ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1189 พีธีกรรม (1)
กลางความว่างเปล่ามืดมิดอันไพศาล
ธารมารดายื่นคดเคี้ยวไปยังปลายทางที่มองไม่เห็น สามารถมองเห็นน้ำนับไม่ถ้วนที่ไหลเวียนอยู่ด้านในได้ ผ่านผนังด้านในที่โปร่งแสง
จักรวาลขนาดต่างๆ บนผนังด้านในมองเห็นได้อย่างชัดเจน พวกมันเหมือนกับจานดูด หมุนวนด้วยความเร็วเท่าๆ กัน
ซีหนิงสวมเกราะสีม่วงอมดำ กลิ่นอายความว่างเปล่าที่เก่าแก่ยิ่งใหญ่ ไหลเวียนอยู่ด้านหลัง ชี้ปลายกระบี่ยาวที่กะพริบแสงสีแดงซึ่งถืออยู่ลงพื้น
“พวกเจ้าคิดจะช่วยมันทะลวงเปิดปฏิสุญญตาจริงๆ หรือ”
เขามองความมืดมิดว่างเปล่าที่อยู่อีกฝั่งอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น
หลังจากส่งการสั่นสะเทือนเสียงไป ร่างสีเทาร่างหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงความว่างเปล่าผืนนั้นอย่างช้าๆ ร่างนั้นถือคทารูปกรง ปลายคทามีหนวดโปร่งแสงกลุ่มใหญ่กระจายออกมาอย่างต่อ อเนื่อง
เป็นหนึ่งในสองผู้นำของสหพันธ์การดำรงอยู่ ผู้ล่าดาว
ผู้ล่าดาวแสดงสีหน้าเฉยชา ยื่นมือออกมาแบเบาๆ กลางฝ่ามือมีวังวนสีเทาเล็กๆ กลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัว
“แน่นอนว่าเป็นความจริง ความเป็นมาของปฏิสุญญตาคือภัยร้ายของพวกเรา ฉวยโอกาสนี้กำจัดทิ้งไม่ดีกว่าหรอกหรือ”
“นี่เป็นความคิดที่แท้จริงของพวกเจ้าหรือ” ซีหนิงยิ้มเย็นชา “อย่าหลอกข้าเลย พวกเราควรรู้ว่าถึงเป็นการดำรงอยู่ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างพวกเรา ขอแค่เป็นการดำรงอยู่ ขอแค่เป ป็นสิ่งมีชีวิต ก็มีอารมณ์รักโลภโกรธหลง ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ความปรารถนาเป็นความต่อเนื่องของความรู้สึก หรือว่าเจ้าคิดจะใช้หลักการทุกสิ่งเท่าเทียม มิติเวลายังหมุนเหมือ อนเดิมนั่นอีก”
ผู้ล่าดาวนิ่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไร
ซีหนิงเห็นดังนั้นก็ยิ้มเย็นชาอีกครั้ง
“พวกเราต่างก็รู้ว่าในปฏิสุญญตามีอะไรกันอยู่ มารโกลาหล ก็แค่การดำรงอยู่ธรรมดาที่อาศัยอยู่ด้านใน ในเมื่อสุญญตาหลักมีตราสูญสลาย อนุภาคนิรันดร์ ในปฏิสุญญตาก็…จุ๊ๆ”
“เจ้าก็ไม่ใช่มีความคิดแบบนี้เหมือนกันหรอกหรือ” ผู้ล่าดาวกล่าวเสียงเรียบ
“แต่ข้าไม่เสแสร้งแบบพวกเจ้า สิ่งที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง สิ่งที่ข้าบอกลู่เซิ่งล้วนเป็นความจริง เพียงแค่พูดไม่หมดเท่านั้น” ซีหนิงเลิกคิ้ว
“ข้าเองก็ไม่ได้หลอกลวงเช่นกัน” ผู้ล่าดาวเอ่ยเสียงเรียบ
ทั้งสองจ้องมองกันสักพัก ต่างมองเห็นสิ่งที่คล้ายกันจากในสายตาอีกฝ่าย
“ข้าได้แจ้งข่าวทางมารโกลาหลแล้ว ขอแค่มันเปิดรอยร่องแยก ถึงเวลานั้นจะเกิดผลลัพธ์อะไรกันแน่ก็บอกไม่ได้แล้ว ถ้าเจ้ามีแผนการ ก็สามารถคว้าโอกาสได้” ซีหนิงหมุนตัวบินไปยังที่ ไกล ผละจากที่เดิม แล้วหายไปท่ามกลางความมืดมิดในพริบตา
ผู้ล่าดาวเงียบเสียง ถือคทาหมุนตัวเข้าใกล้ผนังชั้นนอกของธารมารดาช้าๆ แล้วหายไปในธารมารดาขมุกขมัว
…
การเติบโตของสมาคมสตรีเหล็กเร็วจนอยู่เหนือจินตนาการของคนทุกคน ใช้เวลาแค่ห้าเดือน ก็ปกคลุมจักรวรรดิคาร์ลมากกว่าครึ่ง
อัจฉริยะเพศหญิงมากกว่าครึ่งของเมืองวิสซีเรียที่ลู่เซิ่งอยู่และเมืองหมอกขาวที่อยู่ใกล้ๆ กลายเป็นสมาชิกของสมาคมสตรีเหล็ก
สาเหตุที่ขยับขยายได้เร็วขนาดนี้ ความจริงสาเหตุง่ายดายมาก
ข้อแรก เงื่อนไขการเข้าร่วมสมาคมสตรีเหล็กเรียบง่ายอย่างยิ่ง เพียงจำเป็นต้องสาบานตน ท่องตัวเลขพิเศษชุดหนึ่ง ก็จะเข้าพิธีได้สำเร็จ
ข้อสอง การเข้าร่วมสมาคมสตรีเหล็กจะมีส่วนลดภาษีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้สูง
ความจริงการลดภาษีพวกนี้เป็นสวัสดิการที่เจ้าหญิงลอว์เรนซ์ได้รับมาผ่านการช่วงชิงของตัวเอง
เดิมทีเจ้าหญิงลอว์เรนซ์ไม่ได้มีอำนาจมากมายขนาดนี้ แต่เธอได้เดิมพันกับองค์จักรพรรดิในงานเลี้ยงราชวงศ์ครั้งหนึ่งว่า ตนขอแข่งโต้วาทีกับผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีและประวัติศาสตร์แ แห่งราชสำนักสามคนเพียงลำพัง สุดท้ายเอาชนะตามที่เดิมพันไว้ได้
และเพราะสมาคมสตรีเหล็กชิงพื้นที่เติบโตมาได้เพียงพอ
แม้การกระทำนี้ จะเปิดเผยสมาคมสตรีเหล็กสู่ที่แจ้ง ทำให้ทุกคนสังเกตเห็นองค์กรใหม่นี้
แต่เทียบกับผลประโยชน์มหาศาลของสมาคมสตรีเหล็กแล้ว ลอว์เรนซ์คิดว่าคุ้มค่า
ชุดแพ็คความรู้บนเครือข่ายคณิตศาสตร์เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ คลังข้อมูลที่สมาชิกหลักของสมาคมสตรีเหล็กสามารถเรียกใช้ได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ ภาพลักษณ์ภายนอกของพวกเธอเริ่มกลายเป็นสตรี อัจฉริยะที่รอบรู้และมีความสามารถรอบด้าน
และเป็นเพราะเวลาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ สามารถประคับประคองกัน ช่วยเหลือกันและกัน เพื่อวางมาตรการผ่านเครือข่ายคณิตศาสตร์ได้ตลอดเวลา
สมาชิกหลักของสมาคมสตรีเหล็กฯ จึงเติบด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
แค่ครึ่งปี ก็เปลี่ยนจากสมาคมแบบหลวมๆ ในท้องที่เป็นองค์กรสตรีขนาดใหญ่ที่กระจายไปทั่วประเทศ
และสมาชิกสตรีเหล็กฯ สิบเจ็ดคนในนี้ก็กลายเป็นสตรีแบบอย่างที่เฉิดฉายที่สุดในจักรวรรดิ
อำนาจและตำแหน่งของพวกเธอในตระกูลพลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ส่วนลู่เซิ่งก็ซ่อนอยู่หลังฉาก รอคอยผลลัพธ์ให้สุกงอมอย่างเงียบๆ
เวลาไหลเอื่อย พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนกว่าๆ
ในที่สุดพิธีกรรมเกี่ยวกับการอัญเชิญเซ่นสรวงสังเวยที่แท้จริงครั้งแรกก็ได้รับการเตรียมการในสมาคมสตรีเหล็กฯ เรียบร้อย
เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบด้วยวิธีการพิเศษของศาสนจักรจักร สมาชิกของสมาคมสตรีเหล็กฯ ได้จัดพิธีกรรมอัญเชิญครั้งนี้ขึ้นที่เมืองร้างชื่อเซอส์ ซึ่งอยู่บนชายแดนจักรวรรดิที่ไกลที่ สุด
หากเดินทางจากเมืองวิสซีเรียที่ลู่เซิ่งอยู่ ต้องใช้เวลาห้าวัน
ถ้าหากเร่งม้าลงแส้ เปลี่ยนม้าอย่างต่อเนื่อง จะลดเวลาลงได้เจ็ดส่วน หรือก็คือสามวันกว่าๆ
เพื่อการดำเนินการอย่างราบรื่นของการอัญเชิญครั้งนี้ ลู่เซิ่งขอลาพักกับสถาบัน บอกกล่าวกับแม่ที่บ้าน ขณะเดียวกันก็ให้คาซ่ามาดูแลเป็นบางครั้ง ป้องกันไม่ให้แม่เมาตายคาบ้าน
ส่วนตัวเขาควบม้าไปยังเมืองร้างเซอส์ ไม่รู้ทำไม ยิ่งใกล้เวลาจะอัญเชิญเท่าไหร่นั้น ลู่เซิ่งก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี
…
ณ เมืองเซอส์
อาคารทิ้งร้างหลายหลังเต็มไปด้วยรูโหว่ว หลังคาและหน้าต่าง ประตูและรั้ว ต่างก็มีรูขนาดต่างๆ ที่มองเห็นได้
ณ ทางเหนือของเมือง กลางป่าช้ารกร้าง
ไอรีนแห่งสมาคมสตรีเหล็กฯ หรือก็คือนักเรียนที่ค้นพบความเป็นไปได้ของพิธีกรรมอัญเชิญเป็นคนแรกสุดคนนั้น
เวลานี้เธอสวมกระโปรงเดรสสีชมพู ทับด้วยกั๊กตัวเล็กสีขาว กำลังโบกพัดกลมหรูในมือเบาๆ
เธอยืนอยู่ข้างป่าช้า มองดูเหล่าสาวงามที่วาดลวดลายวงแหวนอยู่บนที่ว่างด้านในอย่างตั้งใจ
คนที่อยู่รอบๆ มีทั้งหมดห้าคน ต่างเป็นสมาชิกหลักของสมาคมสตรีเหล็ก
ส่วนลู่เซิ่งซ่อนตัวอยู่ในอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล อาคารอยู่ติดกับป่าช้า พร้อมจะสอดมือได้ทุกเวลา
เขามองสถานการณ์ในป่าช้าด้านล่างผ่านผ้าม่านที่จับฝุ่นจับเขรอะ
ลู่เซิ่งเล่นปากกาสีทองที่พวกเหล่านักเรียนเพิ่งมอบให้
“ข้อเสนอปรับย้ายตำแหน่งของอาจารย์ในโรงเรียนได้ส่งไปแล้วค่ะ ตระกูลอีเลียนเป็นผู้ผลักดันหลัก” สาวงามที่ผมทองยาวถึงเอวคนหนึ่งกล่าวเบาๆ ขึ้นด้านหลังเขา
“ข้อเสนอที่ขอให้ฉันรับตำแหน่งศาสตราจารย์ของสถาบันน่ะเหรอ” ลู่เซิ่งถาม
“ใช่ค่ะ พูดให้ถูกต้องคือรองศาสตราจารย์ ตระกูลอีเลียนเป็นตัวหลักในการยื่นขอตำแหน่งให้อาจารย์ ส่วนเจ้าหญิงลอว์เรนซ์คอยสนับสนุนและผลักดัน ปัญหาไม่น่าใหญ่โต อย่างไรก็เป็นแค่ร รองศาสตราจารย์ เป้าหมายของพวกเราคืออยากให้อาจารย์ควบคุมอำนาจที่แท้จริงของสถาบันวิสซีเรีย ดังนั้นข้อเสนอต่อไปควรจะสามารถรับตำแหน่งศาสตราจารย์ได้ และรับผิดชอบหน้าที่ระดับหนึ่ง ในสถาบัน ”
“งั้นหรือ ความจริงฉันไม่อยากอยากจะรับภาระการสอนมากวกว่านี้เท่าไหร่นะ มีแค่พวกเธอฉันก็เหนื่อยพอแล้ว” ลู่เซิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่อยากจะสร้างเครือข่ายคณิตศาสตร์เครือข่าย ที่สองขึ้นมาอีก”
“ความจริงสภาพร่างกายของอาจารย์ไม่อนุญาตให้เครือข่ายคณิตศาสตร์ที่สองดำรงอยู่” สาวผมทองพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
“น่าเสียดาย…ขนาดของสมาคมสตรีเหล็กฯ ในตอนนี้เล็กเกินไป ถ้าดึงสมาชิกมาเข้าร่วมได้มากกว่านี้…ถึงเวลานั้น จักรวรรดิทั้งหมดจะเป็นสวนหลังบ้านของพวกเรา” เธอกล่าวอย่างเสียดาย
“บางทีนี่อาจเป็นแผนการของโชคชะตา แต่ฉันจะศึกษาโจทย์ที่เกี่ยวข้องต่อไป อาจจะเจอวิธีแก้ไขทางอ้อมก็ได้” ลู่เซิ่งตอบ
“เหรอคะ อย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์แล้ว ขอสรรเสริญคณิตศาสตร์”
“ขอสรรเสริญคณิตศาสตร์” ลู่เซิ่งพยักหน้า
จากนั้นสาวผมทองก็หมุนตัวออกจากห้องไป เธอต้องกำจัดอุปสรรคและภัยร้ายที่อยู่รอบๆ พิธีกรรมอัญเชิญให้หมด
นอกจากนี้ยังมีคนรับผิดชอบทำลายความปรวนแปรและกลิ่นอายที่อาจกระจายออกมาได้อยู่ด้วย
พวกเธอได้รู้จากในความทรงจำของภาราดาแห่งศาสนจักรว่า หากใช้วัตถุดิบที่มีชื่อว่าศิลาต้นไม้ดำ จะสามารถลดความปรวนแปรที่กระจายออกมาจากพิธีกรรมอัญเชิญได้อย่างใหญ่หลวง
ดังนั้นพิธีกรรมครั้งนี้จึงหาศิลาต้นไม้ดำจำนวนมากมาจัดวางไว้รอบๆ
ลู่เซิ่งได้สติกลับมา เลิกมุมผ้าม่านขึ้น แล้วก้มมองป่าช้าด้านล่าง
ไอรีนที่อยู่ตรงนั้นเริ่มท่องคาถาอัญเชิญอย่างเป็นทางการแล้ว
ลมหมุนเล็กๆ ปรากฏขึ้นเหนือลวดลายที่สลักบนพื้นหลังจากท่องคาถา ลมนั้นเหมือนหยุดนิ่ง หมุนวนอยู่บนลวดลาย แต่ไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนจากที่เดิม
ลู่เซิ่งหยีตาเพ่งมองลมบนลวดลาย เขาสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายเบาบางที่ไม่อาจบรรยายหลายสาย กำลังแผ่กระจายไปรอบๆ จากศูนย์กลางของลมหมุนกลุ่มนั้น
ซู่…
แสงสีเทาจางๆ กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศช้าๆ จากนั้นก็ขยายใหญ่และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ไอรีนท่องคาถาอัญเชิญซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ด้านข้าง ใบหน้างดงามหมดจดของเธอฉายแววตื่นตะลึงและกระตือรือร้น
สมาชิกสมาคมสตรีเหล็กสองคนที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งถือธนูสั้น บนคันธนูศรติดลูกศรขับไล่มารที่ได้รับคำอวยพรจากนักบวชระดับสูงของศาสนจักร
เตรียมพร้อมจะดำเนินการโจมตีทำลายอสูรโกลาหลที่อัญเชิญออกมาได้ตลอดเวลา
แสงสีเทากลางลมหมุนขยายใหญ่และทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น แขนหยาบใหญ่สีเทาข้างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากกลุ่มแสงสีเทา
นั่นคือแขนแข็งแกร่งที่มีเกล็ดแหลมงอกอยู่เต็มไปหมด มีนิ้วห้านิ้ว เล็บนิ้วเหมือนมีด กลางฝ่ามือมีขนสีดำหย่อมหนึ่ง
หลังจากแขนยื่นออกมา ก็ตามด้วยไหล่ ศีรษะ ร่างครึ่งท่อนกำลังจะหลุดออกมาจากแสงสีเทาแล้ว
ไม่ถึงครึ่งนาที อสูรโกลาหลที่ถูกอัญเชิญออกมาจากปฏิสุญญตาที่อยู่ไกลโพ้นตนนี้ก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน
ซู่…
นี่เป็นมนุษย์หัวงูที่มีขนดำขึ้นอยู่เต็มศีรษะ
หัวของมันเป็นงูยักษ์ ร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีหางยาวสีแดงเข้มสามเส้น เปลวเพลิงสีเทาสองกลุ่มลุกไหม้ในดวงตา
“หายากจริงๆ นึกไม่ถึงว่าผู้ที่อัญเชิญข้าจะเป็นเด็กน้อยน่าเอ็นดูแค่ไม่กี่คน…” อสูรโกลาหลตวัดลิ้นสีแดงฉาน ไฟสีเทาเต้นระเริกในสองตาเย็นชา ให้ความรู้สึกอันตรายอย่างรุนแรง ร ราวกับมันพร้อมจะกระโจนใส่สามคนตรงหน้าได้ทุกเวลา
“อสูรโกลาหล ราห์ ได้โปรดทำตามข้อตกลงระหว่างพวกเรา เจ้าจะเป็นดาบของข้า โล่ของข้า ทำลายอุปสรรคทั้งหมดเพื่อข้า ทุกสิ่ง…”
เปรี้ยง!
ไอรีนยังท่องคาถาควบคุมช่วงหลังไม่ทันจบ มนุษย์หัวงูกก็กระทืบพื้นจนเกิดเสียงดังแทรก
พื้นดินสั่นไหวน้อยๆ มนุษย์หัวงูหัวเราะเหี้ยม ก่อนพุ่งใส่ไอรีนอย่างฉับพลัน
มันว่องไวเป็นอย่างมาก เหมือนธนูหลุดจากแล่ง ยังไม่รอให้สองสาวที่อยู่ใกล้ๆ ยิงธนูกำจัดมาร มันก็ไปถึงด้านหน้าไอรีน เงื้อฝ่ามือขวาขึ้นแล้วฟาดลง
“ขอสรรเสริญคณิตศาสตร์ระดับสูง!” ทันใดนั้นเสียงขับร้องทอดยาวก็ดังมาจากที่ไกล