ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1127 พ่ายแพ้ (1)
เปรี้ยง!
กรงเล็บแหลกสลายอย่างฉับพลัน แสงสีขาวสลายกลายเป็นควันสีขาวนับไม่ถ้วนกระจายออกไปรอบๆ
ตึกสองชั้นถูกควันขาวที่เป็นเส้นๆ ไหลเวียนปกคลุมไว้ชั่วขณะ
ร่างที่สูงใหญ่กำยำร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมอกควันสีขาวอย่างช้าๆ
เสื้อคลุมสีดำ กล้ามเนื้อที่เหมือนพันด้วยเหล็กกล้า รวมถึงผมยุ่งเหยิงสีดำที่กระจัดกระจายเหมือนราชสีห์ เป็นลู่เซิ่งที่เพิ่งเดินทางมาถึง
“อาจารย์…!” กล้ามเนื้ออิซราสั่นไหว พยายามปลุกสติจากอาการหยุดนิ่งอันน่ากลัว
ขอบตาเขาเปียกชื้นอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้เขาเล่นงานศิษย์ของคนอื่น จากนั้นอีกฝ่ายก็ออกมาไล่ล่าเขาตลอด
แต่ว่าครั้งนี้…เขาก็เป็นคนที่มีเบื้องหลังแล้วเหมือนกัน! ความรู้สึกปลอดภัยอันยิ่งใหญ่ที่บังเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในห้วงเวลาสำคัญแบบนี้ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเป็นพวกเดียว กับสำนักมารลวงสิบดวงใจ
“ชีวิตย่อมลุกไหม้ เหมือนกับดาวตกที่สุกสว่างที่สุด ระเบิดแสงและความร้อนทั้งหมดของตัวเอง จากนั้นก็ระเหิดกลางความร้อนระอุ ทิ้งร่องรอยของตัวเองเอาไว้ในโลก” ลู่เซิ่งเลื่อนสายต ตาไปจับอยู่ที่ชายชราสวมชุดคลุมสีขาว
“เป็นเพราะมีแต่ร่องรอยเท่านั้นถึงจะได้รับการขับขานไปรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันเน่าสลายตลอดกาล”
ฟ้าว!
เขาข้ามผ่านระยะห่างสิบกว่าเมตรแล้วผลักฝ่ามือออก
“นครมารไร้ขีดจำกัด!”
ควันดำนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากฝ่ามือของเขาในชั่วขณะที่พร่ามัว มือของเขาเหมือนกับพายุสีดำ
ลมแรงที่เหมือนพายุสั่นสะเทือนปราสาท ปกคลุมบริเวณรอบๆ ขณะส่งเสียงอึ้งอึง
“ราชาแห่งซีเลีย รอแกมานานแล้ว!” ชายชราชุดขาวถอยหลังก้าวหนึ่ง แสงขาวนับไม่ถ้วนระเบิดขึ้นด้านหลัง แล้วกระจายตัวพุ่งใส่ลู่เซิ่งจากสี่ทิศแปดทาง
“เทพตัดสิน!” ไม้เท้าสีทองบริสุทธิ์อันหนึ่งโผล่ขึ้นด้านหน้าชายชรา เขาจับมันไว้แล้วชี้ใส่ลู่เซิ่ง
ตูม!
ชั้นที่สองของปราสาทสีดำระเบิดอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นบนที่ราบสีมัวซัว
หน้าต่าง ห้อง รั้วทั้งหมดระเบิดอย่างรุนแรง ควันสีดำและควันขาวกลุ่มใหญ่ลอยออกมาพร้อมกับซากกำแพง ก่อนกระจายออกไปรอบๆ เหมือนหยดฝน
ท่อนบนของปราสาทเอนลงน้อยๆ เพราะการระเบิดที่บ้าคลั่ง ยอดปราสาทสูงหลายสิบเมตรไหลตกลงไปทางซ้าย ก่อนกระแทกใส่พื้นส่งเสียงดังสนั่น
ซากปราสาทกลายเป็นสังเวียนกลางแจ้ง
ลู่เซิ่งเหยียบควันดำ เสื้อคลุมสีดำถูกกระแสอากาศที่ระเบิดม้วนพัดจนกระพือไปด้านหลัง
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาในตอนนี้ นอกจากชายชราชุดขาวแล้ว ยังมีมือกระบี่เกราะหนักที่สวมเกราะสีทองเข้มไว้ทั้งตัว
ด้านหลังมือกระบี่มีเครื่องประดับสีทองที่เหมือนกับปีก ทุกๆ ส่วนของเกราะต่างก็สลักลวดลายและตัวอักษรที่ดูศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
“นี่คือร่างที่สัมผัสไม่ได้เหรอ” ชายชราทิ้งไม้เท้าสีทองที่หักและคดงอในมือทิ้ง
“อาศัยการรบกวนประสาทสัมผัสของคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดผลพิเศษที่ใกล้เคียงกับภาพลวงตา สัมผัสไม่ได้ที่ว่า ที่แท้ก็เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น น่าเสียดายที่ ภาพลวงตาแบบนี้ไม่มีผลต่อฉัน น”
“ในฐานะผู้เข้มแข็งที่รับการโจมตีจากฉันได้โดยไม่ตาย ฉันอนุญาตให้พวกแกแจ้งชื่อตัวเอง” จุดสีขาวหนาแน่นผืนใหญ่เต้นระริกอยู่ในสองตาของลู่เซิ่ง ร่างกายมโหฬารที่ถูกควัน ดำห้อมล้อมไว้ดูราวกับมารปีศาจ
แรงกดดันหนักหน่วงหลายสายกระจายออกไปจากตัวเขาอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่อิซราที่อยู่ด้านหลังเขาก็ยังตกตะลึงพรึงเพริด
‘นี่คือพลังของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์งั้นเหรอ’ เขาแสดงความตกตะลึงและความยำเกรง
ขนาดยืนอยู่ด้านหลังสภาวะสายนั้น เขาก็ยังรู้สึกว่าตนใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว แรงกดดันน่ากลัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามการเต้นของหัวใจของเขา
“คาเมียร์ นิกายรัตติกาล” ชายชราชุดขาวจ้องมองลู่เซิ่งอย่างเคร่งขรึม
“ซีแวน นิกายอีซิส” มือกระบี่เกราะหนักถือกระบี่ยักษ์ในมือแน่น ตอนที่รับฝ่ามือข้างนั้น แรงสั่นสะเทือนที่เหลืออยู่ยังทำให้เขารู้สึกแสบมือจนถึงตอนนี้
“องค์สันตปาปา!” ชายผมแดงคนหนึ่งคลานออกมาด้านหลังชายชรา เป็นออร์ชายหนุ่มผมแดงที่เมื่อครู่เพิ่งสู้กับอิซราไปนั่นเอง
“ที่นี่ให้ฉันจัดการ เธอไปรวมตัวกับคนอื่นๆ ก่อน” ชายชรากล่าวเสียงเรียบ
“แต่ว่า!
“ไปซะ!”
ออร์กัดฟัน กำลังจะหมุนตัวผละไป แต่รอบๆ ปราสาทมีคนสวมชุดดำร่างกำยำที่ถือปืนกลล้อมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
บนเสื้อผ้าของคนชุดดำทุกคนมีลวดลายเหมือนกับบนชุดของลู่เซิ่ง ลวดลายนั้นเหมือนเทวรูปปีศาจหกแขนที่กำลังยืนอยู่บนจานเลือดเนื้อ
ออร์ยังคิดจะฝ่าออกไป แต่ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงมาจากหน้าผากโดยสัญชาตญาณ
เขาชะงักฝีเท้า ไม่กล้าเคลื่อนไหวอีก
เขามองดูไกลๆ เห็นคนชุดดำพวกนั้นพากันตั้งปืนไรเฟิลระยะไกลขึ้น ปากกระบอกทั้งหมดพากันเล็งมาทางด้านนี้
“ราชาแห่งซีเลีย แกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” ชายชราชุดขาวเอ่ยเสียงเอื่อยเฉื่อย
“ฉันกำลังรวบรวม” ลู่เซิ่งยกเท้าก้าวไปด้านหน้า
“ในหมู่พวกมนุษย์มักปรากฏแนวคิดหลากหลาย อย่างเช่นพวกเราทุกคนต่างก็มีจิตใจฟุ้งซ่าน และสิ่งที่ฉันต้องการทำคือ…”
ครืน!
เขายกมือขึ้นจับกระบี่ยักษ์ที่ปรากฏขึ้นทางขวามือของเขาดุจสายฟ้าฟาด แล้วฟันลงล่าง
ตูม!
มือกระบี่ร่างสีทองถูกแรงอันมหาศาลฟาดจนหล่นลงไปชั้นล่าง
“การกำจัดทิ้ง”
ลู่เซิ่งกางสองแขน
“จงดู โลกนั้นทุกข์ทรมาน สิ่งมีชีวิตร้องโหยหวน สิ่งที่ฉันต้องทำ คือการกำจัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดให้แก่ทุกเผ่าพันธุ์ เพื่อรวบรวมพลังเป็นหนึ่ง”
“คนที่แต่งคำพูดให้การกำจัดศัตรูเสียยิ่งใหญ่แบบนี้ น่าจะมีแค่แกคนเดียว…” ชายชรากล่าวเสียงเย็นชา
“ในธรรมชาติ ผู้อ่อนแอตกเป็นอาหารแก่ผู้แข็งแกร่ง ก็เพื่อคัดเลือกพลังอันเข้มแข็งที่ปกป้องตัวเองได้ไม่ใช่เหรอ และฉัน ก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นฉันจึงไม่ได้กำลังกำ ำจัดศัตรู แต่กำลังปกป้องธรรมชาติ และปกปักษ์สันติภาพโลกต่างหาก” ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เหลวไหล!” ชายชราพุ่งไปด้านหน้า เกิดเป็นเงาลวงหลงเหลือ สองมือบิดเบี้ยวกลายเป็นแสงวังวนสีขาวตบใส่ลู่เซิ่ง
ลู่เซิ่งดีดฝ่ามือขวาออกไปขวางมือของอีกฝ่าย จากนั้นก็คว้ากรงเล็บซ้ายใส่คอของชายชรา
เปรี้ยง
ทั้งสองแยกกัน แล้วพุ่งไปหาอีกฝ่ายดุจสายฟ้าฟาดอีกครั้ง
ลู่เซิ่งเพิ่งเคยเจอคู่ต่อสู้ที่ตามความเร็วของตัวเองทันเป็นครั้งแรก ถึงขั้นกล่าวได้ว่า อีกฝ่ายยังเร็วกกว่าเขาเสียอีก
ทุกๆ ครั้งที่ชายชราเปลี่ยนส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเองเป็นแสงสีขาว ความเร็วจะเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง ไปถึงขั้นที่แม้แต่เขาก็ไล่ตามไม่ทัน
ทุกๆ ครั้งที่สองฝ่ายปะทะหมัดกับเท้า ฝุ่นกลุ่มใหญ่จะพัดขึ้น ชุดบนตัวพวกเขาฉีกขาดภายใต้การปะทะกันอย่างรุนแรง
ลู่เซิ่งถือโอกาสฉีกชุดส่วนที่ขาดทิ้ง เผยให้เห็นร่างท่อนบนหนั่นแน่น สองมือสร้างเงาลวงตาออกมานับไม่ถ้วนขณะป้องกันการโจมตีที่ชายชราจู่โจมมาจากรอบๆ
ทั้งสองฝ่ายต่างมีพละกำลังแข็งแกร่งจนน่าอัศจรรย์ หลุดจากขอบเขตที่มนุษย์ไปถึงได้โดยสิ้นเชิง
อิซราหลบอยู่ด้านหลัง แต่หูเริ่มจะอื้อเพราะเสียงสั่นสะเทือนดังสนั่น
เขารู้ว่าตัวเองต้องไปแล้ว เพราะหากอยู่ที่เดิมต่อ หูได้หนวกแน่
เปรี้ยง!
ขณะที่กำลังจะล่าถอย ชายชราชุดขาวที่อยู่ไม่ไกลก็กระอักเลือด ถูกต่อยกระเด็นออกไปชนใส่ยอดไม้สีเขียวชอุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ปราสาท
ลู่เซิ่งกำลังจะไล่ตามไป กลับมีกระบี่ยักษ์สีทองเข้มแทงมาจากข้างใต้ เขาถอยหลังก้าวหนึ่ง ในที่สุดพื้นก็ถล่มร่วงลงล่าง
เขาอาศัยสภาวะทิ้งตัวลงไปชั้นหนึ่ง ไม่ถึงสามวินาทีก็เกิดเสียงทึบอึงอล ประตูหลักของปราสาทและร่างสีทองร่างหนึ่งปลิวกระเด็นออกมา ตกลงบนสวนดอกไม้ด้านหน้า
ลู่เซิ่งก้าวออกจากประตูที่ถล่ม มองดูมือกระบี่สีทองเข้มที่กำลังกระอักเลือด
“ดูเหมือนนิกายอีซิสคิดจะต่อสู้กับฉันให้ถึงที่สุดสินะ”
แม้อีกฝ่ายจะเร็ว แต่ขอบเขตการต่อสู้ในความเป็นจริงกลับสู้เขาไม่ได้
ชายชราที่อยู่ไม่ไกลหยัดร่างขึ้นจากใต้ต้นไม้ หน้าแดงก่ำ เลือดไหลออกมาจากตาและจมูก
แม้จะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยจากการศึกษาคัมภีร์แรกเริ่ม ซึ่งรวมถึงความสามารถนี้ มันเป็นเทคโนโลยีการวิจัยที่มาจากคัมภีร์แรกเริ่ม เทคโนโลยีพิเศษที่พัฒนาจากการผสานวิทยาการหลายชน นิด
แต่ทุกอย่างนี้กลับด้อยกว่าราชาแห่งซีเลียที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน
คาเมียร์ไม่เคยเห็นทักษะที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน ราวกับเป็นวิชาต่อสู้ที่ได้จากการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน
แต่ที่ไหนบนโลกใบนี้ที่สร้างสัตว์ประหลาดแบบนี้ออกมาได้บ้าง
หากพูดถึงปรมาจารย์ล่าสัตว์ประหลาด ในนิกายรัตติกาลก็มีหลายคนไปถึงระดับนี้ได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ประหลาด ผู้ที่แข็งแกร่งถึงขั้นนี้ได้ จนถึงตอนนี้เขาเห็น นลู่เซิ่งแค่คนเดียว
แสงสีขาวหลายกลุ่มลอยขึ้นจากร่างท่อนบนของคาเมียร์ เลือดจากห้าอวัยวะบนใบหน้าของเขาระเหยหายไป ร่างกายเหมือนกับรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดจนหายดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
แต่เขารู้ว่านี่เป็นการดื่มยาพิษดับกระหาย ร่องรอยแห่งแสงเป็นเพียงแค่การเบิกพลังมาใช้ก่อน ทำให้อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาหยุดเลือดไหลและหยุดความรุนแรงชั่วคราว แต่เกิดเว วลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเมื่อไหร่ อาการบาดเจ็บบนตัวเขาจะสาหัสยิ่งกว่าเดิม
‘จำเป็นต้องเผด็จศึก!’ ชายชราชุดขาวดึงเสื้อคลุมตัวนอกทิ้ง แล้วกระโจนเข้าหาลู่เซิ่งอีกครั้ง
มือกระบี่สีทองเมื่อก่อนหน้านี้คืบคลานลุกขึ้นจากประตูใหญ่ ก่อนจะตามมาติดๆ ทั้งสองรุมลู่เซิ่งสุดกำลัง แต่การโจมตีทุกครั้งล้วนถูกการโต้กลับที่ว่องไวและหนักอึ้งกว่าเดิมสะท ท้อนกลับมา
การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทำให้อวัยวะภายในของพวกเขาสองคนเริ่มรับภาระไม่ไหว
พวกเขาไม่รู้ว่าตนจะทนได้อีกสักเท่าไหร่ การรุมฆ่าครั้งนี้ได้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ใช้อิซราล่อราชาแห่งซีเลียมา ทำทีเป็นชิงคัมภีร์แรกเริ่ม แต่ความจริงคือรุมฆ่าลู่เซิ่ง
ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ พลังของลู่เซิ่งอยู่เหนือกว่าความคาดหมายของพวกเขา สันตะปาปาแห่งนิกายรัตติกาลลงมือเอง ร่วมมือกับหัวหน้าอัศวินแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารมืดในนิกายอ อีซิส แต่ก็ยังคงได้แต่ฝืนประคับประคองเท่านั้น
เรื่องสำคัญของพวกเขาในตอนนี้คือการหาวิธีหลบหนี
ที่นี่อยู่ห่างจากนิกาย จึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือขนาดใหญ่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งตกอยู่ในวงล้อมของซีเลีย ถึงเวลานั้นจะผละหนีได้ยากกว่าเดิม
ทั้งสองกระสับกระส่ายขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
ชั่วขณะนั้นอิซราและออร์เพียงเห็นร่างสีขาวและสีทองรุมโจมตีลู่เซิ่ง
แต่ลู่เซิ่งสามารถป้องกันการโจมตีของทั้งสองคนได้สบายๆ และทุกๆ การโจมตีกลับทำให้พวกเขาทุลักทุเล ต้องถอยไปตั้งหลักหลายวินาทีถึงจะเข้ามาโจมตีใหม่ได้
อิซราถูกกดดันให้ถอยออกมาหลายสิบเมตร รวมตัวกับศิษย์คนอื่นๆ ในสำนักหมัดมารลวงแห่งซีเลีย
การฝึกหมัดมารลวงรวมถึงการรับประทานเนื้อของปาฮั่นทำให้ความเร็วและพละกำลังของศิษย์หมัดมารลวงเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวงโดยใช้เพียงเวลาสั้นๆ ร่างกายเองก็เริ่มมีลักษณะใกล้เคีย ยงกับลู่เซิ่งยิ่งกว่าเดิมเช่นกัน
แม้ความสามารถต่อสู้ระยะประชิดจะไม่เท่าอิซราและออร์ แต่การใช้ปืนในการต่อสู้ระยะไกลก็มีแสนยานุภาพไม่น้อย
เวลานี้ออร์ที่อยู่ไกลออกไปถูกมือสไนเปอร์สามคนและมือปืนอานุภาพสูงสิบกว่าคนที่อยู่รอบๆ ยิงจนโงหัวไม่ขึ้น ร่างโดนยิงไปแล้วสามนัด ได้รับบาดเจ็บหนัก
บนตัวเขากางเลือดสีแดงเข้มออกมาเป็นเกราะกำบังอย่างต่อเนื่อง แต่เกราะกำบังพวกนี้ทนได้หนึ่งวินาที ยังไม่ทันก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ก็ถูกระเบิดอานุภาพสูงทำลายทิ้ง ไม่อาจปรา ากฏได้อย่างสมบูรณ์
มีดในมือเขาสร้างหนวดเลือดอออกมาหลายเส้น เพิ่งจะเปลี่ยนรูป ก็ถูกมือสไนเปอร์ยิงทะลวง หลังโดนเหมือนเดิมติดต่อกันหลายครั้ง คมมีดก็เกิดรอยร้าว ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
……………………………………….