ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1167 ที่อยู่ (1)
“โลกกำลังพังทลาย แต่ความเชื่อของพวกเราจะไม่เปลี่ยนแปลง ลัทธิจะช่วยเหลือทุกอย่างสิ่ง ไถ่ถอนบาปบแก่ทุกสิ่ง และรองรับทุกสิ่ง ผู้มีศรัทธา หลุดพ้นจากโลก สุดท้ายจะได้ไปยังดินแดนทวย ยเทพอันลึกลับไม่มีใครรู้จัก…”
ในโบสถ์ร้างอันกว้างขวางแห่งหนึ่ง ร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำกลุ่มหนึ่งนั่งบนม้านั่งยาว ฟังการอธิษฐานที่ชายวัยกลางคนกำลังดำเนินการเงียบๆ
ทุกคนที่นั่งอยู่ ต่างมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง ไม่เหม่อลอยสักคนเดียว ใบหน้าของทุกคนต่างแสดงความศรัทธา
โครม!
ทันใดนั้นประตูโบสถ์ก็ถูกพละกำลังมหาศาลกระแทกเปิด
ทหารที่สวมเกราะจักรกลสีดำกลุ่มหนึ่งถือปืนเร่งฝีเท้าพุ่งเข้ามาในโบสถ์
ชายหญิงคู่หนึ่งที่ติดสัญกญลักษณ์ตะขอสีแดงของสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ เดินเข้ามาในโบสถ์
“แกคือฮาโบน่าเหรอ” คนที่เป็นผู้นำถามเสียงเย็น ขณะมองอัครมุขนายกที่ยืนอยู่ด้านบนสุด
“ถูกต้อง ฉันคือฮาโบน่า และทาสที่ซื่อสัตย์ของพระผู้เป็นเจ้า” ชายวัยกลางคนตอบด้วยสีหน้าอ่อนโยน
เขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ด้านหลังและด้านหน้าเสื้อคลุมมีรูปภาพสีเงินที่เหมือนกับวงแหวนเวทขนาดใหญ่ ดูเหมือนกับรูปทรงขนมเปียกปูนและแผ่นกลมซ้อนทับกัน
เขากางแขนออก เหมือนต้องการโอบกอดอะไรสักอย่าง
“พวกคุณก็มาขอบคุณความมีน้ำพระทัยของพระผู้เป็นเจ้าเหมือนกันหรือ”
“ขอบคุณบ้าขอบคุณบออะไร! ตายซะ!” ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่สองคนชักปืนออกมายิงใส่อัครมุขนายกพร้อมกัน
“บังอาจฆ่าเพื่อนฉัน พวกแกต้องชดใช้ด้วยชีวิต!” ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ชายคนนั้นผุดสีหน้าเหี้ยมเกรียม ลั่นไกติดต่อกัน
เหมือนกับเป็นสัญญาณ ทหารที่อยู่รอบๆ พากันยกลำกล้องปืนขึ้นเล็งสาวกที่นั่งอยู่รอบๆ
ปังๆๆๆ…
หลังจากกราดยิงใส่
กระสุนพาพุ่งกันยิงเข้าไปในร่างของสาวกและอัครมุขนายกอย่างไร้อุปสรรค
ละอองเลือดกระจายว่อน แต่สิ่งที่น่าประหลาดก็คือ อัครมุขนายกฮาโบน่าและสาวกที่อยู่รอบๆ ไม่กระดิกตัวสักคนเดียว
กระสุนที่เจาะเข้าร่างพวกเขาเหล่านั้นเหมือนกับเม็ดถั่ว ไม่นานก็ถูกดันออกมาจากแผ่นหลัง
“ด้วยอำนาจแห่งพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครทำร้ายสาวกของพระองค์ได้…” อัครมุขนายกฮาโบน่าค่อยๆ ลดสองแขนลง
ฟ้าว!
ทันใดนั้นก็มีเงาสีขาวสายหนึ่งกะพริบ พุ่งออกมาจากด้านหลังเขา
นั่นคือหนวดขนาดยักษ์ที่อยู่ในสภาพโปร่งแสง ด้านบนมีปุ่มดูดนับไม่ถ้วน
หนวดฟาดอย่างรุนแรง ทหารที่พุ่งเข้ามาสองกลุ่มตอบสนองไม่ทัน ถูกพละกำลังมหาศาลฟาดกระเด็นไปทุกทิศทุกทาง
ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่สองคนที่เป็นผู้นำถลึงตา ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ชายก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว กล้ามเนื้อท่อนบนขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว บนร่างปรากฏสีเทาอมเงินจางๆ
อ๊าก!
เขาคำรามพลางกอดหนวดเส้นยักษ์
เปรี้ยง!
สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ เขาทำสำเร็จ หนวดยักษ์ถูกเขาหยุดไว้ในอ้อมกอด
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ หนวดยักษ์หลายสิบเส้นพุ่งออกมาจากด้านหลังอัครมุขนายก เงาดำแน่นขนัดพันผู้มีพลังพิเศษฮีโร่สาวที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะยกเธอขึ้นสูง
“จงเสียใจเถอะ! สาวกนอกรีต!” อัครมุขนายกตะโกน
โผละ!
ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่สองคนถูกบดขยี้เป็นซากแทบจะพร้อมกัน
…
‘ลัทธิเทพนอกรีตโลหิตพัฒนาเร็วขนาดนี้เชียว’ ลู่เซิ่งสัมผัสข้อมูลที่เพิ่งส่งมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ด้านในเมืองร้างของเขตไกลปืนเที่ยงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโลก คนของสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่และลัทธิเทพนอกรีตโลหิตเกิดความขัดแย้งกัน
ลัทธิเทพนอกรีตโลหิตเรียกสั้นๆ ว่า ลัทธิโลหิต ปัจจุบันมีสาวกหลายหมื่นคน เส้นทางที่พวกเขาเดินไม่เพียงเป็นเส้นทางมืด ยังมีเขตล้าหลังยากจนที่อยู่ห่างไกล
ในเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆ พลังอาวรณ์ที่ได้มามีจำนวนเกินวันละหลายร้อยหน่วยแล้ว
พึงทราบว่านี่เป็นเพียงพลังอาวรณ์ที่ลัทธิหนึ่งมอบให้ กลับเยอะถึงขนาดนี้
ลู่เซิ่งสัมผัสข้อมูลที่ส่งมาจากทางอัครมุขนายก
ลัทธิโลหิตมีเพียงอัครมุขนายก นี่เป็นระดับสูงสุด อย่างน้อยก็เป็นระดับสูงสุดในปัจจุบัน ตำแหน่งขชองลัทธิไม่สามารถสถาปนาตัวเองได้ ได้แต่รอให้องค์เทพประทานให้ เป็นเพราะระด ดับแต่ละระดับมีขีดจำกัดอำนาจแตกต่างกันไป
อัครมุขนายกสามารถอัญเชิญตัวตนแข็งแกร่งระดับที่สามของวิหารดวงดาวได้ ลู่เซิ่งได้แบ่งวิหารดวงดาวออกเป็นห้าระดับ ระดับห้าระดับตรงกับอำนาจอัญเชิญที่มอบให้แก่สาวก
ขณะเดียวกันถ้าสาวกพวกนี้ศรัทธาพอ ยังสามารถประสานเสียงร่วมกับสัตว์ประหลาดที่อัญเชิญออกมาบ่อยสุด จากนั้นก็ส่งผลกระทบต่อกันและกัน รวมถึงหลอมรวมกันเอง ค่อยๆ พัฒนากายเนื้อและจิ ตใจในระดับใหญ่หลวง กลายเป็นผู้เข้มแข็งทางอ้อมได้
สิ่งที่ทำให้ลู่เซิ่งตกตะลึงก็คือ เมื่อครู่นี้ ในที่สุดอัครมุขนายกของลัทธิโลหิตก็ไปถึงระดับอำนาจใหม่สำเร็จ พลังอาวรณ์ที่เขาสั่งสมไว้อัญเชิญสัตว์ประหลาดระดับสี่ได้แล้ว
และอัครมุขนายกคนนี้ก็เพิ่งมาถึง ผ่านไปได้ไม่กี่วันก็เลือกอัญเชิญ ฟาเตียน สัตว์ประหลาดพิเศษชนิดหนึ่งที่ลู่เซิ่งเพิ่งพามาจากโลกใบก่อน
พูดอีกอย่างก็คือ เป็นมารสวรรค์ฟาเตียนฉบับโลกรูปจิต
ฟาเตียนฉบับนี้มีพลังฟื้นฟูแข็งแกร่งกว่าเดิม กำลังและความเร็วดุดันกว่าเดิม ทั้งยังครอบครองความสามารถพิเศษ
ดังนั้นจึงไม่ผิดจากที่คาดไว้ ผลลัพธ์ก็คือผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ระดับ C สองคนจากสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ที่มุ่งหน้าไปปราบปราม รวมถึงทหารสวมเกราะพกอาวุธสามสิบกว่านาย ล้วนพิน นาศย่อยยับ ไม่เหลือใครรอดสักคนเดียว
‘ในที่สุดก็มีคนยกระดับแล้ว…ต่อจากอัครมุขนายก คือคาร์ดินัล ต่อจากนั้นเป็นผู้ก้าวข้าม หลอมรวมเข้ากับพลังของสัตว์ประหลาด เพื่อดัดแปลงตัวเองและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่จิตใจ จอย่างทรงประสิทธิภาพ จากนั้นจึงเป็นสันตะปาปาที่สามารถอัญเชิญสัตว์ประหลาดระดับห้าที่สมบูรณ์จากวิหารดวงดาวที่สมบูรณ์ระดับห้าออกมาได้’
ลู่เซิ่งแบ่งระดับไว้เรียบร้อยแล้ว
‘ลัทธิโลหิตก้าวหน้าเร็วกว่าลัทธิอื่นๆ เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ สิ่งที่ยุ่งยากก็คือขัดแย้งกับสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่เร็วเกินไป’
เขาลุกขึ้นรินน้ำมะนาวเลมอนให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
‘ถ้าเป็นไปได้ เราอยากจะสัมผัสกับสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่อย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งปีกว่าๆ’
ระดับสูงบางส่วนในบรรดาสี่ลัทธิใหญ่เริ่มรับข้าราชการของรัฐาบาลอย่างเป็นทางการแล้ว
นี่หมายความว่าสี่ลัทธิใหญ่เริ่มเปลี่ยนจากองค์กรนอกกฎหมาย เป็นองค์กรตามกฎหมาย
นี่ความจริงเป็นสภาวะใหญ่
ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่เป็นผู้กลายพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยนิด พวกเขามีพรสวรรค์เหนือกว่าคนอื่นและมีพลังแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ ความจริงผู้มีพลังพิเศษฮีโร่จำนวนไม่น้อยต่างก็ทะนงตนโดยธรร รมชาติ
และคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยภยันอันตรายแห่งนี้ ก็ต้องการพลังมาปกป้องตัวเองเป็นการเร่งด่วน ดังนั้นสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่จึงแข็งแกร่ง
และตอนนี้ รากฐานที่ทำให้สมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่มีตำแหน่งสูงส่งและพลังมั่นคง ก็ถูกสี่ลัทธิใหญ่สั่นคลอนแล้ว
จุดที่น่ากลัวที่สุดของลัทธิอยู่ที่ ขอแค่คุณศรัทธาพอ ไม่ว่าคุณสมบัติคุณจะเป็นอย่างไร ก็กลายเป็นสาวกของพระเจ้าได้
คนจำนวนมากได้รับพรสวรรค์พิเศษในแบบต่างๆ เพราะศรัทธาต่อลัทธิ
คนของลัทธิโลหิตได้รับร่างกายที่แข็งแรงกว่าเดิม ทนทานต่อโรคภัยที่พบเห็นได้บ่อย พลังฟื้นฟูเพิ่มขึ้น สาวกงมงายบางส่วนที่เป็นแกนกลางถึงขั้นใช้กายเนื้อกันกระสุนได้ กระสุนสาม มารถทะลุผ่านตัวพวกเขา แต่ไม่สามารถสังหาร
ความสามารถแบบนี้เป็นที่นิยมถึงขีดสุดในเขตที่ยากจนล้าหลังและทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอแค่ศรัทธา ก็ไม่ต้องกินยาหรือไปโรงพยาบาล ทั้งยังได้รับความสามารถฟื้นฟูที่อยู่เหนือจินต ตนาการ
นี่เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันถึง
ส่วนพรสวรรค์พิเศษที่สาวกของลัทธิเทพหมาป่าพันเศียรจะได้รับก็คือ การยืดอายุขัย และไม่เกรงกลัวความหนาวเหน็บ
แม้จะมีแค่พรสวรรค์สองอย่าง แต่ก็ได้รับความนิยมจากสาวกจำนวนมากเช่นกัน เศรษฐีและข้าราชการชั้นใหญ่ที่ได้รับการดึงดูดมีจำนวนไม่รู้เท่าไหร่ ขยับขยายเป็นขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ในเวล ลาสั้นๆ
อย่างไรการมีอายุยืนยาว ก็เป็นความยั่วยวนที่ชีวิตทุกชีวิตไม่อาจปฏิเสธ โดยเฉพาะคนแก่จำนวนหนึ่งที่เดิมได้แต่อยู่ในบ้าน ออกมานอกบ้านไม่ได้ หลังจากศรัทธาลัทธิเทพหมาป่าพันเศียร ร ก็สามารถออกมาเคลื่อนไหวนอกบ้านได้อย่างอิสระราวกับได้รับชีวิตใหม่
แม้จะยังคงเคลื่อนไหวอย่างครึกโครมไม่ได้ แต่ว่าพลังที่เติมเต็มอายุขัยผ่านความศรัทธาที่ดูเหมือนกับการเติมกระแสไฟให้แบตเตอรรี่ของลัทธิเทพหมาป่าพันเศียร ก็ได้ก่อให้เกิดแรงสั่ นสะเทือน จนได้รับการยอบรับจากชนชั้นบน
ต่อจากนั้นเป็นลัทธิราชามังกรสีรุ้ง
พรสวรรค์ของสาวกในลัทธินี้ที่ลู่เซิ่งมอบให้คือความแข็งแรง กำลังและความเร็วที่แข็งแกร่ง ปฏิกิริยาตอบสนองที่เฉียบคม รวมถึงผิว กล้ามเนื้อ และโครงกระดูกที่ทนทาน
ลัทธินี้ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจากพวกทหาร ผู้ฝึกตน ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้
สุดท้ายจึงเป็นลัทธิราชาฟีนิกซ์
พรสวรรค์สาวกของลัทธินี้ เน้นที่ความธรรมดาและสมดุล มีความสามารถต่างๆ อย่างละนิดละหน่อย เช่น คุณสมบัติร่างกาย ระดับความแข็งแกร่งทางจิตใจ พลังฟื้นฟู การยืดอายุขัย ความทนทานต่ อโรคภัย แต่ไม่แข็งแกร่ง เรียกว่าผสมผสานจับฉ่ายก็ยังได้
พรสวรรค์เหล่านี้ จะดำเนินการมอบให้ตามระดับของสาวก
ตั้งแต่ภราดรและภารดาระดับต่ำสุด ค่อยๆ พัฒนาถึงระดับสูง นี่เป็นเส้นทางกว้างขวางที่สามารถทำให้คนทุกคน หรือคนธรรมดาทุกคนกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษได้
ยิ่งอย่าว่าแต่หลังรับตำแหน่งในลัทธิ ยังจะได้รับความสามารถที่อัญเชิญสัตว์ประหลาดจากวงศาเทพระดับเดียวกันจากวิหารดวงดาวได้
ลู่เซิ่งยกแก้วขึ้นดื่ม สัมผัสอย่างละเอียด ตอนนี้เขาจุติมาได้หนึ่งปีแล้ว การขยับขยายขุมกำลังของสี่ลัทธิใหญ่อลังการถึงขีดสุด
‘ไม่แปลกหรอก ขนาดแบบนี้สมควรถึงเวลาปะทะกับสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ได้แล้ว’
เขาวางแก้วลง ขณะกำลังจะเปิดโทรทัศน์ดูข่าวนั่นเอง
ก๊อกๆๆ
จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากประตูใหญ่
“ใครกัน” ลู่เซิ่งยื่นขยายสัมผัสจิตไปถึงนอกประตู
“ผมเองครับ” ผู้มามีร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเนื้อโค้ทติดฮู้ดสีเทา มองไม่เห็นใบหน้า เพียงแต่ได้ยินเสียงทรงพลังที่ทุ้มต่ำและมีเสน่ห์
ลู่เซิ่งสั่งความคิด ประตูใหญ่ปลดล็อคโดยอัตโนมัติ
แกร๊ก ประตูเปิดออก ชายคนนั้นเดินเข้ามา เงยหน้ามองลู่เซิ่ง แสงไฟสีขาวอ่อนส่องสว่างใบหน้าเขา ผู้มาคือดีน เศรษฐีที่ได้รับไม้แกะสลักลัทธิเทพหมาป่าพันเศียรในตอนแรกสุด
เขาในเวลานี้ มีลักษณะต่างไปจากเดิม ถ้าก่อนหน้านี้คือเศรษฐี ตอนนี้ก็เหมือนกับผู้รับใช้เทพที่ศรัทธาและผ่านการอบรมอย่างดีมากกว่า
“ท่านผู้ไกล่เกลี่ยที่เคารพ ผมดีน ลูกแกะต่ำต้อยที่อยู่อาบอยู่ในพระมหากรุณาธิคุณ” ดีนปิดประตูแล้วเอ่ยเบาๆ
“แน่นอน ผมจำคุณได้ คุณมาที่นี่มีธุระอะไรหรือ” ลู่เซิ่งถามเสียงเรียบ
“การกระทบกระทั่งระหว่างลัทธิและสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่รุนแรงขึ้น ผมสังหรณ์ว่าจะช้าจะเร็วพวกเขาต้องลงมือกับเรา ดังนั้น ครั้งนี้ผมจึงมาเพราะอยากได้การร่วมมือของสมาชิกในลัทธิ ใหญ่ที่เหลือ และผู้ที่จะติดต่อกับลัทธิอื่นได้ ก็มีแต่ท่าน ท่านผู้ไกล่เกลี่ย” ดีนเอ่ยเสียงทุ้ม
“ย่อมได้” ลู่เซิ่งพยักหน้า “ดีใจมากที่คุณนึกผมในเวลาคับขัน ผมช่วยติดต่อสามลัทธิที่เหลือให้คุณได้”
“ผมกังวลอยู่บ้าง” ดีนกล่าวเสียงแผ่วต่ำ “พลังของสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่แข็งแกร่งสุดขีด แต่ตอนนี้ ลัทธิยังอ่อนแอมาก...”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ในห้วงเวลาจำเป็น ผมจะออกโรงเอง” ลู่เซิ่งยิ้ม “เทพเจ้า คาดไว้แต่แรกแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก”
“อย่างนั้นหรือครับ…งั้นผมก็วางใจแล้ว…” ดีนคลายความกังวลลงเล็กน้อย
อย่างไรสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ก็ไม่ได้มีแค่ผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ระดับ A ยังมีระดับ S สิบคนที่แกร่งที่สุด แม้ฮีผู้มีพลังพิเศษโร่จะไม่ขึ้นตรงต่อสมาคม แต่พวกเขาก็มีวิธีการมา ากมายในการสั่นคลอนกองกำลังของพวกผู้มีพลังพิเศษฮีโร่
“จริงสิ คนสองคนที่คุณให้ผมช่วยตามหาเมื่อครั้งก่อน ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเพิ่งได้รับเบาะแส” จู่ๆ ดีนก็โพล่งขึ้น
“หืม” ลู่เซิ่งงุนงง เขาไม่ได้รับข้อมูลใดๆ จากสี่ลัทธิใหญ่