ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1187 อัญเชิญ (1)
ในโถงจัดงานเลี้ยง
นักเรียนทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก
ทุกคนรวมถึงนักเรียนชายที่มีอยู่ไม่กี่คนต่างนิ่งอึ้งเพราะสุนทรพจน์ของลู่เซิ่ง
แม้คำพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะหาช่องโหว่วจากทางไหนก็ไม่มีปัญหา แต่ทำไมถึงฟังดูแปลกๆ
ลอว์เรนซ์นิ่งเงียบ รู้สึกว่าหัวใจของตนกำลังเต้นอย่างรุนแรงเพราะคำพูดเมื่อครู่ของอาจารย์
ความไม่ยินยอมที่อธิบายไม่ถูกแผ่กระจายมาจากส่วนลึกของหัวใจอย่างช้าๆ
ถูกต้อง เธอไม่ยอมรับ ทำไมตนที่เพิ่งเรียนจบต้องกลับไปแต่งงานมีลูก แล้วต้องใช้ชีวิตที่วางแผนไว้แล้วไปตลอดชีวิตด้วย
ทำไมเธอที่เป็นผู้หญิงต้องถูกตระกูลจับแต่งงาน
ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น คนอื่นๆ ก็เกิดความคับแค้นจากส่วนลึกของจิตใจเช่นกัน
“แล้วพวกเราควรจะรับพลังยังไงล่ะคะ อาจารย์โปรดบอกพวกเราด้วย” ลอว์เรนซ์ลุกขึ้น ข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้ปรากฏบนสีหน้า กล่าวเสียงทุ้ม
ลู่เซิ่งยิ้ม พอเห็นว่าวิชาจิตโน้มนำเกิดผลแล้ว จึงกล่าวต่อ
“นี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ฉันจะมอบให้พวกเธอตอนเรียนจบ”
เขาหมุนตัวไปหยิบถุงหนังบนเก้าอี้ด้านหลังขึ้นมา แล้วล้วงเอากระดาษที่เตรียมไว้แล้วปึกหนึ่งออกจากถุง
กระดาษพวกนี้เขียนอักขระและลวดลายต่างๆ ไว้เต็มไปหมด ด้านล่างสุดมีสถานที่ที่เขียนด้วยตัวอักษรสีเงิน
“เอานี่ไป หลังจากพวกเธอเรียนจบ ถ้ายังเชื่อฉัน อีกสามวันให้หลัง ให้นำกระดาษแผ่นนี้มารับของตามที่อยู่บนนั้น”
เขาแจกจ่ายกระดาษให้นักเรียนทุกคน
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ วิธีการแจกกระดาษของเขาต่างจากปกติ
ลู่เซิ่งจับกระดาษทั้งหมดไว้ มือเดี๋ยวจับแน่นเดี๋ยวคลายออก หลังจากกางออก กระดาษก็พลันกลายเป็นก้อนกระดาษสีขาวหลายก้อน
จากนั้นเขาก็โปรยเบาๆ
ซ่า ก้อนกระดาษทุกก้อนกระจายตกลงบนโต๊ะเหมือนกับลูกบอล จากนั้นก็กลิ้งไปรอบๆ
ก้อนกระดาษทุกก้อนกลิ้งไปหยุดหน้านักเรียนทุกคนอย่างแม่นยำ
“นี่…! ลอว์เรนซ์ตะลึงเพราะท่ามือที่อัศจรรย์นี้ นี่ไม่เพียงจำเป็นต้องใช้สายตาและกำลังบีบที่แข็งแกร่งเท่านั้น ยังต้องมีพลังควบคุมที่แม่นยำสุดขีดด้วย
เธอเงยหน้าขึ้นพิจารณาลู่เซิ่ง ในช่วงเวลาสามปีกว่าๆ ที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นความลับที่แท้จริงของอาจารย์สอนคณิตศาสตร์คนนี้
หยิบกระดาษขึ้นมาคลี่อ่าน เพียงแค่มองดู เธอก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
บนกระดาษเขียนตัวเลขไว้แถวหนึ่ง ไม่มีอย่างอื่น มีเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น
“หลังจากได้กระดาษ เมื่อพวกเธอท่องตัวเลขบนนั้นในใจ จะพบสิ่งที่พิเศษและอัศจรรย์บางอย่าง” ลู่เซิ่งยิ้ม “นี่คือคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ขอแค่เธอหมั่นเพียรท่องตัวเลขทุกวัน ไม่นาน ร่างกายและจิตใจของเธอจะผสานกัน และสามตำแหน่งสุดท้ายของตัวเลขชุดนี้ ก็คือวันเวลาที่พวกเธอได้รับไม่เหมือนกัน เมื่อถึงวันเวลานั้น จงตามหาสถานที่แห่งหนึ่ง เผากระดาษผสมกับน้ำแล้วดื่มเข้าไป จากนั้นพวกเธอจะได้รับสิ่งที่ตัวเองเฝ้าฝันปรารถนามานาน นี่ก็คือคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด” เขากางสองแขนอีกครั้ง “ขอแค่พยายาม มันจะมอบทุกสิ่งให้แก่พวกเธอ”
“จริงรึเปล่าเนี่ย…”
“อาจารย์คะ ทำไมรู้สึกไม่น่าเชื่อเท่าไหร่เลย”
“คงไม่ใช่ว่าบ้าไปแล้วหรอกนะ”
สายตานักเรียนที่อยู่รอบๆ เริ่มฉายแววไม่เชื่อถือ คณิตศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ไม่เลวมาก แต่ปัญหาคืออาจารย์คนนี้เหมือนกำลังทำเหมือนคณิตศาสตร์เป็นศาสตร์ลี้ลับ ฟังอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อถือ
ลู่เซิ่งนึกถึงปัญหานี้ไว้แล้ว
เขาหยิบก้อนกระดาษขึ้นมา
“พวกเธอคิดว่า ต้องครอบครองพลังแบบไหนถึงจะทำให้พวกเธอหลุดจากพันธนาการของตระกูลได้ และทำให้พวกเธอได้รับอิสระและสิทธิ์ในการเลือกที่เพียงพอได้”
“ไม่พึ่งพาตระกูลก็สามารถใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้ ทั้งยังใช้ชีวิตที่ดี นี่ก็เพียงพอแล้ว” หญิงสาวคนหนึ่งตอบด้วยสมองแจ่มใส
“ตอบได้ดีมาก” ลู่เซิ่งพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่เพียงแค่นี้ พวกเรายังจำเป็นต้องต่อสู้กับอำนาจของตระกูลได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่ยอมมองดูพวกเราออกจากตระกูลอยู่เฉยๆ แน่ พวกเขาทุ่มเทความคาดหวังและสายเลือดมาบนตัวพวกเราทุกคน เมื่อลงทุนก็ย่อมต้องมีผลตอบแทน นี่เป็นกฎเหล็ก” เด็กสาวอีกคนตอบเสียงทุ้ม
“ล้ำลึกมาก” ลู่เซิ่งพยักหน้ายิ้ม
“ยังมีจิตใจที่แข็งแกร่งเพียงพอ ไม่อย่างนั้นแค่การประณามทางจริยธรรมจากสังคมก็ทำให้พวกเราทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” เด็กสาวคนที่สามส่งเสียงอีกครั้ง
“ดีมาก ยอดเยี่ยม” ลู่เซิ่งยิ้มพลางพยักหน้า “นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมฉันถึงได้มอบกระดาษเหล่านั้นให้พวกเธอ เพราะ มันคือกุญแจ”
“กุญแจหรือ?”
ลอว์เรนซ์ถือก้อนกระดาษไว้ ท่าทางเหมือนฉุกนึกอะไรได้
“กุญแจที่เชื่อมต่อพวกเธอทุกคนเข้าด้วยกันได้” รอยยิ้มบนใบหน้าลู่เซิ่งกว้างกว่าเดิม
เด็กผู้หญิงทั่วไปไม่มีทางจัดการกลไกที่เขาวางไว้บนก้อนกระดาษได้
เพื่อแผนการครั้งนี้ พ่อครัวย่างเนื้อที่อยู่ไม่ไกลออกไปถูกเขาสะกดจิต ขอแค่ออกจากโถงจัดงานเลี้ยงนี้ ก็จะจำอะไรไม่ได้อีก
แผนการลับครั้งนี้ดำเนินอยู่เกือบสามชั่วโมงกว่าๆ นอกจากสมาชิกที่เข้าร่วมแล้ว ก็ไม่มีใครทราบว่าพวกเขาทำอะไรกันด้านใน
ผู้ที่รู้เรื่องก็คือพวกนักเรียนที่เรียนจบในชั้นปีนี้ หลังออกจากสถาบันได้ไม่นาน พวกเธอก็สร้างองค์กรชื่อสมาคมสตรีเหล็กขึ้นมา
แม้องค์อง์กรนี้จะตั้งขึ้นหลวมๆ สมาชิกไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรกัน หลังกลับตระกูล ทุกคนก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ไม่มีสภาพปกติอะไร
กระนั้นก็มีแต่พวกเธอเท่านั้นที่รู้ว่า
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกคนก็เปลี่ยนไป…
เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าไว้ เขาให้กุญแจมาหนึ่งดอก กุญแจที่เชื่อมทุกคนไว้ด้วยกัน
…
หลายเดือนให้หลัง
ข่าวลือเกี่ยวกับสมาคมสตรีเหล็กกระจายมาจากเมืองหมอกขาวอย่างช้าๆ
ว่ากันว่าพวกเธอใจบุญสุนทาน รวบรวมสมาชิกอย่างกระตือรือร้น แต่ไม่มีการเชื่อมต่อใดๆ ระหว่างกัน เหมือนกับหลังจากพาคนเข้าร่วมองค์กรแล้ว ก็ทิ้งขว้างอีกฝ่ายไม่แยแสอีก
ศาสนจักรที่เดิมทีจับตาดู นึกว่าองค์กรใหม่นี้เพียงอยู่ในสถาบัน ภายหลังกลับค้นพบอย่างประหลาดใจว่า สมาคมสตรีเหล็กนี้กระจายไปในหมู่อัจฉริยะเพศหญิงที่อยู่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นมีภาราดาธรรมดาบางส่วนของศาสนาจักรถูกดึงเข้าร่วมด้วย
เดิมทีพวกเขานึกว่า อาจจะมีสาวกนอกรีตวางแผนการบูชานอกรีตในที่ลับ แต่ว่าหลังส่งสายลับเข้าไปแอบฟังแล้ว ศาสนจักรก็ไม่พบปัญหาใดๆ สมาชิกขององค์กรนี้ลากคนเข้าร่วมแล้วทิ้งขว้างจริงๆ
ขนาดของสมาคมสตรีเหล็กขยายตัวขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป พวกเธอสนับสนุนการยกระดับตำแหน่งทางสังคมของสตรีเพศ เพื่อให้ได้รับความสำคัญจากสังคม และสิทธิ์การเจริญพันธุ์อย่างอิสระมากกว่าเดิม
เรื่องพวกนี้ไม่เกิดความขัดแย้งใดๆ กับศาสนจักร กลับมีความขัดแย้งกับขุนนางดั้งเดิมในระดับหนึ่ง แต่ไม่รุนแรงมาก
ทุกๆ สายตาเริ่มผ่อนคลายความระวังลง
แต่ไม่มีใครรู้ว่า ในสมาคมสตรีเหล็กซ่อนความลับใหญ่ที่น่าตกตะลึงเอาไว้
พั่บๆ
ลู่เซิ่งพลิกหน้าหนังสือในมือ สายตาจับอยู่ที่เนื้อหาบนนั้น แต่ใจกลับไม่ได้อยู่บนหนังสือ
สมองของเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เครือข่ายสื่อสารที่ใหญ่มหึมากำลังแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในระดับที่มองไม่เห็น
“วันนี้ไวเคานต์มอนต้าออกจากสนามแข่งม้า มุ่งหน้าไปยังซิลเวส”
“เจ้าชายองค์ที่สิบสี่ขาหักตอนฝึกฝน อาจจะเหลือผลตกค้าง”
“หนังสือที่ฉันอยากได้ มีคนหาเจอไหมคะ ราคายังไม่เปลี่ยน คิดที่หนึ่งพันเหรียญทอง”
“พี่น้องทั้งหลาย ฉันเจอของที่น่าสนใจจากคัมภีร์โบราณประจำตระกูล ทุกคนมาดูร่วมกันสิคะ”
เสียงและภาพมากมายที่แตกต่างกันถูกส่งมายังเครือข่ายลวงตานี้พร้อมกับกลิ่น สัมผัส และรสชาติ สมาชิกสมาคมสตรีเหล็กที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนี้ทุกคนสามารดาวน์โหลดสิ่งของเหล่านี้ได้อย่างอิสระ เหมือนฝากเอกสารมากมายไว้ในนั้น
และคนที่ดาวน์โหลดทุกคนต่างก็ได้รับประสบการณ์ด้วยสัมผัสทั้งห้าที่สมบูรณ์แบบเหมือนผู้ถ่ายทอด
นี่คือเครือข่ายคณิตศาสตร์
เครือข่ายมหึมาที่เชื่อมต่อสมาชิกของสมาคมสตรีเหล็กเข้าด้วยกัน สามารถรับข้อมูลร่วมกันได้
นอกจากใช้ข้อมูลร่วมกันได้แล้ว มันยังมีผลที่น่ากลัวถึงขีดสุดอีกอย่าง
นั่นคือการอ่านความทรงจำ
สมาชิกหลักของสมาคมสตรีเหล็กมีทั้งหมดยี่สิบคน ยี่สิบคนนี้ครอบครองอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พวกเธอสามารถอ่านความทรงจำของสมาชิกที่ฝากไว้ในสมาคมสตรีเหล็กฯ ได้อย่างอิสระ และเลือกส่งความรู้ที่มีประโยชน์จากด้านในไปเก็บไว้ ให้ทุกคนใช้ร่วมกันได้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสมาคมสตรีเหล็กจึงมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทุกๆ ครั้งที่มีสมาชิกใหม่ ข้อมูลและความรู้ที่พวกเธอได้รับจะเพิ่มมากขึ้น
ลู่เซิ่งเป็นผู้ชี้แนะที่สร้างเครือข่ายคณิตศาสตร์นี้ขึ้นมา เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร แค่รักษาความปลอดภัยของเครือข่ายไว้ก็เพียงพอ
และแหล่งกำเนิดที่ใช้ค้ำยันเครือข่ายนี้ ความจริงแล้วเป็นเลือดโลหิตปรอทที่กลายพันธุ์ของเขา
บนก้อนกระดาษที่เขามอบให้สมาชิกหลักทุกคนเปื้อนโลหิตปรอทของตัวเขา
เขาในตอนนี้เหมือนกับเซิฟเวอร์ที่แข็งแกร่งสุดยอด ข้อมูลของทุกคนล้วนไหลมาหาเขา แพ็คชุดข้อมูลและความรู้ที่อัพโหลดและดาวน์โหลดต่างเก็บอยู่ที่ตัวเขา
ตอนแรกสมาชิกของสมาคมสตรีเหล็กเพียงแค่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย แต่หลังจากเข้าร่วมอย่างแท้จริง ก็ไม่มีใครอยากออกอีก
นอกจากพลังสะกดจิตขมุกขมัวที่เดี๋ยวหายเดี๋ยวโผล่ในเครือข่ายคณิตศาสตร์นี้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นความต้องการที่จะล่วงรู้ความลับของผู้อื่น และความต้องการแสวงหาความรู้รวมถึงพลัง
ลู่เซิ่งไม่จำเป็นต้องไปชี้แนะวิธีอัญเชิญบวงสรวงของลัทธินอกรีตอะไรแก่พวกเธอ หลังจากสมาชิกเข้าร่วมมากขึ้นๆ ก็มีคนค้นพบเลศนัยแล้ว
ลู่เซิ่งปิดหนังสือ มองเครือข่ายคณิตศาสตร์ ตรงนั้นมีของที่หญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งอัพโหลด
ในพริบตาที่เขาหลับตา ตรงหน้าพลันปรากฏพื้นที่กว้างใหญ่สีดำสนิท ชั้นหนังสือไม้สีเหลืองหลากหลายรูปแบบวางเต็มพื้นที่ หนังสือหลายชนิดกำลังเพิ่มขึ้นและลดลงบนชั้นหนังสืออย่างต่อเนื่อง
หนังสือเล่มหนึ่งในนี้ คือข้อมูลสำคัญที่เพิ่งมีสมาชิกทำเครื่องหมายไว้
“พี่น้องทั้งหลาย สิ่งที่ฉันค้นพบนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องขอให้อาจารย์ช่วยปักหมุดเพื่อให้ทุกคนเห็น ฉันสงสัยว่าโลกใบนี้จะมีด้านหนึ่งที่พวกเราไม่รู้จักซ่อนอยู่ พวกเราทุกคน อาจจะกำลังใช้ชีวิตอยู่บนเรือเล็กที่พร้อมจะถูกพลิกคว่ำได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว!”
ผู้ที่พบแพ็คชุดความรู้นี้ เป็นหญิงสาวอายุสิบเก้าชื่อไอรีน
ลู่เซิ่งกวาดตามอง เขาที่ทำหน้าที่เป็นเซิฟเวอร์ใช้เวลาเสี้ยวยวินาทีเดียวก็ดูแสกนเนื้อหาในชุดแพ็คความรู้นี้เสร็จ
นี่เป็นอดีตที่ไอรีนค้นพบหนังสือปกหนังสีดำแปลกประหลาดเล่มหนึ่งในโกดังหนังสือที่อยู่ในชั้นใต้ดินของบ้านตัวเอง
ลู่เซิ่งเพียงแค่มองดูเล็กน้อย ก็รู้ว่าหนังสือเล่มนั้นน่าจะเป็นหนังสือกรณีตัวอย่างของจริงที่ลัทธินอกรีตใช้อัญเชิญการดำรงอยู่ปริศนาเมื่อนานมาแล้ว
หรือก็คือเป็นสมุดเล่มเล็กที่สาวกลัทธินอกรีตใช้สรุปบทเรียนจากการทดลองที่ผิดพลาด
บนสมุดเขียนข้อห้ามและกรณีตัวอย่างต่างๆ ไว้จนเต็ม ยังมีวงแหวนอัญเชิญและคาถาอัญเชิญที่ผ่านการปรับแก้อีกหลายอัน
มีค่าให้พิจารณาอย่างยิ่ง
ทว่าตอนนี้เขาเป็นเพียงอาจารย์คณิตศาสตร์ธรรมดา จำเป็นต้องแสดงบทบาทนี้ต่อไป เพื่อไม่ดึงดูดความสนใจและความระแวงจากคนอื่นๆ
“นี่คืออะไรหรือ” เขาถามเป็นคนแรก
ไม่นานไอรีนก็ตอบกลับ
“ฉันดื่มชาตอนบ่ายอยู่ ท่านพ่อเองก็อยู่ใกล้ๆ อาจารย์โปรดรอสักสิบนาที”
“ไม่มีปัญหา”
……………………………………….