ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1129 ล่อลวง (1)
หนึ่งเดือนต่อมา
หลังจากยึดปราสาทเลือดได้ อาณาเขตของซีเลียก็ขยายไปถึงอาณาเขตรอบๆ ปราสาทเลือดสำเร็จ
อาณาเขตยืดขยายจากเขตก่อนหน้าไปถึงปราสาทเลือด ตรงกลางมีที่ราบอุดมสมบูรณ์ผืนใหญ่อยู่แห่งหนึ่งคั่นไว้
หลังจากหลบเลี่ยงจุดสำคัญที่ภูตผีปรากฏ อาณาเขตอื่นๆ ก็สามารถเอามาใช้บุกเบิกและหว่านปุ๋ยได้
สำนักมารลวงของลู่เซิ่งขยับขยายอย่างต่อเนื่อง ศิษย์รอบนอกจำนวนมากออกไปร่วมมือกันล่าสัตว์ประหลาดทุกชนิดที่อาจปรากฏตัว
พวกเขามีความแม่นยำในการยิงปืนและพลังสมาธิน่าตกใจ ความเร็ว ความอดทน และพละกำลังเหนือกว่าคนอื่นๆ บุกชิงดินแดนอย่างต่อเนื่องขณะดำเนินการล่า ไม่นานก็กลืนกินพวกกระดูกแข็งส่วนใหญ่ได้
ส่วนที่ยังเหลืออยู่ให้ศิษย์มารลวงอย่างเป็นทางการเช่นอิซราลงมือด้วยตัวเอง สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ศิษย์อย่างเป็นทางการสามารถสวมเกราะของอัศวินขาวได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ และภายใต้การหล่อเลี้ยงของเนื้อปาฮั่น กล้ามเนื้อของแต่ละคนจึงแข็งแกร่งจนไม่อาจบรรยาย พวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดมโหฬารในเวลาหนึ่งเดือนสั้นๆ
ในนี้ นอกจากด้านอาหารแล้ว เหมือนสภาพแวดล้อมก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้วย
การเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมนี้ส่งผลต่อลู่เซิ่งอย่างลางเรือน
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตนเลื่อนระดับได้ง่ายกว่าเดิม หลังจากเลื่อนระดับหมัดลอบสังหารติดต่อกันสิบกว่าขั้น เขาก็พัฒนาถึงระดับยี่สิบเก้าในคราวเดียว
ระดับสามสิบเหมือนจะเป็นจุดเปลี่ยน ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างไร และไม่ว่าจะใช้พลังอาวรณ์พัฒนาถึงขนาดไหน ก็ยังติดอยู่ที่ระดับสามสิบ
ตามการวิเคราะห์และบอกใบ้ของดีปบลู ระดับที่สามสิบนี้เหมือนต้องการเงื่อนไขภายนอกที่พิเศษบางอย่าง
และตอนนี้เขายังไม่บรรลุเงื่อนไขนี้
การที่เลื่อนระดับไม่ได้ชั่วขณะ และการที่แม้แต่ดีปบลูก็ไม่สามารถวิเคราะห์สิ่งสำคัญได้ทำให้ลู่เซิ่งหงุดหงิด
ในตอนที่อยู่ว่างๆ เขาก็เริ่มใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้รับมาในการจัดทำคู่มือสัตว์ประหลาด
โดยการบันทึกสัตว์ประหลาดและความผิดปกติทั้งหมดไว้ด้วยกัน เพื่อสะดวกให้คนในสำนักระวังป้องกันไว้ก่อน
คู่มือรวบรวมสัตว์ประหลาดแต่ละชนิดที่ทุกคนรู้จัก แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงข้อมูลอ้างอิง ไม่กล้ารับประกันความแม่นยำ แต่แค่นี้ก็มีคุณค่าให้อ้างอิงถึงขีดสุดแล้ว
คู่มือใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าๆ ในการจัดทำ จากนั้นลู่เซิ่งก็เริ่มแบ่งระดับสัตว์ประหลาดในคู่มืออย่างละเอียด
เขาแบ่งสัตว์ประหลาดทั้งหมดบนคู่มือเป็นห้าระดับได้แก่
ระดับ A คือเจ้าหญิงแมลงศพที่โดดเด่นที่สุด นี่เป็นระดับสูงสุด คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องคิดหาวิธีรับมือ
ระดับ B ต่อจากนั้นคือสัตว์ประหลาดที่สู้ยาอย่างเช่นฝูงฟาเตียน
ระดับ C ค่อยเป็นระดับของเหยี่ยวเงินยักษ์ หรือไม่ก็หัวหน้าอัศวินซีแวนที่ถูกฆ่าทิ้ง
ตามการแบ่งของลู่เซิ่ง ความแตกต่างระหว่างระดับแต่ละระดับในตารางระดับตารางนี้อลังการถึงขีดสุด แทบไปถึงขั้นที่ไม่อาจข้ามระดับได้
พอเปิดเผยตารางระดับ ก็เจอกับปฏิกิริยาหรือการตอบสนองที่รุนแรงของซีเลียทันที
ศิษย์หมัดมารลวงมากมายเริ่มแบ่งระดับตัวเองตามมาตรฐานของตารางระดับ
เกือบทุกระดับในตารางระดับต่างมีคู่มือสัตว์ประหลาดที่อยู่ในระดับเดียวกันให้เปรียบเทียบ การวัดข้อมูลจึงตรงไปตรงมา
หลังจากทดสอบแล้ว ก็ได้ผลลัพธ์ว่าในซีเลียมีระดับ D หกคน ระดับ E สิบคน
ในระดับ D หกคนได้แก่ศิษย์หมัดมารลวงแกนกลางอย่างอิซราและแจ๊คสัน
และลู่เซิ่งก็ได้ดำเนินการจัดพลังของตัวเองตามตารางระดับเช่นกัน
หลังจากเขาเลื่อนถึงระดับยี่สิบเก้า ก็น่าจะเข้าสู่ระดับ A อย่างเป็นทางการ
และความแตกต่างของระดับแต่ละระดับในตารางระดับก็มีอย่างน้อยหนึ่งต่อหนึ่งร้อย
หมายความว่า ระดับ C หนึ่งร้อยคนรวมพลังกัน ถึงอาจเอาชนะระดับ B หนึ่งคนได้
หลังจากแบ่งระดับเสร็จ ทีมตรวจสอบของซีเลียก็ตรวจสอบสถานการณ์รอบๆ ตามตารางระดับและคู่มือสัตว์ประหลาด
หลังจากดำเนินการแบ่งพลังสัตว์ประหลาดชนิดต่างๆ เรียบร้อย ความซับซ้อนของข้อมูลก็ลดลงอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อการกำจัดสัตว์ประหลาดรอบๆ ซีเลียอย่างล้ำลึกด้วย
ในด้านการกำจัด สำนักมารลวงสามารถพิจารณาส่งกองกำลังออกไปตามตารางระดับได้
หลังจากสร้างตารางระดับออกมา อาณาเขตของซีเลียก็ขยายอีกครั้งในเวลาหนึ่งเดือนสั้นๆ และเริ่มปรับปรุงระบบป้องกันขนาดยักษ์ที่ใช้ป้อมปราการซีเลียเป็นแนวหน้าภายใต้ความตั้งใจของลู่เซิ่ง
ระบบป้องกันทอดยาวที่มีชื่อว่าอันซีสเริ่มทำงานในซีเลียด้วยความรวดเร็ว
อันซีสในภาษาท้องถิ่นมีความหมายว่าโล่ที่แข็งแกร่ง ลู่เซิ่งเชื่อมต่อฐานที่มั่นเข้าด้วยกันเหมือนกับกำแพงยาว แล้วเริ่มก่อสร้างกำแพงป้องกันขนาดมหึมา
ภายใต้การช่วยเหลือจากเครื่องจักรขนาดใหญ่ของยุคปัจจุบัน
ใช้เวลาสามเดือนกว่าๆ ระบบป้องกันอันซิสก็เสร็จสมบูรณ์
กำแพงแกร่งที่สูงถึงสี่เมตรกว่าๆ ห้อมล้อมซีเลียเอาไว้
หลังจากลู่เซิ่งฆ่าสัตว์ประหลาดชนิดพิเศษที่มีพลังคืนชีพแข็งแกร่งอีกหลายตัว สำนักมารลวงก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ทำให้พลังของศิษย์หมัดมารลวงในซีเลียเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในระยะเวลาสั้นๆ
พลังเฉลี่ยของศิษย์เข้าใกล้ระดับ E แล้ว พวกอิซราถึงขั้นอาจเลื่อนจากระดับ D เข้าสู่ระดับ E ได้ตลอดเวลา
ภายใต้เบื้องหลังแบบนี้ หมัดมารลวงมีอิทธิพลและชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ ขยายถึงฐานที่มั่นที่อยู่ใกล้ๆ หลังจากทราบว่าขนาดของซีเลียใหญ่ขึ้น ผู้รอดชีวิตที่มาสวามิภักดิ์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกัน
ในช่วงปลายปี หลังจากซีเลียตรวจสอบประชากร จำนวนคนทั้งหมดก็ทะลุถึงหนึ่งแสน
…
หิมะโปรยปราย
สีขาวทั่วท้องฟ้าค่อยๆ ย้อมแนวป้องกันอันซิสเป็นสีขาวโพลน
กำแพงดินขรุขระที่เพิ่งสร้างกลายเป็นดินแข็งที่ทนทานกว่าเดิมหลังเจอน้ำเดือดปริมาณมาก ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง
เหล่ากรรมกรในซีเลียค่อยเริ่มสร้างกำแพงหินที่ทนทานกว่าเดิมภายในด้านหลังกำแพงดิน ซีเมนต์และคอนกรีตจำนวนมากถูกหลอมเป็นกำแพงหินหนักอึ้งที่หนาถึงสามเมตร
เสียงเครื่องยนต์ของเครื่องจักรขนาดใหญ่อย่างรถขนส่งขนาดใหญ่ เครื่องปั่น และเครื่องขุดเจาะทำให้โลกแปลกประหลาดที่เงียบสงัดแห่งนี้คึกคักและมีชีวิตชีวา
บนรถบรรทุกขนาดใหญ่คันหนึ่งในนี้
ลู่เซิ่งนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ เล่นมีดโลหะที่เพิ่งสร้างออกมาในมือ สายตาจับอยู่ที่ถนนสร้างใหม่ที่ถดถอยไปด้านหลังนอกหน้าต่างรถ
คนขับรถเป็นศิษย์มือดีคนหนึ่งของหมัดมารลวง ชื่อมาร์ค เจเนส เป็นเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์ที่ก้าวสู่ระดับ E สำเร็จแม้จะเพิ่งมีอายุ 19 ปี
มาร์คแตกต่างจากศิษย์คนอื่นๆ เขาเงียบขรึม หน้าตาหล่อเหลา ร่างกายกำยำสูงใหญ่แต่กำเนิด บวกกับโครงกระดูกไม่เลว จึงได้รับความสำคัญจากลู่เซิ่ง พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มาร์ค ยังจำได้ไหมว่าทำไมตอนนั้นเธอเข้าสำนักมารลวง” ลู่เซิ่งละสายตากลับมา ถามเสียงแผ่วเบา
เครื่องยนต์รถบรรทุกและเสียงจากเขตก่อสร้างที่โหวกเหวกด้านนอกไม่สามารถกลบเสียงของเขาได้
มาร์คขมวดคิ้ว คำถามนี้เป็นส่วนที่เขาไม่อยากพูดถึง แต่คนที่ถามคือเจ้าสำนัก และเป็นอาจารย์ที่เขาเคารพนับถือที่สุด
ดังนั้นเขาจึงนิ่งไปเล็กน้อยก่อนตอบอย่างว่าง่าย
“เพราะพ่อผม พี่น้องของผม ตายด้วยน้ำมือปีศาจศพดำระดับ C ผมอยากแก้แค้น เลยแสวงหาเส้นทางแก้แค้น สุดท้ายก็ได้โอกาสเข้ามาเป็นศิษย์ของอาจารย์”
“เธอพยายามมากแล้ว แม้จะห่างจากระดับ C อีกเยอะก็ตาม” ลู่เซิ่งเอ่ยเสียงสงบ “แต่เทียบกับคนธรรมดา เธอได้รับความสำเร็จที่คนธรรมดาจินตนาการไม่ออกแล้ว ปืนทั่วไปสร้างการคุกคามให้เธอไม่ได้ สัตว์ประหลาดที่เธอล่าก็มีเกินเลขสองหลัก เธอในตอนนี้มีพลังแล้ว…ต้องบรรลุจุดมุ่งหมายแบบไหน เธอถึงจะทำให้ปณิธานการแก้แค้นของตัวเองลุล่วงล่ะ”
“ปณิธานของผมคือฆ่าสัตว์ประหลาดทุกตัวให้หมดครับ อาจารย์” มาร์คตอบเสียงขรึม
“ทุกตัวเหรอ...เป็นอุดมคติที่ยิ่งใหญ่ดี หวังว่าเธอจะมีวันที่ทำให้เป็นจริงได้” ลู่เซิ่งไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ
“อย่างนั้นปณิธานของอาจารย์ล่ะครับ” มาร์คถามกลับ “สร้างซีเลียขึ้นมา ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของคนนับไม่ถ้วน ปณิธานของอาจารย์สำเร็จหรือยังครับ”
“ปณิธานของฉันเหรอ...” ลู่เซิ่งมองไปยังชั้นเมฆสีเทาที่ยิ่งใหญ่นอกหน้าต่างรถอีกครั้ง “ความจริงฉัน แค่อยากเป็นคนธรรมดาที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า…ทุกอย่างที่ฉันทำ ความจริงล้วนทำเพื่อตัวเอง”
“แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผลลัพธ์ที่อาจารย์สร้าง ได้ทำให้ครอบครัวนับไม่ถ้วนได้ประโยชน์ อาจารย์เองเคยพูดว่า ไม่ว่าความตั้งใจแรกสุดจะเป็นอย่างไร ผลลัพธ์ก็ยังเป็นผลลัพธ์ ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้” มาร์คเอ่ยเสียงเรียบ
“ถูกต้อง…” ลู่เซิ่งหัวเราะ “ฉันเองก็ปลื้มใจมากที่มีศิษย์อย่างพวกเธอ เอาล่ะ ถึงที่หมายแล้ว”
รถบรรทุกค่อยๆ หยุดลง จอดข้างเรือนกระจกที่เชื่อมต่อกันกลุ่มใหญ่
ลู่เซิ่งผลักประตูโดดลงจากรถ จากนั้นก็เดินไปหาพนักงานต้อนรับของฝ่ายพลาธิการที่มารออยู่นานแล้ว
“เจ้าสำนัก” หัวหน้าฝ่ายพลาธิการคุนดี้เป็นชายผิวดำร่างสูงใหญ่ที่สวมต่างหูและชุดสูท ดูหยาบกระด้างมาก แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่ได้รับใบปริญญาเอกทางเกษตรศาสตร์ ชีววิทยา และพฤกษศาสตร์ ขณะเดียวกันยังเชี่ยวชาญภาษาถึงเจ็ดภาษา
“ดีใจมากที่ได้พบเธออีกครั้ง คุนดี้” ลู่เซิ่งตบบ่าอีกฝ่าย เขาที่สูงสองเมตรกว่าๆ และกำยำเหมือนกับหมีสีเทา แม้จะตบไหล่คุนดี้เบาๆ แต่ก็ทำให้ฝ่ายหลังทนไม่ได้เล็กน้อย สองเท้าเกือบจมลงไปในพื้นหิมะ
“ศิษย์รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เจออาจารย์อีกครั้ง” คุนดี้เอ่ยอย่างจริงจัง
“ฉันมาดูว่าการเก็บเกี่ยวของฐานพืชและสัตว์ลอตแรกเป็นยังไง ไปเถอะ เข้าไปคุยกัน” ลู่เซิ่งบุ้ยใบ้
คุนดี้พยักหน้า รีบสั่งการเจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็เป็นเพื่อนลู่เซิ่งเดินไปยังเรือนกระจกด้วยกัน
“ตามแผนการของอาจารย์ พวกเราได้ดำเนินแผนการเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์ลอตแรกแล้ว ตอนนี้เป็นฤดูหนาว แต่เป็นเพราะเรือนกระจก พวกเราเลยเก็บเกี่ยวผักและเครื่องเทศยี่สิบแปดชนิดเช่นถั่ว ข้าวโพด มะเขือเทศ และมะเขือสำเร็จ แต่นี่เป็นเพียงล็อตแรกที่ได้จากการทดลอง ต่อจากนี้สามารถทำการเพาะปลูกขนาดใหญ่ได้”
คุนดี้แนะนำอย่างรวดเร็ว
“ครั้งนี้ที่เชิญอาจารย์มา หลักๆ เพราะอยากให้อาจารย์ตรวจสอบสถานการณ์การแพร่พันธุ์ของเนื้อในฐานเพาะเลี้ยงใต้ดิน”
“หือ การแพร่พันธุ์ของเนื้อเกิดอะไรขึ้นเหรอ” ลู่เซิ่งถามอย่างแปลกใจ
“คืออย่างนี้ครับ พวกเราสร้างเนื้อโดดเด่นที่มีพลังคืนชีพแข็งแกร่ง ระดับแคลอรี่สูง และวิตามินครบทุกชนิด ผ่านการปรับแต่งแบบผสมของยีนคืนชีพระดับสุดยอดหลายชนิดสำเร็จ พวกเราเรียกมันว่า ดวงอาทิตย์หมายเลขหนึ่ง”
“จากนั้นล่ะ” พอลู่เซิ่งเห็นสีหน้าของคุนดี้ก็รู้ทันทีว่าเขายังมีอะไรจะพูดต่อ ถ้าเป็นเรื่องแค่นี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกเขาที่กำลังกักตนให้มายังที่นี่ซึ่งอยู่ห่างจากซีเลียมากกว่าร้อยกิโลเมตรอย่างเป็นการเร่งด่วนแน่
“จากนั้น…พวกเราพบปรากฏการณ์น่าสนใจอย่างหนึ่ง” ดวงตาคุนดี้ฉายแววตื่นเต้นที่ไม่อาจอธิบาย “อีกเดี๋ยวอาจารย์เห็นก็จะรู้เองครับ”
……………………………………….