ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1166 ขัดแย้ง (2)
“เธอนี่เอง…ตอนกลางวันควรพักผ่อน เธอมาทำอะไร” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างหมดคำพูด “มาร้านฉันบ่อยๆ แบบนี้ ว่างนักหรือไง”
เด็กสาวชื่ออันนา อันนา เจอร์มัน จากความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่สัมผัสได้ น่าจะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของร่างร่างนี้
นับตั้งแต่ได้รู้จักกับลู่เซิ่งเมื่อครั้งนั้น เด็กสาวคนนี้ก็มักมาคุยกับเขาเป็นประจำ พูดถึงเรื่องชีวิต งานอดิเรก ถึงขั้นเรื่องแฟนหนุ่ม
ทั้งสองคนเริ่มคุ้นเคยกันอย่างช้าๆ
เพียงแต่ปกติแล้วเขาจะไม่เปิดร้านตอนนอนกลางวัน อีกฝ่ายเองก็รู้ ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงได้มาแบบไม่มีมารยาทขนาดนี้กัน
“ฮ่าๆ พี่ฮาวล์ พ่อฉันได้ยินเรื่องพี่ วันนี้มาเยี่ยมฉันที่โรงแรมพอดี เลยจะมาดูของในร้านพี่สักหน่อย เห็นแก่หน้ากันหน่อยนะ เปิดร้านก่อนได้ไหมคะ” อันนาอ้อน
“พ่อเธอเหรอ” ลู่เซิ่งขยับคออย่างช้าๆ เริ่มหายง่วงแล้ว “ก็ได้ เธอให้เขาเข้ามาดูเองเถอะ”
เขาเดาเป้าหมายของอีกฝ่ายออกแล้ว
ไม่นานนัก อันนาก็เปิดประตูกว้างขึ้นเล็กน้อย ตนเข้ามาก่อน จากนั้นก็ให้ชายกลางคนผมขาวคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังตามเข้ามา
เขาสวมชุดลำลองสีขาว สีหน้าแลดูเคร่งขรึม แต่มีความคาดหวังแทรกอยู่ มองออกว่าเนื้อผ้าที่เขาสวมใส่มีมูลค่าสูง จะต้องไม่ใช่ของถูกๆ บุคลิกเจ้าคนนายคน ไม่ใช่คนธรรมดา
พอเขาเข้ามา สายตาไม่ได้มองชั้นวางของรอบๆ หากพิจารณาลู่เซิ่งทันที
ลู่เซิ่งพิจารณาอีกฝ่ายคร่าวๆ เช่นกัน
“เธอ…เหมือนจริงๆ…” น็อตติ้งมองลู่เซิ่งอย่างตกตะลึง อีกฝ่ายเหมือนกับเขาตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด
ความรู้สึกนี้บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ นอกจากความเกลียดคร้านที่ฝังในกระดูกนั่นแล้ว จุดอื่นๆ ทั้งคิ้ว จมูก ตา ไม่มีส่วนใดที่ไม่เหมือนเขาในสมัยหนุ่ม
พริบตาที่เห็นอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่า เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ชายตรงหน้าจะเป็นลูกของเขาที่พลัดพรรากไปหลายปี
คำนวณเวลา ลูกของเขาน่าจะอยู่ในวัยนี้แล้ว
“สวัสดีครับ ลู่เซิ่งยื่นมือออกมาโบก
น็อตตี้ถูกลูกสาวกระทุ้ง ค่อยได้สติ รีบยื่นมือมาจับกับลู่เซิ่ง
“น็อตติ้ง เจอร์มัน พ่อของอันนา ดีใจมากที่ได้รู้จักเธอ” เขาเค้นยิ้ม
“ฮาวล์ ซาลาดิน เหมือนกันครับ” ลู่เซิ่งตอบ
“ขอเสียมารยาทถามหน่อยนะ ฉันได้ยินอันนาเล่าให้ฟัง เธอน่าจะเป็นเด็กกำพร้าใช่ไหม” น็อตติ้งอดทนไม่ไหว เข้าสู่ประเด็นทันที สายตาที่กระตือรือร้นและตื่นเต้นจ้องมองลู่เซิ่ง แสดงท่าที กรุณาและละอายใจอย่างชัดเจน
“ครับ ใช่แล้ว ผมโตในสถานสงเคราะห์น่ะ” ลู่เซิ่งพยักหน้า
“อย่างนั้น เธอเคยตามหาพ่อแม่ของเธอไหม” น็อตติ้งถามอย่างกระวนกระวาย
“เคยครับ น่าเสียดายที่ไม่เจอ ต่อมาอายุมากขึ้นๆ เลยยอมแพ้ไปแล้ว” ลู่เซิ่งยักไหล่
“ไม่รู้สึกเสียดายหรือ คนอื่นๆ เขามีพ่อแม่กันหมด แต่เธอไม่มี”
“เสียดายสิครับ แต่มันเป็นเรื่องฟ้าลิขิต คนไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก สิ่งที่ผมทำได้ก็คือ ทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้น ใช้ชีวิตมีความสุขขึ้น” ลู่เซิ่งยักไหล่
น็อตติ้งนิ่งไปเล็กน้อย
“ถูกต้อง ฟ้าลิขิต น่าเสียดายมากจริงๆ เธอดูเหมือนจะมีวาสนากับอันนานะ ความจริง ถ้าลูกคนโตของฉันยังอยู่ล่ะก็ น่าจะมีอายุเท่าเธอนี่แหละ…”
“…” ลู่เซิ่งไม่ได้พูดต่อ เขาเดาออกคร่าวๆ แล้วว่าอีกฝ่ายคิดทำอะไร
เป็นอย่างที่เขาคาดไว้
น็อตติ้งเปลี่ยนเรื่อง
“หลังจากได้ยินอันนาเล่าว่าเธอกับฉันหน้าตาเหมือนกันมาก ฉันก็อยากจะมาเจอเธอให้ได้ ตอนนี้…” เขาหายใจถี่กระชั้น “ตอนนี้ ฉันสมปรารถนาแล้ว…เห็นหน้าเธอแล้วเหมือนเห็นตัวเองตอ อนหนุ่มๆ เธอเข้าใจ เข้าใจความหมายของฉันไหม”
ลมหายใจเขาเร่งเร็ว พูดออกมาในครั้งเดียว สะดุดไปสองครั้ง อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นบ้างแล้ว
“ขอโทษนะครับ คุณใจเย็นๆ ก่อน” ลู่เซิ่งส่ายหน้า บุ้ยใบ้ให้เขานั่งลง จากนั้นก็หมุนตัวไปรินน้ำมาให้แก้วหนึ่ง
“เจ้าหนุ่ม…ฉันรีบร้อนเกินไป” น็อตติ้งสูดหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองเยือกเย็นลง
“ไม่ต้องรินน้ำให้ฉัน ฉันขอตัวก่อน ครั้งหน้าจะมาเยี่ยมใหม่ เธอ…คิดให้ดีๆ ล่ะ…” น็อตติ้งคิดจะทำให้ตัวเองใจเย็นลง และทำให้ลูกชายใจเย็นเช่นกัน
ผลลัพธ์ที่เพิ่งทราบนี้กะทันหันเกินไปสำหรับสองฝ่าย
ลูกชายต้องการขั้นตอนทำใจยอมรับและขั้นตอนไตร่ตรอง
“อันนา” เขาไม่รอลู่เซิ่งตอบ เรียกอันนาที่กำลังนั่งดื่มน้ำ “ไปเถอะ พวกเราไปด้วยกัน ให้พี่ชายลูกได้พักสักหน่อย”
“ค่ะ!”
อันนามองความผิดปกติออกเช่นกัน คุณพ่อเหมือนจะแน่ใจมากว่า พี่ฮาวล์เป็นลูกชายของเขา แต่ก่อนที่จะได้รับการยืนยันทางสายเลือด ทุกอย่างยังคงเป็นข้อมูลที่ไม่อาจยืนยัน สองฝ่ายต้อง ใจเย็นกันก่อน
สองพ่อลูกบอกลาลู่เซิ่ง ก่อนทยอยออกจากร้านไป
เสียงประตูร้านปิดดังแกร๊กลอยมาจากด้านหลัง
น็อตติ้งพาอันนาเดินไปถึงมุมถนนทางขวามือ ที่นั่นมีบอดี้การ์ดรออยู่หลายคน รถหรูกันกระสุนสองสามคันจอดเรียงอยู่ริมถนน พร้อมจะขับผละไปได้ทุกเวลา
น็อตติ้งไม่พูดอะไรสักคำ เปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง อันนานั่งเบียดกับเขา
พวกบอดี้การ์ดทยอยตามขึ้นรถ
เขาหายใจลึกอย่างต่อเนื่อง อารมณ์พลุ่งพล่านเล็กน้อย
ผ่านไปสักพัก จึงค่อยๆ ใจเย็นลง
“เขาเป็นอย่างนี้ตลอดหรือ เปิดร้านเล็กๆ อยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตแบบนี้” น็อตติ้งมองดูร้านซาลาดินจากกระจกมองหลัง ร้านที่การตกแต่งเก่าโทรมและหน้าร้านเล็กแคบแห่งนั้น ทิ่มแทงหัว วใจเขาอย่างล้ำลึก
“ค่ะ…อย่างน้อยตั้งแต่หนูรู้จักเขามา ก็ไม่เคยเห็นเขาทำงานอย่างอื่น” อันนาพยักหน้า
น็อตติ้งนิ่งเงียบ
บรรยากาศในรถเริ่มเคร่งขรึมและเศร้าโศก
“เป็นความผิดพ่อเอง…ถ้าตอนนั้น พ่อคิดให้ดีอีกนิด เตรียมการระวังป้องกันเพิ่ม บางที…” สีหน้าเขาแสดงความทรมานและการโทษตัวเองอย่างเปิดเผย
“พ่อคะ…” อันนาจับมือเขาเบาๆ “ไม่ใช่ความผิดของพ่อหรอกค่ะ”
“ไม่ นี่เป็นความผิดพ่อ…” น็อตติ้งจับมือลูกสาว “พ่อจะชดใช้ให้เขา…” พอนึกถึงว่าลูกชายมีชีวิตลำเค็ญแบบนี้มาหลายปี เขาก็แน่นหน้าอกเหมือนสำลัก พูดอะไรไม่ออก
“เติบโตขึ้นในสถานสงเคราะห์คนเดียว ฝ่าฟันในสังคมอย่างเดียวดาย ไม่มีที่พึ่งพิง หัวแตกเลือดออก โค้งตัวยิ้มรับ ไม่รู้ว่าต้องพยายามขนาดไหนถึงจะเปิดร้านเล็กๆ แบบนี้ได้…อันนา ว วันหน้าลูกต้องเอาอย่างพี่ลูก ถือว่าชดเชยให้เขาแทนพ่อ พ่อรู้ว่าลูกเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในครอบครัว แตกต่างจากน้องชายลูก…”
อันนาพยักหน้าอย่างจริงจัง
“หนูจะทำค่ะ”
น็อตติ้งไม่พูดอะไรอีก ครั้งนี้ที่เขามาด้วยตัวเอง ก็เพื่อยืนยันว่าชายที่อันนาพูดถึงเป็นลูกชายของตนหรือไม่
และเป้าหมายก็บรรลุแล้ว
เดิมทีเขามีเพียงความเพ้อฝันและความหวังที่เลื่อนลอย ไม่ยอมปล่อยความเป็นไปได้ใดๆ ทิ้ง เลยมาด้วยตัวเอง
ความจริงเขารู้อยู่แก่ใจว่า หลังตามหามาตลอดหลายปีแต่ก็ยังหาไม่เจอ ความหวังเหลือริบหรี่มากแล้ว
นึกไม่ถึงว่า โชคชะตาจะล้อเล่นกับเขา
ถ้าไม่ใช่การปลอมแปลง อย่างนั้นแค่ดูจากหน้าตาของอีกฝ่าย ก็เป็นไปได้ถึงขีดสุดว่าจะเป็นลูกแท้ๆ ของตน
“ต่อจากนี้หนูจะไปเอาเส้นผมจากร้านพี่ แล้วไปทำการยืนยันสายเลือดที่หน่วยวิจัยของบริษัท พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะจัดการทุกอย่างเอง” อันนาจับหลังมือชราของน็อตติ้งอย่างแผ่วเบา า
“อา รอรายงานออกมา พ่อจะเปิดประชุมอย่างเป็นทางการ แล้วแบ่งหุ้นที่กำหนดไว้ให้พวกลูก…พี่ลูก ตัวลูก และน้องชายลูก พ่อเตรียมไว้มานานแล้ว” น็อตติ้งกล่าวอย่างจริงจัง
…
ลู่เซิ่งนึกไม่ถึงว่าน็อตติ้งจะมาไวไปไวแบบนี้ หลังจากพบว่าอันนาคือน้องสาวเขา เขาก็ทำการศึกษาว่า น็อตติ้ง เจอร์มันที่อยู่เบื้องหลังอันนาเป็นใคร ผ่านเครือข่ายขนาดใหญ่ในมือ
สาเหตุที่เขาไม่อยากไปเจอเร็วเกินไป ก็เพราะ น็อตติ้ง เจอร์มัน โด่งดังมาก
การติดต่อเขาเร็วเกินไป จะทำให้ตัวตนของลู่เซิ่งปรากฏแก่สายตาคนนับไม่ถ้วน นี่ไม่สะดวกต่อการตามหาหวังจิ้งของเขา
น่าเสียดายที่ หลังจากน็อตติ้งมาในวันนั้น อันนาก็มาหาเขาบ่อยๆ ถามไถ่เรื่องราวตอนเด็กๆ ของเขา ยังมีการบอกใบ้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผ่านคำพูดว่า เธอและเขามีความสัมพันธ์เป็นพ พี่น้องแท้ๆ
เธอยังถามเขาอย่างเป็นนัยๆ ว่า อยากจะไปอยู่กับพ่อแม่ ใช้ชีวิตด้วยกันไหม แต่ลู่เซิ่งปฏิเสธอย่างละมุนละม่อม
ล้อเล่นหรือไง ตอนนี้เขาซ่อนความลับไว้มากมาย การอาศัยอยู่ตัวคนเดียวสะดวกสบายที่สุด ถ้าอยู่ด้วยกัน ก็ต้องการสิ่งของสำหรับอำพรางจำนวนมาก นอกเสียจากเขาสะกดจิตคนอื่นๆ ทุกวัน ไม่อย ย่างนั้นอย่าหวังจะรักษาความลับแบบแน่นหนาต่อไป แต่การสะกดจิตคนทุกวันไม่มีผลดีต่อจิตใจและจิตวิญญาณของเป้าหมาย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาควบคุมได้
ดังนั้น แม้อันนาจะเสนอสวัสดิการและผลประโยชน์คต่างๆ ให้ ลู่เซิ่งก็ยังไม่หวั่นไหว
แม้อันนาจะแอบยืนยันทางสายเลือด จนเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นลูกคนโตของตระกูลเจอร์มัน หรือพี่ชายของอันนาจริงๆ
แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับเอง อย่างนั้นอันนาและน็อตติ้งก็พูดชัดๆ ไม่ได้
ต่อมาน็อตติ้งมาหาตามลำพังหลายครั้ง คิดจะมอบเช็คให้แก่เขา แต่เขาก็ปฏิเสธหมด
พอหลายครั้งเข้า น็อตติ้งก็ทราบว่าลู่เซิ่งไม่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตในตอนนี้ เลยให้อันนาเป็นสะพานสื่อสารระหว่างทั้งสอง ตัวเขาเองยุ่งกับการทำภารกิจในบริษัท มาบ่อยๆ ไม่ได้
ปัญหาเรื่องครอบครัวได้รับการแก้ไขชั่วคราว ทางลัทธิกลับเกิดปัญหาขึ้น
ลัทธิเทพนอกรีตโลหิตในสี่ลัทธิใหญ่ หรือลัทธิที่เดินในแนวทางใต้ดินและสโมสรสตรีเป็นหลัก ในที่สุดก็เกิดการกระทบกระทั่งกับสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ ตัวแทนของพลังเหนือธรรมชาติใน นโลกใบนี้
จุดเริ่มต้นคือ ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่พเนจรที่เดิมสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ต้องการตัว ถูกลัทธิเทพนอกรีตโลหิตดึงเข้าลัทธิ ความสามารถของผู้มีพลังพิเศษฮีโร่คนนี้พิเศษอย่างยิ่ง มีความสำคัญไม่น้อย
สมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ไม่ยินยอม ส่งคนไปหว่านล้อม แต่กลับค้นพบอย่างประหลาดใจว่า ความสามารถของผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ไม่เป็นทางการคนนี้ พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจนในระยะเวลาสั้นๆ
เรื่องนี้กระตุ้นความระวังของพวกเขา ดังนั้นจึงเกิดการตรวจสอบขนาดใหญ่ ในที่สุดก็เปิดผ้าคลุมเร้นลับของลัทธิเทพนอกรีตโลหิตออกมา
ศิษยาภิบาลและเจ้าลัทธิเกิดความขัดแย้งกับผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ระดับต่ำของสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ ในการปะทะกัน เกิดผลลัพธ์เลวร้ายสาหัสที่มีคนตายสามบาดเจ็บหนึ่ง
ลัทธิเสียคนไปสอง สมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่เสียไปหนึ่ง บาดเจ็บหนักหนึ่ง
ผลลัพธ์ที่เลวร้ายสาหัสได้กระตุ้นความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ลัทธิเทพนอกรีตโลหิตก็ส่งอัครมุขนายกหนึ่งคน มุขนายกสิบสามคน ไปร่วมมือกันแก้แค้น สังหารผู้ม มีพลังพิเศษฮีโร่ระดับ C ห้าคนในสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่โดยใช้เวลาสั้นๆ
ครั้งนี้ได้สร้างความวุ่นวายให้แก่โลกเหนือธรรมชาติอย่างสมบูรณ์