ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 1206 เหตุเปลี่ยนแปลง (2)
ในเวลาสั้นๆ เพียงสองวัน
ข่าวที่มารดาศิลาปรากฏตัวอีกครั้งและทะลวงผนึกออกมาได้กระจายไปทั่วมิติมหภาค
สหพันธ์การดำรงอยู่ถอยร่นหุบแนวรบทั้งหมด แม้แต่พลังแห่งความว่างเปล่าก็ไม่สนใจการกัดกร่อนอีกต่อไป คนที่ก่อนหน้านี้เคยได้ยินความน่ากลัวของมารดาศิลามาก่อนบางส่วนต่างก็เริ่มหาทา างหนีทีไล่ให้ตัวเอง
ทางพลังแห่งความว่างเปล่า จตุรราชาโลกวิญญาณกระจายกำลัง ทางนี้หลักๆ แล้วเป็นอาณาเขตของราชาโลกวิญญาณอุดร อย่างไรซีหนิงก็หนีไม่พ้น
ในทันทีที่ได้รับข่าว เขาก็สั่งให้บริวารทั้งหมดถอยเข้าไปอยู่ในสิ่งงานก่อสร้างลึกลับที่สร้างไว้มานานมากแล้ว
นั่นเป็นสิ่งงานก่อสร้างพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อรับมือกับสหพันธ์การดำรงอยู่ นึกไม่ถึงว่าจะได้ใช้ก่อน
หลังจากข่าวที่โลกวิญญาณภายในถูกทำลายกระจายออกมา ผู้เข้มแข็งบางส่วนของขุมกำลังความว่างเปล่าและสหพันธ์การดำรงอยู่ที่ไม่เชื่อก็นิ่งเฉย
โลกวิญญาณภายในเกิดสถานการณ์อะไร มีคนหลายคนได้ประสบด้วยตัวเอง
ที่นั่นอยู่ติดชายขอบความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตในนั้นแค่ระดับพลังและวิธีการดำรงอยู่ล้วนอยู่เหนือจักรวาลระดับพลังงานสุดยอด
เลือกออกมาสักตน แล้วโยนเข้าไปในจักรวาลระดับพลังงานสุดยอด ล้วนเป็นราชันสูงสุด
แต่ว่าอาณาเขตแข็งแกร่งที่โหดเหี้ยมทารุณผืนนี้กลับถูกมารดาศิลาคนเดียวทำลายทิ้ง
คนหลายคนเห็นความแข็งแกร่งของมารดาศิลาชัดเจนกว่าเดิมเพราะสาเหตุนี้
ตอนแรกหลายคนยังกังขาในฉายาตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในยุควัฏจักรก่อน แต่หลังจากโลกความว่างเปล่าถูกทำลายทิ้ง ความกังขาทั้งหมดก็หายไป
คำถามกลายเป็นควรจะขัดขวางและต่อสู้มารดาศิลาอย่างไรดี
ในเวลาสองวัน มารดาศิลาพาลู่เซิ่งตระเวนไปทุกที่ ค้นหาสหายเก่าที่นางบอกในสถานที่รกร้างห่างไกลบางส่วน
ถ้าไม่ใช่เพราะประสบพบเจอด้วยตัวเอง ลู่เซิ่งคงไม่เชื่อว่าในจักรวาลระดับพลังงานต่ำธรรมดาแห่งหนึ่ง ณ ชายขอบของธารจักรวาล จะมีสุดยอดสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับเดียวกับซีหนิงคนหนึ่งซ่อ อนอยู่
และคงไม่เชื่อว่าปลาน้อยสีเทาที่ไร้ห่วงกังวล ดูไร้ความพิเศษตัวหนึ่งตรงชายขอบของปฏิสุญญตา จะเป็นสัตว์ขนาดมโหฬารที่กินจักรวาลหลายสิบแห่งได้ในคราวเดียว
ยังมีรูปสลักหินยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มหาสมุทรกลางจักรวาลระดับพลังงานสุดยอดมาชั่วนาตาปี เดิมทีเป็นตัวประหลาดวิปริตเฒ่าที่หลับไหลอยู่
และอื่นๆ อีกมากมาย บุคคลยิ่งใหญ่ที่เร้นกายหรือเหล่าผู้เข้มแข็งของวัฏจักรก่อนหลายคน พากันถูกมารดาศิลาจับตัว
พวกเขาบ้างยอมแพ้ บ้างถูกสังหารโหด
ไม่มีใครหนีรอด
ลู่เซิ่งเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขณะติดตามมารดาศิลา
เขาเริ่มมองออกว่า ถ้าหากเป้าหมายในตอนแรกของมารดาศิลาคือการแก้แค้น อย่างนั้นตอนนี้ เป้าหมายของนางกลับเหมือนต้องการปกครองมากกว่า
กวาดล้างผู้ต่อต้านทั้งหมด ปกครองทุกสิ่ง ทำลายเสียงต่อต้านทั้งหมดไม่ให้เหลือ
เป้าหมายของมารดาศิลาไม่ใช่แค่การแก้แค้นอีกต่อไป หากเป็นการรวบรวมกองกำลัง
…
แสงสีรุ้งที่งดงามหล่นจากฟ้าเหมือนกับเส้นด้าย แล้วตกลงบนทุ่งราบเขียวขจีที่กว้างไกล
นครหลวงสีดำที่ยิ่งใหญ่บนทุ่งราบกำลังกลายเป็นผลึกอย่างรวดเร็วใต้การปกคลุมของแสงรุ้ง
ผู้เข้มแข็งต่างเผ่าพันธุ์จำนวนเหลือคณานับในเมืองระเบิดแสงสีเงินที่เหมือนกับสะเก็ดไฟออกมา แต่สำหรับแสงรุ้งทั่วฟ้า การต่อต้านน้อยนิดนี้เหมือนกับการใช้น้ำแก้วหนึ่งดับไฟกองใหญ ญ่รถ สักพักหนึ่งก็ถูกกลบหายไปโดยสิ้นเชิง
กำแพงเมืองสีดำสนิทเริ่มถูกผลึกสีรุ้งปกคลุมเปลี่ยนแปลง
เหล่าผู้อยู่อาศัยจำนวนหลายล้านไม่ทันส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ก็ถูกแปลงเป็นรูปสลักแร่มากมาย ก่อนระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
ลู่เซิ่งและมารดาศิลาลอยอยู่กลางท้องฟ้า ทอดตามองฉากอันตระการตานี้
ผู้ที่กำลังถูกทำลายเป็นเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งที่มีชื่อว่าเผ่าเปอร์มู
พวกเขากลายเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงดู เพราะไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อมารดาศิลา จึงกำลังเจอภัยพิบัติที่ไม่เคยเจอมาก่อน
“เป็นดอกไม้ไฟที่งดงามจริงๆ” มารดาศิลามองดูเมืองใหญ่ที่ถูกทำลายด้วยความพอใจ พร้อมกับยิ้มอย่างโรคจิต
“เจ้าว่าอย่างไร” นางหันไปมองลู่เซิ่ง
สิ่งที่เห็นคือใบหน้าไร้อารมณ์ของอีกฝ่าย
นี่ทำให้นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เจ้าไม่รู้สึกว่าสวยหรือ” นางซัก ท่าทีบีบบังคับคน
“ในเมืองยังมีผู้อยู่อาศัยที่ไม่เกี่ยวข้องมากมาย” ลู่เซิ่งกล่าว
“ก็แค่ผู้อยู่อาศัย ตายก็ตายไป อย่างไรพวกมันก็เติบโตไวที่สุด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” มารดาศิลาไม่ยี่หร่ะ
ลู่เซิ่งนิ่วหน้า
“ท่านไม่ควรเอาชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งเกี่ยวด้วย”
“เจ้ากำลังสงสารแมลงเหล่านั้นหรือ” มารดาศิลาแสดงสีหน้าประหลาดใจ “หรือเจ้าจะเป็นพระแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
“ไม่ ข้าแค่เคารพชีวิต” ลู่เซิ่งเอ่ยอย่างใจเย็น
“แต่เจ้าไม่ใช่ข้า” มารดาศิลาหัวเราะ “ดังนั้นข้าจะทำอะไร เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”
“…”
ลู่เซิ่งไร้คำพูดโต้ตอบ
ถูกต้อง เขาไม่มีสิทธิ์ตำหนิการกระทำของมารดาศิลา เขาเคยเผลอทำลายดาวเคราะห์ไปเป็นจำนวนไม่น้อยในตอนที่ร่วมรักกับหวังจิ้ง
บนดาวเคราะห์บางดวงมีสิ่งมีชีวิตอยู่ร้อยล้านหรือไม่ก็พันล้าน
“เพียงแต่…” ลู่เซิ่งมองคูเมืองยักษ์ที่กำลังกลายเป็นผลึกแร่ด้วยความเร็วสูง รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
เวลานี้มารดาศิลาไม่ได้หันกลับไปมองเขาอีก หากชมดอกไม้ไฟงดงามต่อไป
นางมีนิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่ง เป็นนิสัยที่โหดเหี้ยมมาก
นั่นก็คือชอบมองดูดอกไม้ไฟที่เกิดขึ้นในพริบตาที่เหล่าผู้มีพลังเข้มแข็งระเบิดเป็นเสี่ยงๆ หลังกลายเป็นผลึกแร่
ยิ่งพลังแข็งแกร่ง ขนาดและความรุนแรงของการระเบิดหลังกลายเป็นผลึกแร่ก็ยิ่งมาก และดูงดงามกว่าเดิม
เพียงแต่ค่าตอบแทนของดอกไม้ไฟนี้คือวิญญาณและชีวิตทั้งหมดของผู้เข้มแข็ง
ลู่เซิ่งลอยเงียบๆ อยู่สักพัก ในที่สุดก็หมุนตัวบินไปยังที่ไกล ลอยเข้าหาคอร์ดีลาซึ่งเป็นวังลอยฟ้า
จนถึงตอนนี้ บริวารมากมายที่มารดาศิลารวบรวมมา ไม่เพียงมอบขุมกำลังพื้นฐานที่ยิ่งใหญ่ให้นางเท่านั้น ยังมีฉากอลังการที่หรูราและงดงามซับซ้อนหลายฉาก
วังผลึกลอยฟ้าแห่งนี้ก็คือหนึ่งในผลผลิต
“เจ้าไปจะไปไหน”
เสียงของมารดาศิลาดังไล่หลังมา
ลู่เซิ่งชะงัก
“กลับไปพักผ่อนสักหน่อย”
“ใจอ่อนแล้วหรือ” น้ำเสียงของมารดาศิลาเริ่มเย็นชา “ถ้าความเสียหายแค่นี้ยังรับไม่ได้ อย่างนั้น…”
“ข้าไม่ใช่รับไม่ได้” ลู่เซิ่งตัดบทนาง “ข้าเพียงแค่ไม่ชินกับความตายที่ไร้ความหมาย ไม่เกี่ยวกับความสงสาร”
มารดาศิลาหมุนตัวมา ดวงตาเรียวยาวคมกริบจ้องมองลู่เซิ่ง
ลู่เซิ่งไม่ได้หันกลับก็รู้สึกได้ว่าสายตาสองสายนั้นเหมือนกับมีดแหลมจ่ออยู่ที่หลังตนเอง ทำให้เขาเจ็บและชาแผ่นหลัง
มารดาศิลานิ่งเงียบอยู่ชั่วขณะ
ลู่เซิ่งก็ไม่คิดพูดอะไรเช่นกัน
นี่เป็นเพราะอุดมคติแตกต่าง ค่านิยมแตกต่าง ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำโหดเหี้ยมที่มองเมินผู้อยู่อาศัยแบบนี้
สำหรับลู่เซิ่ง การมีจิตสังหารกับการพลาดพลั้งโดยไม่ได้ตั้งใจแตกต่างกันมาก
นี่เกี่ยวพันถึงความดีและความเลวเรื่องแนวคิดส่วนตัว
ตัวเขาโดยพื้นฐานแล้วยังเป็นคนดี เรื่องนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่อยู่ในดาวปรภพ
เขาลู่เซิ่ง ไม่ว่าจะกินสิ่งมีชีวิตไปขนาดไหน ไม่ว่าจะพลาดพลั้งทำลายดาวเคราะห์ไปมากน้อยเพียงใด กระแทกใส่ผู้อยู่อาศัยตายสักกี่คน นั่นล้วนไม่ใช่เรื่องที่เขาจงใจ ไม่ใช่เรื่องที่เขา ามีเจตนา ดังนั้นเขาจึงเป็นคนดีมากจริงๆ
เรื่องนี้ความจริงสำคัญมาก
สำคัญมากสำหรับเขา
เป็นเพราะคนดีไม่มีทางทำเลว
“เจ้าคิดว่า ข้าทำผิดหรือ”
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ มารดาศิลาก็ค่อยๆ ส่งเสียง ถามย้อนโดยที่แยกอารมณ์ได้ไม่ชัด
“ท่านไม่ผิด เดิมทีท่านเป็นบรรพบุรุษศิลาก่อนกำเนิด สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในสายตาท่านอาจจะไม่ได้สะดุดตาไปกว่ามดตัวเล็กๆ ข้าเข้าใจแนวคิดของท่าน แต่ข้าแค่ไม่ยอมรับเท่านั้น” ลู่เซิ่ งเอ่ยเสียงเรียบ
“จากนั้นเล่า เจ้าไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับแนวคิดของข้า หรือไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของข้าด้วย” มารดาศิลาถามต่อ
ลู่เซิ่งหมุนตัวมาประจันหน้ากับมารดาศิลาตรงๆ เวลานี้เมืองใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปเริ่มระเบิดดอกไม้ไฟงดงามเป็นครั้งสุดท้าย ผลึกแร่มากมายระเบิด ผงผลึกแร่แวววาวที่เหมือนกับหิมะกระจา ายออกมารอบๆ ท้องฟ้า
ผงผลึกแร่นับไม่ถ้วนกระจัดกระจายรอบตัวลู่เซิ่งและมารดาศิลาช้าๆ พร้อมทั้งสะท้อนแสงสีรุ้ง
“ถ้าบอกว่า ตอนแรกท่านค้นหาสหายเก่าเพื่อแก้แค้น อย่างนั้นตอนนี้ ท่านคงไม่ได้ทำเพื่อเรื่องนี้ต่อไปแล้วใช่ไหม” ลู่เซิ่งคุยเปิดอก
“อาจเป็นเพราะข้ามีคู่แค้นเยอะก็ได้นี่ เจ้าตัดสินเรื่องนี้จากตรงไหน” มารดาศิลามองลู่เซิ่งอย่างสนอกสนใจ
จนถึงปัจจุบัน ในบรรดาผู้เข้มแข็งทั้งหมด รวมถึงเหล่าผู้เข้มแข็งในวัฏจักรก่อนที่นางตามหา ผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดยังคงเป็นลู่เซิ่งที่อยู่ตรงหน้า
นี่ทำให้นางยิ่งอยากให้ลู่เซิ่งรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยมากกว่าเดิม
นึกถึงตรงนี้ มารดาศิลาก็พลันยิ้ม รู้สึกมีความสุข เป็นรอยยิ้มบ้าคลั่ง
“ขอถามเจ้าสักคำถาม” นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดว่า ในมหาวัฏจักร ณ เวลานี้ ยังมีใครส่งผลคุกคามต่อข้าได้ไหม”
ลู่เซิ่งส่ายหน้า
“ไม่มีใครเอาชนะท่านได้” เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
คนคนเดียวที่ไล่ตามนางทันก็คือตน แต่ตอนนี้ลู่เซิ่งพัฒนาสูตรวัฏจักรถึงขั้นสองแล้ว ทางมารดาศิลาอย่างน้อยก็อยู่ในขั้นสามขึ้นไป
“ถูกต้อง…ข้าไร้คู่ต่อกรแล้ว…”
มารดาศิลาถอนใจ
“แต่ข้ารังเกียจ รังเกียจโลกที่แปลกหน้าและเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้…ข้าอยากให้มันเปลี่ยนไปตามใจข้า ข้าเองก็มีพลังพอจะเปลี่ยนแปลงได้ เจ้าว่า ข้าที่เป็นแบบนี้มีความผิดหรือ”
ลู่เซิ่งไม่ตอบ
จนถึงตอนนี้ ความทะเยอทะยานของมารดาศิลาปรากฏชัดแล้ว
นางต้องการช่วงชิงใต้หล้า ปกคลองมิติมหภาค ปกครองมิติเวลาและความว่างเปล่าที่สัมผัสได้ทั้งหมด
“ข้าเข้าใจได้ แต่รับไม่ได้” ลู่เซิ่งว่า “ข้าจะอยู่กับท่านไปจนถึงตอนจัดการสหพันธ์การดำรงอยู่และซีหนิง”
ก่อนหน้านี้สองขุมกำลังนี้วางแผนเล่นงานเขา ฝ่ายหนึ่งสู้ซึ่งหน้าไม่ได้เลยใช้แผนการ อีกฝ่ายถึงขั้นจับตัวหวังจิ้งเป็นตัวประกัน
ลู่เซิ่งคิดยืมพลังของมารดาศิลาทำลายสองขุมกำลังนี้ทิ้ง จากนั้นก็จากไปเสาะหาที่เร้นกาย อย่างไรเขาในตอนนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นต่อสู้กับพลังของสามกลไกใหญ่ได้ อย่างมากสุดก็ต้ านทานพลังเวลาอยู่บนชายขอบของสามกลไกใหญ่ได้เท่านั้น
ถ้าเปลี่ยนเป็นมารดาศิลา แค่กระตุ้นสามพลังสูงสุด ก็สามารถรับมือลู่เซิ่งร้อยคนหรือพันคนได้อย่างสบายๆ
เป็นเพราะกลยุทธ์ทะเลคนใช้ไม่ได้เมื่อเจอกับสามพลังสูงสุด
เส้นสีรุ้งความโกลาหลเส้นหนึ่งสามารถทำลายปัจเจกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ในพริบตา
“นี่ก็คือคำตอบของเจ้าหรือ” มารดาศิลาผิดหวังเล็กน้อย “หมายความว่า หลังจากกำจัดสหพันธ์การดำรงอยู่และซีหนิงเสร็จ เจ้าคิดจะจากไปหรือ?”
นางเกิดจิตสังหารขึ้นในใจว่า ถ้าปล่อยให้ผู้เข้มแข็งที่อ่อนเยาว์และมีศักยภาพมหาศาลอย่างลู่เซิ่งไป ไม่เพียงแต่จะเป็นความเสียหายครั้งมโหฬารของนางเท่านั้น อาจจะกลายเป็นการคุกคาม ที่น่ากลัวมากกว่าก็ได้
แทนที่จะปล่อยเขาไปให้กลายเป็นการคุกคาม ลงมือกำจัดทิ้งก่อนดีกว่า!
ความคิดอันตรายบังเกิดขึ้นใจมารดาศิลา