ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 939 ประหัตประหาร (1)
“ฆ่าๆๆๆ!”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่น หงส์เพลิงอัคคีสีขาวบิดเบี้ยวหลายตัวแผดเสียง ก่อเกิดจากเปลวอัคคีอย่างรวดเร็ว
หงส์เพลิงสีขาวเหล่านี้สูงมากกว่าพันหมี่ ร่างของพวกมันลุกไหม้ด้วยอัคคีสีขาว เหมือนไม่มีรูปร่าง พอออกมาก็พุ่งใส่ทัพปีศาจนับไม่ถ้วนทันที
ค่ายกลจัตุรัสสร้างโลกเปิดใช้ส่วนหนึ่ง การเปิดใช้สุดกำลังต้องการเวลาเล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้เวลาเพียงแค่นี้ไม่อาจแย่งชิงมาได้ทัน
ทัพปีศาจนับไม่ถ้วนกับหงส์เพลิงสีขาวจำนวนมากเข้าปะทะ พวกเขาประมือสู้คำรามกันอลหม่าน
อาวุธและลูกศรที่เปล่งแสงวิเศษพุ่งทะลุร่างหงส์เพลิงสีขาว เมื่อสัมผัสกับเปลวอัคคีสีขาวก็จะตายทันที เหมือนกับหนอนไชกระดูก
แม่ทัพทหารปีศาจบางส่วนใช้อิทธิฤทธิยิ่งใหญ่ ร่างขยายถึงมากกว่าพันหมี่ ต้านทานหงส์เพลิงขาวซึ่งๆ หน้า
การศึกเห็นถึงสภาวะยื้อยุดตั้งแต่เริ่ม
ตี้ซวินก้มมองค่ายกลที่อยู่ด้านล่าง
หงส์เพลิงสีขาวขนาดยักษ์ตัวนั้นโอบอุ้มอุทยานสวรรค์เอาไว้ อัคคีเทพหงส์เพลิงนับไม่ถ้วนเหมือนไร้สิ้นสุด ทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่งดั่งคลื่นทะเล
พวกทัพปีศาจแทบจะใช้ชีวิตของตัวเองเติมเต็มไฟอัคคี พวกเขาละทิ้งสูญเสียชีวิตไปมากมาย กลายเป็นอีกาทองเปลวอัคคีหลายตัวพุ่งเข้าหาหงส์เพลิงสีขาว และด้วยขนาดร่างกายที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องสูญเสียชีวิตอีกาทองหลายร้อยหลายพันตัวโดยแลกกับหงส์เพลิงขาวตายเพียงตัวเดียวเท่านั้น
แต่จำนวนของทัพปีศาจมีมากเหลือเกิน จึงอยู่ในสภาพสูสีกันชั่วขณะ
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ขอรับ!” ไป๋เจ๋อที่อยู่ด้านข้างตี้ซวินเอ่ยเสียงทุ้มขึ้น
“นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทรยศซ่อนตัวอยู่ในอุทยานปีศาจ!” ตี้ซวินเอ่ยเสียงเย็น ดวงตาฉายประกายสีทองเจิดจ้าแยงตา
ตอนนี้การศึกติดพัน เขากำลังพิจารณาว่าจะปลดอานุภาพค่ายกลทั้งหมดดีหรือไม่
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็เป็นไปได้มากว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาตรงหน้าได้ แต่พลังยิ่งใหญ่ที่สั่งสมมาหลายปี จะถูกผลาญอย่างมหาศาล
เกิดว่าใช้ค่ายกลแล้วเผ่าเวทลงมือ จะลำบากถึงขีดสุดเข้าแล้วจริงๆ
ในตอนนี้เอง ด้านในค่ายกลก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ค่ายกลจัตุรัสสร้างโลกตัดขาดปราณวิญญาณด้านนอกไปทั้งหมดแล้วแท้ๆ ด้านในมีเพียงสุญญากาศว่างเปล่าเท่านั้น แต่เวลานี้มีเงาคนสูงใหญ่ที่ทั่วร่างปกคลุมด้วยเปลวไฟสีขาว ด้านหลังมีหนวดสีดำอมม่วงจำนวนมาก เดินออกมาจากทะเลเพลิงสีขาวอย่างช้าๆ
เป็นเทพพวกเทพปีศาจมู่จุยเมื่อก่อนหน้า
เวลานี้กลิ่นอายบนร่างพวกเขาเพิ่มขึ้นหลายระดับอย่างเห็นได้ชัด อานุภาพสูงขึ้นกว่าเดิม
“สังหาร!” มู่จุยพุ่งเข้าใส่ทัพปีศาจกับอีกาทองที่อยู่โดยรอบ
หนวดไฟสีขาวบิดเบี้ยวกลุ่มใหญ่ระเบิดออกมากลางฝ่ามือเขาในวินาทีนั้น หนวดเหล่านี้จับตัวทัพทหารหลายร้อยนายอย่างง่ายดาย เหมือนกับเกี่ยวก้อนเนื้อสีเลือดไว้มากมาย ก่อนจะสะบัดมือ
ฉับพลันนั้นทัพปีศาจทั้งหมดหมุนคว้าง รวมตัวกันเหนือฝ่ามือเขา ชนกันดังตูม กลายเป็นก้อนเนื้อเละเทะที่ไม่อาจแบ่งแยกรูปร่างได้
หลังจากเทพปีศาจยี่สิบกว่าตนเข้าสู่สนามรบ ผลกระทบก็รุนแรงถึงขีดสุด
พวกเขาสร้างการบาดเจ็บล้มตายที่มากกว่าหลายร้อยหลายพันได้ในทุกวินาที อีกาทองทยอยพุ่งใส่พวกเขา แต่สิ่งที่ตามมามีแต่ความพยายามที่สูญเปล่าเท่านั้น
“เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ค่ายกลได้แต่สนับสนุนจากเบื้องหลัง ถ้าหากใช้สุดกำลัง เผ่าเวทไม่มีทางอยู่เฉยย่อมฉวยโอกาสนี้ลงมือทันทีแน่”
“พวกเราไป” ไป๋เจ๋อก้าวขึ้นหน้า
คุนเผิงเปลี่ยนแขนขวาเป็นกรงเล็บสีดำสนิท พลังของจิตปฐมหลายสายทะลักออกมาจากร่าง
“มอบพลังของค่ายกลให้ข้า ข้าจัดการเอง” เขาเผสียหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย คล้ายอับอายเป็นโทสะอยู่บ้าง แม้ทุกคนจะไม่รู้ว่าเขาเกิดโทสะเมื่อตอนไหนก็ตาม
ตี้ซวินมองค่ายกลที่ถูกเหล่าเทพปีศาจฉีกทึ้งไปหลายชั้นด้านล่าง แล้วพยักหน้า
“อย่างนั้นขอฝากพวกเจ้าด้วย”
ความจริงเขาไม่ได้พูดถึงจุดสำคัญ ค่ายกลจัตุรัสเหอลั่วสร้างโลกมีความสามารถเปลี่ยนฟ้าแปลงดิน แต่นั่นคือตอนที่จุดเชื่อมของค่ายกลพร้อม ตอนนี้เทพปีศาจหลายสิบตนที่ควรอยู่ที่ศูนย์กลางค่ายกลไม่อยู่ เขาจึงจำเป็นต้องแบ่งพลังมาสะกดพวกมัน
ทั่วทั้งอุทยานปีศาจ นอกจากไป๋เจ๋อและคุนเผิง เทพปีศาจทั้งหมดถูกฝังกาฝากหมดสิ้น
นี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ตี้ซวินไม่อาจทนได้อีกต่อไป
ใช้ค่ายกลที่ไม่สมบูรณ์ไปต่อสู้กับเทพปีศาจมากมายขนาดนั้น ไหนจะราชาหงส์เพลิงที่มีสภาวะเทียมฟ้าอีก
นั่นคือเทพปีศาจนะ ไม่ใช่ผักกาดขาว!
แต่เพราะความทะนงตนของจักรพรรดิปีศาจ ตี้ซวินไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เปลือกนอกยังคงเรียบเฉยดุจน้ำนิ่ง
ไป๋เจ๋อกับคุนเผิงย่อตัวกลายเป็นร่างหลัก พุ่งไปยังสมรภูมิด้านล่าง
คนหนึ่งรูปลักษณ์เหมือนสิงโตสีขาว บนหัวมีเขาคู่ ไว้เคราแพะภูเขา ร่างสูงใหญ่หลายพันหมี่ ปรากฏตัวก็ยืนอยู่ตรงกลุ่มตำหนัก แสงสีขาวอันบริสุทธิ์อ่อนโยนแผ่ตลบอบอวลทั่วร่าง
แสงสีขาวนี้แตกต่างกับอัคคีเทพหงส์เพลิงสีขาวที่อยู่รอบข้าง แบ่งเป็นอาณาเขตบริสุทธิ์สะอาดออกมาผืนหนึ่ง ฉีกทึ้งทหารหงส์เพลิงสีขาวที่เข้าใกล้
เทียบกับไป๋เจ๋อแล้ว คุนเผิงป่าเถื่อนยิ่งกว่า ร่างหลักของเขาเป็นนกเผิงยักษ์สีดำสนิทใหญ่โตมหึมา ร่างยาวหลายหมื่นลี้ เพิ่งพุ่งลงมาก็หมุนกลางอากาศสร้างพายุปีศาจสีดำมากมายทันที
ลมปีศาจเหล่านี้ฉีกร่างกายของหงส์เพลิงสีขาวมากมายอย่างง่ายดาย
การเข้าร่วมของสองสุดยอดเทพปีศาจ ได้เปลี่ยนสถานการณ์การรบภายในชั่วพริบตา
โดยเฉพาะคุนเผิง แค่สะบัดปีกครั้งเดียว ก็ฆ่าหงส์เพลิงสีขาวได้หลายร้อยหลายพันตัวแล้ว
ด้วยความจนปัญญา เทพปีศาจสิบกว่าตัวที่ปกคลุมร่างด้วยอัคคีเทพหงส์เพลิงสีขาว พุ่งเข้าไปกลายเป็นร่างเดิมเข่นฆ่ากับคุนเผิงระยะประชิด ในเวลาสั้นๆ ตำหนักและห้องหอพากันถล่มทลาย สัตว์ยักษ์ซึ่งเป็นเทพปีศาจจำนวนมากถ่วงเวลาสุดยอดสัตว์เทพที่น่ากลัวนี้ไว้ได้ชั่วคราว
ทางไป๋เจ๋อก็มีเทพปีศาจพุ่งใส่เกือบสิบตนเช่นกัน เพิ่งจะเริ่มปะทะกัน เขาก็เสียเปรียบแล้ว ความทนทานกับพลังฟื้นฟูของเทพปีศาจพวกนี้น่ากลัวจริงๆ ขอแค่พวกเขาไม่ถูกทุบกะโหลกแหลก อาการบาดเจ็บบก็ฟื้นฟูกลับมาได้ในไม่กี่ลมหายใจ
ทั้งสองถูกสะกดเอาไว้ สถานการณ์รบที่เพิ่งจะดีขึ้นชะงักงันอีกรอบ
กลางทะเลไฟสีขาว หงส์ชาดที่ตัวใหญ่ที่สุดค่อยๆ เหยียดร่างออก เงยหน้ามองตี้ซวิน เงาคนที่สูงชะลูดสมส่วนสายหนึ่งปรากฏบนหัวหงส์ชาด เป็นลู่เซิ่งที่เพิ่งอัญเชิญหงส์ชาดขนาดยักษ์ตัวนี้ออกมานั่นเอง
หงส์ยักษ์ตัวนี้ถึงขั้นใหญ่กว่าคุนเผิงที่มหึมาที่สุดหลายสิบหลายร้อยเท่า แม้แต่อุทยานปีศาจก็ถูกมันโอบล้อมไว้ด้านใน
“ข้าไม่คิดจะต่อสู้ เพียงคิดทำเรื่องที่ตัวเองอยากทำ หาของที่ต้องการหาเท่านั้น” ลู่เซิ่งเอ่ยอย่างราบเรียบ “สงบศึกกันเท่านี้เป็นอย่างไร”
ตี้ซวินแค่นเสียง สู้มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้สงบศึกก็ไร้ความหมาย ไม่ว่าเขาหรือจักรพรรดิสวรรค์ ก็ไม่มีทางให้การคุกคามที่ยิ่งใหญ่แบบนี้มีอยู่ข้างกายแน่
การคุกคามจะต้องกำจัดทิ้ง ไม่อย่างนั้นเกิดเปิดศึกเต็มอัตรากับเผ่าเวท กลับเรียกใช้เทพปีศาจไม่ได้สักตน ถึงเวลานั้นจะให้พวกเขาสามคนไปสู้เองงั้นหรือ
“น่าขำ!” สุดท้ายตี้ซวินก็ไม่เอ่ยให้มากความอันใดอีก เริ่มใช้อิทธิฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เขายื่นมือพลิกคัมภีร์ลวงตาในมือ แสงสีรุ้งแปดสีสันมากมายลอยขึ้นมา
“ภูผาลำธารแหลกสลาย ผสานหนึ่งปราณ!”
เกิดเสียงดังควับ แสงสีรุ้งแปดสายกลายเป็นเงาแสงผืนใหญ่ พุ่งเข้าหาหงส์สีขาวขนาดมหึมา
แสงสีรุ้งเหล่านี้มีพลังทำลายอันเหี้ยมหาญซึ่งคุณสมบัติแตกต่างแผ่ตลบอบอวล
สีแดงหมายถึงทิศใต้ เป็นจุดรวมของอัคคีนับไม่ถ้วนในฟ้าดิน แม้จะไม่แข็งแกร่งเท่าอัคคีเทพหงส์เพลิง แต่มันก็เป็นตัวแทนของอัคคีที่ไร้สิ้นสุด
สีเหลืองหมายถึงขุนเขา เป็นน้ำหนักอันหนักอึ้งและยิ่งใหญ่ของเทือกเขาที่สูงต่ำ
สีฟ้าเป็นตัวแทนมหาสมุทรลำธาร เป็นสัญลักษณ์ที่เกิดจากการรวมแม่น้ำนับไม่ถ้วน
สีม่วงเป็นตัวแทนสายฟ้า นั่นคือพลังแห่งการชำระล้างที่ธรรมชาติฟ้าดินครอบครอง
ขณะเดียวกันยังมีวายุสีเขียว ผืนดินสีเหลืองเข้ม รวมถึงท้องฟ้าสีดำสนิท
ทิวทัศน์งามตาที่มาจากธรรมชาติฟ้าดินมากมายกระเพื่อมในรุ้งแปดสีราวกับมีภาพถ่ายนับไม่ถ้วนไหลเวียนฉายชัดอยู่ด้านใน
“นี่ก็คืออานุภาพที่แท้จริงของค่ายกลจัตุรัสสร้างโลก...” ลู่เซิ่งเห็นเทพปีศาจในบังคับบัญชาตัวหนึ่งขวางเส้นทางการพุ่งของแสงรุ้งเจ็ดชนิด ไม่ทันได้หลบหลีก ถูกวงล้อที่เกิดจากพลังงานแปดชนิด ฉีกเป็นชิ้นๆ อย่างง่ายดาย
ชิ้นส่วนพวกนี้กลับถูกแสงสีรุ้งกลืนกิน เพิ่มอานุภาพด้านในตัวมันไปอีกขั้น
“พอดีเลย ขอดูหน่อยเถอะว่า…คัมภีร์จัตุรัสเหอถูลั่วซูในตำนานมีอานุภาพมากขนาดไหน!”
ลู่เซิ่งกางแขนออก หงส์เพลิงสีขาวขนาดยักษ์ใต้ร่างส่งเสียงร้องกังวาน กระพือปีกบินขึ้น พุ่งเข้าหาแสงรุ้งแปดสี
อัคคีเทพหงส์เพลิงที่เหมือนคลื่นทะเลปะทะผิวแสงรุ้งแปดสีอย่างมืดฟ้ามัวดิน เพิ่งสัมผัสแสงรุ้งแปดสีด้านหน้าสุดก็กินอัคคีเทพสีขาว แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองในพริบตา
ทว่าอัคคีเทพหงส์เพลิงสีขาวมีจำนวนมากมายเกินไป แทบไร้สิ้นสุด
การกลืนกินที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย ทำให้การแปลงพลังของแสงรุ้งเจอขีดจำกัด ทว่าอัคคีเทพหงส์เพลิงกลับเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น ยังเหลืออีกครึ่งที่ไม่ได้โถมเข้าอยู่เบื้องหลัง
การกลืนกินของแสงรุ้งเริ่มตามไม่ทัน คัมภีร์บนมือตี้ซวินเริ่มสั่นสะเทือนกะพริบ
สีหน้าเขาปั้นยากถึงที่สุด อัคคีเทพหงส์เพลิงบนตัวอีกฝ่ายยากจะเปลี่ยนแปลงกว่าพลังงานใดๆ
พึงทราบว่าเขาเป็นตัวแทนพลังแห่งวัฏจักรชำระล้างในธรรมชาติฟ้าดิน
กิ่งผลตกลงพื้น จะเน่าสลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารในผืนดิน
เมื่อตายลง ก็จะเน่าเปื่อยและขึ้นรา กลายเป็นสารอาหารนับไม่ถ้วนกลับคืนผืนดิน
น้ำขุ่นผ่านหินภูเขา กรั่นกรองต้นไม้ใบหญ้าผ่านจุลินทรีย์นับไม่ถ้วนแยกกันกิน เปลี่ยนแปลงเป็นน้ำใส
สรรพสิ่งจะได้รับการชำระล้างและฟื้นฟูภายใต้การละลายของจานบดฟ้าดิน
ความตายก็ดี วัฏจักรก็ดี การหลอมรวมก็ดี ต่างเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติฟ้าดิน เป็นส่วนหนึ่งของการชำระล้าง
ทว่าตอนนี้ คัมภีร์จัตุรัสเหอถูลั่วซูเปลืองแรงถึงขีดสุดในการย่อยสลายอัคคีเทพหงส์เพลิงอันแปลกประหลาดนั้น
และด้วยการเปลืองแรงในการย่อยสลายทำให้การทำงานของค่ายกลจัตุรัสสร้างโลกช้าลงไปด้วย
แม้ความเชื่องช้านี้จะไม่มากมายอะไร แต่ในการต่อสู้ระดับนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่แล้ว
“เป็นอะไรไป แค่เพิ่งเริ่มก็หมดแรงแล้วหรือ?!” ลู่เซิ่งกระโดดขึ้น ปล่อยให้หงส์เพลิงยักษ์ออกไปพุ่งใส่แสงรุ้งแปดสีอันร้ายกาจที่เป็นตัวแทนคัมภีร์เหอถูลั่วซู
จิตปฐมหงส์เพลิงขนาดยักษ์นั้นไม่ใช่เพียงต้นกำเนิดอัคคีเทพหงส์เพลิงของเผ่าหงส์เพลิงเท่านั้น ยังมีพลังเทพนอกรีตอันมหาศาลที่ร่างหลักส่งมาด้วย
นั่นพลังเทพนอกรีตนี้เองที่ทำให้ค่ายกลซึ่งไร้เทียมทานนี้ย่อยสลายยากยิ่งกว่าเดิม
ลู่เซิ่งเดินเอื่อยเฉื่อยท่ามกลางทะเลเพลิงขาว ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจที่เข่นฆ่ากัน หรือทัพปีศาจนับไม่ถ้วนของอุทยานปีศาจ ต่างก็ถูกอัคคีเทพหงส์เพลิงผลักดันออกไปโดยอัตโนมัติ สร้างเส้นทางมุ่งตรงไปหาตี้ซวินให้เขา
“ถ้าเจ้ามีความสามารถเท่านี้ อย่างนั้น…ละครขำขันเรื่องนี้ก็ควรจบได้แล้ว” ลู่เซิ่งผิดหวังเล็กน้อย ตี้ซวินที่เป็นจักรพรรดิสวรรค์เช่นกันไม่ควรมีพลังแค่นี้สิ
เขามองออกว่าอีกฝ่ายกำลังกริ่งเกรงและกังวลถึงเรื่องอะไรอยู่
……………………………………….