่วยด้านข้างเธอ ผุดสีหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย แต่ยังคงรักษามารยาทพื้นฐาน ลุกขึ้นแล้วถอนสายบัวคำนับลู่เซิ่งน้อยๆ
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ขอโทษที่รบกวน”
“ฉันยินดีให้พวกเธอมารบกวนฉันหลายๆ ครั้ง ที่นี่กำลังขาดอาหารปริมาณมากพอดี ถ้าหากว่าเธอเติมยุ้งฉางอาหารในระยะยาวได้ ฉันว่าฉันจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อผู้มีวจนะลับของเธอ ครั้งใหญ่” ลู่เซิ่งยิ้ม
“ขอโทษด้วย พวกเรามาเพราะอิซราเท่านั้น” หญิงผิวดำปฏิเสธการร่วมมือที่ลู่เซิ่งยื่นให้อย่างละมุนละม่อม ก่อนจะพาผู้ช่วยเดินออกจากโถงใหญ่อย่างใจเย็น
ลู่เซิ่งไม่ได้ขัดขวาง เพียงจ้องมองเงาหลังของอีกฝ่ายเงียบๆ
“ติดต่อกับอิซรา ตอนนี้เขาอยู่ไหน”
คนของสำนักหมัดมารลวงที่อยู่ด้านข้างกดหูฟังก่อนตอบ “ตอนนี้ยังติดต่อศิษย์พี่อิซราไม่ได้ครับ สัญญาณดาวเทียมตรงตำแหน่งที่เขาอยู่ขาดไป”
สัญญาณขาดไป ตอนแรกอาจทำให้คนอื่นสนใจ แต่พอขาดบ่อยเข้า ก็เริ่มมีคนชินแล้ว
“นอกจากนี้ ได้พิมพ์ภาพที่ฉันวาดมือออกไปติดประกาศหรือยัง” ลู่เซิ่งคิดเล็กน้อยก่อนถามอีก
“เอาไปติดประกาศแล้วครับ เพียงแต่อาจารย์ เกี่ยวกับอิซรา…” แจ๊คสันอ้ำอึ้ง
“มีปัญหาอะไรก็พูดตรงๆ” ลู่เซิ่งขมวดคิ้ว
“ช่วงนี้ คนที่เข้าทีมของอิซราจะเจอความเสียหายสูงกว่าทีมอื่นๆ ไม่น้อยครับ” แจ๊คสันกล่าวเบาๆ
“เพราะอะไร” ลู่เซิ่งถามเสียงแผ่ว
“ตามการวิเคราะห์และคาดเดา น่าจะมีกลุ่มพิเศษบางกลุ่ม หรือสัตว์ประหลาดที่พิเศษบางชนิด ลอบโจมตีพวกเขาตอนกลางดึก” แจ๊คสันหยิบแทปเล็ตพลังงานแสงอาทิตย์ที่พกติดตัวออกมา แล้วร รีบควบคุม
“อาจารย์ลองดูครับ พวกเราจำลองรูปร่างของผู้ลอบโจมตีขึ้นมา ตามที่สมาชิกที่รอดมาได้หลังถูกลอบโจมตี”
เขาวางแท็ปเล็ตไว้ด้านหน้าลู่เซิ่ง
จากนั้นลู่เซิ่งก็มองเห็นชายหนุ่มสวมชุดสีเทาที่ข้างใต้ชุดมีเกราะอ่อนสีเทาอยู่บนหน้าจอแท็ปเล็ต
ลู่เซิ่งพิจารณาอย่างละเอียด พบว่าลักษณะพิเศษของคนคนนี้เหมือนกับพวกคนชุดเทาที่เขาได้เจอก่อนหน้านี้
“ตรวจสอบพวกมันหรือยัง” เขาคืนแท็ปเล็ตให้แจ๊คสัน
“ครับ แต่ไม่เจอข้อมูลของพวกมันเลย พวกเราสงสัยอยู่บ้างว่า อีกฝ่ายไม่ได้มาจากฐานที่มั่นผู้รอดชีวิตที่เรารู้จักในตอนนี้ แต่เป็น…ขุมกำลังภายนอกที่เป็นปริศนา” แจ๊คสัน เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ขุมกำลังภายนอก...”
ปังๆๆ!
ทันใดนั้นด้านนอกก็มีเสียงปืนดังมา
เสียงปืนเสียดหูดังสะท้อนกลางอากาศยามกลางคืน
ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ มนุษย์หมาป่าสูงใหญ่ที่ร่างกลายเป็นควันดำเคลื่อนที่ไปมาฝูงหนึ่ง กำลังเคลื่อนที่ลอบโจมตีอิซราและคนอีกสองคนด้วยความเร็วสูง
“ระวัง!” อิซรากระโดดไปยืนอยู่บนร่างมนุษย์หมาป่าที่พุ่งเข้ามา แต่เพื่อนที่อยู่ด้านข้างกลับต้านทานแรงอันหนักอึ้งนี้ไม่ไหว ถูกมนุษย์หมาป่าอีกตัวตบปืนพกในมือกระเด็น
“กัลโล!” คนที่สามตะโกนพลางชักมีดออกมาฟันใส่มนุษย์หมาป่าที่กระโจนเข้ามา
เปรี้ยง!
เขาและมนุษย์หมาป่ากลิ้งออกไปบนพื้นสิบกว่าตลบ รอเขาคิดจะลุกขึ้นก็ไม่ทันกาลแล้ว
ฉึก มนุษย์หมาป่าบนพื้นแทงกรงเล็บเข้าไปในคอของเขา เลือดทะลักออกมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับถุงใส่น้ำที่เป็นรู
“ไม่!” ชายที่ถูกช่วยไว้ขอบตาร้อนผ่าว ตัวสั่นระริก ชักปืนมายิงใส่มนุษย์หมาป่าอย่างบ้าคลั่ง
อิซรายิงธนูดอกหนึ่งออกไปจากด้านข้าง กดดันให้มนุษย์หมาป่าอีกสองตัวถอยหลัง
“ไป!” เขาตะโกน
“ไม่! ฉันจะฆ่าพวกมัน!” กัลโลคำรามขณะยิงปืนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปืนส่งเสียงดังแชะๆ
อิซราพุ่งเข้ามาลากกัลโลวิ่งตะบึงไปยังที่ไกล
“หนี!”
พละกำลังที่เข้าใกล้ขีดจำกัดมนุษย์ซึ่งเขาฝึกมานาน ทำให้กัลโลไม่มีแรงขัดขืน ถูกฉุดลากให้วิ่งทันที
มนุษย์หมาป่าหลายตัวด้านหลังไล่ตามไม่ลดละ แต่กลับตามไม่ทันทั้งสองอยู่ชั่วขณะ
ทั้งสองฝ่ายวิ่งอยู่กลางซากปรักหักพังในความมืด ใช้อุปสรรคต่างๆ ในการหลบหลีกเหมือนเล่นซ่อนหา
ทั้งสองตัดผ่านซากปรักหักพัง จากนั้นไม่นานก็เห็นการ์ดหัวกะทิของซีเลียที่กำลังลาดตระเวน
การ์ดพวกนี้ต่างก็ฝึกฝนวิธีคำนวณซ้ำฉบับง่าย ทักษะการใช้ปืนของแต่ละคนเก่งกาจกว่าทหารทั่วไปหลายเท่า
พอเห็นพวกอิซราวิ่งกลับมา หัวหน้าทีมที่กำลังลาดตระเวนอยู่ก็ยกมือขึ้นแล้วรีบชักปืนออกมา
“เตรียมเตือนภัย!” เขาตะโกน
รอจนพวกอิซราวิ่งเข้าใกล้ เขาค่อยจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกัน
“รีบยิง!” อิซราที่แบกกัลโลไว้บนหลังกระโดดทีหนึ่งไปถึงข้างทีม
“ยิง!”
หัวหน้าทีมตัดสินใจทันที โบกมือชี้ไปยังด้านหลังอิซรา
สมาชิกด้านหลังชักปืนเล็งอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ปังๆๆๆ!
กระสุนหนาแน่นยิงใส่ความมืดที่เป็นปริศนา
ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ทีมลาดตระเวนสองทีมที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็ชักปืนออกมาเล็งใส่ความมืดแล้วกราดยิงเช่นกัน
มนุษย์หมาป่าหลายตนที่เพิ่งพุ่งออกมาจากความว่างเปล่ายังไม่ทันตกถึงพื้น ก็ถูกกระสุนที่หนาแน่นระดมยิงใส่จนต้องถอยหลังติดต่อกันขณะร้องโหยหวน
แม้กระสุนเหล่านี้จะเจาะผิวนอกของพวกมันไม่ได้ แต่ความเจ็บปวดที่ควรมีก็ยังคงมี
โฮก!
มนุษย์หมาป่าตัวที่แข็งแกรงที่สุดเงยหน้ากู่ร้อง
เปรี้ยง!
มันกระเด็นออกไปสิบกว่าเมตร
เวลานี้เสียงปึนที่ทึบหนักที่สุดจึงค่อยๆ ส่งมา กระจายไปตามท้องฟ้าราตรี
มนุษย์หมาป่าที่เหลือกลายเป็นควันเตรียมเคลื่อนย้าย
ตูมๆๆๆ!
ทันใดนั้นระเบิดมือสิบกว่าลูกก็ลอยหมุนเข้ามา ก่อนระเบิดอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นกลางอากาศ กลายเป็นก้อนเพลิงสีเหลืองที่ร้อนระอุ
มนุษย์หมาป่าไม่ทันแค่นเสียง ก็ถูกก้อนเพลิงกลบกลืนโดยสมบูรณ์
อิซราหอบหายใจ ขณะมองดูฉากที่มนุษย์หมาป่าถูกฆ่าด้วยสารพัดวิธี จิตใจก็ตกตะลึงอย่างไม่อาจบรรยาย
ตอนที่วิธีคำนวณซ้ำฉบับง่ายเพิ่งจะถูกสอนให้กลุ่มต่างๆ เขาไม่ได้รู้สึกว่ามีพลานุภาพเท่าไหร่
ทว่าตอนนี้ อย่างน้อยก็มีกลุ่มลาดตระเวนห้ากลุ่มที่วนเวียนอยู่ในซีเลียกลางความมืด ระดมยิงใส่มนุษย์หมาป่าจากระยะห่างและตำแหน่งที่แตกต่างกัน
การโจมตีอย่างหนักหน่วงที่ทยอยมาถึงในอาณาเขตเล็กๆ ซึ่งมีรัศมีไม่ถึงสิบเมตร เป็นการปูทางให้แก่ระเบิดมือในตอนสุดท้าย
มนุษย์หมาป่าที่ไม่กลัวกระสุนพวกนี้กลับถูกระเบิดกำจัดทิ้งอย่างง่ายดาย ภายใต้การประสานงานที่แน่นหนาแบบนี้
‘นี่มันช่าง…’ เขาไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ชั่วขณะ เขาเคยเห็นมนุษย์หมาป่าความมืดพวกนี้แบ่งกำลังออกมาสามสี่ตัว ก็กำจัดจุดรวมพลของมนุษย์ที่มีประชากรมากกว่าหมื่นคนได้อย่างสบ บายๆ
พวกมันไม่กลัวกระสุน มีคุณสมบัติต้านทานต่ออาวุธปืนธรรมดาสูงถึงขีดสุด ซ้ำยังมีพลังฟื้นฟูกล้าแข็ง กอปรกับความเร็วว่องไว จึงเป็นกองกำลังทะลวงฟันที่ดีที่สุด
ทว่าตอนนี้ มนุษย์หมาป่าความมืดชนิดนี้กลับถูกห่ากระสุนมากมายโจมตีใส่ระลอกแล้วระลอกเล่า
อิซรามองดูผู้นำมนุษย์หมาป่าฝ่าวงล้อมด้วยร่างโชกเลือด แต่ก็ถูกมือปืนระดับพระกาฬซุ่มยิงกดดันให้กลับไปอยู่ตรงกลาง
สัตว์ประหลาดที่มีความสามารถคืนชีพสุดยอดพวกนี้ถูกกระสุนปืนถล่มจนโงหัวไม่ขึ้น จากนั้นก็ผิวเปิดเนื้อแหว่ง สุดท้ายกระดูกแตกร้าว แม้แต่ไขสมองก็ระเบิดออกมา ร่างขาดเป็นหลายท่ อน ก่อนจะขยับตัวไม่ได้อีก
“เก็บงาน!” หัวหน้าทีมลาดตระเวนถอนใจ
“กลยุทธ์ของหัวหน้าสุดยอดจริงๆ!” เขาชมเชย “ในสถานการณ์ที่มองเห็นสภาพไม่ชัด ให้ถล่มโจมตีสักสิบนาทีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
อิซรายืนหอบอยู่ด้านข้างเขา ขณะกำลังจะเอ่ยปากนั่นเอง
ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนแปลง ผลักหัวหน้าทีมลาดตระเวนที่อยู่ด้านข้างออกไป
ฟ้าว!
ควันดำสายหนึ่งข้ามผ่านระยะห่างหลายสิบเมตรในความมืด พุ่งผ่านตำแหน่งเดิมของหัวหน้าทีมในพริบตา
“เจ้ามนุษย์อ่อนแอต่ำต้อย!” แขนหยาบใหญ่ที่เต็มไปด้วยขนสีดำข้างหนึ่งยื่นออกมาคว้าใส่คนอื่น
“ตายซะ!”
สมาชิกทีมลาดตระเวนตั้งตัวไม่ทัน ถูกฉีกร่างไปสองคน ส่วนคนที่เหลือกลิ้งหนีไปยังที่ไกล แต่ก็ไม่อาจขัดขวางการไล่ล่าของควันดำได้
ควันดำนั้นเหมือนเงาลวงตา ตัดผ่านระยะทางหลายสิบเมตร ตามพวกสมาชิกที่เหลืออยู่ทันอย่างง่ายดาย แล้วฆ่าคนคนนั้นตายต่อหน้าต่อตาอิซรา
“แกอีกแล้ว! ปาฮั่น!” พออิซราจำอีกฝ่ายได้ ขอบตาก็แดงก่ำทันที
เอฟรา อาจารย์วิชาธนูคนแรกของเขา ขณะเดียวกันยังเป็นหัวหน้าอัศวินประจำวิหารแห่งนิกาย ตายด้วยน้ำมือของสัตว์ประหลาดตรงหน้านี้
เขาในเวลานั้นได้แต่มองดูอาจารย์ยิงธนูออกไปดอกแล้วดอกเล่าอย่างเปล่าประโยชน์ เพื่อช่วยอำพรางการหลบหนีของเขาโดยที่ทำอะไรไม่ได้ จากนั้นก็เห็นอาจารย์ถูกปาฮั่นหักคอใต้แสง งจันทร์สลัว
ปีศาจหมาป่าปาฮั่นผู้ไร้ศัตรูใต้แสงจันทร์
อิซราเคยเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
มันเหมือนกับกำลังหยอกล้อตัวเขา หลายๆ ครั้งที่ปาฮั่นมีโอกาสฆ่าอิซรา แต่มันก็ไม่ทำ
มันเพียงแค่สังหารทุกคนรอบตัวอิซราอย่างไม่รีบร้อนเท่านั้น
ไม่ว่ามันจะเป็นยอดฝีมือของนิกาย หรืออัจฉริยะของขุมกำลังลึกลับอื่นๆ ก็ตาม
ทุกคนได้แค่เคียดแค้น ทว่าก็ไม่อาจทำอะไรได้ใต้กรงเล็บที่ไร้เทียมทานของมัน
ซู่ๆๆ!
ร่างของปาฮั่นเหมือนสายฟ้าแลบใต้แสงจันทร์ ไล่ล่าสมาชิกทีมลาดตระเวนที่กระจัดกระจายอย่างต่อเนื่อง มองเมินการซุ่มยิงอย่างบ้าคลั่งของพวกเขา แล้วค่อยๆ ฆ่าคนทีละคนจนหมดสิ้น
“ไม่!”
หัวหน้าทีมลาดตระเวนถลึงตากดปุ่มเตือนภัยบนตัวพลางคำราม
ตู้ด…
เสียงเตือนภัยที่เสียดหูและหนักอึ้งดังขึ้นบนกำแพงปราการอย่างรวดเร็ว
ปาฮั่นฆ่าคนสิบกว่าคนติดต่อกัน ก่อนจะหมุนตัวพุ่งไปยังกำแพงปราการ
หลังจากฆ่าคนอีกหลายคนดุจสายฟ้าแลบ มันก็กระโดดขึ้นมายืนบนกำแพงเมือง ยืนสองขาก้มมองอิซราที่ทำท่าโกรธแค้นอยู่ด้านล่าง
“สัมผัสได้หรือยัง เสียงโหยหวนของคนอ่อนแอ…”
มันกางแขน ขนยาวสีดำทั่วร่างเริงระบำล่องลอยเหมือนกับควันสีดำ