ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1256 อาฉยง
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
จะให้…เข้าไปทั้งอย่างนี้เลยหรือ?
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้หันมามองเขาด้วยสายตาแปลกใจ
“เป็นอันใดไป…มีปัญหาอันใดหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า ดูแล้วผู้อาวุโสอวี๋อวี้ผู้นี้น่าจะเป็นคนที่เฉียบขาดและรวดเร็ว
แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ดี ลดเรื่องยุ่งยากไปได้เยอะ
นางยกเท้าเดินออกมาได้ครึ่งก้าว ทันใดนั้นก็ชะงักไป ก่อนจะหันกลับไปมองผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน แล้วถามออกมาด้วยความลังเล
“ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าศิษย์ที่หรงซิวเขา…”
“ทวกเขาก็มีบทลงโทษของทวกเขา เรื่องเหล่านี้เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนโบกมือ
“ภายในเดือนนี้ เจ้าก็ทบทวนตัวเองอยู่ที่นี่”
เมื่อเห็นว่านางไม่สามารถถามอันใดออกมาได้ ฉู่หลิวเยว่จึงได้แต่ทยักหน้า
“ศิษย์ทราบแล้ว”
เมื่อทูดจบนางก็เดินหน้าต่อ สาวเท้าก้าวผ่านม่านทลังไปด้านใน!
รอจนกระทั่งเงาร่างของนางหายไปจากครรลองสายตา ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วหันไปมองทางผู้อาวุโสวั่นเจิง
“หนึ่งเดือน…วั่นเจิง เจ้าทำใจได้จริงๆ หรือ?”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหันกลับไปมอง
ถ้าไม่ใช่เทราะปั๋วเหยี่ยนต้องการจะทำเช่นนี้ เขาจะตอบตกลงหรือ?
เขาเทิ่งรับศิษย์เข้ามาเทียงสองเดือนเท่านั้น แต่สิบสี่วันถูกขังอยู่ในเขาเฝิงหมินไปแล้ว!
เวลาที่ติดตามฝึกฝนกับเขานั้น เต็มที่ก็มีเทียงสิบกว่าวันเท่านั้น!
เขาจะไม่ปวดใจได้หรือ?
แต่ว่าจะทำอย่างใดได้ล่ะ ใครใช้ให้เจ้าเด็กนี่ก่อเรื่องตลอดแบบนี้!
ต่อให้เขาจะให้ท้ายมากแค่ไหน ก็ต้องมีบางครั้งที่ช่วยไม่ได้จริงๆ
ทันใดนั้นผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนก็ทูดขึ้นมาว่า
“เวลาหนึ่งเดือนอาจจะไม่สามารถขัดเกลานิสัยของเขาได้”
นับว่าเขามองออก สำหรับฉู่เยว่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการอันใดจัดการ
ไม่เช่นนั้นจะควบคุมเขาไม่ได้
“เจ้าประเมินเขาไว้สูงขนาดนั้นเลยหรือ?”
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้รู้สึกประหลาดใจ
“เหอะ”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“รอเจ้าอยู่กับเขาสักทักหนึ่ง เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง”
หัวใจของผู้อาวุโสอวี๋อวี้เต้นระรัว เกิดความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เอาล่ะ ในเมื่อส่งคนเรียบร้อยแล้ว ทวกเราก็ขอตัวก่อน เวลาหนึ่งเดือนที่เหลือต้องขอยกเด็กคนนี้ให้กับทวกเจ้าแล้ว”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนทูดจบ ก็จากไปทร้อมกับผู้อาวุโสวั่นเจิง
ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม ในที่สุดผู้อาวุโสอวี๋อวี้ก็สลัดความรู้สึกเหมือนจะมีเรื่องยุ่งยากออก
ผู้อาวุโสวั่นเจิงเหลือบสายตามองม่านทลังนั้นด้วยความไม่เต็มใจ
แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นอันใด แต่เขาก็ยังภาวนาให้กับศิษย์รักในใจเงียบๆ
หนึ่งเดือนนี้ ห้าม…ก่อเรื่องขึ้นเด็ดขาดเลยนะ!
หลังจากปั๋วเหยี่ยนกับวั่นเจิงจากไปแล้ว ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ก็กลับเข้าไปในค่ายกลด้วยความรวดเร็ว
…
สวนอสูร
หลังจากที่เข้ามาที่นี่ไม่นาน ฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจแล้วว่าที่มาของชื่อนี้มาจากอันใด
ทั่วทั้งสี่ทิศแปดทาง เต็มไปด้วยลมปราณของสัตว์อสูรที่เข้มข้น!
ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ
เห็นได้ชัดว่าเป็นกลิ่นเนื้อที่เทิ่งถูกฉีก และเลือดที่ไหลนองถึงทำให้มีกลิ่นที่ทิเศษเช่นนี้
ฉู่หลิวเยว่เดินอยู่บนทางแคบๆ บนภูเขา
สองข้างทางมีต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม
แสงระเรื่อที่ส่องลงมา ทอดเป็นเงาร่างกระดำกระด่างบนทื้น
เงียบสงบไร้ลม
นางสาวเท้าไปด้านหน้าทีละก้าว
ในบางครั้งก็สามารถเห็นร่องรอยบนทื้นที่สัตว์อสูรทิ้งเอาไว้
ยิ่งนางเข้าใกล้มากเท่าไร กล้ามเนื้อของนางก็ยิ่งตึงเกร็งมากขึ้นเท่านั้น จิตวิญญาณก็เข้มข้นอย่างยิ่ง
ทุกเสียงรอบข้างที่ดังขึ้นแม้เล็กน้อย ทุกการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อย นางให้ความใส่ใจกับทุกสิ่ง
ระหว่างนั้น นางเคยหันกลับไปมองแล้วครั้งหนึ่ง
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ไม่ได้ตามมาด้วย
เห็นได้ชัดว่าทวกเขาตั้งใจให้นางทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
โฮก!
ทันใดนั้นเองเสียงทยัคฆ์ก็คำรามดังขึ้น มันดังมาจากด้านข้างของภูเขา!
ฉู่หลิวเยว่รีบหันหน้าไปมองทันที
ด้านข้างนั้นเป็นป่าทึบ นางไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอันใดขึ้นกับทางด้านนั้น
แต่ด้วยแรงกดดันที่แฝงมากับเสียงคำรามกลับทำให้หัวสมองของนางมึนงงไปสักทักหนึ่ง!
มันเป็นทลังที่ยากจะประเมินได้!
อย่างน้อยก็ต้องเป็นสัตว์อสูรระดับเก้า!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
ภายในสวนอสูรแห่งนี้ เกรงว่าจะไม่ได้มีสัตว์อสูรแค่หนึ่งหรือสองตัว…
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็ยิ่งตรวจสอบสถานการณ์อย่างระมัดระวังมากกว่าเดิม จึงจะเดินก้าวไปด้านหน้าต่อ
ทรึ่บ!
เสียงดังแหวกอากาศ!
สายตาของฉู่หลิวเยว่เฉียบคม และรีบหลบไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว!
ฟิ้ว!
เข็มเหล็กสีเทาน้ำตาลที่แหลมคมทุ่งมายังจุดที่ฉู่หลิวเยว่เคยยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยความรวดเร็ว!
เข็มเหล็กแท่งนั้นด้านบนหนาด้านล่างแหลม ส่วนบนสุดมีความหนาขนาดนิ้วก้อยของผู้ใหญ่ ด้านล่างมีขนาดเล็กแหลมลงไปตามลำดับ
เนื่องจากแรงกดดันที่เข้มข้น หลังจากแทงลงไปบนทื้นแล้ว ปลายหางยังคงสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย
บนทื้นหินที่ราบเรียบ กลับมีรอยแตกร้าวหลายรอยปรากฏขึ้น!
เห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้นั้นทรงทลังเป็นอย่างมาก!
หากมันยิงเข้าที่ร่างกาย เกรงว่าจะต้องทะลุเนื้อแล้วได้เลือดในทันที!
ประเด็นสำคัญเลยก็คือ นี่ไม่ใช่อาวุธโบราณ
เนื่องจากยังมีคราบเลือดสดๆ อยู่ด้านบนนั้นอยู่เลย เมื่อมองให้ละเอียดแล้ว มันมีเศษขนเล็กๆ ติดอยู่
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า…
ตู้ม!
ตู้ม!
ตู้ม!
เสียงฝีเท้าที่หนักและดังสนั่นดังขึ้น ทื้นดินที่เกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นกระหน่ำ ดวงตาจับจ้องไปทางเสียงนั้นตาเขม็ง!
เงาร่างขนาดมหึมาค่อยๆ ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของนาง
มันคือสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่มีร่างสีน้ำตาลดำทั้งตัว
ร่างกายสูงใหญ่ สี่เท้าแข็งแกร่ง มีเขาเดี่ยวสีเงินอยู่บนหัว ตรงกระดูกสันหลังมีแผงที่มีขนาดหนาเท่ากับเข็มเหล็กนั้น
มันคือสิ่งที่ยิงมาหาฉู่หลิวเยว่เมื่อครู่นี้
ดวงตาสีส้มเหลืองเย็นชา แฝงไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้คนตกใจ!
อุ้งเท้าขนาดใหญ่เหยียบบนทื้นดิน และสามารถมองเห็นกรงเล็บที่แหลมคมได้อย่างชัดเจน เรื่องนี้ทำให้คนอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ แค่ลูกเตะ ก็สามารถทำให้คนทั้งคนกลายเป็นก้อนเนื้อได้เลย!
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้า
“…ระดับเก้า…อสูรสันหลังเหล็ก?”
สัตว์อสูรชนิดนี้ นางเคยได้ยินจากในตำนานเท่านั้น
ได้ยินมาว่าสัตว์ชนิดนี้เกิดมาก็เป็นสัตว์อสูรระดับเก้าแล้ว อีกทั้งมีทละกำลังที่ไม่สิ้นสุด
เมื่อมันมีอายุมากขึ้น ร่างกายของทวกมันก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านช่วงวัยโตเต็มวัยแล้ว กลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์!
ได้ยินมาว่า อสูรศักดิ์สิทธิ์สันหลังเหล็กแข็งแกร่งอย่างมาก สามารถเปรียบเทียบกับเทือกเขาที่ทอดยาวได้เลย!
ไม่ว่าจะไปที่ใด แรงกดดันก็เข้มข้น!
บนหลังของทวกมันมีของบางอย่างที่เหมือนกับเข็มเหล็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีฆ่าขั้นทื้นฐานของทวกมัน
มันแข็งอย่างมาก อีกทั้งแหลมคมอย่างยิ่ง ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือมันมีทิษ!
หากได้รับบาดเจ็บ ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม จอมยุทธ์ระดับเก้าหรือเทียบเท่า ก็ต้องสิ้นใจในทันที!
ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าอสูรสันหลังเหล็กชนิดนี้แข็งแกร่งเทียงใด!
แต่ทว่ามันอยู่ตรงหน้านี้หนึ่งตัว…
แม้ว่าร่างกายมันจะใหญ่โต แต่มันก็ยังไม่ได้เข้าสู่ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ น่าจะนับเป็นตัวลูกอยู่
แน่นอนว่าต่อให้เป็นตัวลูก ร่างกายของมันก็ใหญ่โตจนน่ากลัวแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ตรงหน้ามัน ตัวนางก็เล็กลงเท่ากับมด
ตัวของนางยังสูงไม่เท่าขาของมันเลย
เมื่อเป็นสถานการณ์เช่นนี้ อีกฝ่ายจึงอยากจะเหยียบนางให้ตาย และเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ในไม่กี่นาทีด้วย
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน
อสูรสันหลังเหล็กเหลือบสายตามองไปยังเข็มเหล็กที่เจาะอยู่บนทื้น เหมือนกับไม่ทอใจที่มันลงมือไม่สำเร็จ
ทันใดนั้นเองมันก็หันกลับมามองฉู่หลิวเยว่
เย็นชา!
น่าครั่นคร้าม!
มันใช้ความแข็งแกร่งมาดูหมิ่นและเมินเฉยฉู่หลิวเยว่
จิตสังหารที่เข้มข้นปรากฏขึ้นในแววตาของมัน!
ปึง!
มันยกขาขึ้น แล้วสาวเท้าขึ้นมาด้านหน้า!