ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 867 แกนหลัก (1)
สายลมที่ไร้รูปร่างมุดเข้าไปผ่านร่องแยกของดิน ชอนไชลงไปด้านล่าง แผ่พุ่งถึงฐานทัพจันทราด้วยความเร็วที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง ห่อหุ้มฐานทัพเอาไว้ทั้งหมด เพื่อตามหาช่องโหว่ที่ใช้เข้าไปได้
ไม่นาน ในการรับรู้ของสายลมทางเข้าพร่ามัวที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องก็ปรากฏขึ้น
มันไหลเข้าทางเข้าอย่างรวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของทางเข้า เหมือนกับน้ำที่ถูกระบายในอ่างล้างจาน ไม่เกินสองสามวินาที ก็ไหลเข้าไปด้านในจนหมด
สายลมเคลื่อนผ่านเส้นทางมากมาย ไม่นานก็ไหลเข้าไปในเขตเล็กๆ ของฐานทัพ
ด้านในห้องที่ปูด้วยโลหะสีเงิน
สายลมและกระแสอากาศจำนวนมากรวมตัวกันเป็นคนสีเทา ร่างนั้นปรากฏใบหน้าของลู่เซิ่ง ตามด้วยกล้ามเนื้อ โครงกระดูก อวัยวะภายใน ผิวหนัง และเสื้อผ้าเป็นอย่างสุดท้าย
เขาเปลี่ยนมาสวมเชิ้ตสีกรมท่าและกางเกงขายาวสีดำ ในเมื่อตัดสินใจจะลงมือแล้ว สวมเครื่องแบบของมหาวิทยาลัยต่อไปคงจะไม่ดีนัก
‘ที่นี่คือที่ไหน...’ ลู่เซิ่งกวาดตามองรอบข้าง เขาจำได้ว่าตนเข้ามาจากช่องระบายอากาศของฐานทัพ
แต่สถานที่ในตอนนี้…
เขาเหลียวมองไปทั่ว รอบบริเวณมีแต่แสงเรืองรองเปลี่ยนสีไปมา ระเบียงสีเงินทอดยาวไปด้านหน้า สะท้อนแสงลวงตาแปลกประหลาดภายใต้แสงสว่างสีรุ้ง
‘ไหนขอดูหน่อยซิ…’ ลู่เซิ่งขยายพลังจิตอย่างฉับพลัน เปิดสัมผัสสุดกำลัง อวัยวะสัมผัสที่หกบนแขนขยับขยุกขยิก
เรื่องประหลาดพลันบังเกิด ระเบียงโลหะที่อยู่รอบๆ เริ่มขยับตัวและบิดเบี้ยว ก่อนจะล้อมบีบอัดเขาเหมือนกับผนังลำไส้ของสิ่งมีชีวิต
“ไม่มีประโยชน์หรอกน่า”
ลู่เซิ่งยกมือขึ้น สะบัดมือออกไป
นิ้วทุกนิ้วแยกเป็นท่อส่งลมเล็กละเอียดนับไม่ถ้วน ลมจำนวนมากทะลักออกมาจากแขนเขา แล้วจับตัวเป็นดาบอากาศสีเทาห้าเล่ม
ดาบอากาศห้าเล่มขยายใหญ่และยาวขึ้นหลายสิบเมตรในทันที ก่อนจะวาดเป็นรอยลึกห้าสายบนผิวระเบียงเหมือนกับดาบยาวของจริง
ระเบียงที่ขยับพลันเจ็บปวด สั่นไหวอย่างรุนแรง แต่ยังคงบีบอัดเข้าใส่ลู่เซิ่งอย่างไม่ลดละ
“หดตัว”
ลู่เซิ่งยื่นแขนออกมาแล้วกำมือ
ฟุบ...
ฉับพลันนั้นอากาศทั้งหมดในระเบียงหุบตัวมารวมกัน
อากาศจำนวนมากหดเป็นกลุ่มเล็กๆ รวมตัวกลางฝ่ามือลู่เซิ่ง แล้วกลายเป็นลูกบอลสีขาวขนาดเท่าลูกท้อกำลังหมุนวนอยู่
“ปล่อย”
เขาโยนลูกบอลในมือออกไป
ลูกบอลก้อนนั้นลอยออกไประยะหนึ่ง แล้วปล่อยแสงสีขาวเจิดจ้าออกมา
ตูม!
ทันใดนั้นกระแสอากาศปริมาณมหาศาลระเบิดออกจากด้านในลูกบอล อากาศอันน่ากลัวทะลักออกมาด้วยความเร็วจึงกลายเป็นคลื่นที่กระจัดกระจายกระแทกออกไปอย่างต่อเนื่อง
เกิดเสียงดังแกร๊ก ระเบียงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ถูกกระแสอากาศฉีกทึ้ง จนเห็นร่องแยกแสงเรืองสีขาวบริสุทธิ์หลายสายด้านนอกได้
ลู่เซิ่งแค่นเสียง กระแสอากาศประคองร่างเอาไว้ กางมือทั้งสองข้างออก
ทันใดนั้นเส้นทางโลหะถูกฉีกกระจายไปรอบข้างเหมือนกับกล่องกระดาษ
“ผู้บุกรุก...จงพินาศ!”
มีเสียงผู้หญิงแหลมสูงระเบิดขึ้น
แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ น่าหวาดเกรง เคร่งขรึม และน่าหวั่นสะพรึง กดทับร่างลู่เซิ่งในทันที
โครงกระดูกของเขาเหมือนกับถูกบดขยี้กลายเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน หัวใจเต้นแรงขึ้นด้วยความเร็วมากกว่าพันครั้งต่อวินาที
เสียงหัวใจเกือบจะเชื่อมกันเป็นเสียงเดียวจนไม่ได้ยินเสียงอื่นๆ เพียงรู้สึกเหมือนเสียงผึ้งกระพือปีกเท่านั้น
“การสาดส่องเงาเทพเริ่มต้น เวลาคือสิบวินาที” เสียงผู้หญิงแหลมคมเสียงนั้นดังมาอย่างเชื่องช้า
ลู่เซิ่งรู้สึกเหมือนกับวิญญาณกำลังถูกบีบอัดจนขยับไม่ได้
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก ด้านหน้าคือฟันเฟืองที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนถึงขีดสุด
ฟันเฟืองลอยอยู่กลางท้องฟ้า ใหญ่เท่ากับดาราจักร อยู่ห่างจากเขาอยู่ไกลลิบ รอบๆ มีฟันเฟืองขนาดเล็กปรากฏเป็นจำนวนมาก
ฟันเฟืองทั้งหมดถูกพลังยิ่งใหญ่บางอย่างกระตุ้นหมุนทำงาน
ฟันเฟืองจำนวนมากเชื่อมต่อกัน เหมือนกลุ่มเครื่องจักรหนาทึบ
แคว่ก
ทันใดนั้น ใจกลางฟันเฟืองทั้งหมดฉีกออกเป็นช่องหลายช่อง ช่องทั้งหมดนั้นคือดวงตาสีแดงฉานจำนวนมาก
ฉับพลันนั้น ดวงตาแห่งฟันเฟืองทั้งหมดก็จับจ้องมาทางลู่เซิ่ง
ตูม!
ลู่เซิ่งอดกระอักเลือดออกมาไม่ได้ ทั่วทั้งร่างรวมทั้งจิตวิญญาณ เหมือนกับถูกค้อนหนักทุบใส่อย่างแรง
เขากลืนเลือดกลับไป แต่แรงกดดันนั้นกลับทวีความรุนแรงกว่าเดิม
ปราณปฐพีจำนวนมากทะลักออกมา ซ่อมแซมส่วนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดบนตัว
ฟู่…
จู่ๆ แรงกดดันทั้งหมดก็ถอยกลับไปเหมือนกระแสน้ำ ลู่เซิ่งโล่งใจ อาการบาดเจ็บบนตัวฟื้นฟูด้วยความเร็วสูง
นอกจากอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณกับร่างเทพปีศาจวายุแล้ว ความเสียหายของกายเนื้อเพียงใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ฟื้นฟูได้โดยสมบูรณ์
ทันใดนั้น ข้างใต้เขาพลันว่างเปล่า ร่างพลันเสียสมดุลร่วงตกลงไปด้านล่าง แต่ว่าสายลมจำนวนมากก็ยกตัวเขาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้เขาตกลงไปด้านล่างอีก
หลังจากตั้งหลักได้แล้ว ลู่เซิ่งค่อยมีสมาธิหรี่ตาพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบตัว
เขาอยู่ในโพรงถ้ำใต้ดินขนาดยักษ์โอ่โถงถึงขีดสุด
กลางโพรงถ้ำมีเส้นทางโลหะไร้รูปทรงที่หักเลี้ยวหลายสาย เส้นทางเหล่านี้คดเคี้ยวไปมากลางอากาศเหมือนโครงข่ายเส้นเลือด
เหมือนกับว่าเขาจะก้าวเข้าสู่ภาพยนตร์แฟนตาซีสักเรื่อง
แปะๆๆๆ…
บนพื้นด้านล่าง ชายมัดผ้าโพกหัวสีดำร่างผอมซูบคนหนึ่ง นั่งสมาธิอยู่ก็ลุกขึ้น เงยหน้ามองลู่เซิ่งและปรบมือเบาๆ
“นับตั้งแต่สัตว์ประหลาดที่ได้เจอเมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน ต่อจากนั้นก็ไม่มีใครทะลวงผ่านการจ้องมองของเงาเทพ มาถึงที่นี่ได้อีก...”
เขาสวมชุดลำลองสีดำ เอวหลวมโพกรัดเข็มขัดสีขาว เท้าเปลือยเปล่า จมูกงอเหมือนเหยี่ยว ผิวซีดขาว ไหนจะสายตาราบเรียบอึมครึม ชวนให้รู้สึกถึงความเข้มงวดและเย็นชาที่มีเฉพาะคนชนเผ่าเจอร์แมนิก
ลมจำนวนมากค่อยๆ ประคองลู่เซิ่งลงไปด้านล่าง
เขาพิจารณาชายตรงหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ สัมผัสได้ถึงความคุกคามจากตัวของอีกฝ่าย
แม้เขาจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้แสดงตัวเป็นเทพปีศาจวายุให้เห็น เขาก็สามารถใช้พลังของอวัยวะที่หกได้ราวหนึ่งส่วนของสภาพปกติ
พลังระดับนี้มากพอจะพัดทั้งมหาวิทยาลัยให้ลอยขึ้นได้อย่างง่ายดายแล้ว
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายที่อยู่ตรงข้าม พลังของเขากลับถูกสะกดไว้อย่างเห็นได้ชัด…แสดงให้เห็นว่า อีกฝ่ายคือขุมกำลังขั้นสุดยอดที่ไม่ได้อยู่ในกฏทั่วไปเหมือนกับเงาเทพเมื่อครู่นี้
การที่ตอนนั้นเขาไม่ได้บุ่มบ่ามบุกเข้ามา ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดแล้ว
โลกนี้มีลับลมคมในล้ำลึกเกินไป
“ที่นี่คือที่ไหน” ลู่เซิ่งเหลียวมองรอบๆ
“ไม่ต้องห่วง เมื่อสัมผัสนายได้ ฉันก็มานี่ทันที ที่นี่คือมิติรอยต่อ ไม่ว่าเราจะต่อสู้กันอย่างสุดกำลังอย่างไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะส่งผลต่อโลกภายนอก”
“ขอบอกอีกสักประโยค ชื่อของฉันคือตองโป…!” เขาไม่รอให้ลู่เซิ่งตอบ เสียงก็ทุ้มต่ำลงทันที
แสงพลังงานที่เหมือนกับใบมีดสีม่วงสองสาย ฟันใส่ตัวลู่เซิ่งจากด้านหลังอย่างฉับพลัน
เคร้งๆ!
มีดแสงฟันใส่กระแสอากาศที่ปกคลุมผิวลู่เซิ่ง กระแสอากาศจำนวนมากกลายเป็นเกราะเบาบางบนตัวเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ตูม!
แต่สิ่งที่น่าประหลาดก็คือ แสงมีดสีม่วงเล่มหนึ่งระเบิดกลายเป็นก้อนกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก พันธนาการแขนขาของลู่เซิ่งเอาไว้
“บูชาท้องนภา!” ตองโปประกบมือ
ทันใดนั้นก็มีแสงสีม่วงจำนวนเหลือคณานับรวมตัวกันกลางอากาศรอบตัวลู่เซิ่ง
มีดแสงทั้งหมดฟันใส่ลู่เซิ่งอย่างบ้าคลั่งด้วยความเร็วและพละกำลังที่น่ากลัวสุดเปรียบปาน
ตูม!
ก้อนแสงสีม่วงกลุ่มหนึ่งระเบิดกลางท้องฟ้าอย่างฉับพลัน
แสงสีม่วงขับสะท้อนที่ว่างโดยรอบเป็นสีม่วง
“ครั้งหน้าอย่าไปไหนมาไหนส่งเดชอีก” ตองโปส่ายหน้า แล้วหันหลังเดินไปยังกำแพง
มีดแสงสีม่วงของเขาสามารถสร้างความเสียหายให้แก่วัตถุที่มีรูปร่างและไร้รูปร่างได้โดยไม่สนใจสิ่งใด อย่าว่าแต่สัตว์ประหลาดที่เปลี่ยนร่างกลายเป็นลมได้ ต่อให้เป็นร่างบุตรของเทพนอกรีต ก็ใช่ว่าเขาไม่เคยฆ่ามาก่อน
“เป็นความสามารถที่น่าสนใจนะ” อยู่ๆ ก็มีเส้นเสียงราบเรียบเย็นชาดังมาด้านหลังเขา
“แต่ก็แค่บาดเจ็บสาหัส หากคิดจะฆ่าฉัน ยังไม่พอหรอก!”
ตองโปยกระดับความระมัดระวังขึ้น ก่อนจะพุ่งไปด้านหน้าเหมือนตอบสนองโดยสัญชาตญาณ
ซู่!
ดาบอากาศสีขาวยาวมากกว่าร้อยเมตรเล่มหนึ่งวาดผ่านตำแหน่งที่เขาหยุดอยู่เมื่อครู่อย่างรุนแรง พื้นโลหะสีเงินแข็งแกร่งถูกผ่าเป็นรอยดาบลึก
ตองโปหน้ากระตุก
นี่คือโลหะนอกโลกลี้ลับที่แม้แต่ระเบิดมากมายก็ยังทำลายไม่ได้ แต่กลับถูกคนผู้นั้นฟันเป็นร่องรอยขนาดนี้
ตองโปตั้งหลัก และหันไปมองเบื้องหลัง
ลู่เซิ่งยืนตัวตรงอยู่บนพื้น เศษดาบแสงสีม่วงจำนวนไม่น้อยกระจายอยู่รอบตัว
พายุที่เกิดจากสายลมไร้รูปร่างหลายกลุ่มบิดเบี้ยวหมุนวนรอบตัวเขา เหมือนกับลู่เซิ่งสวมเครื่องแบบประหลาดสีเทาอย่างไรอย่างนั้น
“ดูเหมือนฉันจะดูถูกนายเกินไปแล้ว” สีหน้าของตองโปคร่ำเคร่งลง เขาอ้าปากพ่นของที่เหมือนกับวุ้นสีม่วงจางๆ ออกมากลุ่มหนึ่ง
จากนั้นก็ใช้มือขวาจับของสิ่งนี้และกดลงอย่างแรง
เปรี้ยง!
มิติรอบตัวพวกเขาสองคนเปลี่ยนแปลง โดยแปลงสภาพจากถ้ำโล่งใต้ดินสีเงินเป็นท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวสุกสกาวไร้สิ้นสุด
เพียงแต่สิ่งที่พิสดารก็คือ ท้องฟ้าผืนนี้เป็นสีม่วง
“ที่นี่คือโลกดวงดาว มาเถอะ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำลายอะไร ไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างความตกใจให้ใคร…ระหว่างพวกเรา มีคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดออกไปได้”
ร่างของตองโปเริ่มบิดเบี้ยว ผิวหนังทั่วตัวเขามีตุ่มเล็กๆ สีดำจำนวนเหลือคณานับงอกขึ้นด้วยความเร็วสูง หนามแหลมสีเทาหลายแท่งแทงออกมาจากหลัง ลวดลายรูปที่เหมือนกับเหงือกปลาโผล่ออกมาข้างลำคอ
ร่างท่อนล่างกลายเป็นหางปลาสีม่วงขนาดยักษ์
ลู่เซิ่งเผยสีหน้าเคร่งขรึม
แม้เขาจะเดาออกว่าฐานทัพจันทราจะต้องมีแผนสำรองที่มหาวิทยาลัยทิ้งไว้อย่างแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าแผนสำรองนี้จะเป็นผู้เข้มแข็งน่ากลัวที่อยู่ในระดับร่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ในพลังของอีกฝ่ายมีกลิ่นอายของพลังแห่งเทพนอกรีตผสมอยู่ด้วย
ถูกต้อง นั่นก็คือพลังแห่งเทพนอกรีต ทั้งยังเป็นฝ่ายเทพรุ่นใหม่
“ดูเหมือน ถ้าไม่ใช้พลังทั้งหมด คงทะลวงไปไม่ได้…”
ลู่เซิ่งกางสองแขนออก ทันใดนั้นเทพปีศาจวายุขนาดมหึมาสีรุ้งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาอย่างช้าๆ
เทพปีศาจขนาดยักษ์กางแขนออก โอบอุ้มตัวเขาไว้ในอ้อมอก ก่อนจะรวมกันเป็นหนึ่ง
อ๊าก!
ทรวงอกของเทพปีศาจวายุค่อยๆ ปรากฏใบหน้าของลู่เซิ่ง ด้านหลังเขามีหนวดเจ็ดสียื่นออกมาเป็นจำนวนมาก หนวดเหล่านี้โบกสะบัดไปทั่วความว่างเปล่าอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับสามารถจับสิ่งใดที่อยู่รอบๆ มาฉีกทึ้งได้ทั้งสิ้น
……………………………………….