ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1028 อยากได้แหวนเฉียนคุนของข้าหรือ ตอนที่ 1029 คำสั่งนี้ข้าไม่ยอมรับ(1)
- Home
- ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
- ตอนที่ 1028 อยากได้แหวนเฉียนคุนของข้าหรือ ตอนที่ 1029 คำสั่งนี้ข้าไม่ยอมรับ(1)
ตอนที่ 1028 อยากได้แหวนเฉียนคุนของข้าหรือ / ตอนที่ 1029 คำสั่งนี้ข้าไม่ยอมรับ(1)
ตอนที่ 1028 อยากได้แหวนเฉียนคุนของข้าหรือ
“ไม่มีทางไปแล้วจริงๆ หรือเนี่ย?”
ในโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง ฉู่หลิวเยว่ และตู๋กูโม่เป่ากำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็หันไปมองทางค่ายกลเคลื่อนย้าย แล้วถามขึ้นอย่างไม่ยินยอม
“ไม่มี”
ตู๋กูโม่เป่าตอบขึ้นอย่างตัดบท
“พลังมิติภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่นั้นซับซ้อนอย่างมาก สำนักแต่ละสำนักก็อยู่ห่างไกลกัน หากคนธรรมดาต้องการจะเดินทาง ก็จะต้องพึ่งพาค่ายกลเคลื่อนย้าย ต่อให้มีอสูรศักดิ์สิทธิ์นำทาง ก็สามารถหลงทางได้อย่างง่ายดาย”
“แต่พวกเรายังมีเสวี่ยเสวี่ย…”
“มันไม่มีทางไปผิด แต่ว่า…ระยะทางมันไกลเกินไป พวกเราจะต้องเสียเวลาในการเดินทางไปมาก และที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อทำเช่นนี้มันจะดึงดูดปัญหาต่างๆ เข้ามา ในถิ่นทุรกันดาร มือสังหารอยู่รอบด้าน ไม่ควรจะประมาท…”
คำพูดที่เหลือไม่ต้องพูดต่อ ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถเข้าใจได้
นางลูบหัวคิ้วตัวเอง
“นั่นก็หมายความว่า พวกเราจำเป็นจะต้องใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายในการเดินทางเท่านั้น แต่ตอนนี้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของหน้าผาแดนสวรรค์ได้เสียไปแล้ว พวกเราควรจะทำอย่างใดดี? หากมันสามารถซ่อมได้เร็วก็จะดี หรือว่าพวกเราเปลี่ยนไปใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายอันอื่น…”
ค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับหนึ่งนั้นไม่สามารถใช้ได้ ถ้าเช่นนั้นก็ใช้ระดับสองระดับสามไปก่อนก็ได้นี่นา!
มันเป็นไปไม่ได้ที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายทุกระดับจะพังพร้อมกันหรอกมั้ง?
“มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า…มันค่อนข้างจะยุ่งยาก”
ฉู่หลิวเยว่จนปัญญา
“แต่ตอนนี้มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น หรือว่าเราจะรออยู่ที่นี่ เพื่อรอให้ค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับหนึ่งซ่อมสำเร็จ?”
แต่ใครจะรู้เล่าว่าจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไร!
ตู๋กูโม่เป่าครุ่นคิดไปอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้าตกลง
…
ฉู่หลิวเยว่สอบถามอยู่ครู่หนึ่งได้ความว่า ที่นี่มีค่ายกลระดับสองอยู่สองแห่ง และอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกัน
หลังจากปรึกษากันเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็เดินทางออกจากโรงน้ำชา
“ข้าจะสุ่มเลือกเอาสักอันหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นอันไหน ขอเพียงให้ไปถึงที่นั่นก็…”
ฉู่หลิวเยว่ยังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นก็สามารถสัมผัสปราณเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมา!
นางชะงักฝีเท้า แล้วเงยหน้าขึ้นมอง!
“ใครกัน!?”
ที่นี่คือตรอกซอยเล็กๆ ในตอนนี้ทางด้านหน้า และด้านหลังของนางไม่มีใคร มันเงียบสงบอย่างมาก
แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังคงระแวดระวัง จากนั้นก็รวบรวมพลังในร่างกายอย่างลับๆ
“สมแล้วที่เป็นคนที่สามารถบุกมาจากด้านนอกได้ การระวังตัวค่อนข้างดีเลย”
น้ำเสียงที่ลึกลับมาพร้อมกับคำพูดที่น่ากลัว
หลังจากนั้นตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า!
มือขนาดใหญ่ฉีกมิติด้วยพลังอันมหาศาล!
ชายคนหนึ่ง เดินออกมาจากตรงนั้น!
เหมือนว่าเขาจะมีอายุประมาณสามสิบปี รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม มีแผลเป็นลายตะขาบที่แก้มด้านซ้าย ดูแล้วช่างน่ากลัวอย่างมาก!
ฉู่หลิวเยว่หัวใจกระตุกวูบ!
ฝีมือของชายคนนี้ อยู่เหนือกว่านางมาก!
ชายคนนั้นกวาดสายตามองฉู่หลิวเยว่อย่างสำรวจ เมื่อเห็นแหวนเฉียนคุนที่นิ้วของนาง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย
“โอ้! เหมือนว่าเจ้าจะซ่อนของดีๆ เอาไว้ไม่น้อยเลยนะ!”
ระดับของแหวนเฉียนคุนวงนี้ไม่ต่ำต้อย มันจะต้องซ่อนสมบัติดีๆ เอาไว้มากมายแน่นอน!
แหวนที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ไม่มีวงไหนเทียบวงนี้ได้เลย!
เขายื่นมือออกมา จากนั้นก็พูดเสียงแข็งว่า
“วางใจเถอะ แค่เจ้าส่งแหวนเฉียนคุนวงนั้นออกมา ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
ใบหน้าของฉู่หลิวเยว่เย็นชาขึ้นเล็กน้อย
“เจ้าต้องการแหวนเฉียนคุนของข้าหรือ?”
ชายคนนั้นหัวเราะขึ้นมา แล้วลูบเคราของตัวเอง
“หากเจ้าต้องการมอบของสิ่งอื่น ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แม้ว่าใบหน้าของเจ้าจะธรรมดา แต่ว่าหุ่นนี้ยอดเยี่ยมไปเลย…”
ฉู่หลิวเยว่ไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา แล้วถามเสียงเบาว่า
“ถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ?”
ตอนที่ 1029 คำสั่งนี้ข้าไม่ยอมรับ(1)
“เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหน ที่เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถพูดคำว่า ‘ไม่’ ออกมาได้?”
ชายคนนั้นไม่เห็นฉู่หลิวเยว่อยู่ในสายตาเลย
เขายิ้มชั่วร้ายออกมา แววตามีการดูถูก และเหยียดหยาม
“เจ้าคือคนที่มาจากภายนอก มาที่อาณาจักรเสิ่นซวี่เป็นครั้งแรก กฎบางอย่างของที่นี่ เจ้าอาจจะยังไม่เข้าใจ เช่นนั้นข้าจะสอนเจ้าเอง! คนธรรมดาที่มาที่นี่ ล้วนต้องระมัดระวัง ไม่เช่นนั้น…เจ้าจะออกจากอาณาจักรเสิ่นซวี่ไม่ได้อีกต่อไป ไม่แน่ว่า…”
เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น สายตาหันไปมองทางตู๋กูโม่เป่า
“เด็กที่งดงามขนาดนี้ หากเป็นอันใดขึ้นมา เช่นนั้นก็น่าเสียดายแล้ว! ก็ว่าใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง
“เจ้ากำลังข่มขู่ข้าหรือ?”
“จะพูดว่าข่มขู่ได้อย่างใด ข้าพูดความจริงทั้งนั้น!”
หลู่อี้พูดขึ้น มุมปากก็ยกยิ้ม ปรากฏเป็นรอยยิ้มกดดัน
“ข้าไม่อยากเสียเวลา เจ้ามอบแหวนเฉียนคุนมาให้ข้าเสียดีๆ ซะ!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างกายของเขาก็ระเบิดพลังงานปราณออกมา!
รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่หดเล็กลง!
ผู้แข็งแกร่งครึ่งเทพ!
พลังระดับนี้ ไม่ว่าอย่างใดนางก็ไม่สามารถสู้ชนะ
แต่เมื่อเจ้าคิดดีๆ แล้วก็ใช่ นางเป็นคนที่มาจากด้านนอก เป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถก้าวเข้าสู่อาณาเขตเทพเซียนได้
ในพื้นที่แห่งนี้ คนที่อ่อนแอที่สุดคือคนระดับครึ่งเทพ
ถ้าหลู่อี้คนนี้ไม่มีความสามารถขนาดนั้น เขาคงไม่กล้าทำแบบนี้
พี่ใหญ่ท่านนี้ มีอันใดค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน
สีหน้าท่าทางของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที นางขยับยิ้มขึ้น
หลู่อี้ยิ้มเย็น
“นับว่าเจ้ายังรู้จักเอาตัวรอด! ส่งมันมา!”
ฉู่หลิวเยว่ทำท่าสัมผัสแหวนเฉียนคุน เหมือนว่านางต้องการจะถอดออกจริงๆ
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของนางก็ดูลำบากใจอย่างมาก
“ความจริงแล้ว…แหวนวงนี้สำคัญกับข้ามาก…ดังนั้น”
“จะชักช้ายืดยาดอยู่เหตุใด! หากเจ้าไม่ถอดออกมา ข้าจะถอดออกมาเอง!”
หลู่อี้พูดขึ้น ก่อนจะสาวเท้าก้าวใหญ่เดินเข้ามาหาฉู่หลิวเยว่!
“ดังนั้น…เจ้าอย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย!”
ในแววตาของฉู่หลิวเยว่มีประกายเย็นชาปรากฏขึ้น!
ในขณะเดียวกันนั้นเองดอกท้อที่อยู่ตรงข้อมือของนางก็บานสะพรั่ง
หลู่อี้ลางสังหรณ์บอกว่าแย่แล้ว! ทันใดนั้นเขาก็เรียกดาบยาวออกมา แล้วฟันไปโดยตรง!
“เจ้ากล้า…”
พรึ่บ!
เงาร่างของคนสองคนหายไปจากจุดเดิมแล้ว!
หลู่อี้กวาดตามองรอบข้างอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่เห็นใครเลยสักคน
ระลอกคลื่นแห่งความผันผวนกลางอากาศก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าเล่ห์นัก!”
หลู่อี้โมโหอย่างมาก
เผลอเพียงครู่เดียว คาดไม่ถึงว่าจะปล่อยนางหนีไปได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ความสงสัยก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
คนที่สามารถเคลื่อนย้ายตนเองได้ ต้องเป็นคนที่ก้าวข้ามผ่านอาณาจักรเซียนเทพแล้วถึงจะทำได้
คนที่เป็นแค่ครึ่งเทพแบบเขา ทำได้แค่มองเท่านั้น
แต่ว่าผู้หญิงคนนั้น เหมือนไม่ได้ใช้พลังเคลื่อนย้ายของตนเอง…
หรือว่านางจะใช้อาวุธโบราณ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น
อาวุธโบราณที่สามารถใช้ในการเคลื่อนย้ายได้นั้น หายากอย่างยิ่ง
หากดูจากคนที่อยู่ในหน้าผาแดนสวรรค์ คนที่มีสมบัติระดับนี้ เกรงว่าจะมีไม่ถึงสามคน!
หากสามารถแย่งมาได้ละก็…
แต่ว่ามาดูไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นน่าจะมีสมบัติมากมายเลยทีเดียว…
หลู่อี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในใจก็รู้สึกลังเลขึ้นมา
นางสามารถมีของดีๆ ได้มากมายขนาดนี้ เช่นนั้นฐานะของนาง ก็น่าจะไม่ธรรมดา
เมื่อคิดไปแล้ว หลู่อี้ก็คิดว่ายกเลิกแผนการดีกว่า
…แต่ว่าคนที่มาจากด้านนอกพรมแดน จะสามารถมีฐานะอันใดได้!?
น่าจะโชคดีเสียมากกว่า และไม่รู้ว่านางไปเอามาจากที่ไหน
ผู้หญิงคนนั้นสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ ใช้เพียงแค่ความสามารถของเขา หากต้องการจะจับนางกลับมา เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากแล้ว
แต่ว่าหน้าผาแดนสวรรค์มีสายตาสอดส่องมากมาย ตราบใดที่เขาสั่งการลงไป ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหานางไม่เจอ!
ในแววตาของเขามีประกายมืดครึ้ม และรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
…
“ที่ประตูเมืองนี้ตอนแรก คนพวกนั้นก็คงจะพูดเรื่องนี้อยู่สินะ?”
หลังจากหนีมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ฉู่หลิวเยว่หาที่ซ่อน เมื่อมั่นใจว่านางสามารถหนีคนคนนั้นได้แล้ว นางก็ถอนหายใจออกมา
ตู๋กูโม่เป่าชำเลืองสายตามองไปที่ข้อมือของฉู่หลิวเยว่อย่างไม่รู้ตัว เขาอยากจะดึงออกมาโดยตรง แต่เมื่อนึกถึงตอนที่นางกำลังหนี นางได้จับมือของเขาเอาไว้อย่างไม่ลังเล ดังนั้นเขาจึงรู้สึกลังเลเล็กน้อยที่จะไปดูแบบนั้น
เขาลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะทำเป็นไม่เคยรู้มาก่อน
“พี่เป่า เป็นอย่างใดบ้าง? พี่เป่า?”
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนเรียกสองครั้ง ถึงจะสามารถดึงความสนใจของตู๋กูโม่เป่าได้
“หือ? อื้อ”
ตู๋กูโม่เป่าตอบรับหนึ่งเสียง เขามีท่าทางหมดความอดทน แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวไม่หยุด
“คนในอาณาจักรเสิ่นซวี่ มักจะดูถูก และรังเกียจคนที่มาจากนอกพรมแดนอยู่เสมอ พวกเขาพยายามหาวิธีกลั่นแกล้ง ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป ตอนนี้พวกเขากำลังเล็งเจ้าแล้ว และเจ้าก็เป็นเพียงแค่ลูกแกะรอการถูกเชือดเท่านั้น”
เพียงแต่คนเหล่านั้นไม่มีทางคิดถึงว่า ฉู่หลิวเยว่…เป็นแท่งเหล็กชิ้นหนึ่ง
“อย่างนี้นี่เอง”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า จากนั้นนางเพิ่งจะรู้สึกได้ว่านางยังคงจับมือเล็กๆ ของตู๋กูโม่เป่าอยู่ จึงรีบปล่อยมือ แล้วหัวเราะเบาๆ
“เมื่อครู่เป็นสถานการณ์พิเศษ พี่เป่าคงไม่รังเกียจใช่หรือไม่?”
มือของตู๋กูโม่เป่าถูกปล่อยออกทันที ในตอนนั้นเขารู้สึกว่างเปล่า เหมือนว่ามีอันใดบางอย่างขาดหายไป
เมื่อได้ยินฉู่หลิวเยว่ถามเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น แล้วตอบรับว่า “อื้ม” เสียงเรียบ
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สังเกตถึงอารมณ์ของเขาเลยแม้แต่น้อย สองมือกอดหน้าอก ยืนพิงกำแพง แล้วครุ่นคิดกับตัวเอง
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราก็มีปัญหานิดหน่อยแล้ว…”
อีกฝ่ายกล้าลงมือในเวลากลางวันแสกๆ ที่นี่จะต้องมีเบื้องหลังอันใดบางอย่างแน่นอน
หากเขามุ่งมั่นจะจัดการนางให้ได้…
นางก็ไม่แน่ใจว่านางจะสามารถชนะได้
“หลู่อี้นับว่ามีตา แค่มองเพียงครู่เดียว เขาก็รู้แล้วว่าด้านในมีสมบัติ…”
ฉู่หลิวเยว่หมุนแหวนเฉียนคุนในมือของนางเบาๆ
ตอนแรกที่หรงซิวให้เยี่ยนชิงนำแหวนวงนี้มาส่ง นางก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าแหวนเฉียนคุนวงนี้เป็นสมบัติระดับสูง
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า มันจะสร้างความวุ่นวายให้ขนาดนี้
“อึก”
ตู๋กูโม่เป่าปิดปากเกือบจะพ่นน้ำลายออกมา เขาไม่ได้ปิดบังท่าทางดูถูกดูแคลนเลย
“หากเขามีตาแล้วละก็ เขาคงไม่…”
คงไม่เข้ามาแย่งแหวนเฉียนคุนแบบนี้
“ไม่เหตุใดหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอันใด”
ตู๋กูโม่เป่าเงยหน้าขึ้นมองฟ้า
“พวกเราไปดูที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับสองกันก่อนเถอะ”
…
ในเมืองหน้าผาแดนสวรรค์ ค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับสองจะมีอยู่สองแห่งอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้
ทั้งสองคนเดินทางไปทิศใต้ของเมือง
ในตำแหน่งไกลๆ พวกเขาทั้งสองสามารถมองเห็นค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ได้แล้ว
บริเวณโดยรอบค่ายกลนั้น มีทหารอารักขาอยู่
บนเสื้อผ้าของพวกเขา ก็มีสัญลักษณ์ของหน้าผาแดนสวรรค์อยู่เช่นกัน
ในใจของฉู่หลิวเยว่พูดอันใดไม่ออก
แม้ว่าจะเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายระดับสอง แต่ทั้งขนาดและพลังงาน กลับมีขนาดใหญ่กว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ใหญ่ที่สุดของราชวงศ์เทียนลิ่ง
หรือจะต้องบอกว่า ค่ายกลทั้งสองนั้นไม่สามารถเทียบกันได้เลย
ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว แต่ก็ยังมีคนเดินผ่านไปผ่านมาตรงบริเวณค่ายกลเคลื่อนย้าย
ตอนที่ทุกคนเข้าไปอยู่ในค่ายกลนั้น พวกเขาล้วนเลือกไปทางซ้ายก่อน
ดูเหมือนว่าจะต้องเก็บเงิน
ฉู่หลิวเยว่เองก็พาตู๋กูโม่เป่าเดินเข้าไป แล้วพูดอย่างเกรงใจว่า
“สวัสดีเจ้าค่ะ ข้าต้องการขึ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อไปตำแหน่งที่ใกล้เมืองที่สุด”
ชายคนนั้นเหลือบสายตาขึ้นมามองนาง ตอนที่เห็นตู๋กูโม่เป่ายืนอยู่ด้านข้าง เขาก็หรี่ตามองแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ข้าไม่รับเจ้า!”