ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 908 ความขัดแย้ง (2)
“นี่คือน้ำคืนความรุ่งโรจน์บุปผาวิญญาณสิบสองฟ้าอำไพแดนลี้ลับ เป็นน้ำวิเศษอันน่าอัศจรรย์ที่ทำให้เผ่าปีศาจเช่นพวกเราผลัดเอ็นเปลี่ยนกระดูก และยกระดับพลังฟื้นฟูของร่างกายอย่างใหญ่หลวง ขอไม่ปิดบัง นี่เป็นความมั่นใจที่ลัทธิแสงสว่างของข้าขยับขยายอำนาจได้เร็วขนาดนี้” ลู่เซิ่งแนะนำด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพื่อแสดงคำขอโทษ ข้ายินดีมอบน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์เหล่านี้ให้แก่เผ่าท่าน”
เมื่อกุ่ยหรูได้ยินดังนั้น ก็พลันฮือฮาเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยต่อสู้กับนกยักษ์ของลัทธิแสงสว่างมาก่อน ต่างรู้สึกว่าปีศาจนกที่แต่เดิมอ่อนแอฝูงนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาดในเวลาอันสั้นได้อย่างไร
ตอนนี้เหมือนว่าทุกอย่างจะได้คำตอบแล้ว
“เหอะๆ…ลัทธิแสงสว่างของเจ้าใจกว้างปานนี้เชียวหรือ” กุ่ยหรูแค่นหัวเราะสองสามคำ
“ไม่หรอก เพียงแค่ถือหลักการสหายเพิ่มมาคนหนึ่งเส้นทางเพิ่มมาเส้นหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์นี้ใช่ว่ากินครั้งเดียวแล้วเห็นผลทันที ยิ่งกินนานเท่าไร ประสิทธิผลก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น ถ้าหากเผ่าท่านรู้สึกว่าดี วันหน้าพวกเราสามารถร่วมมือกันได้ไม่ใช่หรือ” ลู่เซิ่งยิ้ม
“ก็ถูกอยู่หรอก...ที่แท้พวกเจ้าวางแผนนี้ไว้แล้ว” ครั้งนี้กุ่ยหรูวางใจลงเล็กน้อย เห็นว่าน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์นี้เป็นของบริโภคชนิดหนึ่ง หนำซ้ำต้องบริโภคเป็นเวลานานถึงจะทำให้เผ่าพันธุ์แข็งแกร่งกว่าเดิมได้
“อย่างนั้น ขุยตง เจ้าไปลองดูหน่อย” กุยหรูเหลือบมองนกสองหัวทางขวามือ
ปีศาจนกตัวสั่นเทา ได้แต่ตอบรับอย่างจนปัญญา กระพือปีกบินออกไปถึงหน้ากระถางใบใหญ่เป็นตัวแรก
ลู่เซิ่งรีบบอกวิธีใช้อย่างเอาใจใส่
“ขอแค่จิบนิดเดียวก็ใช้ได้แล้ว”
“อย่างนั้นหรือ” ขุยตงพยักหน้า เดินเข้าไปก้มมองพิจารณาอย่างละเอียด ลองดมกลิ่น เมื่อไม่มีความรู้สึกใดๆ ก็กางปีกออก
ฉับพลันนั้นมีของเหลวในกระถางลอยออกมากลุ่มหนึ่ง พุ่งเข้าปากเขาอย่างแม่นยำ
“รู้สึกอย่างไร” กุ่ยหรูหรี่ตามองขุยตง
ยังไม่ทันตอบ ขุยตงก็ตัวสั่นสะท้าน ร่างกายเริ่มขยายใหญ่อย่างเห็นได้ชัด รอบตัวเริ่มกระจายปราณวิญญาณอันเย็นเยียบออกมาโดยอัตโนมัติ
เนื่องจากการสืบทอดสายเลือดของกุ่ยเชอ เผ่ากุ่ยเหอจึงมีความสามารถควบคุมวิญญาณ ปราณวิญญาณคือพลังพื้นฐานของพวกเขา
และตอนนี้ ปราณวิญญาณรอบตัวขุยตงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดที่ตาเนื้อเห็น
มันทั้งแตกตื่นทั้งยินดี รู้สึกว่าวิญญาณในร่างที่ฝึกฝนมาอย่างหนักนับร้อยกว่าปี กำลังขยายใหญ่ขึ้นกว่าหนึ่งเท่าภายในเวลาไม่กี่วินาที
ด้วยความยินดีที่พลังฝึกปรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้มันไม่สังเกตเลยว่ามีบางอย่างที่แสนเบาบางในน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์กำลังเข้าไปในกายเนื้อของมันอย่างเงียบเชียบ
“ข้า…ข้า…เป็นแก่นทองคำแล้ว!” ทันใดนั้นขุยตงก็ส่งเสียงกู่ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นยินดี
ปราณวิญญาณจำนวนมากรวมกลางทรวงอก ไม่นานก็บีบอัดหมุนวนกลายเป็นไข่มุกสีดำขนาดเท่าไข่ไก่
นกสองหัวอย่างพวกกุ่ยหรูเห็นดังนั้นลูกตาก็แทบถลน
นี่เพิ่งดื่มไปจิบเดียวเองนะ!
ลู่เซิ่งอธิบายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“ความจริงน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์นี้สามารถระเบิดศักยภาพในตัวปีศาจอย่างเราๆ ออกมาได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยไม่มีอันตราย ดังนั้นจึงทำให้สหายนกท่านนี้เลื่อนสู่ระดับแก่นทองคำได้ในระยะเวลาเพียงชั่วครู่ แต่ประสิทธิผลของยาชนิดนี้รุนแรงอย่างยิ่ง ดังนั้นนกปีศาจทุกตัวกินได้แค่หนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ ผลลัพธ์ในแต่ละครั้งจะอ่อนลง สามารถกินได้ทั้งหมดสิบครั้ง สามครั้งแรกจะเห็นผลดีที่สุด”
วาจานี้ทำให้ขนหน้ากุ่ยหรูสั่นระริกบ้างแล้ว
“สามครั้งแรกหรือ!? ประเสริฐยิ่ง! อันปู้! เจ้าไปลองดู!”
“ขอรับ!”
นกสองหัวตัวที่สองก้าวเข้ามา เริ่มทดลองดื่มน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์
ในกระถางที่ส่งไปมีน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ไม่น้อย นกสองหัวมากกว่าร้อยตัวของที่นี่สามารถดื่มได้ทุกตัว หลังจากเห็นผลลัพธ์ของมันแล้ว กุ่ยหรูก็ลองดื่มดูครั้งหนึ่ง พลังฝึกปรือเลื่อนจากขั้นทารกกำเนิดช่วงกลาง ถึงขั้นทารกกำเนิดช่วงหลัง ทำให้เขาตื่นเต้นยินดียิ่ง
หลังจากตกลงสถานที่และเวลาแลกเปลี่ยนครั้งต่อไปกับลู่เซิ่งเสร็จเรียบร้อย เผ่ากุ่ยเหอก็รีบผลุนผลันจากไป และนำน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ส่วนใหญ่ที่เหลือกลับเผ่าด้วย
ส่วนความขัดแย้งของสองฝ่ายเมื่อก่อนหน้านี้น่ะหรือ
เรื่องเล็กน้อยนั่นไม่จำเป็นต้องสนใจแล้ว ตอนนี้น้ำยาคืนความรุ่งโรจน์มีผลประโยชน์มากมายมหาศาล จนกุ่ยหรูไม่อาจตัดสินใจได้ ทำให้ต้องกลับไปหาพวกระดับสูงในเผ่าเพื่อปรึกษาก่อน จากนั้นค่อยขบคิดความสัมพันธ์กับลัทธิแสงสว่าง
จะให้โรมรันฟันแทงให้ตายกันไปข้างคงไม่ต้องถึงขั้นนั้น ก่อนหน้านี้ที่หยั่งเชิงไป ลัทธิแสงสว่างมีเบื้องหลังเป็นจอมอริยะคนหนึ่ง
ถึงเบื้องหลังเผ่ากุ่ยเหอจะมีเทพปีศาจกุ่ยเชออยู่จริงๆ แต่ถ้าพวกมันไปหาเรื่องยอดคนระดับจอมอริยะเข้า เช่นนั้นก็เท่ากับหาปัญหาให้กุ่ยเชอแล้ว ถึงเวลานั้นผู้ที่จะโดนลูกหลงเป็นคนแรกคือพวกมันนั่นเอง
ไม่มีหัวหน้าคนใดชอบบริวารที่หาเรื่องให้ตัวเองทั้งนั้น และสำหรับเทพปีศาจในอารามอาทิตย์จันทราแล้ว จอมอริยะคนหนึ่งคือปัญหาใหญ่ทีเดียว
เผ่ากุ่ยเหอรีบจากไป และชื่อเสียงของน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ในเผ่าแสงสว่างก็หลุดแพร่กระจายออกไปด้วย
ลู่เซิ่งปรุงน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์มากกว่าร้อยอ่าง น้ำยาชนิดนี้ทำง่ายดายยิ่ง ขอแค่เขาหยดเลือดตัวเองเข้าไปสักสองสามหยดก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
ที่เขาหยดใส่เข้าไปเป็นเลือดร่างหลัก ด้วยเม็ดเลือดแดงนั้นร้ายกาจเกินไป จึงต้องเจือจางลงหลายเท่า ถึงจะสามารถทำให้ปีศาจหลากหลายเผ่าดื่มได้
เมื่อกลับถึงเนินเขาขาว ลู่เซิ่งก็ปลอบเหล่าบริวารที่อารมณ์ไม่ดีนัก
สำหรับเหล่าสาวกที่เคยสัมผัสผลดีของน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์มาก่อน พวกมันต่างนึกว่าตนเองต้องมอบผลประโยชน์อย่างน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ให้กับอีกฝ่ายเพราะถูกบีบคั้นจนหมดหนทาง นี่เป็นการเฉือนเนื้อตัวเองโดยแท้
หลังจากส่งน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ออกไป ไม่นานลู่เซิ่งก็สัมผัสได้ว่า ในสถานที่ที่อยู่ไกลออกไปที่ไหนสักแห่ง ร่างหลักมีร่างกาฝากเพิ่มขึ้นมากลุ่มหนึ่ง
ขอแค่ต้องการ เขาสามารถควบคุมกายเนื้อและจิตวิญญาณของร่างกาฝากพวกนี้ได้ตลอดเวลา นี่เป็นความแข็งแกร่งของการแพร่เชื้อของเทพนอกรีต
ก่อนหน้านี้เขาแค่ควบคุมกายเนื้อได้เท่านั้น ตอนนี้ถึงขั้นส่งผลควบคุมจิตวิญญาณได้แล้ว
แต่เผ่ากุ่ยเหอจะระวังตัวแจ นอกจากกุ่ยหรูแล้ว ปีศาจที่กินน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ไป ก็ไม่มีปีศาจระดับทารกปีศาจตนไหนอีก
แต่ลู่เซิ่งไม่ได้รีบร้อน ถ้าอีกฝ่ายสืบเสาะอะไรออกมาได้ เช่นนั้นก็ถือว่าเขาซวยไป
ถ้าหากสืบหาไม่เจอ เช่นนั้นจะดื่มหรือไม่ดื่มก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
หลังจากจัดการเรื่องเผ่ากุ่ยเหอเรียบร้อยแล้ว เผ่าเวทเจิงมู่ก็มีการเคลื่อนไหว
ราชาปีศาจหลันเหอกับหมิงจ้าวที่มุ่งหน้าไปเจรจา เกิดปะทะกับอีกฝ่ายเข้า ทั้งสองฝ่ายทำศึกดุเดือดรุนแรง ทิ้งศพไว้หลายสิบร่าง ต่างฝ่ายต่างต้องล่าถอย
เผ่าพันธุ์ในสังกัดราชาปีศาจหลันเหอมีปีศาจนกใต้อาณัติพันตน บัดนี้สูญเสียไปหลายสิบตน นับเป็นเรื่องสาหัส
วันต่อมาได้มายังเนินเขาขาวเพื่อขอให้ลู่เซิ่งสนับสนุนเพื่อต่อสู้กับเผ่าเวทเจิงมู่
“ท่านเจ้าลัทธิ! จอมเวทเจิงมู่โอหังเหี้ยมโหด อ้าปากก็ขอให้พวกเรามอบน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ให้เปล่าๆ ทั้งยังต้องส่งปีศาจนกสิบคู่ทุกปีอีก เพื่อเป็นเสบียงอาหารให้พวกมัน! นี่มัน! นี่มันช่าง!” เพลิงโทสะบนร่างราชาปีศาจหลันเหอลุกไหม้จนแทบทำให้ปราณปีศาจเดือดพล่านบิดเบี้ยว
หมิงจ้าวที่อยู่ด้านข้างเสียปีกไปข้างหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะมันไม่ต้องการปีกบินอยู่แล้ว เกรงว่ารอบนี้คงจะพิการอย่างแท้จริง
ลู่เซิ่งนั่งบนบัลลังก์ ไม่พูดอะไรสักคำ ในมือถือจอกสุราไม้สลักลวดลายหงส์เพลิง สีหน้าเคร่งขรึม
“ท่านเจ้าลัทธิ!”
“ท่านเจ้าลัทธิ! ลุยเลยเถอะขอรับ!”
“ถูกต้อง! คนเลวพวกนี้มันโอหังสามหาว ไม่รู้จักที่ตาย! พวกเราลัทธิแสงสว่างมีกองกำลังหนาแน่น เผ่าปีศาจมากมาย ยังจะกลัวเผ่าเล็กจ้อยที่มีสมาชิกแค่ร้อยกว่าตัวเพื่ออะไร!?”
“ฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ!”
ระดับสูงของลัทธิพากันคำราม
“รายงาน!”
อยู่ๆ ก็มีปีศาจน้อยตนหนึ่งพุ่งเข้ามาในถ้ำ ถือป้ายคำสั่งสีดำคล้ายทองไม่ใช่ทอง คล้ายไม้ไม่ใช่ไม้
“รายงานเจ้าลัทธิ เผ่าเจิงมู่ส่งคนมา บอกว่าหากในสามวันไม่ทำตามที่พวกเขาต้องการ และไม่ส่งน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ให้ จะบุกมาถล่มลัทธิแสงสว่างทิ้งขอรับ”
ลู่เซิ่งยังไม่ทันได้เคลื่อนไหว ราชาปีศาจ ธรรมบาล และโลกบาลที่เหลือต่างคลุ้มคลั่ง พากันผรุสวาท
ลู่เซิ่งเพียงตวัดนิ้ว ป้ายคำสั่งก็ลอยไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
ป้ายคำสั่งหมุนช้าๆ ด้านหน้าเป็นตัวหนังสือใหญ่โตตัวหนึ่ง ด้านหลังมีลวดลายเรียบง่ายของวิหกหน้ามนุษย์
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจที่สุดคือ บนป้ายคำสั่งนี้กระจายพลังมหาศาลคลุมเครือหนักอึ้งออกมา
ทั้งๆ ที่ไม่หนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าสิ่งนี้หนักอึ้งสุดขีด เหมือนหนักกว่าหมื่นชั่ง รอบๆ มีสสารไร้รูปร่างที่เหนียวหนืดและหนักอึ้งกระจายออกมา
“ทูตคนนั้นบอกว่า นี่คือป้ายคำสั่งเทพพฤกษา…หากไม่ทำตาม คนที่ลงมือในครั้งนี้จะไม่ใช่จอมเวทเผ่าเจิงมู่แล้ว…แต่เป็นเจ้าของของป้ายคำสั่งเทพพฤกษานี้!” ปีศาจน้อยรายงานกล่าวเสริมตัวสั่นงันงก
“บางทีพวกเราคงถูกดึงเข้าไประหว่างความขัดแย้งของปีศาจและเผ่าเวทโดยไม่ได้ตั้งใจเสียแล้ว…” หมิงจ้าวที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเสียงขรึม
“เผ่าเวทไม่มีทางนั่งดูเผ่าปีศาจมีพลังเพิ่มขึ้นอยู่เฉยๆ ได้หรอก เมื่อค้นพบยาล้ำค่าอย่างน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์ เรื่องแรกที่พวกมันทำคือเอามันไปครอบครอง ไม่อย่างนั้นหากอุทยานปีศาจรู้วิธีปรุงยาคืนความรุ่งโรจน์ ก็เป็นไปได้มากที่พวกมันจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่าเดิม”
“พวกเรามีความสามารถไม่กี่อย่าง ก็กระตุ้นความสนใจของเผ่าเวทกับเผ่าปีศาจแล้วหรือ” ลู่เซิ่งส่ายหน้าอดยิ้มไม่ได้ “อย่างมากก็แค่ผู้นำบางส่วนที่เป็นบริวารของสองฝ่ายแก่งแย่งกันเองเท่านั้น”
“อย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไร”
“คำเดียว อดทน” ลู่เซิ่งเอ่ยอย่างราบเรียบ
“วิธีปรุงน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์เป็นแต้มต่อของพวกเรา ดังนั้นจะให้รั่วไหลไม่ได้เด็ดขาด แต่ถ้าเกิดปฏิเสธขึ้นมา ในสถานการณ์ที่ทางเผ่าเวทให้ความสนใจพวกเราเช่นนี้ เคลื่อนไหววู่วามอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้”
“ดังนั้นวิธีการเพียงหนึ่งเดียวก็คือถ่วงเวลาและหาที่พึ่ง” ลู่เซิ่งว่าพลางส่ายหน้า “นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะพวกเราอ่อนแอเกินไป…”
“อย่างนั้น…ควรจะถ่วงเวลาอย่างไรหรือ” ราชาปีศาจหลันเหอเอ่ยอย่างจนใจ
“ตอนนี้เผ่าเจิงมู่รู้เรื่องน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์แล้ว ดังนั้นไม่ว่าพวกเราจะทำอะไร ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงพวกมันบีบบังคับได้” ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“ดังนั้น วีธีการถ่วงเวลาเพียงหนึ่งเดียวก็คือ…”
“คืออะไรหรือ”
เหล่าราชาปีศาจเผยสีหน้าเคร่งขรึม
“ข้าจะไปเผ่าเวทเจิงมู่ด้วยตัวเอง ขอแค่กำจัดคนที่รู้เรื่องทิ้ง เวลาย่อมเพิ่มขึ้น” ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่ว่า…เผ่าเวทเจิงมู่จะต้องแจ้งเผ่าเวทชิงมู่ที่เป็นระดับบนแล้วอย่างแน่นอน...” หมิงจ้าวเอ่ยด้วยสีหน้าอึ้งงัน
“อย่างนั้นก็หมดวิธีแล้ว ข้าทำได้เพียงลำบากลงแรงอีกครั้ง กำจัดเผ่าเวทชิงมู่ทิ้ง จากนั้นก็จะไม่มีใครรู้แล้วว่าพวกเรามีความลับของน้ำยาคืนความรุ่งโรจน์”
“แต่…แต่ว่า…” ระดับสูงของลัทธิรู้สึกหัวสมองไม่ทำงาน
“แต่ไม่ใช่ว่าเผ่ากุ่ยเหอรู้เรื่องแล้วหรอกหรือขอรับ เกิดพวกมันแพร่งพรายล่ะก็!”
“ไม่เป็นไร อีกประเดี๋ยวข้าจะไปเผ่ากุ่ยเหอ ขอแค่กำจัดคนที่รู้เรื่องทิ้ง เราก็จะปลอดภัยแล้ว” ลู่เซิ่งเอ่ยจริงจัง
“…”
เหล่าวิหคไร้คำพูดจะโต้ตอบ
……………………………………….