ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1257 ต่อสู้กันแล้ว
พลังปราณดั้งเดิมที่อยู่ในร่างกายของฉู่หลิวเยว่พวยพุ่งออกมา ปลายนิ้วมีลำแสงประกายดาวขึ้น!
ถ้าไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญ นางจะไม่หยิบกระบี่ชื่อเซียวออกมา
แม้ว่าอสูรสันหลังเหล็กที่อยู่ตรงหน้านางจะร้ายกาจมากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
ต่อให้แย่แค่ไหน ในสามสิบหกกลยุทธ์ หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
แต่ในตอนนั้นเองด้านหลังของนางก็มีเสียงกร๊อบแกร๊บแปลกประหลาดดังขึ้น
เดิมทีฉู่หลิวเยว่ไม่อยากจะหันหลังกลับไป แต่เสียงนั้นขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นอกจากนี้มีลมปราณที่อันตรายแผ่ออกมาด้วย ทำให้นางต้องรู้สึกระมัดระวังตัวขึ้นมา!
นางจึงหันกลับไปมองด้านข้างและด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เมื่อหันมองไปรูม่านตาของฉู่หลิวเยว่ก็หดเล็กลง หนังศีรษะชาหนึบ!
เพราะว่าด้านหลังของนางนั้นเป็นฝูงงูฝูงหนึ่ง!
ไม่ใช่ตัวเดียว แต่เป็นฝูงที่คอยพัวพันกันอยู่!
แค่มองไปเพียงครู่หนึ่ง ก็เห็นว่ามีอย่างน้อยร้อยกว่าตัวแล้ว!
งูเหล่านี้มีขนาดเท่าหัวแม่มือเท่านั้น ลำตัวของมันก็มีสีสันงดงาม เปล่งประกายแวววาว สะท้อนแสงเย็นยะเยือกและงดงาม
แต่ว่าในขณะนั้นฉู่หลิวเยว่กลับไม่มีใจจะชื่นชม แต่ทว่ารู้สึกขนลุกชูชันขึ้นมา!
เพราะว่างูเหล่านี้ เป็นสัตว์อสูรระดับเก้าทุกตัว…งูสามเหลี่ยมฟันกระบี่!
ที่พวกมันมีชื่อนี้ก็เพราะว่าส่วนหัวของพวกมันมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม
เมื่อใดก็ตามที่มันอยู่ในสภาวะพร้อมโจมตี ฟันที่แหลมคมราวกับกระบี่สองซี่ก็จะปรากฏออกมา ส่องสว่างสีขาวด้วยความเย็นชาขึ้นมา
และแน่นอนว่ามันมีพิษ
พิษของมันนั้นเมื่อเทียบกับอสูรสันหลังเหล็กแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย!
และในตอนนี้มันรวมตัวมาเป็นกลุ่ม มุ่งหน้ามาทิศทางที่ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่
ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด ก็มีเสียงสวบสาบดังขึ้นจากพื้นดินมา
เมื่อครู่นี้นางยังไม่รู้สึก แต่หลังจากที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกมันแล้ว และฟังเสียงนี้อีกครั้ง ศีรษะของฉู่หลิวเยว่ก็ชาขึ้นมาทั้งหัว
และในตอนนี้นางกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
ด้านหน้าคืออสูรสันหลังเหล็ก ด้านหลังคืองูสามเหลี่ยมฟันกระบี่!
ไม่ว่าจะเป็นทางใด นางก็ไม่มั่นใจว่าตนเองจะสามารถสู้หรือถอยร่นไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
ฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของนางนั้นแข็งทื่อ
หากถวนจื่ออยู่ที่นี่ ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย…เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็มีพลังสายเลือดของกษายะหางวายุอันสูงส่ง
หากใช้เพียงแค่แรงกดดันจากสายเลือดทางธรรมชาติ มันก็สามารถทำให้สัตว์อสูรเหล่านี้ยอมจำนนได้ในทันที
แต่ว่าในตอนนี้…
นางจะสู้กับพวกมันคนเดียวได้อย่างใด?
ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดตอนที่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพูดถึงการลงโทษครั้งนี้ขึ้นมา ผู้อาวุโสวั่นเจิงถึงได้คัดค้านขนาดนั้น
ตอนที่กำลังจะจากมา สายตาของผู้อาวุโสวั่นเจิงถึงได้ดูลึกล้ำขนาดนั้น…
ตอนนั้นนางยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่า เขาไม่อยากจะห่างจากนาง แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกังวลเกี่ยวกับชีวิตของนาง!
สวนอสูร...
สวน! อสูร!
ฉู่หลิวเยว่ขบคิดอย่างบ้าคลั่งว่าจะแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างใด พร้อมกับกระตุ้นพลังภายในร่างกายให้พวยพุ่งออกมาด้วย!
ปลายนิ้วของนางปรากฏลำแสงทั้งห้าสายออกมา!
หากมันไม่ได้ผลละก็…
นางจำเป็นจะต้องอัญเชิญอินทรีสามตามาช่วยเหลือ
แต่ในมุมมองของฉู่หลิวเยว่แล้ว นี่เป็นแผนการถัดไปต่างหาก
นางมีอสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัว เรื่องนี้คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์ต่างรู้กันดี
เจียงจื่อหยวนเริ่มสงสัยที่นางมีกษายะหางวายุในครอบครองแล้ว
โชคดีที่หลิ่วอินถงก็มีหนึ่งตัวเช่นกัน ดังนั้นนางจึงสามารถโต้เถียงขึ้นได้
แต่ถ้านางรู้เรื่องอินทรีสามตาแล้วละก็ นางจะต้องรู้ฐานะที่แท้จริงของฉู่หลิวเยว่อย่างแน่นอน
ผู้บำเพ็ญเพียรบนโลกใบนี้ มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ชนิดเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่ถ้ามีเหมือนกันสองตัว นั่นจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับสวนอสูร นอกจากเรื่องที่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพูดขึ้นว่ามีผู้อาวุโสหลายคนที่ลาดตระเวนอยู่ด้านนอกนี้แล้ว ที่แห่งนี้มีคนอื่นอยู่หรือไม่ นางไม่รู้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้หากถูกพวกอาวุโสเรานั้นรู้เข้าละก็ น่าจะปิดบังไม่มิดอย่างแน่นอน
แม้ว่าสำนักหลิงเซียวจะมีผู้อาวุโสจำนวนมาก และแต่ละคนก็ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง แต่พวกเขาก็ยังมีการติดต่อกันอยู่ไม่มากก็น้อย อีกทั้งการส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างพวกเขานั้นก็รวดเร็วอย่างยิ่ง
สำหรับสำนักนี่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน ซึ่งสามารถช่วยจัดการเรื่องราวต่างๆ ที่อยู่ภายในสำนักให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
แต่สำหรับฉู่หลิวเยว่แล้ว มันไม่ได้เป็นเรื่องดีอันใดเลย
ทั้งสามฝ่ายต่างไม่พูดไม่จา
อากาศรอบด้านเหมือนจะหนาแน่นมากขึ้น!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นกระหน่ำ
ตึกตัก!
ตึกตัก!
ในตอนนี้อสูรสันหลังเหล็กและงูสามเหลี่ยมฟันกระบี่ก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกันแล้ว
“ฟ่อ…”
งูสามเหลี่ยมฟันกระบี่จำนวนไม่น้อยส่งเสียงแปลกประหลาดออกมา จนทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว ในดวงตาเป็นสีเขียวเข้ม ไม่มีการปิดบังจิตสังหารที่อยู่ภายในเลยแม้แต่น้อย!
โครม!
อสูรสันหลังเหล็กสาวเท้าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว!
หินใต้ฝ่าเท้าของมันแตกกระจาย พื้นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่น!
ไม่มีจุดอ่อนเลยแม้แต่น้อย!
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจอันใดขึ้นมาบางอย่าง
…นี่มัน…ทั้งสองฝ่ายจะสู้กันเองเพื่อแย่งชิงนาง ทุกคนเข้าสู่สภาวะพร้อมต่อสู้?
และแน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่เข้าใจดี ที่พวกมันเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะพวกมันชอบนาง จึงต้องการจะแย่งชิง
พวกมันกำลังแย่ง…อำนาจและโอกาสในการฆ่านาง!
สู้กันแล้ว!
สู้กันขึ้นมาแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนขึ้นในใจ
ขอเพียงแค่ทั้งสองฝ่ายเริ่มสู้กัน นางก็มีโอกาสหนีรอดออกจากที่นี่ได้!
พรึ่บ!
อสูรสันหลังเหล็กเป็นคนลงมือก่อน!
เข็มเหล็กที่อยู่ตรงสันหลังของมันพุ่งออกมาด้วยความเร็ว!
พรึ่บ!
ของชิ้นนั้นมีความเร็วสูงมาก ฉู่หลิวเยว่เห็นเพียงรอยประทับที่เลือนราง แต่ในวินาทีต่อมาเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังขึ้น!
เข็มเหล็กนั้นพุ่งเสียบเข้าที่งูสามเหลี่ยมฟันกระบี่ตัวหนึ่งเข้าพอดี!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ!
เมื่อได้รับการยั่วยุเช่นนี้ ไม่ว่าสัตว์อสูรชนิดใดก็ไม่สามารถอยู่นิ่งได้
ในตอนนั้นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็เริ่มต้นขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…
“ฟ่อๆ…”
ขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังรอการต่อสู้ที่ดุเดือดเริ่มต้น คาดไม่ถึงว่างูสามเหลี่ยมฟันกระบี่ฝูงนั้นจะถอยร่นลงไป
ฉู่หลิวเยว่มึนงง
นี่มันเรื่องอันใดกันนี่?
ไม่สู้แล้วหรือ?
แต่ไม่รอให้ฉู่หลิวเยว่เข้าใจ อสูรสันหลังเหล็กก็เปลี่ยนทิศทางมา แล้วพุ่งตัวหมายจะเหยียบนางให้ตาย!