ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1170 อันตราย (2)
ลู่เซิ่งยืนอยู่ด้านข้าง ไม่เข้าใจว่าพวกเขาทำอะไร แต่สองคนนี้เหมือนจะไม่ได้ขอยืมพลังจากลัทธิ หากเป็นพลังที่มีความคล้ายกัน
เขาไม่ประหลาดใจ ข้อมูลของสองคนนี้ระบุว่า พวกเขาเคยเป็นผู้มีพลังพิเศษฮีโร่ในสมาคมผู้มีพลังพิเศษฮีโร่มาก่อน แม้อาชีพหลักจะเป็นนักธรณีสันฐาน
ไม่นานนัก ถาดทรายรูปเกาะภูเขาไฟขนาดเล็กๆ ที่ใช้โคลนปั้นขึ้น มาก็ปรากฏด้านหน้าลู่เซิ่ง
จากนั้น อันคาก็หยิบขวดแก้วขนาดเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมา หลังเปิดฝาออก ก็เทยาเม็ดกลมๆ สีดำสองเม็ดออกมาจากด้านใน
“มา ป้อนยาให้น้องภูเขาไฟของเราสักหน่อย” เขาโยนยาสองเม็ดเข้าไปในภูเขาไฟบนถาดทรายภูเขาไฟ
“เรียบร้อย ไปเถอะ” ซีซาโดลุกขึ้น
ทั้งสามคนมุ่งหน้าต่อไป ไม่นานก็พบกับลำธารเชี่ยวสายหนึ่งข้างขวาด้านหน้า
ลำธารกระจายหมอกที่เหมือนกับไอร้อนออกมาช้าๆ
ทำสัญลักษณ์ตรงนี้เสร็จ ซีซาโดและลู่เซิ่งก็ติดตามอันคาต่อ
ไม่นานนัก พวกเขาก็เจอรอยร่องแยกเรืองแสงสีม่วงขนาดใหญ่ที่กว้างสิบเมตรและสูงสามเมตรพาดขวางอยู่บนพื้น
หมอกขาวลอยออกมาจากตรงนี้
ลู่เซิ่งฉุกใจ เขาเหมือนจะสัมผัสกลิ่นอายที่คุ้นเคยได้จากรอยร่องแยกนี้
“ที่นี่แหละครับ” ซีซาโดถอนใจ “ที่นี่คือต้นตอของความผิดปกติทั้งหมด” เขามองไปยังลู่เซิ่ง
ลู่เซิ่งพยักหน้า
“พวกคุณไปพักผ่อนด้านนอกได้เลย ผมจะเข้าไปตรวจสอบสักหน่อย” ลู่เซิ่งพยักหน้า
“รับทราบ ระวังตัวด้วยนะครับ” แม้พลังของพวกอันคาแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้ามากเพราะการเข้าลัทธิ แต่พวกเขายังคงแสดงความยำเกรงและให้ความสำคัญต่อธรรมชาติ
“เข้าใจแล้วครับ”
ลู่เซิ่งผงกศีรษะ ไม่มีใครรู้จักรอยร่องแยกความว่างเปล่าดีเท่าเขา
ทั้งสองมองดูลู่เซิ่งเดินเข้าใกล้รอยร่องแยกความว่างเปล่าอย่างช้าๆ เมื่อถึงด้านหน้ารอยร่องแยกที่เรืองแสงสีม่วง เขาก็ทำมือส่งสัญญาณให้ทั้งสอง บอกให้พวกเขาออกไปจากที่นี่
ทั้งสองเข้าใจความหมาย พากันพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินไปยังนอกชายป่า
ลู่เซิ่งยื่นมือออกมาจับขอบรอยร่องแยกความว่างเปล่า ความรู้สึกสัมผัสเหมือนกับหินอ่อนที่แข็งและเย็น
ขณะมองทางเข้าด้านหน้า เขาสูดหายใจลึก แล้วมุดหัวเข้าไป
พุ่บ!
เกิดเสียงเบาๆ
เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนทะลุผ่านประตูที่เรียบลื่นเปียกชื้น มุดหัวเข้ามาเจอมิติลี้ลับที่ว่างเปล่าและมืดมิดผืนหนึ่ง
มิติผืนนี้คล้ายกับความมืดมิดว่างเปล่านอกธารมารดาเป็นอย่างมาก สัมผัสได้ว่าปัจเจกขนาดต่างๆ จากบริเวณรอบๆ กำลังแหวกว่ายมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
แต่ลู่เซิ่งไม่รู้สึกถึงการคุกคามใดๆ
เขาพิจารณากลิ่นอายของพวกหวังจิ้งอย่างตั้งใจ เหมือนพวกเธอจะเข้ามาที่นี่เช่นกัน รอบๆ ยังเหลือตราประทับอ่อนๆ
ซู่…
สัตว์ประหลาดที่เหมือนแมวน้ำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งอ้าปากกัดลู่เซิ่ง
โผละ สัตว์ประหลาดหายไปในพริบตา หายไปในคลื่นโปร่งแสงหลายกลุ่มที่กระเพื่อมอยู่รอบๆ ตัวลู่เซิ่ง
ถัดจากนั้นก็ตามด้วยตัวที่สอง ตัวที่สาม ตัวที่สี่…สัตว์ประหลาดความว่างเปล่าหลายตัวรุมโจมตีลู่เซิ่งอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็หายไปในระลอกคลื่นโปร่งแสงรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว
ลู่เซิ่งที่ครอบครองพลังวารีเทา เปลี่ยนสัตว์ประหลาดความว่างเปล่าที่กินไปพวกนี้เป็นสารอาหารพลังงานในแทบจะทันที
เขาว่ายไปด้านหน้าต่ออย่างไม่เร็วไม่ช้า ไม่นานนัก สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่แบบคลานขนาดยักษ์เหมือนภูเขาเนื้อก็โผล่มาด้านหน้าเขา
ลู่เซิ่งมองไม่เห็นรูปร่างของอีกฝ่ายในความมืด แต่เขาอธิบายความมหึมาและการบิดเบี้ยวของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ผ่านสัมผัสอื่นๆ
เหมือนกับมะเขือเทศกองหนึ่งที่ถูกคนเหยียบเละ ผิว เนื้อ และน้ำผสมผสานกัน
“กลืนกิน ดับสูญ ทำลาย…” สัตว์ประหลาดตัวนี้อ้าปากเข้าหาลู่เซิ่งอย่างช้าๆ
โผละ
จากนั้นชั่วกะพริบตาเดียว มันก็หายไปในความว่างเปล่าผืนนี้
ลู่เซิ่งว่ายไปยังส่วนลึกต่อ
หลังจากสู้กับราชาโลกซีหนิง เขาก็รู้สึกว่าตนเองใกล้จะไร้คู่ต่อกรแล้ว เมื่อเผชิญสัตว์ประหลาดความว่างเปล่าพวกนี้ ก็เหมือนเห็นเนื้อสดๆ ที่มารอถึงปาก ชุ่มฉ่ำเต็มปากเต็มคำ
หลังจากเวลาผ่านไป ความเร็วที่ลู่เซิ่งกินสัตว์ประหลาดก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ
ตอนแรกสัตว์ประหลาดในความว่างเปล่ารอบๆ พุ่งมาหาลู่เซิ่งเอง จนต่อมา ลู่เซิ่งก็เป็นฝ่ายกินสัตว์ประหาดจำนวนมากเหมือนกับวังวนแม่เหล็ก
เขาคิดจะเก็บเสบียงเผื่อการเร้นกายในภายหลัง หลังเจอหวังจิ้งแล้ว เขาจะหาจักรวาลสักแห่ง หยุดถามไถ่เรื่องทางโลก พักผ่อนหย่อนใจ เสพสุขกับชีวิต
และเงื่อนไขของทุกสิ่งก็คือ จะต้องมีการเตรียมตัวที่มากพอ อาหารก็ดี พลังงานก็ดี ยังมีสารอาหารประเภทต่างๆ การจะรักษาโลกรูปจิตขนาดมหึมาไว้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็น
ยิ่งอย่าว่าแต่หวังจิ้งก็เป็นคนกินจุด้วยเหมือนกัน นี่จึงต้องการเสบียงและพลังงานสำหรับเร้นกายมากกว่าเดิม
ดังนั้นเขาเลยไม่ปฏิเสธผู้มา มีให้กินเท่าไหร่ก็กินเท่านั้น
‘ต้องสำรองอาหารให้เยอะๆ หน่อย ถึงจะเร้นกายได้’
พลังวารีเทาเปลี่ยนสัตว์ประหลาดความว่างเปล่าที่มาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเป็นพลังงาน แล้วเติมใส่เข้าไปในโลกรูปจิต
ว่ายไปสักพัก จู่ๆ สีหน้าลู่เซิ่งก็เปลี่ยนไป
‘อะไรกัน’ พลังงานน่ากลัวจางๆ ที่ทำให้ร่างหลักของเขาสั่นเล็กน้อย กำลังพองขยายและถือกำเนิดในส่วนลึกของความว่างเปล่ามืดมิด
จิตใจผ่อนคลายของลู่เซิ่งในตอนแรกเกิดความรู้สึกคุกคามอย่างรุนแรงทันที
‘ความว่างเปล่า…สมกับเป็นความลี้ลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แม้แต่เราในตอนนี้ก็ยังคงเจออันตรายที่คุกคามตัวเองได้…’ ลู่เซิ่งไม่แสดงท่าที ค่อยๆ ลดความเร็วของตัวเอง แล้วหมุนตัวว่าย กลับทางเดิม
‘เดิมทีนึกว่าเราแข็งแกร่งมากแล้ว ดูจากตอนนี้ เรายังห่างชั้นอีกมาก…’
‘ดูเหมือนต้องเตรียมตัวเยอะๆ…โลกใบนี้อันตรายอย่างที่คิดไว้เลย…’
…
ส่วนลึกของความว่างเปล่า
ณ ขอบโลกสีดำขนาดยักษ์
ซีหนิงสวมผ้าคลุมสีดำ คลุมร่างตัวเองไว้ใต้เสื้อคลุมผืนหนา มองไม่เห็นรูปร่างหน้าตา มีเพียงชายเสื้อผืนยาวที่พัดอยู่ตามพลังความว่างเปล่าท่ามกลางความว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
รอบๆ ตัวเขามีร่างสามร่างที่แต่งตัวเหมือนกัน พวกเขาต่างใช้เสื้อคลุมสีดำลักษณะเดียวกันคลุมปิดร่างกาย
ระหว่างทั้งสี่มีรูปภาพขนาดใหญ่สีแดงก่ำซึ่งเหมือนค่ายกลเชื่อมกันอยู่
ขอบข้างใต้รูปกะพริบแสงสีเงินแปลกประหลาด แสงสีเงินนั้นเหมือนมีชีวิต เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเหล่านางเงือกร้องเพลง เดี๋ยวก็สร้างหน้าผีที่ยิ้มอย่างน่าเกลียดออกมา
“ข้าใกล้ทนไม่ไหวแล้ว…” ร่างหนึ่งเอ่ยเสียงทุ้ม
“ทนอีกหน่อยเถอะ ผนึกพลังราชาโลกจตุรทิศของพวกเราเข้าด้วยกัน ขอแค่สร้างตราสูญสลายออกมาได้ จะต้องเอาชนะปราการนิรันดร์ของสหพันธ์การดำรงอยู่ได้แน่”
ร่างหนึ่งในนี้ให้กำลังใจ
“นี่ต้องโทษข้า” ซีหนิงโทษตัวเอง “ถ้าไม่ใช่ข้าถูกถ่วงเวลา อาจจะ…”
“ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอก” ร่างที่สี่ปลอบ “ทางข้าก็ถูกสะกดเหมือนกัน สหพันธ์การดำรงอยู่พัฒนาเร็วเกินไป พวกเราได้แต่รักษาสภาพเดิมไว้ว่า เลยตามจังหวะไม่ทัน”
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งคุยกัน รวบรวมสมาธิ!” ร่างที่สองตัดบท “พลังที่สูงส่งระดับนี้คงอยู่แค่ชั่วคราว จะต้องทำให้ประสบผลในครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่มีโอกาสอีก!”
“เข้าใจแล้ว”
สามคนที่เหลือพากันส่งเสียง
พวกเขาเป็นราชาโลก ชื่อฟังดูร้ายกาจ แต่ความจริงเป็นเพียงแมลงน่าสงสารที่ถูกความว่างเปล่าควบคุม
ด้านหนึ่งต้องต้านทานจิตกัดกร่อนอันบ้าคลั่งของความว่างเปล่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กลายเป็นหุ่นเชิดดับสูญอย่างสมบูรณ์ ด้านหนึ่งต้องต้านทานการโต้กลับของสหพันธ์การดำรงอยู่ ไม่อย่าง งนั้นพวกเขาที่ไม่แสดงประโยชน์ให้เห็น จะถูกความว่างเปล่าเปลี่ยนตัวด้วยการทำลายทิ้งอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่รักษาการดำรงอยู่ของพวกเขาได้ คือการคงสภาพเดิมไว้
แต่น่าเสียดายที่สหพันธ์การดำรงอยู่ต้องการขยับขยายพื้นที่อยู่อาศัย และสัตว์ประหลาดความว่างเปล่าที่ไม่รับการควบคุมจากพวกเขาเหล่านั้น ก็กัดกร่อนมิติการดำรงอยู่ด้วยการควบคุมตามสัญชา าตญาณของความว่างเปล่าอย่างเสียสติ
ดังนั้น แม้เปลือกนอกพวกเขาจะดูดี ความจริงกลับเป็นการดำรงอยู่ที่มีชีวิตลำเค็ญที่สุด
ในเวลานี้เอง กลุ่มแสงเล็กๆ ขมุกขมัวกลุ่มหนึ่งก็ลอยขึ้นจากแกนกลางค่ายกลตรงกลางคนทั้งสี่
แสงนี้บรรจุภาพไว้นับไม่ถ้วน มองแวบเดียวก็ทำให้ทุกชีวิตและวิญญาณเห็นความหวังด้านในจนเกิดความดื่มด่ำโดยไม่รู้ตัว แต่วินาทีถัดไป แสงแห่งความหวังอันไร้สิ้นสุดจะทำลายทุกสิ่งให้ พินาศในพริบตา
“ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง ตราสูญสลาย ก็ช่างงดงามจริงๆ…” ซีหนิงอดถอนใจชมเชยไม่ได้
“เร่งมือเถอะ พวกเราได้แต่ทนอีกสามสิบจังหวะหัวใจ” ร่างที่สองว่า
ฟิ้ว
โซ่สีดำหลายเส้นพุ่งออกจากร่างราชาโลกวิญญาณทั้งสี่ แล้วแทงเข้าไปในตราสูญสลายพร้อมกัน
ตราสูญสลาย เป็นองค์รวมทั้งหมดที่เกี่ยวกับความตายของจักรวาลนับไม่ถ้วน โลกนับไม่ถ้วน และมิตินับไม่ถ้วน
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา หากเป็นองค์รวมของนิยามและพลังที่แท้จริง
สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ ดึงจิตสูญสลายในตราสูญสลายมาใช้รับมือปราการนิรันดร์ขนาดยักษ์ของสหพันธ์การดำรงอยู่
จิตสูญสลายสายเดียวสามารถทำลายวัตถุแห่งการดำรงอยู่ที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างได้ ซึ่งรวมถึงพวกเขาเช่นกัน
ไม่นานนัก โซ่สีดำหลายเส้นก็แทงเข้าไปในแสงสีเทา แล้วพยายามดึงสายสีเทาเล็กๆ หลายสายออกมาจากด้านใน
สายสีเทาถูกดึงออกมาสายหนึ่งอย่างเชื่องช้า คล้ายมีพลังมหาศาลกำลังหยุดยั้งไม่ให้พวกเขาดึงจิตสูญสลายออกไป
“สู้ๆ! ใกล้จะเสร็จแล้ว” ร่างดำร่างที่สองให้กำลังใจ
ซีหนิงกระตุ้นพลังราชาโลกวิญญาณทั้งหมดในตัวเต็มกำลัง นี่เป็นพลังความว่างเปล่าระดับสูงสุดที่มีในหมู่ราชาโลกเท่านั้น
พลังราชาโลกวิญญาณจำนวนมากใช้เติมใส่โซ่สีดำเพื่อแปลงเป็นพลังมหาศาลสำหรับดึงจิตสูญสลายออกมาได้
แกร๊กๆ…
ขณะมองดูจิตสูญสลายหลายสายถูกดึงออกมาสามในสี่ส่วนตามสัดส่วนที่คาดไว้
ทันใดนั้นความเจ็บปวดสายหนึ่งก็ถั่งโถมออกมาจากร่างซีหนิง
พุ่บ!
เขาผ่อนแรงโดยไม่ทันระวัง
ฟ้าว!
จิตสูญสลายเสียพลังส่วนหนึ่งในพริบตา หดกลับไปที่เดิมด้วยความเร็วสูง
“เร็วเข้า!” ราชาโลกคนหนึ่งตาไวมือไว อ้าปากพ่นแสงสีขาวกลุ่มหนึ่งออกมาตัดเส้นสายจิตสูญสลายทิ้ง
แต่ยังคงมีความยาวหนึ่งในสี่ส่วนหดกลับไป
“ซีหนิง! เจ้า! คนอื่นๆ ถลึงตามองซีหนิง
ทว่าซีหนิงในตอนนี้พูดอะไรไม่ออกแล้ว
เขาก้มตัวลงอย่างเจ็บปวด เหงื่อกาฬหลั่งไหลออกมาทั่วร่าง แม้ร่างนี้จะเป็นตัวแทนที่ถูกทำให้เป็นรูปธรรม แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ของร่างหลักก็จะถูกส่งกลับมาที่นี่เช่นกัน
“โลก…โลกความว่างเปล่าที่ข้าควบคุม…เกิดเรื่องแล้ว!” เขาข่มกลั้นความเจ็บปวดอย่างยากลำบากขณะกล่าว
…
“กินๆๆๆๆ!”
ลู่เซิ่งควบคุมโลกรูปจิตให้กัดกินจักรวาลสีดำที่เพิ่งพบในความมืดมิดว่างเปล่า
จักรวาลสีดำผืนนี้มีขนาดใหญ่โตมหึมา เนื้อสัมผัสไม่เลวอย่างมาก ไม่เหมือนกับจักรวาลแห่งอื่นที่จำเป็นต้องค่อยๆ เคี้ยว จักรวาลผืนนี้เหมือนกับเนื้อบดละเอียด อร่อยนุ่มนิ่ม ทั้งยัง งย่อยง่ายมาก
เพิ่งจะพบสถานที่แห่งนี้ เขาก็ไม่คิดไปที่อื่นอีก
เป็นเพราะเขาค้นพบว่า แม้จักรวาลสีดำผืนนี้จะมีพลังแห่งความว่างเปล่าอยู่เต็มไปหมด แต่ในนี้กลับมีพลังอาวรณ์จำนวนมากที่เยอะยิ่งกว่าจักรวาลการดำรงอยู่เสียอีก
สารอาหารเต็มเปี่ยมอุดมสมบูรณ์