ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่ 2-3 - ตอนที่ 160-2 หลิวซือฮวาย
“น้องชายร่วมตระกูลของพี่สะใภ้ใหญ่ คิดว่าต้องเป็นคนดียิ่งนัก” เว่ยฉางอิ๋งนิ่งอึ้งไปเป็นนานจึงพูดออกมาได้
นางหลิวมองนางหนหนึ่งแล้วว่า “มิใช่ว่าข้าชมคนในบ้านตนเอง แม้ว่าตำแหน่งของบิดามารดาและของน้องชายข้าผู้นี้จะไม่อาจทัดเทียมท่านผู้ตรวจการซ่ง แต่เขาก็เป็นคนไม่เลวจริงๆ หาไม่แล้วก็จะไม่ไปเข้าตาของเวยหย่วนโหวท่านปู่อีกคนและได้รับการฝึกปรือบ่มเพาะหรอก”
ปัญหาอยู่ที่หลิวซีสวินก็คือคนที่หลิวซือจิ้งผู้ดำรงตำแหน่งเวยหย่วนโหว ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลหลิวแห่งตงหูทุ่มเทบ่มเพาะเพื่อให้เป็นประมุขคนต่อไปของหรานหลีถัง! สาเหตุที่จนทุกวันนี้เขายังไม่ได้แต่งงานแต่งการก็เหมือนกับเว่ยฉางเฟิงเช่นนั้น มิใช่ว่าหาภรรยาแต่งไม่ได้ และมิใช่ว่าผู้ใหญ่ลืมเรื่องแต่งงานของเขา ทว่าเพราะเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของตระกูล จึงตั้งใจเลือกสรรคนที่ดีให้แก่เขา!
แน่นอนว่า ระหว่างนั้นก็คงมีสมุหกลาโหมหลิวซือฮวายคอยชัดขวางอยู่?
โดยสรุปก็คือ ด้วยความหวังที่หลิวซือจิ้งมีต่อหลิวซีสวิน การจะเลือกภรรยาให้เขาจะต้องเป็นบุตรสาวบ้านใหญ่ของตระกูลสูงศักดิ์ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะต้องเป็นบุตรสาวหรือหลานสาวจากบ้านใหญ่ของประมุขตระกูลสูงศักดิ์ด้วย! ต้องเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ที่ได้รับความสำคัญอย่างยิ่งในบ้านฝั่งมารดา!
ส่วนซ่งซีเยวี่ยนั้นเล่า? แม้จะเป็นทีรักของบิดามารดา ยิ่งไปกกว่านั้นมารดาก็ยังมีชาติกำเนิดในตระกูลสูงศักดิ์ ทว่าซ่งถงบิดาของเขาเป็นเพียงตระกูลซ่งแห่งเจียงหนานในสายรองเท่านั้น แม้เว่ยเซิ่งเซียนจะเป็นบุตรสาวของประมุขตระกูลเว่ย แต่นางก็เป็นบุตรสาวของอนุ! ยิ่งไปกว่านั้นแม่เฒ่าซ่งแม่ใหญ่ของนางก็เป็นที่รู้กันในทุกตระกูลเลื่องเชื่อว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับบุตรของตนดูแคลนบุตรจากอนุเสียอย่างยิ่ง!
เวลานี้ซ่งถงดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการแคว้นหร่วนโจว …สมมติว่าไม่ต้องคำนึงถึงประเด็นที่หลิวซีสวินเป็นผู้สืบทอดที่หลิวซือจิ้งประมุขตระกูลหลิวทุ่มเทจิตใจบ่มเพาะมา การแต่งงานคราวนี้ก็ยังนับว่าซ่งซีเยวี่ยแต่งงานกับคนที่ต่ำศักดิ์กว่าสักหน่อยเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุที่ระดับขั้นขุนนางของทั้งบิดา พี่ชายคนโตร่วมบิดาและของตัวหลิวซีสวินเองยังด้อยกว่าซ่งถงขั้นหนึ่งด้วย
แต่ว่าเพียงคิดก็รู้แล้วว่าหลิวซือจิ้งฝากความหวังไว้กับหลานชายในตระกูลผู้นี้มากมายลึกล้ำเพียงใด เขาทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อบ่มเพาะหลิวซีสวิน เรียกได้ว่ามากกว่าบุตรชายแท้ๆ ของตนเสียอีก! ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมายเพียงใด แล้วเวลานี้หลิวซีสวินกลับต้องมาแต่งงานกับซ่งซีเยวี่ย …ชาติกำเนิดของซ่งซีเยวี่ย และตำแหน่งของบิดาของนางไม่เป็นดังหวังของหลิวซือจิ้งก็ยังแล้วไป เรื่องคอขาดบาดตายที่สุดก็คือนางไม่มีพี่น้องผู้ชายเลย
นี่หมายความว่าหากหลิวซีสวินแต่งกับนาง กำลังสนับสนุนที่ซื่อสัตย์ที่สุดซึ่งเขาสามารถได้จากทางฝั่งภรรยาในวันหน้าก็มีเพียงซ่งถงคนเดียว …และเพราะว่าไม่มีบุตรชาย แม้แต่คนร่วมตระกูลในสายข้างเคียงก็ล้วนมาบีบซ่งถงซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากเขา จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่าเรื่องที่นางจะช่วยเหลือสนับสนุนหลิวซีสวินได้นั้นมีน้อยนิดเพียงใด และเรี่ยวแรงจะช่วยเหลือเขามีบางเบาเพียงใด?
และเมื่อหลิวซือจิ้งต้องผิดหวังดังนี้ เขาจะเคืองแค้นเพียงใด?
… เมื่อส่งนางหลิวกลับไปแล้ว ใบหน้าของเว่ยฉางอิ๋งพลันเย็นเฉียบลง เอ่ยกับนางหวงว่า “เคยได้ยินมาตลอดว่า ฮองเฮาและสนมเอกไม่ถูกกัน แต่ไม่คิดเลยว่า แม้แต่การที่สนมเอกคิดจะแต่งภรรยาให้คุณชายเติ้ง ฮองเฮาก็ต้องเข้ามาก้าวก่ายด้วย!”
นางหวงรู้ว่านางรู้สึกไม่พอใจ จึงปลอบไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณชายหลิวสิบหกเพียบพร้อมทั้งหน้าตาความสามารถ ทั้งยังเป็นคนใจกว้าง จะว่าไปแล้วก็ไม่เลวเลยนะเจ้าคะ” จิตใจทั้งหมดของนางหวงล้วนอยู่ที่ตัวเว่ยฉางอิ๋ง แม้ซ่งซีเยวี่ยจะเป็นลูกผู้น้องแท้ๆ ของเว่ยฉางอิ๋ง แต่นางหวงก็มิได้ใส่ใจเรื่องสำคัญทั้งชีวิตของคุณหนูผู้น้องคนนี้เท่าใด
เพราะอย่างไรเสีย ต่อให้แม่เฒ่าซ่งมาอยู่ที่นี่ก็จะต้องเป็นห่วงครรภ์ของเว่ยฉางอิ๋งก่อน และอย่าได้ต้องมาโกรธเคืองด้วยเรื่องเช่นนี้ หาใช่จะมาห่วงเรื่องแต่งงานของซ่งซีเยวี่ยซึ่งเป็นหลานยาย
เว่ยฉางอิ๋งเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ตัวเขาดี แล้วจะมีประโยชน์ใด? เขาเป็นคนที่สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้เองหรือ? การที่สมุหกลาโหมและฮองเฮาร่วมมือกันให้น้องซีเยวี่ยแต่งกับหลิวซีสวิน หากมิใช่เพราะต้องการสกัดหนทางไม่ให้หลิวซีสวินได้ภรรยาที่มาจากตระกูลที่เข้มแข็งและสามารถเป็นแรงหนุนให้เขาได้ หรือไม่ก็เพราะไม่อยากให้สนมเอกได้สมใจ! แม้ครานี้พวกเขาจะทำสำเร็จแล้ว แต่เวยหย่วนโหวต่อสู้กับสมุหกลาโหมมาตั้งหลายปี จักต้องไม่ยอมแพ้เพียงเท่านี้หรอกกระมัง?”
นางขบริมฝีปาก ยิ้มหยันพลางว่า “แรกเริ่มนั้นเพราะต้องการตำแหน่งประมุข ท่านลุงบุตรจิ้งผิงกงไม่คำนึงแม้ว่าต้องรวมมือกับตระกูลหลิวมาลอบสังหารข้ากับฉางเฟิงที่นอกเมืองเฟิ่งโจวอย่างอุกอาจ! หากนับกันแล้วข้าและฉางเฟิงก็เป็นหลานแท้ๆ ของท่านลุงบุตรจิ้งผิงกง และเป็นหลานที่เขาเห็นมาแต่เล็กจนโตเชียวนะ! ท่านลุงแท้ๆ ยังสามารถลงมือถึงขั้นนี้ได้ แล้วประสาอะไรที่น้องซีเยวี่ยมิได้มีความสัมพันธ์ใดเลยกับตระกูลหลิว?”
นางหวงบอกว่า “เช่นนั้นพวกเราก็รีบให้คนไปเตือนนายหญิงใหญ่ดีหรือไม่เจ้าคะ?”
“ไม่ผิด!” เว่ยฉางอิ๋งเอ่ยอย่างขึงขัง “ท่านอาท่านไปเองยามนี้เลย …บอกว่า จู่ๆ ข้าก็เกิดอยากกินของว่างชนิดหนึ่งที่มีแต่ห้องครัวในเรือนท่านอาหญิงใหญ่ทำเป็นเท่านั้น!”
รอจนนางหวงไปแล้ว เว่ยฉางอิ๋งจึงขมวดคิ้วแน่นๆ เข้ามาอีกครั้ง พูดเสียงต่ำๆ กับตัวเองว่า “พี่สะใภ้ใหญ่นาง…. มิใช่ว่าเป็นคนฝั่งสมุหกลาโหมหลิวซือฮวายหรอกหรือ? เหตุใดครานี้จึงจงใจเอ่ยเตือนข้าเรื่องนี้? ดูคล้ายเป็นการมอบไมตรีให้ข้า แต่ความจริงแล้วกลับเป็นการช่วยเหลือหลิวซีสวิน นี่เท่ากับเป็นการช่วยเวยหย่วนโหวกระมัง?”
“แม้บิดาของพี่สะใภ้ใหญ่จะแอบสนับสนุนเวยหย่วนโหยว แต่เรื่องใหญ่ปานนี้ พี่สะใภ้ใหญ่จะให้คนนอกรู้ได้อย่างไร? ยิ่งไม่ต้องบอกว่านางเป็นคนมาบอกกับเองเลย!” เว่ยฉางอิ๋งรู้สึกเคลือบแคลงอยู่ในใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช่คนทำการเสี่ยงๆ และข้าเองก็มิได้รับปากว่าจะช่วยนางรักษาความลับเรื่องนี้ …นางทำเช่นนี้ เพื่อสิ่งใดกันแน่? หากจะบอกว่าเพื่อให้สัญญาความร่วมมือของข้าและหลิวรั่วอวี้มั่นคงขึ้นอีก ก็ไม่นาเป็นไปได้กระมัง? ต่อให้พี่สะใภ้ใหญ่เป็นห่วงหลิวรั่วอวี้อีกสักเท่าใด อย่างไรพวกนางก็เป็นเพียงพี่น้องกัน แล้วจะสามารถมองข้ามบิดามารดาและพี่น้องแท้ๆ ไปได้อย่างไร?”
นางใคร่ครวญอยู่เป็นนาน จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ใช่แล้ว สองสามปีมานี้ พี่สะใภ้ใหญ่คอยปกป้องหลิวรั่วอวี้มาโดยตลอด แม้ฉากหน้าจะยังคงทำดีพอผิวเผินกับจางเสากวงสามแม่ลูก แต่ความจริงแล้วพี่สะใภ้ใหญ่รังเกียจพวกเขานัก หลิวรั่ววั่วผู้นั้นอาจไม่รู้ แต่จางเสากวงและหลิวรั่วเหยียเป็นคนเฉียบแหลมเพียงนั้น พวกนางจะรู้ความคิดที่แท้จริงของพี่สะใภ้ใหญ่ได้หรือ? แม่ลูกสองคนนี้ล้วนมิใช่คนใจคอกว้างขวางอันใด จางเสากวงข่มเหงรังแกหลิวรั่วอวี้มาสิบกว่าปี ส่วนหลิวรั่วเหยียนั่น เพียงแค่ชาวบ้านไม่รู้ความมาเอ่ยขอหมั้นหมายกับน้องชายนางหนหนึ่ง นางก็สามารถบีบจงลี่จนตายได้ …หากหลิวรั่ววั่วสามารถมาเป็นประมุขตระกูลหลิวแทนที่หลิวซีสวินได้จิรง อย่างไรเสียพี่สะใภ้ใหญ่ก็ออกเรือนมาแล้ว กลับมิได้เป็นอันใด ทว่าบิดามารดาฝั่งบ้านตนจะไม่ถูกบีบคั้นเอาหรือ? กลับมิสู้ลองพนันดูสักตั้ง ด้วยการแอบวางเดิมพันข้างเวยหย่วนโหว!”
มาคิดอีกที ก็คิดได้ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ย่อมมิใช่เรื่องที่นางหลิวซึ่งเป็นบุตรสาวที่ออกเรือนไปแล้วคนหนึ่งจะตัดสินใจแทนบ้านฝั่งแม่ได้ …เช่นนั้นอาจเป็นได้ว่าเพราะเหตุผลนานา จึงทำให้ทั้งบิดาและพี่ชายของนางหลิวเลือกมาอยู่ข้างหลิวซือจิ้ง?
อย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของตระกูลหลิว เว่ยฉางอิ๋งใคร่ครวญอยู่สักพัก รู้สึกว่าเวลานี้นางหลิวยังหวังให้ตนเองช่วยเหลือหลิวรั่วอวี้ ตามหลักแล้วไม่น่ามาทำร้ายตน เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเวลานี้ก็ควรให้เว่ยเซิ่งเซียนปฏิเสธเรื่องที่หลิวซือฮวายจะมาสู่ขอแทนหลิวซีสวินเสียก่อนเป็นดี
_________________________