ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 866 อีกครั้ง (2)
ที่แรกคือห้องอธิการบดี ห้องที่อธิการบดีมาราโดน่าอยู่ มีพลังแข็งแกร่งที่ลู่เซิ่งไม่อาจมองข้ามอยู่ที่นั่น พลังสายนี้คล้ายกับเทพเมฆาที่ได้เห็นก่อนหน้านี้มาก
ที่ต่อมาคือเลดี้แฮปปี้ที่อยู่ในห้องสมุด
สุภาพสตรีคนนี้นอนอ่านหนังสืออยู่บนระเบียงตรงไหนสักแห่งบนชั้นสามของห้องสมุดอย่างเกียจคร้าน ทั้งๆ ที่เห็นร่องรอยของเธอได้จากระยะไกล แต่พลังจิตของลู่เซิ่งกลับสัมผัสได้แค่ว่า ที่นั่นมีเพียงประกายแสงสีแดงสว่างไสวเท่านั้น
ส่วนที่สุดท้าย คือฐานทัพจันทราที่ลึกลงไปใต้ดิน
‘ทั้งที่ไม่ใช่ปีศาจห้วงความว่างเปล่าที่ถนัดด้านพลังจิต แต่ก็วิวัฒนาการความสามารถที่คล้ายกันออกมาได้…’ ลู่เซิ่งทอดถอนใจ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใด หากระดับสูงขึ้น ก็มีจุดร่วมเหมือนกันไม่มากก็น้อย
‘การวิวัฒนาการ…เป็นทางลัดที่กว้างขวางถึงขีดสุดจริงๆ ความเร็วในการยกระดับของโลกใบนี้แข็งแกร่งกว่าโลกมารสวรรค์เหลือเกิน แต่ความเร็วการยกระดับนี้กลับแปลกพิกล’
ลู่เซิ่งเก็บพลังจิตที่เหมือนมหาสมุทรกลับมา เดินไปถึงระเบียง ขมวดคิ้วพลางขูดเล็บกับหนังสือที่ถืออยู่แผ่วเบา
การกระทำโดยไม่รู้ตัวนี้ เป็นความเคยชินที่เขาเพิ่งติดตัวเมื่อไม่นานมานี้
‘ถ้าระบบวิวัฒนาการของโลกใบนี้ง่ายดายแบบนี้หมด อย่างนั้นผู้เข้มแข็งจากโลกอื่นคงอยากจะจุติมานี่กันทุกคน แล้วต่อให้ไม่เร็วเท่าเรา แต่การที่สามารถก้าวข้ามการฝึกฝนหลายหมื่นหลายแสนปีในเวลาสั้นๆ ไปถึงขอบเขตการเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ ก็เท่ากับคืนทุนได้แล้ว แล้วทำไมเราจึงไม่พบมารสวรรค์ในโลกอื่นเลยล่ะ’
ลู่เซิ่งเริ่มไตร่ตรองถึงปัญหานี้
พลังบนร่างเขาเป็นของจริงแน่นอน แม้กฎพื้นฐานของโลกใบนี้จะแตกต่างจากโลกมารสวรรค์ แต่พลังจิตและวิญญาณของจริงนี้ก็ไม่ใช่ของปลอม
ต่อให้กลับไปแล้วจะไม่อาจเอาพลังไปได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ยังไว้ได้ถึงเจ็ดส่วน
กอปรกับร่างหลักได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากการยกระดับอยู่ที่นี่เช่นกัน เพียงครั้งเดียวก็เลื่อนสู่อนธการ หรือระดับผู้ปกครองแห่งมายาพิศวงในตำนาน
ก่อนจะมาที่นี่เขาไม่กล้าคิดถึงมันเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันกลับเกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ลางสังหรณ์เขาสัมผัสได้ว่าจะต้องมีความลับที่เขาไม่รู้ซุกซ่อนอยู่แน่
“แจ๊ค” อยู่ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิดออก เออร์นีเปลี่ยนไปสวมเสื้อเชิ้ตสีม่วงเข้ม กระโปรงลูกฟูกสั้นสีน้ำตาล รองเท้าหนังสีน้ำตาล และถุงน่องสั้นสีขาว
ใส่ต่างหูเพชร ผมยาวคลอเคลียไหล่ ปากสีแดงสด ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่นอายวัยสาวบานสะพรั่งที่แฝงความเป็นผู้ใหญ่
ลู่เซิ่งหันไปมองเธอ ช่วงนี้ยัยหนูคนนี้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากขึ้น นับตั้งแต่ทดสอบร่างกายในห้องทดลองบ่อยครั้งเข้า เธอก็เหมือนจะสวมใส่ชุดยั่วยวนต่อหน้าเขาโดยไม่คิดอะไรมากแล้ว
นี่ถือว่ากล้าและหน้าหนาขึ้นรึเปล่านะ
“ชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ” เออร์นีหมุนตัวรอบหนึ่ง พร้อมกับเอ่ยถามอย่างคาดหวัง
ชายกระโปรงสั้นพริ้วขึ้นตามลม ยั่วยวนอย่างยิ่ง
“ไม่เลว แต่ถ้าเปลี่ยนลิปสติกเป็นสีชมพูน่าจะดีกว่านี้” ลู่เซิ่งวิจารณ์ตรงไปตรงมา
“งั้นเหรอ เดี๋ยวฉันกลับไปเปลี่ยนดู” เออร์นีพยักหน้า “จริงสิ รายชื่อประจำการจากเบื้องบนออกมาแล้วนะ วันมะรืนฉันจะได้รับการจัดสรรเขตประจำการแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าหากในทีมมีเรื่องอะไร คุณช่วยฉันจัดการหน่อยจะได้ไหมคะ”
“ได้สิ” ลู่เซิ่งพยักหน้า
ตอนนี้เออร์นีตั้งชื่อทีมนี้ว่ารุ่งอรุณ มีสมาชิกทั้งหมดเจ็ดคน ด้วยลู่เซิ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักทางด้านธุรการ และยังต้องตรวจร่างกายให้หกคนที่เหลือเพื่อสร้างแฟ้มข้อมูล ดังนั้นจึงมีอำนาจค่อนข้างมาก
คนอื่นๆ ก็เกรงใจลู่เซิ่งเช่นกัน เออร์นีก็เลยฝากฝังเขาไว้
“แล้วฉันล่ะ นักศึกษาธรรมดาอย่างพวกฉันเป็นยังไงบ้าง มีการแบ่งภารกิจอะไรให้ไหม” ลู่เซิ่งถามอีก
“ไม่มีนะคะ…” เออร์นีกำลังจะกลับพอได้ยินคำถามก็หันหลังมาตอบ “แต่ถ้าพี่อยากไป ฉันช่วยยื่นเรื่องให้ได้นะ แต่ได้เพียงสถานที่ที่ไม่สำคัญเท่านั้น…”
“ไม่ล่ะ” ลู่เซิ่งส่ายหน้า
สิ่งที่เขาคิดถึงในตอนนี้ มีแค่แกนหลักแห่งความโกลาหลเท่านั้น แค่เพียงสัมผัสมัน เขาก็ได้พลังอาวรณ์มาหลายร้อยล้านหน่วยแล้ว ของหายากแบบนี้ ต่อให้เป็นครั้งที่ไปโลกตี้วาก็ยังเทียบไม่ได้
หากไม่เอาของล้ำค่าระดับนี้มาครอง ก็เสียทีที่มายังโลกใบนี้แล้ว
แม้เส้นทางกลับไปจะถูกปิดตายชั่วคราว แต่ขอแค่มีพลังอาวรณ์อยู่กับตัว ลู่เซิ่งก็รู้สึกว่าต่อให้ไปไหนก็ไม่กลัว
“ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” เออร์นียิ้มรู้สึกว่าช่วงนี้เธอร่าเริงขึ้นไม่น้อย ก่อนหน้านี้ต้องแบกรับแรงกดดันจากองค์กรและบริหารตระกูล ทว่าตอนนี้ เธอสามารถใช้ชีวิตเพื่อตัวเองในเวลาส่วนใหญ่ได้แล้ว เลยเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน
รอจนเออร์นีออกจากห้องไป ลู่เซิ่งจึงค่อยลุกขึ้น
ฟ้าว…
ลมพัดขึ้นในทันใด
ลู่เซิ่งมองหน้าต่างที่ระเบียงอย่างประหลาดใจ หน้าต่างถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา ไม่รู้ว่าลมมาจากไหนกัน
และนี่ก็ไม่ใช่ลมของเขาด้วย…
ลู่เซิ่งพลันหรี่ตา
“หรือว่า…”
ตูม!
เสียงสายฟ้าฟาดดังมาจากด้านนอก ลู่เซิ่งสัมผัสได้ว่าหอพักทั้งหอกำลังสั่นไหว
“มาราโดน่า! จงสั่นอย่างหวาดกลัวเสียเถอะ! ฮ่าๆๆๆๆ!”
ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเข้ม ความรู้สึกที่เหมือนกับท้องของกิ้งก่ายักษ์ตอนนั้น ปรากฏกลางท้องฟ้าอีกครั้ง
อึก...อึก...
ม่านฟ้าสีแดงเหมือนกับหนังท้องใหญ่โต ที่กำลังหายใจพองขยาย
กระแสน้ำกึ่งโปร่งแสงสีดำเจือจางมโหฬารกลุ่มหนึ่ง เริ่มรวมตัวกันเหนือมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว แล้วจับตัวกันเป็นยักษ์ร่างกำยำที่มีหางปลาขนาดใหญ่ร่างหนึ่ง
ตัวยักษ์แทบจะยึดครองทัศนวิสัยเหนือมหาวิทยาลัยไปทั้งหมด
มันยิ้มอย่างโหดเหี้ยม สองมือที่เป็นก้ามยักษ์ฟาดลงด้านล่างอย่างแรง
ครืน!
เหนือมหาวิทยาลัยพลันปรากฏโล่มหึมาสีม่วงชั้นหนึ่งขึ้นโดยอัตโนมัติ
ลู่เซิ่งกลับมามองดูเหตุการณ์ที่ระเบียง พลังจิตขยายออกไปรอบๆ เหมือนกับสายลม จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
ไม่นานมาราโดน่าที่อยู่ในห้องอธิการบดีก็ร้องคำราม พุ่งออกจากหน้าต่าง ก่อนจะกลายเป็นเส้นสีดำพุ่งสู่ฟากฟ้าโดยนำเศษกระจกเล็กละเอียดไปด้วย
ชั่วพริบตานั้นเมฆลมเปลี่ยนแปลง ภาพเงาทุกอย่างเหนือท้องฟ้าเริ่มบิดเบี้ยว หมุนวน และหดเล็ก ไม่นานยักษ์สายน้ำ อธิการบดี รวมถึงท้องฟ้าสีแดงเข้ม ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็หมุนวน ถูกวังวนล้ำลึกสีแดงเข้มกลุ่มหนึ่งกลืนกิน
ท้องฟ้าเหลือเพียงวังวนสีแดงเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าสิบเมตรที่หมุนอยู่เท่านั้น
เปรี้ยง!
อีกด้านหนึ่ง ประกายแสงสีขาวสว่างไสวสายหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า กระแทกกับห้องสมุดอย่างรุนแรง
เลดี้แฮปปี้วางหนังสือในมือลงและยกมือขึ้นคว้าเอาไว้
ตูม!
ลำแสงขนาดยักษ์ใหญ่ถึงหลายสิบเมตรถูกพลังไร้รูปร่างอันยิ่งใหญ่บีบเป็นผุยผง กลายเป็นเศษสีขาวทั่วท้องฟ้า
“มาอีกแล้วเหรอ พวกแกนี่มันน่ารำคาญจริงๆ!” เลดี้แฮปปี้อ้าแขน ด้านบนมีเงาห้องสมุดแห่งอดีตขนาดมโหฬารกระเพื่อมอยู่
ฟ้าว!
ลำแสงต่อมาพุ่งตามลงติดๆ แต่ถูกห้องสมุดแห่งอดีตดูดเข้าไปอีก
“จงเข้ามา!” แฮปปี้พุ่งโฉบลงด้านล่าง กระโดดเข้าไปในห้องสมุดแห่งอดีตเช่นกัน
เงาที่กระเพื่อมหายไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่คงอยู่
อ๊าก!
เคร้ง!
เสียงโหยหวนกับเสียงกระแทกแปลกประหลาดดังมาจากทั่วทุกสารทิศภายในมหาวิทยาลัย
ควันดำหลายกลุ่มระเบิดขึ้นทั่วมหาวิทยาลัย ปีศาจที่น่ากลัวรูปแบบมากมาย พุ่งออกมาจากด้านใน
ปีศาจจากห้วงความว่างเปล่าเหล่านี้เริ่มเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตในมหาวิทยาลัย ภายใต้การนำของปีศาจขั้นสูงที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พวกอาจารย์และศาสตราจารย์เตรียมการไว้แต่แรก รีบพาคนเข้าไปในจุดปลอดภัย จากนั้นก็รวมกลุ่มตอบโต้
ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยมีการเตรียมการพรักพร้อม จึงบาดเจ็บล้มตายไม่มาก รับมือได้อย่างง่ายดาย
ตาข่ายพลังจิตของลู่เซิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทั่วทุกที่ของมหาวิทยาลัยมิสกามีควันดำลอยออกมา สัตว์ประหลาดจากห้วงความว่างเปล่าจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากในควันดำ
ปีศาจพวกนี้ต่อสู้กับเหล่านักศึกษา นอกจากพวกที่ตายไปในตอนแรก นักศึกษาธรรมดาก็ถูกปกป้องไว้ในจุดปลอดภัย
ระหว่างสิ่งก่อสร้างของคณะต่างๆ ถึงขั้นมีเส้นทางแสงที่เหมือนคริสตัลเชื่อมต่อกันเพื่อสนับสนุนกันและกันด้วย
เหล่าอาจารย์และศาสตราจารย์ต่อสู้กับพวกปีศาจขั้นสูง การศึกดุเดือดเลือดพล่านอย่างยิ่ง นักศึกษาชั้นปีสูงนำกลุ่มนักศึกษาชั้นปีต่ำ รักษาสถานการณ์ไว้อย่างมั่นคงภายใต้การปกป้องจากวงแหวนเวท
“มิสกา! ฮ่าๆๆ! มิสกา! ไสหัวออกมา!” ทันใดนั้น มีเสียงแหลมดังมาจากบนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง
ลู่เซิ่งกวาดตาข่ายพลังจิตออกไป เห็นได้อย่างชัดเจน
มังกรสีฟ้าที่มีหน้าเป็นม้า ลากหางขนาดยักษ์ที่ยาวเป็นสิบกว่าเท่าของร่างกายตัวเองอยู่ไกลลิบบินโฉบเข้ามาแล้วเริ่มทำลายบริเวณรอบมหาวิทยาลัยอย่างไร้ความเกรงกลัว
มันไม่สนใจจะฆ่าใครทั้งสิ้น แต่เหมือนกำลังตามหาใคร หรืออะไรบางอย่างอยู่
สิ่งก่อสร้างหลายแห่งถูกมันกระแทกถล่มราบ แต่มหาวิทยาลัยยังคงไร้การเคลื่อนไหว
ไม่นานนักศาสตราจารย์ฝั่งมหาวิทยาลัยคนหนึ่งก็ถูกลูกหลงของมัน โดนแรงกระแทกกระเด็นชนเข้าใส่ก้อนหินกองหนึ่งอย่างแรง กลายเป็นบุคลากรระดับสูงที่เสียชีวิตเป็นคนแรก
เมื่อมีคนแรกก็ต้องมีคนต่อมา
มังกรหางยาวสีฟ้าหัวเราะร่า ทำลายล้างอย่างสาแก่ใจ
แต่ไม่มีใครห้ามมันได้อีกแล้ว
ลู่เซิ่งมองดูมังกรสีฟ้าเหนือท้องฟ้าอย่างเรียบเฉย แม้แต่ไอ้ตัวนี้ก็ยังอาละวาดไปทั่วได้
‘ดูเหมือนมหาวิทยาลัยจะไม่มีพลังต่อสู้มากกว่านี้แล้ว…’
เขาใช้ความคิด ร่างพลันกลายเป็นสายลม หายไปจากหอพัก
…
ในทันทีที่การลอบโจมตีอุบัติขึ้น
เส้นทางลับสายหนึ่งในฐานทัพจันทรา
ยูซาปรากฏตัวด้านหน้าทางเชื่อมที่อำพรางไว้ด้วยเถาวัลย์กับก้อนหินอย่างเงียบเชียบ
เขาเสยผมสีทอง พร้อมกับเงยหน้ามองการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดเหนือท้องฟ้า
“สู้กันไปเลย รอพวกแกสู้กันเสร็จ ฉันก็เอาของหนีไปได้แล้ว…” บนใบหน้ายูซาผุดรอยยิ้มประหลาด มองประตูหินตรงหน้า ก่อนจะยกมือขึ้น
ตูม!
ประตูหินระเบิดเป็นผุยผง เขาก้าวเข้าไปอย่างง่ายดาย
“ผู้บุกรุก!” รูปสลักหินยักษ์สีดำสองตาเปล่งแสงสีแดงตัวหนึ่งในทางเชื่อมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วต่อยหมัดใส่เขาทันที
ยูซายกมือขึ้นโบก
ตูม!
รูปสลักหินระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นกองหินกระจายทั่วพื้น
“มาหยุดฉันสิ เจ้าพวกแมลงต่ำต้อย” ใบหน้าของเขาเริ่มปรากฏเส้นเลือดสีม่วงประหลาดหลายสาย จากนั้นก็เดินเข้าด้านในต่อ
เปรี้ยงๆๆ!
กับดักอักขระข้างใต้เท้าพากันระเบิด เปลวเพลิงลุกโหมมลายไปในทันทีที่ใกล้เฉียดเขา ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน
กับดัก กลไก วงแหวนเวทอักขระ ตุ๊กตาเวท และปีศาจจากห้วงความว่างเปล่าที่โดนดัดแปลง ทุกสิ่งทุกอย่างโดนทำลายสิ้นเมื่ออยู่ต่อหน้ายูซา
เขาเพียงโบกมือ ทุกอุปสรรคก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
“มาราโดน่าไม่อยู่ แฮปปี้ไม่อยู่ ฉันอยากเห็นนักว่าพวกแกจะเอาอะไรมาหยุดฉัน!” เขาเร่งฝีเท้า มุ่งหน้าไปยังส่วนลึกใต้ดิน
……………………………………….