ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1232 ชื่อของนาง
ตอนที่ 1232 ชื่อของนาง
ยาอายุวัฒนะสีน้ำตาลแดงเม็ดหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในกล่องหยกใบนั้น
บนตัวยามีลวดลายเก้าสายที่เปี่ยมด้วยสีสันสดใสฉูดฉาดเชื่อมต่อเข้าหากันและกัน
มีเพียงลวดลายเส้นสุดท้ายเท่านั้นที่ดูจะจางลงเล็กน้อย
นี่เป็นยาอายุวัฒนะระดับเก้าขั้นกลางของจริง!
ผู้อาวุโสวั่นเจิงผงกศีรษะ เอ่ยพลางแกมหัวเราะว่า
“ถังรุ่ย เจ้าผ่านการบุกทะลวงมาได้ระยะหนึ่งแล้วกระมัง ถือว่าซ่อนไว้ได้แนบเนียนมากทีเดียว!”
ดูจากคุณภาพของยาอายุวัฒนะเม็ดนี้แล้ว ย่อมหาใช่เป็นการปรุงยาครั้งแรกไม่
ถังรุ่ยฉีกยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง ดวงหน้าที่กลมราวกับก้อนแป้งก็ยิ่งดูกลมอิ่มขึ้นไปอีก
“ผู้อาวุโสวั่นเจิงตาดีนักขอรับ ปิดบังอันใดท่านมิได้เลยจริงๆ”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงพยักหน้ารับ ก่อนจะระงับความตื่นเต้นในใจตน แล้วเปิดกล่องหยกของฉู่หลิวเยว่ออก
บนเม็ดยาอายุวัฒนะสีแดงสว่าง ลวดลายเก้าสายปรากฏให้เห็นเด่นชัดอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ!
ผู้อาวุโสวั่นเจิงจดจ้องไปยังลวดลายสายที่เก้าก่อนจะพรูลมหายใจออกมา…ไม่นึกเลยว่าเม็ดนี้เองก็เป็นยาอายุวัฒนะระดับเก้าขั้นกลางเช่นกัน!
แม้ว่าในใจจะพอคาดเดาถึงผลลัพธ์ข้อนี้ไว้อยู่บ้าง ทว่าเมื่อได้เห็นของจริง ผู้อาวุโสวั่นเจิงก็ยังคงรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ดี
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ฉู่เยว่ที่เพิ่งมาอยู่ภายใต้ความดูแลของเขาก็ปรุงยาอายุวัฒนะระดับเก้าออกมาได้แล้ว
มาถึงตอนนี้ เจ้าเด็กนี่กลับสามารถปรุงยาอายุวัฒนะระดับเก้าขั้นกลางได้สำเร็จแล้วอย่างนั้นหรือ!?
ในอกของเขาราวกับมีแม่น้ำใหญ่หลากเชี่ยวที่กำลังจะพวยพุ่งออกมาในชั่วพริบตาข้างหน้า!
ต่อให้เขาจะคุ้นชินกับเหตุการณ์ประหลาดทุกรูปแบบแล้วก็ตาม ทว่ามาตอนนี้เขาเองก็ยังคงยากที่จะระงับใจที่ตื่นเต้นแลระริกระรี้ของตนได้!
ถังรุ่ยที่อยู่อีกฟากหนึ่งก็เห็นยาอายุวัฒนะภายในกล่องหยกแล้วเช่นกัน เขาตกตะลึงไปชั่วครู่ก่อนจะฉีกยิ้มเหยเก
“ศิษย์น้องฉู่เยว่ช่างมีพรสวรรค์ล้ำเลิศแลพลังที่กล้าแกร่งโดยแท้ ได้ยินมาว่าตอนที่เจ้าเข้าสำนักมาใหม่ๆ ยังเป็นเพียงเซียนหมอระดับแปดเท่านั้น นี่ผ่านมาแค่สองเดือน ไม่นึกเลยว่าจะสามารถปรุงยาอายุวัฒนะระดับเก้าขั้นกลางออกมาได้…”
เขาถอนหายใจยาวออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะประสานมือมาทางฉู่หลิวเยว่
“ข้าล่ะอายนักที่ความสามารถต่ำต้อยมิอาจเทียบชั้นเจ้าได้!”
คำพูดของถังรุ่ยดังไปทั่ว ณ ลานกว้าง
เสียงบรรดาผู้คนโหวกเหวกโวยวายพลันเงียบกริบลงในชั่วพริบตา
แทบทุกคนล้วนตะลึงพรึงเพริดอยู่กับที่ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ไปพักใหญ่
ถังรุ่ยว่าอย่างใดนะ!?
ฉู่เยว่เองก็ปรุงยาอายุวัฒนะระดับเก้าขั้นกลางออกมาเช่นกันอย่างนั้นหรือ!?
นี่จะเป็นไปได้อย่างใดกัน!
กระทั่งสูตรใบสั่งยาตัวฉู่เยว่ก็เปลี่ยนมันทั้งหมด แล้วจะปรุงยาบำรุงปราณตั้งต้นออกมาอย่างราบรื่นได้อย่างใด แล้วยัง…ยกระดับของยาให้สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับอีก!?
ฉู่หลิวเยว่พลันหัวเราะ
“ศิษย์พี่ถังรุ่ยกล่าวชมกันเกินไปแล้วขอรับ ข้าเพียงแค่โชคดีนิดหน่อยเสียเท่านั้น”
ถังรุ่ยกลับส่ายศีรษะพลางหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
โชคดีหรือ?
สำหรับการปรุงยาของเซียนหมอแล้ว โชคเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุดก็ว่าได้
จนถึงบัดนี้เขายังไม่เคยได้ยินว่ามีคนพึ่งเพียงโชคจนสามารถปรุงยาอายุวัฒนะระดับเก้าได้มาก่อน
สามารถทำมาถึงขั้นนี้ได้ก็พิสูจน์แล้วว่าฉู่เยว่มีทักษะและความสามารถอย่างแท้จริง!
“ศิษย์น้องถ่อมตัวเกินไปแล้ว”
ถังรุ่ยถอนหายใจพลางกล่าว
ก่อนนี้เขาเองก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับฉู่เยว่มาไม่น้อย ถึงขั้นที่คิดว่าเดิมทีฉู่เยว่หาได้มีความสามารถอันใดไม่ เพียงบังเอิญโชคช่วยถึงได้รับโอกาสดีๆ มากมายมาจนถึงทุกวันนี้เหมือนใครหลายคนคิด
ทว่าหลังจากการประลองในวันนี้แล้ว ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจว่า…ข่าวลือเหล่านั้นล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น!
มาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่แปลก ก็ผู้อาวุโสวั่นเจิงกับศิษย์พี่หรงซิวน่ะเป็นคนประเภทไหนกันเล่า?
หากถูกพวกเขาจับตามองได้ย่อมต้องไม่ใช่คนธรรมดาสามัญอยู่แล้ว
ผู้อาวุโสวั่นเจิงสูดลมหายใจเข้าลึกพลางมองมาทางฉู่หลิวเยว่ ในดวงตาเปิดเปลือยถึงประกายชื่นชมอย่างยิ่งและความตระหนกระคนดีใจอย่างที่มิเคยปรากฏมาก่อน
“ระดับเก้าขั้นกลางเทียว”
เขายื่นมือออกไปตบบ่าของฉู่หลิวเยว่
“ฉู่เยว่ เจ้า…ช่างเก่งกาจนัก!”
เดิมทีเขาแค่ต้องการให้คนเหล่านั้นได้ยลถึงลูกศิษย์ของตนว่าโดดเด่นเหนือผู้อื่นมากขนาดไหน แต่กลับมิได้คาดคิดว่าผลงานของฉู่เยว่จะน่าอัศจรรย์ใจถึงเพียงนี้!
นี่ดีเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้หลายเท่าเสียด้วยซ้ำ!
เขาพินิจดูยาอายุวัฒนะทั้งสองเม็ดนั้นอีกรอบหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าพลันยุ่งเหยิงขึ้นมาอยู่บ้าง
“นี่…ยาอายุวัฒนะที่พวกเจ้าทั้งสองปรุงออกมามีระดับเท่ากัน อีกทั้งคุณภาพของตัวยาก็สูสีกันมาก การประลองครั้งนี้…ตัดสินได้ว่าเสมอกัน!”
บรรดาฝูงชนพลันส่งเสียงอึกทึกครึกโครมกันยกใหญ่!
เสมอกันอย่างนั้นหรือ!?
เช่นนั้นก็พิสูจน์แล้วไม่ใช่หรือว่าฉู่เยว่เองก็มีความสามารถพอที่จะขึ้นสู่อันดับรายชื่อของงานประลอง
ชิงอวิ๋นได้จริงๆ?
แต่ถังรุ่ยอยู่อันดับที่หนึ่งร้อย ระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เลื่อนอันดับขึ้นไป
แน่นอนว่า หากยึดตามความสามารถที่คนทั้งสองแสดงออกมาในขณะนี้ล้วนแล้วแต่สามารถเลื่อนไปยังอันดับแนวหน้าได้แล้วด้วยซ้ำ
ติดอยู่เพียงแค่ว่า นั่นจำเป็นต้องเดินหน้าท้าประลองกันต่อไป
ถังรุ่ยพลันประสานมือไปทางฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นพลางกล่าวว่า
“อันดับงานประลองชิงอวิ๋นนี้ เดิมสมควรเป็นศิษย์น้องฉู่เยว่ที่ได้เลื่อนอันดับขึ้นไป แม้ว่าข้ากับศิษย์น้องฉู่เยว่จะปรุงยาอายุวัฒนะออกมาได้ในระดับเดียวกัน แต่ศิษย์น้องฉู่เยว่เพิ่งจะอายุได้สิบหกเท่านั้น เพียงข้อนี้ข้อเดียวก็ชนะข้าไปได้อย่างขาดลอยแล้ว”
สีหน้าของบรรดาฝูงชนล้วนแตกต่างกันออกไป ทว่าไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากขัดเลยแม้แต่คนเดียว
เพราะว่าในกฎของอันดับรายชื่องานประลองชิงอวิ๋น เดิมทีแล้วก็มีข้อนี้รวมอยู่ด้วย
…หากว่าคนทั้งสองมีทักษะและความสามารถระดับเดียวกัน เช่นนั้นผู้ที่มีอายุน้อยกว่าจะได้อยู่อันดับที่สูงกว่า
การที่ฉู่เยว่ติดอันดับรายชื่องานประลองชิงอวิ๋นได้ย่อมต้องได้รับความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม!
ณ ขณะนั้น ผู้อาวุโสวั่นเจิงมิได้ใส่ใจแล้วว่าฉู่หลิวเยว่จะสามารถเลื่อนอันดับขึ้นสู่รายชื่อของงานประลองชิงอวิ๋นได้หรือไม่
อย่างใดเสียทุกอย่างที่ปรากฏให้เห็นต่อหน้าก็พิสูจน์ได้แล้วถึงความโดดเด่นเหนือใครของเขา!
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว!
เขาลอบคิดอยู่ในใจว่าจริงๆ แล้วตนไม่น่าใช้การได้เลื่อนขึ้นสู่อันดับรายชื่องานประลองชิงอวิ๋นมาเป็นเป้าหมายในการทดสอบฉู่เยว่เลยตั้งแต่แรก
ด้วยความฉลาดเฉลียวของเด็กคนนี้ ควรจะได้พุ่งขึ้นสู่อันดับที่ดีกว่านี้เสียด้วยซ้ำ!
ผู้อาวุโสวั่นเจิงมองถังรุ่ยรอบหนึ่ง ในนัยน์ตาเองก็แฝงแววประกายชื่นชมเช่นกัน
“ถังรุ่ย แม้หลังการแข่งขันรอบนี้ เจ้าจะหลุดจากอันดับงานประลองชิงอวิ๋น แต่ว่าด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้ ย่อมสามารถท้าประลองผู้ที่มีอันดับสูงกว่าได้อย่างแน่นอน”
ถังรุ่ยผงกศีรษะรับด้วยความนอบน้อม
“ศิษย์เข้าใจแล้วขอรับ”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงหันกลับไปมองฉู่หลิวเยว่อีกครา ก่อนจะหัวเราะแล้วเชิดคางขึ้น
“เจ้าหนู ไปสิ! เอามือของเจ้าทาบลงไปบนประกาศของงานประลองชิงอวิ๋นเสีย จากนั้นก็ถ่ายทอดพลังปราณดั้งเดิมลงไปส่วนหนึ่ง ชื่อของเจ้าก็จะปรากฏออกมาเอง!”
นิ้วของฉู่หลิวเยว่ขดเข้าหากัน
งานประลองชิงอวิ๋นหรือ…
“เป็นอันใดไป?”
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่นิ่งไปพักหนึ่ง ผู้อาวุโสวั่นเจิงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา
ฉู่หลิวเยว่ส่ายศีรษะ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจสาวเท้าเดินตรงไปยังอันดับรายชื่อของเซียนหมอ
…
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนต่างพากันจับจ้องมาที่ตัวนาง
ทั้งประกายชื่นชม อิจฉาริษยา ยกย่องนับถือ หรือจะประหลาดใจก็ดี…
ฉู่หลิวเยว่ล้วนเมินเฉยพวกมันไปโดยสิ้นเชิง
นางหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าอันดับรายชื่อเซียนหมอที่ห่างกันเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
เพียงแค่ยื่นมือออกไป ทำให้ชื่อของตัวเองปรากฏอยู่บนประกาศ ก็ถือว่าติดอันดับงานประลองชิงอวิ๋นแล้ว!
แต่ว่า…
ชื่อของนางจะปรากฏขึ้นมาจริงๆ หรือ?
ฉู่หลิวเยว่สะกดกลั้นลมหายใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาในท้ายที่สุด…