ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1123 โจมตีอีกครั้ง (1)
“ไม่เลวนี่นา”
ลู่เซิ่งที่ยืนอยู่บนสนามฝึก มองดูอิซราชักมีดในมือกลับมาอย่างค่อนข้างพอใจ
สามารถฟันมีดออกมาสิบครั้งติดต่อกันในเวลาหนึ่งวินาทีสั้นๆ แถมแต่ละครั้งยังระเบิดพลังทำลายล้างน่ากลัวเป็นตัวเลขหลักตันออกมาได้อีก
พลังแบบนี้ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดาไปแล้วจริงๆ
หลังจากการบุกโจมตีของปีศาจหมาป่าปาฮั่น เวลาก็ผ่านไปครึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว
ในครึ่งเดือนนี้ คนของสำนักมารลวงสิบดวงใจในซีเลียยกระดับด้วยความเร็วที่อลังการ
นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ และไม่ใช่เพราะลู่เซิ่งใช้วิธีการพิเศษอะไร หากแต่มาจากปีศาจหมาป่าปาฮั่น
หลังจากเลือดเนื้อของมันผ่านการเจือจางหลายครั้ง ก็ถูกนักสัตววิทยาและนักเคมีในซีเลียปรับเป็นเครื่องดื่มพลังงานสูงชนิดพิเศษ แล้วทำการแจกจ่ายเป็นจำนวนมาก
ซุปเนื้อหมาป่าที่เจือจางให้อ่อนลงหลายเท่าตัว ถูกแจกจ่ายเป็นอาหารประจำวันให้แก่คนธรรมดา ทำให้สำนักมารลวงสิบดวงใจเติบโตด้วยความเร็วสูง
พลังงานจากเนื้อของปาฮั่นอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา หลังจากกินซุปเนื้อหมาป่า เกือบทุกคนก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งขึ้นของคุณสมบัติร่างกาย ความกระปรี้กระเปร่าของจิตใจ และสภาวะพิเศษที่เลือดลมทั่วร่างเร่งความเร็วขึ้น
เทียบกับครึ่งเดือนก่อน สำนักมารลวงสิบดวงใจแข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวกว่าๆ!
“อาจารย์ พูดตามตรง ชีวิตในช่วงนี้สงบสุขเกินไป ผมรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ รู้สึกว่าร่างกายเหมือนเครื่องจักรที่ไม่ได้หยอดน้ำมัน ถึงขั้นขึ้นสนิมนิดหน่อยแล้ว” อิซราเกิดความรู้สึกมุ่งหาประโยชน์หลีกเลี่ยงอันตรายโดยสัญชาตญาณ
“สนิมเหรอ ไม่มีหรอก เส้นประสาทต้องมีทั้งการคลายและการตึง การปรับที่เหมาะสมมีไว้เพื่อการพัฒนาที่เร็วกว่าเดิม” ลู่เซิ่งเดินถึงกลางสนามซ้อม “ใช้งานวิธีคำนวณซ้ำได้หรือยัง”
“ครับ ความเร็วและระดับความแม่นยำในการส่งแรงของผมแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนไม่น้อยแล้ว” อิซราตอบตามตรง
“ยังไม่พอ ฉันมีวิธีการพิเศษวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เธอเติบโตและแข็งแกร่งเร็วกว่าเดิมได้ ตอนนี้คนอื่นๆ ไม่ได้มีร่างกายแข็งแรงเท่าเธอ ดังนั้น เธอยินดีช่วยฉันปรับปรุงวิชาลับพิเศษนี้ไหมล่ะ” ลู่เซิ่งถามด้วยสีหน้าราบเรียบ
“เป็นเกียรติของผมครับ อาจารย์” อิซราเอามือทาบอก ตอบเสียงทุ้มต่ำ
“หลังจากฝึกวิชาลับนี้ ร่างกายของเธอจะเติบโตและยกระดับด้วยความเร็วที่น่ากลัว ความเร็วแบบนี้จะทำให้เธอไม่สามารควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เพราะการช่วยเหลือจากเนื้อของปาฮั่น” ลู่เซิ่งกล่าวเสียงราบเรียบทุ้มต่ำ
“อาจารย์ลงมือได้เลยครับ ผมไม่กลัวอันตรายและการคุกคามใดๆ” อิซราเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
ลู่เซิ่งพยักหน้าอย่างพอใจ
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอจะตอบแบบนี้ สมกับเป็นศิษย์ของฉัน ในบรรดาศิษย์ทุกคน เธอคือคนที่ทำให้ฉันพอใจที่สุด”
“ขอบคุณครับอาจารย์” อิซราพยักหน้าน้อยๆ
“อย่างนั้น มาเริ่มกันเลย” ลู่เซิ่งยื่นฝ่ามือขวาออกมาช้าๆ ฝ่ามือของเขาพองใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่ตาเนื้อเห็นได้ เส้นเลือดและเส้นเอ็นหลายเส้นพองตัวอย่างต่อเนื่อง
อิซราคุกเข่าข้างหนึ่งลงข้างหน้าลู่เซิ่งด้วยท่าทีจริงจังและเต็มใจ ปล่อยให้ฝ่ามือของลู่เซิ่งปัดผ่านศีรษะของตัวเองเบาๆ
ครืน…
มีการสั่นสะเทือนและสั่นไหวที่ยากบรรยายส่งมาจากฝ่ามือของลู่เซิ่งในชั่วขณะที่เลือนราง
อิซรารู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับคนพายรือที่พยายามไขว่คว้าเรือเล็กท่ามกลางคลื่นทะเล การสั่นไหวและโยกเยกที่รุนแรงทำให้เขาอดเกร็งกล้ามเนื้อทั้งหมดไม่ได้
เขารู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนและเส้นใยกล้ามเนื้อทุกเส้นของตัวเอง กำลังบิดเบี้ยวและเกร็งเขม็งภายใต้การสั่นไหวอันแสนประหลาดนี้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ปะทะกันเอง
การสิ้นเปลืองอย่างมหาศาลทำให้เขาเหงื่อแตกในสองสามนาทีสั้นๆ
เดิมทีอาการเหงื่อออกมากนี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างรุนแรง แต่ภายใต้การควบคุมของลู่เซิ่ง อิซรารู้สึกว่าภูมิคุ้มกันทางร่างกายของตัวเองกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งในเลือดที่กำลังไหลเวียนด้วยความเร็วสูง
ไขมันมากมายถูกใช้งาน พลังงานที่กักตุนไว้กำลังลดลงอย่างรวดเร็วภายใต้การปะทะที่รุนแรงนี้
อิซรากำลังผอมแห้งลงด้วยความเร็วที่ตาเนื้อเห็นได้
สิ่งที่มาแทนที่คือ เค้าโครงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งกว่าเดิมหยาบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แม้สองตาของเขาแห้งผากและปูดโปน แต่สายตากลับเปล่งประกายอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“เรียบร้อย…พอแล้ว” ลู่เซิ่งค่อยๆ ชักมือกลับ “ร่างกายของเธอทนได้ถึงขั้นนี้เท่านั้น วิชาลับนี้ใช้พลังงานจากร่างกายอย่างมหาศาล แต่ช่วยขุดค้นศักยภาพให้เธอได้”
ความจริงวิชาลับที่ว่านี้ก็คือวิธีฝึกฝนแบบจำกัดตัวเองที่เขาเคยใช้บนโลกใบก่อน เขาได้ผสานมันเข้ากับทักษะที่พัฒนาจากหมัดลอบสังหารในโลกใบนี้ในระยะเวลาสั้นสุดขีด จนสามารถยกระดับความเร็วของกระบวนการเผาผลาญพลังงานและความเร็วในการเติบโตของกล้ามเนื้อได้
“ขอบคุณอาจารย์มากครับ!” อิซรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและแข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน พลังที่กล้าแข็งจนไม่คุ้นเคยหลายสายทะลักออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
“ไปเถอะ ไปปรับตัวให้ชินกับร่างกายในตอนนี้ ในฐานะผู้ฝึกฝนหมัดมารลวง เธอจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ไม่อย่างนั้นการปั่นป่วนประสาทสัมผัสจะไม่ได้มีผลแค่กับศัตรูเท่านั้น แต่จะมีผลกับตัวเธอเองเช่นกัน” ลู่เซิ่งกำชับ
“ครับ”
อิซราค่อยๆ ลุกขึ้น ก่อนก้มมองสองมือของตัวเอง
เปรี้ยง!
เขาต่อยหมัดไปด้านหน้า กำปั้นทะลวงอากาศในพริบตา
อากาศที่ไม่ทันถูกบีบอัดโดนกระแทกจนส่งเสียงระเบิดทึบหนักภายใต้กำปั้นที่เร็วเกินไปและพละกำลังที่รุนแรง
“นะ…นี่คือตัวเรางั้นเหรอ?!” อิซรามองมือตัวเองอย่างตกตะลึง หมัดเมื่อครู่สามารถทำให้อากาศระเบิดได้ นี่ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขาเพียงเคยเห็นการระเบิดของพละกำลังมหาศาลนี้จากตัวสัตว์ประหลาดในสัมผัสความเจ็บปวดบางส่วนที่มีร่างกายกำยำเท่านั้น
และตอนนี้ เขากลับกลายเป็นหนึ่งในนั้นไปแล้ว
“ไม่ต้องสนใจหรอก” ลู่เซิ่งยืนเอามือไพล่หลัง ร่างกายที่ล่ำสันสูงใหญ่ทอดเงาจางๆ ลงใส่ร่างของอิซรา
“ตั้งแต่วินาทีที่เธอเข้าสำนักมารลวงสิบดวงใจ เธอก็ควรตระหนักว่า พละกำลังไม่ใช่สิ่งที่พวกเราขาด สิ่งที่เธอต้องใส่ใจ คือการควบคุมแก่นของพละกำลังให้ได้”
“แก่นหรือ…” อิซราเหมือนฉุกใจถึงอะไรบางอย่างได้
“อาจารย์! มีคนตามหาอิซรา เลือดโชกทั้งตัว ใกล้ตายแล้ว เขาบอกว่าจะต้องเจออิซราให้ได้!”
ศิษย์หมัดมารลวงคนหนึ่งตะโกนอย่างละล่ำละลักขึ้นข้างลานฝึกซ้อม
สภาพแบบนี้เป็นสิ่งที่แทบจินตนาการไม่ออกในสำนักมารลวงสิบดวงใจ โดยเฉพาะในสำนักมารลวงสิบดวงใจในเวลานี้
ศิษย์หมัดมารลวงในซีเลียเจอการเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหดมาไม่น้อยในช่วงเวลานี้ คลื่นลมรุนแรงได้ผ่านไปแล้ว แต่กลับทำอะไรไม่ถูกเพราะคนได้รับบาดเจ็บหนักคนเดียว
“ดูเหมือนเธอจะมีความลับเยอะแยะเชียวนะ” ลู่เซิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ไปเถอะ จงเดินไปตามชะตาชีวิตของตัวเอง ถ้ามีวันใดวันหนึ่ง จิตใจของเธอไม่อาจค้ำยันเส้นทางที่เธอคิดมุ่งหน้าไปได้ อย่างนั้น…ฉันอนุญาตให้เธอกลับมาที่นี่เพื่อเคี่ยวกรำจิตใจของตัวเอง”
“อาจารย์!” อิซราก้มหน้าลงต่ำ ขอบตาเปียกชื้นอยู่บ้าง
ไม่มีใครรู้เลยว่าหลายปีที่ผ่านมาเขาทนทรมานแบบไหน ไม่มีใครเชื่อเขา ไม่มีใครรอคอยเขาอย่างจริงจัง แผนการนับไม่ถ้วน ความคาดหวังนับไม่ถ้วน การเสแสร้งและการหลอกลวง ความเชื่อใจและความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างต่างรวมกันที่จุดมุ่งหมายเดียว
นั่นคือการทำให้เขาเดินไปตามทางที่ถูกกำหนดไว้
มีแต่ลู่เซิ่ง มีแต่ซีเลีย เมื่ออยู่ที่นี่ เขาถึงได้สัมผัสช่วงเวลาที่อบอุ่นที่สุดและผ่อนคลายที่สุด
“ไปเถอะ ไปหาแขกของเธอกัน” ลู่เซิ่งกล่าวเสียงเรียบ
ศักยภาพร่างกายของอิซราทำให้เขาตกตะลึงอยู่บ้างเหมือนกัน การฝึกฝนแบบจำกัดตัวเองทำให้ผลของเนื้อปาฮั่นทับซ้อนกันในระยะเวลาไม่กี่วินาทีสั้นๆ แล้วยกระดับพละกำลังของอิซราขึ้นเกือบสามเท่า ความเร็วก็เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเช่นกัน
คุณสมบัติร่างกายและพลังต้านทานต่อพิษได้ยกระดับถึงขั้นอลังการ
แม้จะไม่ได้ยกระดับความเร็ว พละกำลัง และการป้องกันพร้อมกันเหมือนเขา แต่กระบวนการก็ค่อนข้างน่าตกใจเช่นกัน
‘หวังว่าเธอจะรักษาความตั้งใจเดิมไว้ได้’ เขามองส่งอิซราผละจากลานซ้อม ก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังประตูอีกด้าน
เขาควรยกระดับตัวเองต่อแล้วเช่นกัน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การปรับตัวเข้ากับขอบเขตใหม่ของร่างกายน่าจะจบสิ้นแล้ว
ถึงเวลาก้าวไปอีกขั้น
…
อิซราเร่งฝีเท้าเดินเข้าห้องรับแขก แวบแรกที่เห็นคนคนนั้น เขาก็สะดุ้งทันที
คนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก เป็นชายร่างโชกเลือดที่ทรวงอกมีบาดแผลขนาดใหญ่ซึ่งเห็นถึงอวัยวะภายในได้หลายแผล
ชายคนนั้นไว้ผมสั้นสีน้ำตาลและเคราเฟิ้ม สายตาสงบนิ่ง มือขวาประคองแขนซ้ายของตัวเอง บนขาสองข้างคือเนื้อเน่าสีดำ
กะโหลกส่วนหนึ่งบนศีรษะของเขาแหว่งวิ่น เผยให้เห็นกลีบสมองสีขาวที่กำลังเต้นอยู่ข้างใต้
รอบๆ มีศิษย์ที่ฝึกหมัดมารลวงล้อมอยู่หลายคน ทุกคนต่างก็มองชายหนวดเฟิ้มคนนี้ด้วยสายตาตกใจ
เหมือนกับทุกคนต่างตกตะลึงที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้
“อิซรา เจอกันอีกแล้วนะ” พอชายหนวดเฟิ้มเผชิญหน้ากับอิซรา ก็แสดงรอยยิ้มราบเรียบและเศร้าใจ
“นาย?!” อิซราจำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “ฮาร์ท! ทำไมนายถึงอยู่ในสภาพนี้ล่ะ!?”
เขาก้าวไปด้านหน้าสองสามก้าว กำลังจะประคองอีกฝ่าย แต่ชายหนวดเฟิ้มยื่นมือออกมาห้าม
“ฉันไม่รอดแล้วล่ะ อิซรา ฉันควรจะตายไปตั้งแต่สามชั่วโมงสี่สิบสองนาทีก่อนแล้ว แต่พลังของแกนวงจรทำให้ฉันฝืนเดินมาถึงนี่ได้ ฟังนะ เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้ว แมร์รี่ต้องการนาย!” ชายหนวดเฟิ้มกล่าวเสียงจริงจัง
“ไม่ ฉันจะไปตามหมอมา!” อิซรารีบหมุนตัวจะออกไปจากห้อง แต่ก็ถูกชายหนวดเฟิ้มห้ามไว้เช่นกัน
“แมร์รี่! เธอใกล้จะตายแล้วนะ”
“!?” อิซราชะงักฝีเท้า ไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าอึมครึมขึ้นเล็กน้อย
“ถึงแมร์รี่จะหลอกนาย แต่นายรู้ไหม ว่าเพื่อให้นายจากไปอย่างปลอดภัย เธอต้องจ่ายด้วยอะไร เธออยู่ที่ปราสาทเลือด!” ชายหนวดเฟิ้มเอ่ยอย่างจริงจัง
“ตอนนี้นายต้องการการรักษา!” อิซราสลัดหลุดจากการห้ามปรามของชายหนวดเฟิ้ม ก่อนสาวเท้าไปยังประตู
“อิซรา เห็นแก่ที่เราเคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ช่วยแมร์รี่ด้วยเถอะ…” ชายหนวดเฟิ้มชักมือกลับพลางถอนใจ
ร่างกายของเขาเริ่มปรากฏลวดลายเลือดหนาแน่นอย่างช้าๆ ลวดลายมากมายยื่นขยายอยู่บนผิวของเขา เหมือนกับกลีบดอกไม้ที่คลานไต่ และเหมือนกิ่งไม้ที่กำลังเติบโต
โครม!
ชายหนวดเฟิ้มร่างแหลกสลาย กลายเป็นเลือดมากมายไหลนองบนพื้นหินเรียบของห้องรับแขก
ไม่นานเลือดเหล่านี้ก็เริ่มระเหิดกลายเป็นหมอกควันสีแดง ก่อนจะค่อยๆ หายไป
อิซราร่างสั่นเล็กน้อย สุดท้ายก็หันไปมองเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้
แม้อีกฝ่ายและแมร์รี่จะเคยทรยศเขา แต่พวกเขาเคยเป็นสหายที่ร่วมแรงร่วมใจกัน และคำพูดสุดท้ายของชายหนวดเฟิ้มก็สะกิดใจเขาอย่างมาก
‘ปราสาทเลือด เป็นที่อยู่ของผีดูดเลือดที่อาจารย์ต้องไปพอดี…เป็นมันจริงๆ เหรอ’ อารมณ์ของอิซราปั่นป่วน แต่เปลือกนอกยังคงไม่พูดไม่จา ผุดสีหน้าเฉยชา
ศิษย์หมัดมารลวงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องรับแขก เห็นเสื้อผ้าที่ชายหนวดเฟิ้มทิ้งไว้บนพื้น
“ศิษย์พี่ อาจารย์ให้ศิษย์เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ถ้าต้องการความช่วยเหลือ สามารถกลับมาขอความช่วยเหลือที่ซีเลียได้เลย”
ดวงตาอิซราฉายแววตื้นตัน
“เข้าใจแล้ว!” เขาเดินไปถึงด้านข้างเสื้อผ้าของชายหนวดเฟิ้ม ก่อนจะก้มลงหยิบมีดและขวดยาด้านในขึ้นมา
“ฉันจะแก้แค้นให้นายเอง ฮาร์ท”
……………………………………….