ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 859 เบาะแส (1)
ใจกลางอวกาศ
แสงสายฟ้าสีน้ำเงินที่บิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ร่วงหล่นเข้าใกล้ดาวเคราะห์เหมือนกับหมอกฝนที่มีสายฟ้าแทรกตัวอยู่
ฟ้าว…
กรงเล็บสีน้ำเงินขนาดยักษ์ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากแสงสายฟ้าสีน้ำเงิน ไข่มุกทรงกลมก้อนหนึ่งหมุนวนกลางกรงเล็บ
ด้านในไข่มุกเหมือนมีเปลวเพลิงลุกไหม้
“ด้วยนามของมารดาแห่งวารีที่ยิ่งใหญ่…จงหวาดกลัวเถอะ…พวกผงธุลีต้อยต่ำ…”
ไข่มุกที่กำลังเผาไหม้กลายเป็นสีแดงเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นใจกลางไข่มุกเปิดเป็นช่องว่าง ก่อนจะยิงควันสีดำสนิทใส่ดาวเคราะห์เบื้องล่าง
ฟ้าว!
ควันระเบิดกลางอากาศเหนือดาวเคราะห์ จากนั้นก็แตกออกเป็นห้าสายพุ่งออกไปห้าทิศทาง
หนึ่งในนั้นพุ่งไปยังมหาวิทยาลัยมิสกา
…
มิสกา
มาราโดน่าพลิกอ่านเอกสารบนโต๊ะอย่างเงียบขรึม ขณะพลิกข้อมูลด้านบน เขาก็ลุกขึ้น มองไปยังด้านนอกหน้าต่าง เห็นควันดำสายนั้นพุ่งมาทางนี้พอดี
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมาอาละวาดได้”
มาราโดน่าถอดแหวนโลหะสีขาววงหนึ่งออกจากนิ้วโยนออกไปด้านนอก
ครืน
ท้องฟ้าเกิดฟ้าแลบ กลางสายฟ้าแลบมีเงานกยักษ์ปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง
ควันสีดำกับแสงสายฟ้าหายไปพร้อมกัน ก่อนที่การเคลื่อนไหวก่อนหน้าจะหายไป
มาราโดน่ายืนอยู่ข้างหน้าต่างด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
“คืออะไร สัญญาณเตือนล่วงหน้าหรือ” เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า คล้ายกับมองทะลุม่านฟ้าไปเห็นสายฟ้าและหมอกเมฆมหึมาตรงกลาง
…
ครืน
สายฟ้าแลบและความรู้สึกกดดันเมื่อครู่พลันสลายหายไป
ลู่เซิ่งยืนอยู่ในสถาบันวิจัย สูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ครู่ต่อมาจึงกลับมาเป็นปกติ
‘เมื่อกี้มันคือ…อะไรกันแน่’ เขานิ่งงัน ‘ดูเหมือนเวลาจะเหลือไม่มากแล้ว…ต้องรีบพัฒนาแล้ว’
ความกดดันเหมือนภัยพิบัติมาถึงในพริบตาเมื่อครู่ ราวกับมหาวิทยาลัยกำลังจะถูกทำลายจนหมดสิ้น
ตอนที่ความรู้สึกนั้นพุ่งไปถึงจุดสูงสุด สถานที่บางแห่งในมหาวิทยาลัยก็ปล่อยคลื่นพลังที่น่ากลัวกว่าเดิมออกมา ทำลายคลื่นพลังที่มหึมานั้นในพริบตาเดียว
ลู่เซิ่งสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความยิ่งใหญ่ของพลังสองสายนี้สร้างการคุกคามอย่างใหญ่หลวงให้แก่เขา ถึงขั้นที่ถ้าร่างหลักของเขาปรากฏตัวอย่างแท้จริง ก็จะเป็นระดับเดียวกับเมื่อครู่เช่นกัน
นี่ทำให้เขาเกิดความหวั่นเกรงและความรู้สึกถูกคุกคาม
เขาเดินออกมาจากสถาบันวิจัย กลับไปพักผ่อนที่หอพัก เช้าตรู่วันต่อมา พอเรียนเสร็จ ก็รีบมาสถาบันวิจัย แล้วเริ่มศึกษาตัวอย่างที่ปนเปื้อนพลังเทพนอกรีตที่ตระกูลซีเฟอลุสมอบให้ก่อนหน้านี้ทุกด้านทันที
ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาศึกษาเยื่อดำที่แดนเหนือ
ตอนนั้นเขายังเป็นมนุษย์ธรรมดา สิ่งที่เผชิญ กลับเป็นพลังแห่งพันธนาการในตำนาน และตอนนี้ เขาก็เป็นคนธรรมดาเช่นกัน และสิ่งที่เผชิญก็คือพลังแห่งเทพนอกรีต
พรึ่บ
ลู่เซิ่งหมุนกล้องจุลทรรศน์เล็กน้อย ปรับจานตัวอย่างใหม่เพื่อให้สามารถสำรวจรายละเอียดของมันได้ดีกว่าเดิม
‘’ตอนนี้ติดตั้งพลังแห่งกูลาร์สิบห้าเท่า ทดลองโจมตีซากเทพนอกรีต”
“เริ่มบันทึกการทดลอง”
“โจมตีครั้งที่หนึ่ง”
“โจมตีครั้งที่สอง”
“โจมตีครั้งที่สาม…พลังแห่งกูลาร์เปลี่ยนแปลง ซากเทพนอกรีตปรากฏการขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย การทดลองล้มเหลว”
ลู่เซิ่งเงยหน้าขึ้น ชักนิ้วที่ยื่นออกไปกลับมา การปลดปล่อยพลังแห่งกูลาร์ในระดับอณูหลายครั้ง ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง
“เป็นยังไงบ้างคะ” เออร์นีพาผู้ช่วยเรดเอคโคเข้ามา เห็นลู่เซิ่งกำลังยุ่งอยู่ จึงเอ่ยปากถาม
“นี่เป็นการทดลองอีกอย่าง ไม่มีอะไร มาดูของเธอกันก่อน” ลู่เซิ่งผลักกล้องจุลทรรศน์ออกไป แล้วหันมาถอนใจ
นี่เพิ่งจะเริ่ม ยังมีเวลาอีกมาก เขาไม่รีบร้อน
“ทดสอบอานุภาพแสงแห่งนรกของเธอก่อนก็แล้วกัน”
“ได้”
ทั้งสามออกจากห้องทดลอง ตัดผ่านระเบียง มาถึงห้องทดสอบใต้ดิน
ห้องทดสอบมีการออกแบบโครงสร้างไว้เพื่อกั้นเสียงและดูดซับการสั่นสะเทือน ต่อให้เกิดการระเบิดก็สามารถลดอานุภาพส่วนใหญ่ได้ โดยลดคลื่นเสียงและความเสียหายที่สะท้อนกลับด้วยการสั่นสะเทือน
“จะทดสอบยังไงหรือคะ” เออร์นีเปลี่ยนไปใส่ชุดหนังสีน้ำตาลรัดรูปดูทะมัดทะแมง เธอยื่นมือออกมา โชว์อวัยวะสัมผัสที่หกบนแขนท่อนปลาย
ลู่เซิ่งชี้ไปที่เป้าด้านหน้าแถวหนึ่งเหมือนกับสนามยิงปืน
“ปล่อยความสามารถให้โดนเป้าอันนั้น แสงแห่งนรกเป็นความสามารถโจมตีชนิดปลดปล่อยพุ่งออกมา เธอคิดเสียว่ากำลังใช้ปืนอยู่”
เออร์นีพยักหน้า ยืดแขนออกเล็กน้อย จากนั้นก็ตะปบออกไปทันที
อวัยวะบนแขนของเธอพลันฟาดประจุไฟฟ้าสีม่วงจำนวนมากออกมา ประจุไฟฟ้าจำนวนมากโลดเต้นและแผ่ขยาย ก่อนจะไต่ขึ้นมาบนแขน
หลังจากเกิดเสียงระเบิดดังเปรี๊ยะๆ เป้าที่อยู่ไกลออกไปก็ระเบิดออกอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น
ไม่มีวิถียิง ไม่มีร่องรอยใดๆ เหมือนกับเป้าฝังระเบิดไว้ด้านใน แล้วระเบิดออกเอง
ลู่เซิ่งตากระตุก ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบร่องรอยอานุภาพ
“พลังทำลายขั้นกลาง” เธอหันไปมองเออร์นี
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้เธอควรจะอยู่ในระดับสองของประมวลกฎเกณฑ์ขั้นแรกสินะ”
เออร์นียักไหล่และพยักหน้า
ลู่เซิ่งจุ๊ปากชมเชยสองที
“อยู่ในระดับที่สองของประมวลกฎเกณฑ์ขั้นต้นก็มีพลังทำลายล้างของประมลกฎเกณฑ์ขั้นกลางแล้ว…สมกับเป็นแสงแห่งนรก...”
“ปกติสายต้องห้ามสามารถข้ามระดับและระเบิดอานุภาพออกมาได้ค่ะ นี่เป็นเรื่องปกติมาก” เรดเอคโคที่อยู่ด้านข้างอธิบาย
“เธอไม่เข้าใจ” ลู่เซิ่งโบกมือ “นั่นคือคนอื่น แต่เออร์นีแตกต่าง ความสามารถทางร่างกายและคุณสมบัติในแต่ละด้านของเธอไม่ค่อยเข้ากันกับอวัยวะที่หกเท่าไร พูดง่ายๆ ก็คือเธอยังใช้ศักยภาพได้ไม่ถึงครึ่ง ก็มีอานุภาพถึงเพียงนี้แล้ว”
“ศักยภาพหรือ” เออร์นีก็ไม่เข้าใจมากนักเช่นกันเลยมองลู่เซิ่งอย่างสงสัย
“ความหมายของคุณคือ ฉันยังไม่ได้แสดงพลังของตัวเองอย่างสมบูรณ์หรือ”
“แน่นอน แสงแห่งนรก ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรใช้แบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรฝึกฝนแบบนี้” ลู่เซิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขามองปราดเดียว ก็รู้หลักการและความร้ายกาจที่แท้จริงของแสงแห่งนรกทันที
“มานี่สิ เมื่อวานฉันสร้างแผนการฝึกฝนประมวลกฎเกณฑ์ที่เป็นรูปธรรมให้เธอ จากนั้นเป็นขั้นตอนการใช้ของแสงแห่งนรก กับจุดที่ต้องคอยระวังในการต่อสู้จริง ความร้ายกาจที่แท้จริงของแสงแห่งนรกไม่ใช่การระเบิด ข้อนี้เธอจำใส่ใจไว้ให้ดี!”
ลู่เซิ่งเริ่มสั่งสอน ปรับแก้ข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เออร์นีทำลงไป
เรดเอคโคฟังอย่างมึนงง มองดูทั้งสองใช้ศัพท์แสงเฉพาะทางคุยกันไม่หยุด พวกเขาเป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีที่สุดในชั้นปี มีความฉลาด ความหัวไว และความเชี่ยวชาญเหนือกว่าเรดเอคโค
ตอนแรกเธอพอจะฟังเข้าใจบ้าง แต่ผ่านไปห้านาที ความคิดก็เริ่มตามไม่ทันแล้ว
หลังจากลู่เซิ่งปรับแก้วิธีใช้พลังของเออร์นี ก็ให้เธอลองปล่อยแสงแห่งนรกอีกครั้ง
ตูม!
เกิดเสียงทึบหนัก เป้าใหม่ระเบิดอย่างฉับพลัน อานุภาพถึงกับเหนือกว่าก่อนหน้าไม่น้อย
“ถูกแล้ว เธอกลับไปฝึกฝนแบบนี้ หลังจากคล่องแล้ว อานุภาพของการระเบิดพลังสูงสุดจะเหนือกว่าก่อนหน้านี้เกือบสองเท่าตัว” ลู่เซิ่งกำชับ
“เข้าใจแล้วค่ะ” เออร์นีพยักหน้า
“เอาล่ะ ต่อไปเป็นเรดเอคโค” ลู่เซิ่งเริ่มทดสอบและบันทึกความตึงเครียดของเรดเอคโค
ในเมื่อเขาเข้าร่วมทีมที่เออร์นีอยู่ อย่างนั้นการพัฒนาสมาชิกในทีมย่อมตกเป็นหน้าที่ของเขา
แน่นอนว่าเทียบกับคนอื่นแล้ว เขาไม่ได้ทุ่มเทเต็มที่ อย่างมากก็ปรับปรุงวิธีการฝึกฝนประมวลกฎเกณฑ์ และตรวจสอบว่าในร่างกายมีอาการบาดเจ็บอะไรหรือไม่เท่านั้น
การดูแลพื้นฐานเหล่านี้เป็นของง่าย ไม่เสียเวลา
ความสามารถของเรดเอคโคเป็นการควบคุมดินโคลนชนิดพิเศษ ระดับการควบคุมไม่ดีมาก สามารถปั้นดินโคลนใช้แล้วทิ้งได้เกือบหนึ่งตารางเมตร
ความสามารถชนิดนี้เอาไว้ช่วยสนับสนุนแนวหลัง
ลู่เซิ่งช่วยเธอปรับรูปแบบการใช้ความสามารถ ยกระดับประสิทธิผลเกือบสองเท่า การยกระดับที่เห็นผลทันตานี้ทำให้เรดเอคโคตกตะลึง จนต้องพิจารณาลู่เซิ่งอย่างเหลือเชื่อ
เดิมทีเธอยังตำหนิที่คุณหนูใช้เงินทุนมากมายเพื่อดึงลู่เซิ่งเข้าเป็นพวก ทั้งมอบตัวอย่างที่ตระกูลเก็บไว้ ทั้งมอบเงินให้ ทั้งยังยอมให้เอาเปรียบ
ดูจากตอนนี้ เธอค่อยเข้าใจความน่ากลัวของกองหนุนด้านการวิจัยที่เก่งกาจคนหนึ่งอย่างแท้จริง
หลังจากทั้งสามตรวจสอบแผนการฝึกเสร็จ ลู่เซิ่งก็กำหนดแผนการฝึกใหม่ให้พวกเธอ
“หนึ่งเดือนต่อจากนี้ ถ้าพวกเธอฝึกฝนความสามารถได้สามชั่วโมงถึงหกชั่วโมงทุกวัน จะมีอัตราสำเร็จห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่จะเลื่อนสู่ระดับสาม แต่ถ้าฝึกฝนตามวิธีการฝึกฝนหยาบๆ เมื่อก่อนหน้านี้ของพวกเธอ อย่างน้อยต้องรอสักปีสองปีก่อนถึงจะเลื่อนสู่ระดับสามได้” ลู่เซิ่งส่งใบรายการให้พวกเธอคนละใบ บนนั้นบันทึกข้อมูลทุกด้านของพวกเธอเอาไว้
“ความจริงถ้าเออร์นียินดี ฉันยังยกระดับความเร็วการฝึกฝนให้เธอได้อีกขั้นนะ ปีศาจเจ้าของแสงแห่งนรกมีความสามารถฟื้นฟูแข็งแกร่งมาก ฉันสร้างยาเพิ่มความแข็งแกร่งชนิดพิเศษที่มีฤทธิ์กระตุ้นรุนแรงกว่าเดิมให้กับเธอได้ ถ้ากินทุกวัน จะเพิ่มความเร็วได้ราวสิบเปอร์เซ็นต์”
ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“แต่เมื่อเป็นแบบนี้ค่าใช้จ่ายจะมากไปบ้าง”
เออร์นีตาเป็นประกาย แต่พอได้ยินว่าค่าใช้จ่ายจะมากขึ้น ก็ขมวดคิ้วทันที
“ต้องใช้เงินเพิ่มเท่าไรคะ”
“ยิ่งช่วงหลังๆ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับก็จะยิ่งมาก นี่เทียบได้กับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่นั่นแหละ จะสิ้นเปลืองทรัพยากรมากกว่าตอนนี้หนึ่งในสาม” ลู่เซิ่งเอ่ยอย่างรวบรัด
“อย่างนั้นก็ช่างเถอะค่ะ” เออร์นีส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“รายชื่อทีมคือคนพวกนี้เหรอ” ลู่เซิ่งหยิบรายชื่อทีมที่เรดเอคโคส่งให้ยกขึ้นมาดู
บนรายชื่อมีทั้งหมดห้าชื่อ
คนเหล่านี้ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งโดยเฉพาะ ล้วนอยู่ในขอบเขตบริการของลู่เซิ่ง
“ถูกต้อง” เออร์นีพยักหน้า
“เข้าใจแล้ว ฉันจะทำแฟ้มข้อมูลให้พวกเขาเฉพาะแต่ละคน นอกจากนี้ฉันยังสร้างประมวลกฎเกณฑ์ที่เข้ากันได้ให้เป็นการส่วนตัวได้ด้วยนะ แต่นี่ต้องการค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถ้าเธอต้องการ ก็สามารถบ่มเพาะคนจำนวนหนึ่งได้” ลู่เซิงเสนอ “ประมวลกฎเกณฑ์ที่เข้ากับตัวเองได้ สามารถยกระดับความเร็วได้มากกว่าครึ่ง อีกไม่นานเธอก็จะสัมผัสได้เอง”
เออร์นีพลันปวดหัว ค่าใช้จ่ายๆ…อะไรก็ค่าใช้จ่าย!
“นอกจากนี้ ตัวอย่างของฉันกับค่าตอบแทนของฉันจะมาถึงเมื่อไร” ลู่เซิ่งถามอีก
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ฉันจะส่งมาให้คุณเอง” เออร์นีรีบตอบ ตอนนี้เธอได้เห็นความสามารถของลู่เซิ่งจริงๆ แล้ว คนแบบนี้ต้องรักษาไว้ให้ดี การปล่อยให้หลุดมือไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
เออร์นีพูดคำไหนคำนั้น อาจเป็นเพราะตระกูลมีตัวอย่างเก่าแก่ที่เก็บรักษาไว้ไม่น้อยก็ได้
คืนวันนั้น เธอส่งปีศาจฝันร้าย ปีศาจจากห้วงความว่างเปล่ารูปแบบที่หกมาเกือบทั้งตัว
ต่อให้เป็นห้องทดลองที่ลู่เซิ่งอยู่ก่อนหน้านี้ ปีศาจจากห้วงความว่างเปล่าชนิดนี้ก็เป็นของดีที่มีสารจากห้วงความว่างเปล่าเต็มเปี่ยมถึงขีดสุด ทั้งยังหาได้ยากอย่างยิ่งยวด
……………………………………….