ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1247 เร็วๆ
ตอนที่ 1247 เร็วๆ
ในเพลานี้ ทั่วทั้งยอดเขาหมื่นเมรัยถูกปกคลุมไปด้วยทัณฑ์สวรรค์สีเงินพร่างพราว
จนยากจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงกัมปนาทและอันเจิดจรัสเหล่านั้น
และเห็นเพียงเงาร่างของซั่งอวี้เซินที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างคลุมเครือ
ส่วนจุดที่เหล่าทัณฑ์สวรรค์ห้ำหั่นลงไปนั้น ก็เห็นเพียงเงาร่างสูงโปร่งของใครบางคนจางๆ
เมื่อเห็นภาพนี้ หรงซิวที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็หยุดฝีเท้าลง
เดิมทีเขาวางแผนจะเข้าไปช่วย แต่พอเห็นว่ามีคนชิงลงมือก่อนแล้ว จึงเลือกที่จะคอยมองสถานการณ์อยู่ห่างๆ แทน
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะราบรื่นดี…
แต่แล้วภาพที่ว่า “ราบรื่น” นั้นกลับพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
นั่นเพราะ…มีตัวละครใหม่โผล่เข้ามากลางคัน!
ผู้อาวุโสโอวหยางที่เดิมทีได้ยินว่าซั่งอวี้เซินกลับมา และวางแผนหลอมอาวุธบนเขาหมื่นเมรัยคืนนี้ ก็นึกอยากมาดูอีกฝ่ายหลอมอาวุธ
แต่ทันทีที่ก้าวเข้ามาในค่ายกล เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติ
คลื่นความผันผวนนี้…ช่างน่าสะพรึ่งกลัวยิ่งนัก!
เขารีบเงยหน้ามองหาต้นตอทันที ก่อนจะอึ้งกับภาพตรงหน้า
ไม่ว่าจะทัณฑ์สวรรค์ที่กระหน่ำลงมาไม่หยุด แต่มิได้พุ่งเป้าไปยังซั่งอวี้เซิน
หรือซั่งอวี้เซินที่ลอยตัวอยู่บนอากาศ แต่กลับเรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมาเรื่อยๆ…
นี่มันเกิดอันใดขึ้น!?
ผู้อาวุโสโอวหยางก้าวไปข้างหน้าโดยไม่พูดอันใดสักคำ
แต่ทันใดนั้น ก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าแล้วหยุดเขาไว้
“ผู้อาวุโสโอวหยาง โปรดหยุดก่อนขอรับ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูคุ้นหู ทำเอาผู้อาวุโสโอวหยางสะดุ้งโหยง และหลังจากเพ่งมองคนตรงหน้าให้ดีๆ แล้ว เขาก็ยิ่งตกอกตกใจจนตาถลน
“หรงซิวหรือ!? ไยเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่!”
หรงซิวยิ้มบาง
“ข้าเองก็เพิ่งมาถึง และกำลังรอใครบางคนอยู่ขอรับ”
ผู้อาวุโสโอวหยางเบนสายตามองไปยังยอดเขาอย่างสงสัย
“เจ้ากำลังรอใครหรือ?”
ต่อให้โกหกเขาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็จะรู้อยู่ดี ดังนั้นหรงซิวบอกตามความจริง
“ฉู่เยว่ขอรับ”
“ฉู่เยว่?!”
ผู้อาวุโสโอวหยางตากระตุกอย่างแรง
นามนี้ช่างคุ้นหูยิ่งนัก!
เขาคือเด็กที่เคยก่อเรื่องบนนี้เมื่อคราก่อนมิใช่หรือ!?
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ใบหน้าที่ดูตกใจอยู่แล้วยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะชี้นิ้วไปยังร่างเงาขมุกขมัวที่อยู่ท่ามกลางเสียงกัมปนาทบนน้องนภาด้วยความไม่เชื่อ
“เจ้าจะบอกว่า…นั่นคือฉู่เยว่หรือ!?”
หรงซิวพยักหน้าและอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ยามนี้เขากำลังยุ่ง และต้องใช้สมาธิอย่างมาก ผู้อาวุโสโอวหยางโปรดเห็นใจ แล้วค่อยกลับมาไถ่ถามใหม่ หลังเสร็จกิจเถิดขอรับ”
ผู้อาวุโสโอวหยาง “…”
ป่านนี้ยังมีกิจอันใดอีก?
บนเขาหมื่นเมรัยที่เต็มไปด้วยทัณฑ์สวรรค์มากมายเช่นนี้ แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ว่าเด็กคนนั้นกำลังทำอันใด!?
“จะ จะ เจ้า…แล้วขะ ขะ เขา…นั่นเขาคิดจะทำอันใดอีก!”
ผู้อาวุโสโอวหยางตื่นตระหนกจนพูดติดอ่าง
“จริงสิ! ยังมีไอ้แก่ซั่งอวี้เซินอีก! นั่นเขาคิดจะทำอันใด?”
แค่ฉู่เยว่เข้ามาที่นี่โดยพลการก็แย่แล้ว และนี่ยังดูเหมือนว่าซั่วอวี้เซินกำลังช่วยเขาอีก!?
ผู้อาวุโสโอวหยางสับสนงุนงงเป็นอย่างมาก
“เอาไว้ท่านถามตอนพวกเขาลงมาก็จะรู้เองขอรับ”
หรงซิวตอบพลางระบายยิ้ม
ผู้อาวุโสโอวหยางเองก็ช่างหลอมอาวุธเช่นกัน เขาจึงเข้าใจดีว่ายามนี้คนนอกไม่ควรเข้าไปวุ่นวาย
มิเช่นนั้นหากเกิดอันใดขึ้น ก็ยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไขได้
ดังนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะตะขิดตะขวงใจกับภาพตรงหน้าเพียงใด แต่เขาก็ทำได้แค่บ่นพลางรอไปพลาง
“เมื่อเจ้าเด็กนี่ก็ถูกลงโทษไปคราหนึ่ง เพราะฝ่าผืนกฎแล้วอยู่บนเขาหมื่นเมรัยเกินเวลา ตามหลักแล้วภายในเวลาสั้นๆ เช่นนี้ เขาไม่น่าจะทำผิดอีก แต่วันนี้เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว…สรุปเป็นเพราะเขาที่ดื้อรั้นไม่ฟังความ หรือเป็นเพราะเจ้าให้ท้ายกันแน่?”
ผู้อาวุโสโอวหยางมองดูหรงซิวอย่างสงสัย
นัยน์ตาอันลึกล้ำของหรงซิวทอแสงวาววับ ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ขึ้นเล็กน้อย
“ไม่มีสิ่งใดรอดสายตาของผู้อาวุโสโอวหยางได้จริงๆ”
“เหอะ! เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!”
ผู้อาวุโสโอวหยางสะบัดแขนเสื้อ
“ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกให้เจ้าดูแลฉู่เยว่ให้ดี ข้าเองก็ไม่ติดใจอันใด แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะทำแบบนี้!”
หากเป็นคนอื่น หรงซิวคงไม่มีวันพาเขามาที่เขาหมื่นเมรัยยามนี้แน่นอน!
และพอเห็นว่าหรงซิวเอาแต่ยิ้มไม่พูดไม่จา ผู้อาวุโสโอวหยางก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงใส่เขา
เขารู้กฎและเคยฝ่าฝืนแล้ว แต่เขาก็ยังทำอีก!
ถ้าครั้งนี้ไม่สอนบทเรียนให้เด็กนี่หลาบจำ หลังจากนี้เขากลายเป็นพวกนอกรีตไร้ศีลธรรมแน่ๆ!
ส่วนหรงซิวก็แอบคิดในใจว่า หากโทษยังคงเป็นการถูกขังบนเขาเฝิงหมิน นางคงดีใจจนเนื้อเต้นแน่
แต่ก็ยังต้องวางมาดต่อไป
เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วยแล้วตอบว่า
“ถูกอย่างที่ผู้อาวุโสโอวหยางกล่าวเลยขอรับ”
หากแต่เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยและท่าทีไม่สะทกสะท้านของเขา ผู้อาวุโสโอวหยางก็พลันรู้สึกกลัดกลุ้มในใจ
ทั้งๆ ที่เป็นเพียงชายหนุ่มอายุน้อย แต่กลับมีระบบความคิดและจิตใจที่ลึกล้ำมาก แม้แต่ชายวัยเดียวกันกับเขา ก็มิอาจเข้าใจได้ว่าหรงซิวกำลังคิดอันใดอยู่
เช่นเดียวกับตอนนี้
ชัดเจนว่าหรงซิวเข้าข้างฉู่เยว่ เขาไม่เพียงพาฉู่เยว่เข้ามาในยามต้องห้าม แต่ยังปล่อยให้อีกฝ่ายขึ้นไปบนยอดเขาด้วย!
และตาน้ำพุเองก็อยู่ตรงนั้น!
แต่การที่หรงซิวทำเช่นนี้ มิสามารถทำให้คนอื่นๆ โกรธเกลียดเขาได้
…นั่นเพราะเขาคือหรงซิว
ผู้อาวุโสโอวหยางหันไปมองเขาแวบหนึ่ง
“การที่เจ้าปกป้องฉู่เยว่ เดิมทีก็ไม่ผิดอันใด แต่เจ้าช่วยอธิบายให้ข้าฟังหน่อย ว่าเจ้าหนูนั่นขึ้นไปทำอันใดบนนั้น?”
หรงซิวชะงัก
“ตอนนี้เขากำลังครอบครองบางอย่าง ที่เป็นดั่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่หายไปในบุหรงมรกต”
ผู้อาวุโสโอวหยางตกใจ พลันเข้าใจในทันที
“วิญญาณศาสตราหรือ!?”
มันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา และเขาเองก็เคยได้ยินเรื่องของมันมาแล้ว
แต่ตอนนั้นเขาแค่รู้สึกตกใจจนจำคลื่นความผันผวนของมันไม่ได้
ทว่าเมื่อหรงซิวบอกใบ้มา เขาก็เข้าใจทันที
ฉู่เยว่กำลังหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั่น ให้กลายเป็นวิญญาณศาสตรา!
ไม่แปลกใจเลย!
นั่นเพราะด้วยพลังของนางคนเดียว มิสามารถอันเชิญทัณฑ์สวรรค์ได้ นางจึงรุดหน้ามาที่นี่สินะ!?
แต่ซั่งอวี้เซินเองก็บ้าที่หันไปช่วยฉู่เยว่อย่างเอาเป็นเอาตายเช่นนั้น!
“นี่เขายังไม่ตัดใจจากเจ้าสิ่งนั้นอีกหรือ!”
ผู้อาวุโสโอวหยางกลอกตา
ต่อให้ใช้หัวแม่โป้งคิดยังรู้เลยว่าซั่งอวี้เซินยึดติดกับอาวุธศักดิ์สิทธ์นั่นแค่ไหน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
เกิดเสียงกัมปนาทดังกึกก้อง!
มันคือเสียงของทัณฑ์สวรรค์!
ทั่วทั้งภูเขาหมื่นเมรัยสว่างวาบประหนึ่งยามกลางวัน!
ขณะที่วิถีเหล่านั้นฟาดฟันลงมาไม่หยุด ลายเส้นสีทองบนกระบี่ชื่อเซียว ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนวิถีเหล่านั้น
มือเรียวทั้งสองข้างกำด้ามกระบี่ไว้แน่น พลันกลั้นหายใจ ดวงตาทั้งสองข้างจดจ่ออยู่ฝักของกระบี่
ในที่สุด!
ลายเส้นสุดท้ายก็สว่างขึ้น!
ฟู่!
ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่ดวงตาของหัวมังกรบนด้ามกระบี่!
ดวงหนึ่งเป็นสีทอง อีกดวงเป็นสีฟ้า!
ราวกับมังกรที่หลับไหลมานาน ในที่สุดมันก็ตื่นขึ้นมา!
โฮก…
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้น! ประหนึ่งเขย่าโลกได้ทั้งใบ!
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันแน่น แล้วดึงด้ามกระบี่ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี!
ชิ้ง!
ในที่สุด ตัวกระบี่ก็ค่อยๆ แยกออกจากฝัก!
ทันใดนั้น ทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมดบนท้องฟ้า ก็กระหน่ำลงมาพร้อมกัน!
ซั่งอวี้เซินใจหล่นวูบ ทัณฑ์สวรรค์ไม่พอ!
เขาหันกลับมาและตะโกนบอกผู้อาวุโสโอวหยางทันที
“โอวหยาง! หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! รีบมาช่วยข้าเดี๋ยวนี้!”
ผู้อาวุโสโอวหยางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
นี่เจ้านั่น…ตะโกนเรียกเขาหรือ!?
ซั่งอวี้เซินกระแทกเสียงดังกว่าเดิม
“เร็วเข้า!”