ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 587 ผลลัพธ์ (1)
บทที่ 587 ผลลัพธ์ (1)
ท้องฟ้ามืดลง มีแค่แสงจันทร์อ่อนๆ ที่ส่องสว่างอาณาเขตเล็กๆ เท่านั้น
จุดแสงสีแดงสิบกว่าจุดกลางท้องฟ้าดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
‘ปฏิกิริยารังสีรุนแรงมาก…!’ ลู่เซิ่งหยีตามองจุดแสงสีแดงสิบกว่าจุด
‘อาวุธอานุภาพสูงประเภทหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์งั้นเหรอ’
เขายกมือขวาขึ้น
ครืน!
พื้นดินสั่นไหวเล็กน้อย ฝ่ามือสีดำนับไม่ถ้วนระเบิดกลายเป็นหนวดสีดำจำนวนมากที่เกิดจากแร่ดิบ
หนวดเหล่านี้รัดพันกันอย่างแน่นหนาและกระจายไปบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง พริบตาเดียวก็กลายเป็นต้นเถาวัลย์ขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร
รากและฐานอันมหึมาที่ทำให้ต้นเถาวัลย์ยิ่งรัดพันไปด้านบนเท่าไหร่ก็ยิ่งเล็กลงเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อสูงถึงหนึ่งกิโลเมตร จึงค่อยเหมือนหนามแหลม
“ของแค่นี้คิดจะทำให้ฉันล่าถอยหรือไง ยังไม่พอหรอก…” ลู่เซิ่งกางห้านิ้ว ร่างของมังกรพิษกับไป๋ซือถูกชูขึ้นสูงและถูกม้วนเข้าไปด้านในต้นเถาวัลย์ขนาดยักษ์ พวกเขาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไร้ประโยชน์
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น สี่ขุนพลใหญ่ซึ่งเป็นขุนพลม่านเหล็กที่เหลืออยู่ถูกทำให้พิการและโดนรากไม้ห่อหุ้มเข้าไปอยู่ในต้นไม้ยักษ์เช่นกัน
คนหกคนของเซเว่นลีฟถูกฝ่ามือจักรกลยักษ์ยกขึ้นมายืนอยู่ข้างใต้ลู่เซิ่งหลายสิบเมตร
“หลินหลิน…” อยู่ๆ อวี๋ชาก็ส่งเสียง “ตอนที่ฉันถูกลอบโจมตี นักเรียนหญิงคนนั้น…ช่วยฉันไว้…เธอ…”
ลู่เซิ่งมองตามสายตาของอวี๋ชา เห็นเฉวียนสือฮุยที่ถูกรัดพันเข้าต้นเถาวัลย์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยพอดี
ตอนนี้นักเรียนหญิงที่ตอนแรกองอาจผ่าเผยมีร่างกายทรุดโทรม สายตาอ่อนล้า แขนเสื้อถูกฉีก กระโปรงขาดเป็นรูหลายรู ถุงน่องถูกฉีกเป็นรูใหญ่เช่นกัน
แต่ว่าตอนนี้เธอกลับไม่ขัดขืนอะไรเลย ระหว่างช่องท้องกับทรวงอกมีแผลถูกแทงที่สะดุดตาและกำลังมีเลือดไหลออกมา แผลถูกแทงสาหัสมาก แทบจะบาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน มิหนำซ้ำดูจากสีหน้าของเธอ คงจะเสียเลือดมาสักพักแล้ว
“ราชาแห่งสุสานเหนือล่ะ หนีไปแล้วเหรอ” ลู่เซิ่งสั่งให้หนวดสีดำนำเฉวียนสือฮุยมาวางไว้บนมือจักรกลอีกข้างด้านล่างตัวเอง
เวลานี้โรงเรียนแพลตินัมกลายเป็นโลกแห่งมือจักรกลสีดำไปแล้ว
มือสีดำจำนวนมากที่เหมือนกับป่ายื่นออกมาจากใต้พื้นสลับกัน จากนั้นก็แยกส่วนและหลอมรวมเข้ากับต้นไม้เถาวัลย์สีดำ
มือดำหลายข้างที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า บ้างก็ไม่ได้แยกส่วน ยังคงหยุดอยู่ที่เดิม กลายเป็นเสาหินสีดำสนิทเหมือนกับต้นไม้โบราณสูงระฟ้า
ความจริงลู่เซิ่งไม่สามารถควบคุมมือดำทุกข้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ พลังของเขาได้แต่สั่งการมือดำแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะแม้พลังอาวรณ์จะมีมากพอ แต่ร่างกายนี้รับภาระไม่ได้มากนัก
ดังนั้นแม้ว่าจะผ่านการเสริมความแข็งแกร่งจากดีปบลูเท่าที่จะทำได้แล้ว ทว่าถ้าคิดจะรับภาระจากราชาแห่งความโศกศัลย์ในครั้งนี้ ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อยู่ดี
สิ่งที่ลู่เซิ่งให้ความสำคัญมากกว่าก็คือการควบคุมที่แยกกันสั่งการทีละส่วนๆ
เวลานี้จุดสีแดงสิบกว่าจุดที่ลอยมาจากขอบฟ้ายามราตรีได้ดึงดูดความสนใจของคนทุกคนแล้ว
พอราชาแห่งสุสานเหนือที่หมอบอยู่ในมุมหนึ่งของซากปรักหักพังเงยหน้ามองเห็นจุดแสงบนท้องฟ้า มือที่กำหอกยาวก็อดจับแน่นขึ้นไม่ได้
‘แสงมรณะขอบทวีป…ใจคอโหดเหี้ยมจริงๆ…’ ผู้คุมม่านอยากหนี แต่เขาที่ทราบอาณาเขตรังสีของแสงมรณะดี รู้ว่าต่อให้หนีในตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
แสงมรณะสามารถปกคลุมอาณาเขตรัศมีหนึ่งกิโลเมตรได้อย่างง่ายดาย
เมืองแพลตินัมมากกว่าครึ่งจะล่มสลายโดยสมบูรณ์เพราะรังสีในครั้งนี้ สหพันธรัฐ ต้องเด็ดเดี่ยวขนาดไหน ถึงสั่งยิงปืนใหญ่แสงมรณะมามากมายแบบนี้ได้
เขาไม่รู้เลย
สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือการภาวนา ภาวนาว่าเงามหึมาสูงมากกว่าพันเมตรจะป้องกันปืนใหญ่แสงมรณะเหล่านี้ได้จริงๆ
ไม่อย่างนั้นทุกคนจะตายกันหมด
‘แต่ต่อให้มันป้องกันไว้ได้ ก็ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน’ แสงแห่งสุสานเหนือไม่ใช่คนชอบเสียสละอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้หลังจากรวมตัวกับรองผู้คุมม่านเฉวียนสือฮุยแล้ว เป็นเพราะถูกมือดำจำนวนมากโจมตีใส่ เขาจึงต้องลอบโจมตีเฉวียนสือฮุยเพื่อทำให้ความเร็วของเธอลดลงจนรั้งท้าย เขาจึงค่อยหนีมาได้
เขาไม่เสียใจกับเรื่องนี้ เขารู้ดีว่าตนแบกรับคำสั่งที่สำคัญที่สุด ขอแค่ตนยังอยู่ ม่านเหล็กก็ยังอยู่ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพลิกฟื้นขึ้นได้อีก
แต่ถ้าตนตายไป ม่านเหล็กในภายหลัง อาจจะ…
‘ควรไปได้แล้ว…ช่วยป้องกันให้ฉันดีๆ ด้วยล่ะ’ แสงแห่งสุสานเหนือมองไปยังเงายักษ์น่ากลัวที่สูงใหญ่เหลือประมาณ แล้วหมุนตัวพุ่งไปยังทิศทางที่ห้องทดลองใต้ดินอยู่
เขาไม่ได้ทำเสียงดังแม้แต่น้อยตอนเคลื่อนไหว เหมือนกับลมที่ค่อยๆ พัดออกมาจากถ้ำ
“ผู้คุมม่าน คุณจะไปไหน”
อยู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย เสียงของคนที่ถูกหนวดกลืนกินหายไปโดยที่เขามองดูอยู่เฉยๆ
“เธอ…!?” เกราะใบหน้าของแสงแห่งสุสานเหนือหันไปมองต้นเสียง
เฉวียนสือฮุยยืนนิ่งอยู่บนรากสีดำกลุ่มหนึ่ง พร้อมกับก้มมองดูเขาจากที่สูง
“ผู้คุมม่าน…ดาบของคุณทำให้ฉันเจ็บจริงๆ…”
แสงแห่งสุสานเหนือชะงักไปขณะเผชิญดวงตาที่อิดโรยของอีกฝ่าย
ทั้งสองมองกันอยู่เงียบๆ สักพัก
ฟ้าว!
ทันใดนั้น เขาพลันถอยหลังด้วยความเร็วสูง เท้ากระทืบพื้นเป็นหลุมใหญ่ อาศัยพลังสะท้อนกลับที่รุนแรงพุ่งโฉบออกไปด้านหลังเพื่อเหินบินไปยังด้านนอกโรงเรียน
ทว่าในเวลาเดียวกัน มือยักษ์สีดำนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นมาจากทิศทางที่เขาลอยออกไปเหมือนกับกำแพงเหล็กหลายชั้น
เปรี้ยง! เปรี้ยงๆๆๆ!
เกิดเสียงกระแทกกันดังอย่างต่อเนื่อง แรงกระแทกจากการพุ่งถอยหลังของแสงแห่งสุสานเหนือถูกลดทอนลง ร่างของเขาฝังเข้าไปในมือจักรกลสีดำ ก่อนจะถูกหนวดโลหะจำนวนมากมัดตรึงไว้พร้อมกับกดลงด้านล่าง
ตูม!
พื้นสั่นไหวอย่างรุนแรง มือจักรกลสีดำจับแสงแห่งสุสานเหนือฟาดลงกับพื้น แรงกระแทกอันน่าสะพรึงทำให้อวัยวะภายในของเขาเคลื่อนจากตำแหน่ง ต่อให้ร่างกายจะสวมใส่ชุดเกราะ เลือดเนื้อก็ยังคงกระเทือนอยู่ดี
“ม่านเหล็กจบสิ้นแล้ว” เฉวียนสือฮุยเดินไปถึงด้านหน้าแสงแห่งสุสานเหนือ มีดสั้นในมือบิดโค้ง หมุนวน และขยายยาวกลายเป็นกระบี่เล่มบางเหมือนกับหนามแหลม
อ๊าก!
แสงแห่งสุสานเหนือดิ้นหลุดจากหนวด ปล่อยม่านแสงเบาบางสีขาวแวววาวออกมา ก่อนจะอาศัยม่านแสงชั้นนี้พุ่งสู่ฟากฟ้า พร้อมกับป้องกันหนวดที่พุ่งมาจากรอบๆ ข้าง หลายครั้งติดต่อกันและพุ่งไปยังด้านนอกโรงเรียน
แต่เขาเพิ่งหนีออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ มือยักษ์ที่กว้างถึงสามสิบกว่าเมตรก็กดทับลงมาชนิดมืดฟ้ามัวดิน
เปรี้ยง!
บนพื้นเกิดรอยมือขนาดยักษ์
มือยักษ์เคลื่อนออกไปด้านบน เฉวียนสือฮุยเดินไปถึงขอบรอยมือ พร้อมกับก้มลงมองพี่ใหญ่ที่ตนเองเคยเทิดทูนมาก่อน
“ชาติหน้าขออย่าได้พบเจอกันอีกเลย”
กระบี่เล่มบางทิ่มแทงออกไปเหมือนกับงูพิษ แทงเข้าไปในชุดเกราะส่วนอกด้านซ้ายของแสงแห่งสุสานเหนืออย่างแม่นยำ
ฉูด
เลือดพุ่งกระฉูดใส่ร่างเฉวียนสือฮุย
แต่เธอก็ไม่ได้คลายมือ หากมองดูพลังชีวิตของแสงแห่งสุสานเหนือหายไปเช่นนี้อยู่เงียบๆ
น่าเสียดาย แสงแห่งสุสานเหนือยังคงไม่แสดงความสำนึกเสียใจจนกระทั่งตาย
เฉวียนสือฮุยเงยหน้ามองส่วนบนสุดของเถาวัลย์ยักษ์กลางท้องฟ้าต้นนั้น
ยอดเถาวัลย์ยื่นหนามแหลมออกไปพุ่งใส่จุดสีแดงสิบกว่าจุดที่ลอยมาอย่างฉับพลัน ในพริบตาที่อยู่ห่างร้อยเมตร หนามแหลมก็ระเบิดกลายเป็นรากสีดำจำนวนเหลือคณานับในทันใด
ผืนดินเหมือนตกสู่ความมืดมิดในชั่วพริบตา เพราะแสงจันทร์มากกว่าครึ่งถูกรากไม้นับไม่ถ้วนที่ระเบิดออกมาจากเถาวลัย์ปกคลุมเหมือนกับตาข่าย
รากไม้จำนวนมากดีดหลุดออกจากร่างหลักเหมือนกับหนามแหลม ก่อนจะพุ่งใส่จุดแสงสีแดงสิบกว่าจุดราวสายฝน
ตูม!
จุดแสงจุดแรกถูกกระตุ้นให้ระเบิดกลางอากาศ
แสงสีแดงแยงตาย้อมอาบท้องฟ้า ท้องฟ้ายามราตรีมากกว่าครึ่งเป็นสีแดง ชั้นเมฆถูกระเบิดเป็นรูใหญ่และลุกไหม้อย่างรุนแรงราวกับถูกเผา
จากนั้นก็ตามมาด้วยจุดแสงจุดที่สอง ที่สาม ที่สี่..
จุดแสงมากมายถูกหนามแหลมจำนวนมากกระตุ้นให้ระเบิด
พริบตาเดียวกลางท้องฟ้าก็เหมือนมีดวงอาทิตย์สีแดงเจิดจ้าสิบกว่าดวงโผล่มา ดวงอาทิตย์พวกนี้คงอยู่สองสามวินาที แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับทำให้เมืองแพลตินัมกลายเป็นยามทิวาโดยสมบูรณ์
‘ไม่มีใครขวางชายคนนั้นได้อีกแล้ว…’ เฉวียนสือฮุยใช้มือป้องตา ในใจเห็นจุดจบแล้ว
โรงเรียนแพลตินัมก็ดี เมืองแพลตินัมก็ดี ต่างก็กลายเป็นชื่อเสียงที่น่ากลัวให้แก่ชายคนนั้น แล้วตอนนี้แม้แต่แสงมรณะขอบทวีปก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ บนโลกยังมีใครที่เอาชนะคนคนนี้ได้อีก
เธอรู้สึกปวดแปลบที่ท้อง แม้จะใคร่รู้มากว่าอนาคตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่เธอในตอนนี้ไม่สามารถอยู่ดูได้อีกแล้ว
เฉวียนสือฮุยปล่อยกระบี่บางในมือลงและผ่อนคลายร่างกาย ในที่สุดก็ค่อยๆ ล้มหงายหลัง ก่อนที่สายตาจะพร่ามัวอย่างรวดเร็ว…
…
หลังจากขัดขวางกระสุนแสงมรณะสิบกว่าลูกได้อย่างง่ายดาย ลู่เซิ่งก็สัมผัสสถานการณ์ในอาณาเขตพันเมตรรอบๆ อีกครั้ง
แสงแห่งสุสานเหนือจากม่านเหล็กตายไปแล้ว รองผู้คุมม่านเฉวียนสือฮุยตายไปแล้ว สมาชิกที่เหลือล้วนพินาศสิ้น
ทัพปีกขาวสิ้นสูญ มังกรพิษกับไป๋ซือล้วนเสียชีวิต
จิตวิญญาณของจัวหลินหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของตนอย่างเชื่องช้า ลู่เซิ่งสัมผัสได้ว่ามีการหลอมรวมพิเศษที่เหมือนปฏิกิริยาทางเคมีกำลังทำงานอยู่
‘ในที่สุดก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงสี่สิบวัน เทียบอัตราส่วนดู ทางนั้นตอนนี้เพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ’ ลู่เซิ่งพอใจกับประสิทธิภาพของตัวเอง ครั้งนี้เพียงเน้นที่การสะสางผลกรรมโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น สุดท้ายก็เกิดประสิทธิภาพน่าตกตะลึงอย่างที่คิดไว้
‘ต่อจากนี้ถึงเวลาจัดการปัญหาที่จะตามมาแล้ว’ ลู่เซิ่งกอดอวี๋ชาไว้เบาๆ
เมืองแพลตินัมกลายเป็นสิ่งของในถุงย่ามของตนแล้ว กองทัพธรรมดาที่ตั้งค่ายอยู่รอบนอกหรือแม้แต่ทัพปีกขาวก็ไม่อาจต้านทาน ยิ่งอย่าว่าแต่ชุดเกราะยักษ์ขั้นสุดยอดอย่างราชาแห่งความโศกศัลย์
ลู่เซิ่งสัมผัสจิตวิญญาณของตนที่เริ่มพองขยายและแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วสูง จากนั้นพลันนึกถึงเรื่องหนึ่ง
ในผลกรรมความปรารถนาของจัวหลินไม่มีอวี๋ชาอยู่ด้วย
เขารู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย ความจริงจัวหลินเป็นเขาในอีกโลกหนึ่ง อวี๋ชาดีกับเขาขนาดนี้ เสียสละมากมายขนาดนี้ แต่ยังคงไม่อาจเดินเข้ามาในใจจัวหลินได้ เห็นได้ว่าตัวจัวหลินเป็นคนไร้น้ำใจคนหนึ่ง
‘ช่างเถอะ ฉันจะจัดการแทนนายก็แล้วกัน’
ศึกในเมืองแพลตินัมไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่สหพันธรัฐอัลเลนเท่าไหร่ แต่ชื่อเสียงของสหพันธรัฐ กลับได้รับผลกระทบที่รุนแรงถึงขีดสุด
ประเทศอื่นๆ พากันดำเนินการหยั่งเชิงเมืองแพลตินัม ข่าวสารที่มืดฟ้ามัวดินกระจายไปรอบๆ เหมือนกับเกล็ดหิมะ
ในเวลาแค่ไม่กี่วัน ทั่วทั้งโลกก็ทราบถึงคดีน่าตกตะลึงที่เกิดขึ้นในสหพันธรัฐอัลเลนซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจ
เมืองแพลตินัมเปลี่ยนเจ้าของ ผู้ปกครองคือชายที่เรียกตัวเองว่าเซิ่ง
ถึงสหพันธรัฐ จะดำเนินการปิดผนึก ซ่อนเสบียง และควบคุมเขตเขตนี้แล้ว แต่ก็ยังคงหยุดไม่ให้ผู้ร้ายจำนวนมากหลบหนีโทษทัณฑ์จากสหพันธรัฐ เพื่อมารวมตัวอยู่ใต้อาณัติของชายที่ชื่อว่าเซิ่งไม่ได้
ทางสหพันธ์หมดปัญญากับเรื่องนี้ ปืนใหญ่แสงมรณะอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ประสบผล นี่เป็นอาวุธน่ากลัวที่สามารถทำลายประเทศมากกว่าครึ่งได้ในทันที แต่สำหรับเมืองแพลตินัม มันกลับถูกต้นเถาวัลย์สูงจรดฟ้าที่ใหญ่โตโอฬารกระตุ้นให้ระเบิดจากระยะไกลโดยไม่ทันลอยถึงเหนือเมืองด้วยซ้ำ
ต่อจากนั้นอีกหลายวัน ได้มีการใช้วิธีการหลากหลายรูปแบบเช่นการแทรกซึมของทีมพิเศษ การสอดแนมหมอบซุ่ม การสังหารจากระยะไกล และทีมชุดเกราะที่แข็งแกร่งกับเมืองแพลตินัม ขณะเดียวกันก็มีการปิดทางเข้าออกรอบๆ เมืองเพื่อตัดขาดแหล่งน้ำ พลังไฟฟ้า และเสบียงด้านในด้วย
สหพันธรัฐ ต้องการทำลายเซเว่นลีฟซึ่งเป็นองค์กรน่ากลัวของเมืองแพลตินัมให้จงได้
……………………………………….