ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 940 ประหัตประหาร (2)
“ตัวตนหนึ่ง ต่อให้จะแข็งแกร่งอย่างไร ตอนที่เจ้ากังวลหรือกริ่งเกรง นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความพ่ายแพ้ของเจ้า”
ลู่เซิ่งกระทืบเท้า ร่างระเบิด มิติปรากฏรอยร้าว อาศัยแรงสะท้อนกลับรุนแรง ปรากฏตัวด้านหน้าตี้ซวินเหมือนเคลื่อนย้ายในพริบตา ก่อนจะต่อยหน้าจักรพรรดิสวรรค์
“มาเถอะ มาเข่นฆ่ากับข้าให้สาแก่ใจ! โยนทุกอย่างทิ้ง! เดิมพันด้วยทุกสิ่ง! จ่ายด้วยชีวิตของเจ้า!”
ลู่เซิ่งหัวเราะลั่น
“ฆ่า!”
กำปั้นเขาสร้างคลื่นกระเพื่อมโปร่งแสงทับซ้อนกันนับไม่ถ้วน อัคคีเทพหงส์เพลิงสีขาวกับพลังเทพนอกรีตสีดำ พันรอบตัวเขาราวกับมังกรสองตัว
พลังงานสองชนิดบีบอัดปะทะกัน อานุภาพอันน่ากลัวระเบิดออกมาทะลวงพลังปีศาจคุ้มกันของตี้ซวิน กระแทกใส่กลางหว่างคิ้วของเขาอย่างรุนแรง
ตี้ซวินรีบยกมือขึ้นป้องกัน
เปรี้ยง!
พายุสีดำระหว่างทั้งสองระเบิดโหมกระหน่ำ ลวดลายคลื่นสีดำสนิทหลายกลุ่มกระจายออกไปรอบๆ โดยมีลู่เซิ่งกับตี้ซวินเป็นศูนย์กลาง
มิติเวลาหยุดลงในทันที ระหว่างทั้งสองมีเพียงพลังบริสุทธิ์ทำลายล้างปะทะกันอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น
คัมภีร์ลั่วซูจำลองที่ตี้ซวินถือในมือป้องกันกำปั้นของลู่เซิ่ง คลื่นหลายกลุ่มนั้นกระจายมาจากบนคัมภีร์ลั่วซู
มันกำลังเปลี่ยนแปลงพลังอันน่ากลัวของลู่เซิ่งส่งไปยังพื้นดิน เพื่อแบ่งเบาแรงกดดันให้แก่ตี้ซวิน
“โง่เง่า!” ลู่เซิ่งพลิกมือถองศอกใส่
เปรี้ยง!
ศอกถูกหนังสีเหลืองอ่อนรูปยันต์แปดทิศป้องกันไว้
“นี่หมายถึงเหอถูซึ่งเป็นหลักการธรรมชาติฟ้าดินกระมัง” ลู่เซิ่งต่อยใส่ตี้ซวินอย่างรุนแรงราวกับพายุโหมกระหน่ำ
ต่อให้ถูกคัมภีร์ลั่วซูป้องกันเอาไว้ แต่พลังอันน่าหวาดผวาก็เกินขีดจำกัดที่ของวิเศษจะรองรับได้แล้ว
พวกมันต้องควบคุมการทำงานของค่ายกลจัตุรัสสร้างโลกไปด้วย และต้องใช้ตัวเองป้องกันการการเข่นฆ่าของลู่เซิ่งไปด้วยพร้อมๆ กัน
พวกมันที่เดิมททีเป็นเพียงอิทธิฤทธิ์และของวิเศษ แสงวิเศษเริ่มหม่นหมองลงบ้างแล้ว
หน้าผากตี้ซวินเหงื่อไหลซึม ทำได้เพียงฝืนต่อสู้ระยะประชิดตัวของลู่เซิ่งเท่านั้น แม้เขาจะเป็นอีกาทองสามขา แต่วิธีการต่อสู้ก็ยังคงเป็นการปล่อยอิทธิฤทธิ์ในระยะไกล น้อยครั้งที่จะเจอตัวประหลาดป้องกันอิทธิฤทธิ์ และต่อสู้ประชิดตัวร้ายกาจเช่นนี้อย่างลู่เซิ่ง
ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เขาจำต้องเติมเต็มแหล่งกำเนิดอัคคีอาทิตย์ของตัวเองเข้าไปในคัมภีร์เหอถูลั่วซู เพื่อช่วยให้มันต้านทานได้นานกว่าเดิม
“อ่อนแอๆ! อ่อนแอเกินไปแล้ว!” ลู่เซิ่งเหวี่ยงขา แสงสีขาวดำพลันปรากฏ พลังทั้งสองระเบิดออก แรงกระแทกมากพอที่จะทำลายดาวเคราะห์ขนาดมหึมาทั้งดวง
ร่างหลักและร่างหงส์เพลิงเริ่มหลอมรวมเป็นหนึ่งภายใต้ผลของปฐมพลังจากโลกเทพนอกรีต
ทุกๆ การเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่าร่างหลักในระดับผู้ปกครองหลายเท่าตัว
เขามาถึงขอบเขตที่แข็งแกร่งที่สุดนับแต่ประวัติศาสตร์เคยมีมา! ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้
ร่างหลักหลอมรวมกับพลังของโลกใบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง
ครืน!
ตี้ซวินเลือดไหลออกปากและจมูก ฝืนรักษาคัมภีร์เหอถูลั่วซูในมือไว้ ร่างเขากลับกระเด็นออกไปไกลลิ่ว
เขาคิดกลับเป็นร่างเดิม ทว่าทักษะการต่อสู้ของร่างเดิมไม่มีอานุภาพเท่าของวิเศษในมือ ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ จะให้มหาเทพอยู่ด้านหน้าตลอด แล้วเขาปล่อยอิทธิฤทธิ์อยู่ด้านหลัง ครั้งนี้กลับนึกไม่ถึงว่า…
ตูม!
พายุสีขาวดำกระแทกร่างตี้ซวินอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง แสงวิเศษคุ้มกันร่างเริ่มปรากฏรอยร้าว ดูใกล้แตกแล้ว
“นี่คือพลังของจักรพรรดิสวรรค์หรือ คัมภีร์เหอถูกลั่วซูไม่ธรรมดาจริงๆ แต่น่าเสียดายที่…เจ้าอ่อนแอเกินไป”
ลู่เซิ่งลอยอยู่กลางอากาศ พลังเทพนอกรีตสีแดงอมม่วงกับอัคคีเทพหงส์เพลิงสีขาวบนร่างไหลเวียนเกี่ยวกระหวัด ขับเน้นลวดลายสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนบนใบหน้า ชวนให้คนนึกถึงความงามอันแปลกประหลาดแต่แข็งแกร่งยิ่งนัก
ตอนนี้เขาผิดหวังมาก...เทียบกับผู้เข้มแข็งมารสวรรค์ที่เขาเคยสู้ด้วยมาก่อน ตี้ซวินเป็นจอมอาคมคนหนึ่ง เมื่อไม่มีโล่เนื้อก็ไม่มีอะไรเลย หากสู้ระยะประชิดเมื่อไร ก็จะกลายเป็นกระสอบทรายที่ไร้ความหมายทันที
“เสียทีที่ข้าอุตส่าห์คาดหวังว่าจะตั้งใจสู้สักครั้ง ตอนนี้…ตายเสียเถอะ!”
ลู่เซิ่งพุ่งตัว รวดเร็วเหมือนเคลื่อนย้ายในพริบตา ตะปบกรงเล็บใส่ทรวงอกตี้ซวิน พลังงานสีดำขาวที่บ้าคลั่งมากมายเกี่ยวพันบนแขนของเขา ระเบิดพลังน่ากลัวอันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
ฝ่ามือนี้กล่าวได้ว่าเป็นระดับสูงสุดของเขา ต่อให้อยู่ในโลกมารสวรรค์ เผชิญกับหยวนชิงลี่อดีตเจ้าสำนักนทีคราม ลู่เซิ่งก็มั่นใจว่าสามารถฉีกนางให้เป็นชิ้นๆ ได้ทันที
นี่เป็นพลังล้วนๆ! ไม่ออมมือใดๆ ทั้งสิ้น
ตี้ซวินเบิกตาโพลง ฝืนใช้ของวิเศษในมือป้องกันด้านหน้าตนเองเอาไว้
“ลงมือ!” ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนขึ้น
ด้านข้างลู่เซิ่งปรากฏเงาร่างสีทองสองสายแทบในพร้อมกัน
คนทางซ้ายสวมกวน ด้านหลังมีเงาระฆังยักษ์สีทองค่อยๆ ปรากฏขึ้น
คนด้านขวาในมือถือต้นไม้สีเขียวขจี ร่ายแสงสีเขียวใส่ลู่เซิ่งแผ่วเบา
ในใจลู่เซิ่งพลันรู้สึกได้ถึงการคุกคามที่อันตรายชีวิต
“มหาเทพตงหวง ซีเหอหรือ?!” แทนที่จะล่าถอยเขากลับรุกเข้าใส่ หัวเราะร่าด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
ใช้พลังทั้งร่างกระแทกใส่ตี้ซวินทั้งหมดอย่างไม่ออมมือ
ตูม!
แสงสีดำระเบิดขึ้น
ภายในแสงสีดำ อุทยานปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ นั้นหายไปอย่างไร้สุ้มเสียง ราวกับถูกบางอย่างเขมือบไป
ไม่มีเศษซากใดๆ หลงเหลือ อันตรธานอย่างไร้ร่องรอยเหมือนกับถูกย้ายไปจากที่เดิมเฉยๆ เท่านั้น
ทัพปีศาจ หงส์เพลิงสีขาว ไป๋เจ๋อ คุนเผิง และเทพปีศาจที่กำลังสู้กันอยู่ ถูกแสงสีดำปกคลุมทั้งสิ้น
ร่างครึ่งหนึ่งของไป๋เจ๋อหายไป บาดเจ็บสาหัส ร่วงตกลงมา
ท่อนล่างของคุนเผิงหายไปหนึ่งในสาม เลือดสีดำมากมายกระเซ็นไปทั่ว เขาดีกว่าไป๋เจ๋อหน่อยหนึ่งเนื่องจากร่างเผิงยักษ์ของเขาโบยบินได้ถนัดถนี่ รวดเร็วน่าตกตะลึง ในพริบตาเมื่อครู่ที่รู้สึกผิดปกติ เขาหลบแสงสีทองทันเวลา จึงรอดมาได้
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ คุนเผิงก็แตกตื่นหวาดกลัวเข้าแล้ว ไม่กล้าอยู่ต่ออีก โคจรพลังปีศาจเพื่อห้ามเลือด จากนั้นก็เผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อให้เขาจะเป็นจอมอริยะ ภายใต้การระเบิดใกล้เคียงระดับผู้วิเศษนี้ ก็ไม่อาจต้านทานได้เลยเช่นกัน
ใจกลางแสงระเบิดสีดำ
ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความมืดและความว่างเปล่าหนาทึบ
ไม่มีอากาศ ไม่มีวัตถุใดๆ แม้แต่มิติก็ไม่คงอยู่อีกต่อไป อยู่ในสภาพหยุดนิ่งชั่วขณะ
สำหรับโลกภายนอก ที่นี่คือหลุมดำขนาดใหญ่
ลู่เซิ่งลอยนิ่งอยู่กลางหลุมดำ จิตปฐมหงส์เพลิงได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถูกเขาชักกลับเข้าร่าง
เขาได้เดิมพันพลังทั้งหมดไปกับการโจมตีเมื่อครู่ พลังเทพนอกรีตก็ดี ต้นกำเนิดของอัคคีเทพหงส์เพลิงก็ดี ทุกสิ่งถูกเดิมพันไปกับกรงเล็บนั้น
ผลลัพธ์เป็นที่เห็นได้ชัด
ตี้ซวินบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไป ถ้าไม่ใช่มหาเทพใช้ระฆังโกลาหลช่วยเขาต้านทานในพริบตาหนึ่ง เกรงว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฟ้าดินจะไม่มีจักพรรดิสวรรค์ตี้ซวินอีกแล้ว
เพื่อปกป้องตี้ซวิน ซีเหอต้องส่งพลังส่วนใหญ่ให้ ช่วยเขาต้านทานพลังเทพนอกรีตกับต้นกำเนิดอัคคีเทพหงส์เพลิงที่รุกล้ำเข้าร่างกายเขา
นี่ทำให้ระดับพลังที่ลู่เซิ่งโจมตีใส่ลดลงไปไม่น้อย
การโจมตีที่เหลือของทั้งสาม ถูกแสงสีดำทำลายล้างที่เกิดจากการระเบิดหลอมละลาย ทำให้ลู่เซิ่งรอดมาได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน
“น่าเสียดายจริงๆ…นึกไม่ถึงว่ามหาเทพตงหวงผู้ยิ่งใหญ่จะเลือกล่าถอยชั่วคราว” สีหน้าลู่เซิ่งฉายแววผิดหวัง
“ราชาหงส์เพลิงแดนทักษิณ เจ้าต้องเข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
ไม่รู้ว่าเสียงส่งมาจากที่ใดลอยเข้าหูเขา
ลู่เซิ่งยืดร่าง เดินไปด้านหน้า หลุมดำรอบข้างกำลังหดตัวด้วยความเร็วสูงภายใต้การฟื้นฟูจากพลังแห่งธรรมชาติฟ้าดิน
ออกจากอาณาเขตที่หลุมดำปกคลุม สิ่งที่เข้าสู่คลองจักษุของเขาคือซากปรักหักพังของอุทยานปีศาจที่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ อาณาเขตทรงกลมผืนใหญ่ที่มีเขาเป็นศูนย์กลางว่างเปล่า ถึงกับเป็นอาณาเขตที่ถูกทำลายเพราะการระเบิดเมื่อครู่นี้
เงาคนที่สูงหลายสิบหมี่สายหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศไกลออกไป ก้มมองมาทางนี้
เงาคนสายนั้นมีหัวเป็นคนตัวเป็นงู นั่งรองม้วนภาพสีเหลืองอ่อนม้วนหนึ่งที่วาดลวดลายขุนเขาลำธารเอาไว้ ด้านหลังมีเส้นแสงสีทองกระจายทั่วตัว ราวกับทรายทองกระจัดกระจายนับไม่ถ้วน
“ที่แท้เป็นผู้วิเศษหนี่ว์วา” ลู่เซิ่งก้มหัวค้อมเอวแสดงความเคารพ
ไม่ว่าจะเป็นปาฏิหาริย์ของหนี่ว์วาที่ได้ยินมาในตำนานสมัยอยู่บนโลกใบเดิม หรือตอนเห็นกุศลแห่งการซ่อมฟ้าของหนี่ว์วาที่นี่
เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าผู้วิเศษคนนี้ยังคงเป็นผู้มีเมตตาที่รักปีศาจและมนุษย์
“วันนี้อุทยานปีศาจพินาศ เจ้ายินยอมจะสร้างอุทยานสวรรค์ขึ้นใหม่เพื่อต่อสู้กับเผ่าเวทในฐานะมหาอริยะหรือไม่” หนี่ว์วามองลู่เซิ่ง ในใจจนปัญญา
มหาเทพตงหวง จักรพรรดิสวรรค์ตี้ซวิน และจักพรรรดินีซีเหอแห่งอุทยานปีศาจ ถูกปีศาจหงส์เพลิงที่มาจากต่างโลกผู้นี้ขับไล่ไป
อุทยานปีศาจที่ตอนแรกสมบูรณ์ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เสียหายอย่างใหญ่หลวง คิดจะต่อสู้กับเผ่าเวทที่มีพลังยิ่งใหญ่ วิธีการในตอนนี้คือการสร้างอุทยานสวรรค์ขึ้นใหม่
นางคือผู้วิเศษอย่างแท้จริง ทั้งยังคอยดูแลปีศาจ แต่สิ่งที่นางให้การดูแลคือเผ่าปีศาจทั้งหมด ไม่ใช่พวกมหาเทพตงหวงสามคน
อีกาทองสามขาเป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งในเผ่าปีศาจทั้งหมด ไม่ได้เป็นตัวแทนสิ่งใด
สิ่งที่นางดูแลคือเหล่าปีศาจที่พวกเขาปกครอง
ลู่เซิ่งมองหนี่ว์วา เข้าใจความหมายของผู้วิเศษที่เมตตาผู้นี้ทันที
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นขอน้อมรับโองการของผู่วิเศษ” เขาก้มเอวคำนับ
ระฆังโกลาหลของมหาเทพตงหวงเป็นตัวแทนของวิเศษป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าดิน น่าเสียดายที่เขาขอคำสั่งสอนไม่ได้ แต่ตอนนี้มีผู้วิเศษตัวเป็นๆ มาหาแล้ว
ลู่เซิ่งเลียมุมปาก บางทีอาจขอคำชี้แนะอานุภาพแห่งผู้วิเศษในตำนานได้
ผู้วิเศษควบคุมกฎจักรวาลในอาณาเขตเล็กๆ เป็นหลัก กฎที่ผู้วิเศษแต่ละคนควบคุมจะไม่เหมือนกัน นี่มีความเกี่ยวข้องกับรากเหง้าการบรรลุธรรม
ถ้าเป็นหนี่ว์วา อาจจะควบคุมกฏของชีวิตและการสร้างก็ได้
ร่างหลักของลู่เซิ่งฝึกฝนถึงขั้นกฏเกณฑ์ภายในแล้ว ต่อให้ไปยังจักรวาลหรือโลกแห่งใด ก็ไม่ถูกกฎต่างๆ กดทับในทันที อย่างมากก็ถูกขับไล่เท่านั้น
ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้วิเศษ เขาอาจสู้ได้จริงๆ
“ผู้วิเศษ ความจริงข้ามีคำขอไร้เหตุผลอยู่ข้อหนึ่ง” ลู่เซิ่งเอ่ยโพล่ง
“ในเมื่อเป็นคำขอไร้เหตุผล ก็ไม่จำเป็นต้องพูดหรอก” หนี่ว์วาคล้ายเดาออกว่าลู่เซิ่งอยากเอยอะไร
“แต่…ข้าตอบรับคำขอของผู้วิเศษแล้ว เช่นนั้นในฐานะของแลกเปลี่ยน ผู้วิเศษตอบสนองความปรารถนาเล็กๆ ของข้าได้หรือไม่” ด้านหลังลู่เซิ่งมีอัคคีเทพหงส์เพลิงที่ยิ่งใหญ่จนราวไร้สิ้นสุดระเหยขึ้นมาอีกครั้ง
พลังเทพนอกรีตกับอัคคีเทพรวมกันกันอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกันยังมีอัคคีอนธการสีดำอมม่วงที่เป็นของร่างหลักของเขาด้วย
พลังงานสามชนิดผสมกัน คลื่นอันน่ากลัวที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่กระจายออกมา
หนี่ว์วาหรี่ตาเล็กน้อย เข้าใจความต้องการของลู่เซิ่งทันที
……………………………………….