ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1259 ข้ากลับมาแล้ว
หากนางโดนเหยียบเข้าจริงๆ แล้วละก็ ฉู่หลิวเยว่จะต้องกลายเป็นเนื้อบดคาที่แน่นอน!
ความคิดของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปในทันที ลมปราณเย็นๆ ก่อตัวรวมกลางฝ่ามือของนาง!
อย่างใดก็ตาม ในตอนที่นางกำลังจะล้มตัวลง ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ตั้งใจจะสู้ตาย อสูรสันหลังเหล็กที่โตเต็มวัยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกลับพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน มันใช้หัวโหม่ง ทำให้อสูรสันหลังเหล็กอีกตัวพลิกตัวลงกับพื้น!
โครม!
ร่างกายอันหนักอึ้งของอสูรสันหลังเหล็กตัวเล็กลอยกระเด็นออกไป ต้นไม้ที่อยู่ระหว่างทางล้มระเนระนาด!
หลังจากมันห่างออกมาสักระยะหนึ่ง ในที่สุดก็หยุดตัวลง
บนพื้นทิ้งร่องรอยลึก เศษหินและเศษไม้แตกกระจายไปทั่ว เละเทะไปเป็นแถบ!
ฉู่หลิวเยว่มึนไป
อสูรสันหลังเหล็กตัวเล็กที่กระเด็นออกไปเองก็มึนงงเช่นกัน
รอบข้างเงียบกริบ
คอของฉู่หลิวเยว่แข็งทื่อ และหันกลับไปมองอสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
นี่…นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดอีกฝ่ายถึงช่วยนางล่ะ?
หรือว่าอสูรสันหลังเหล็กตัวเล็กไม่ใช่ลูกของมัน?
แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็ลบความคาดเดาทั้งหมดทิ้ง
เพราะว่าหลังจากที่อสูรสันหลังเหล็กตัวเล็กตัวนั้นได้สติขึ้นมา มันก็ไม่ยอมลุกขึ้น แต่กลับคร่ำครวญออกมาเสียงดัง
“อ๊าว!”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตาไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นว่ามันกำลังนอนอยู่บนพื้น พร้อมมองไปยังอสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ แววตาเต็มไปด้วยความน้อยใจและน่าสงสาร
“อ๊าวๆ!”
วินาทีต่อมาฉู่หลิวเยว่ก็มองไปยังดวงตาสองดวงที่ใหญ่ราวกับโคมไฟนั้น ภายในนั้นมีม่านน้ำตาสะสมขึ้นอย่างรวดเร็ว
แปะ
แปะ
หยาดน้ำตาที่มีขนาดใหญ่เท่ากับกำปั้นไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง มันตกลงมาบนพื้น ทำให้เกิดแอ่งน้ำขนาดเล็ก
ฉู่หลิวเยว่ “…”
หากไม่ใช่พ่อแม่ของมันเอง ก็น่าจะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้ละมั้ง…
แต่เหมือนว่าเด็กน้อยตัวนี้จะไม่ได้รับการดูแลสักเท่าไร
เพราะว่าอสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยเห็นว่ามันร้องไห้ แทนที่จะมีการปลอบโยน แต่มันกลับเดินเข้าไปแล้วยกเท้าเหยียบอีกครั้ง!
เด็กน้อยตัวนั้นก็คงไม่คิดว่าพ่อแม่จะโหดร้ายกับตนเองขนาดนี้ และไม่มีใครใส่ใจเลยสักคน และถูกเตะด้วยลูกเตะนี้จนกระเด็นออกไปอีกครั้ง
เสียงร้องหยุดชะงักอย่างกะทันหัน จากนั้นมันก็กลิ้งออกไปหลายตลบ
อาจจะเป็นเพราะว่าอสูรสันหลังเหล็กเกิดมาพร้อมกับผิวหนังที่หนาและหยาบ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่ยั้งมือเลย พร้อมเตะลงมาอย่างแรง
เสียงกระดูกและกล้ามเนื้อตอนที่ถูกถีบดังลั่น ฉู่หลิวเยว่ที่ได้ยินก็หนังตากระตุกไป
ยัง…ยังคิดไม่ออกเลยว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างใดต่อไป…
“โฮก...”
อสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยพุ่งตัวไปทางตัวเล็กแล้วคำรามเสียงดัง ท่าทางดุร้ายอย่างยิ่ง
ตัวเล็กตัวนั้นเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และได้รับบทเรียน ในที่สุดก็ไม่กล้าก่อเรื่องไปทั่วอีก และละทิ้งอารมณ์ก่อนหน้านี้ และมีท่าทางเชื่อฟังพร้อมยอมรับความผิดของตนเอง
อสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยคำรามขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่ามันพูดอันใด แต่ตัวเล็กตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา แววตามีประกายตกใจ จากนั้นก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ แล้วส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“โฮก!”
อสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยคำรามอีกครั้ง ทำให้ตัวเล็กชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็ยอมทำตามทันที
ฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกเก้อกระดากอย่างมาก
นี่มัน…
เหตุใดเหมือนกับตัวเองกำลังทะเลาะกับลูกของคนอื่นอยู่เลย ไม่เพียงไม่โทษตัวเอง แต่ยังสั่งสอนลูกของตัวเองด้วย?
นิสัยของอสูรสันหลังเหล็กตัวเต็มวัยจะสูงส่งเกินไปหรือไม่นี่?
เดิมทีฉู่หลิวเยว่คิดจะจากไป
แต่เมื่อพิจารณาแล้วว่าความเร็วของตนเองนั้นยังไม่สามารถเทียบกับตัวลูกได้เลย แล้วถ้าเป็นอสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยล่ะ ยิ่งไม่มีทางแน่นอน
รอดูการกระทำของอีกฝ่าย ว่าอีกฝ่ายมีท่าทีอย่างใดจะดีกว่า
หลังจากรอสักพักในที่สุดอสูรสันหลังเหล็กทั้งสองตัวนั้นก็พูดคุยกันเสร็จแล้ว
แน่นอนว่าการพูดคุยแบบนี้ เป็นเพียงแค่อสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยให้การสั่งสอนกับตัวเล็กอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
โครม
อสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยเดินมาทางนี้
ลูกอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นก็เดินตามหลังมาอย่างหมดอันใดตายอยาก
หัวใจของมันตึงเครียดขึ้นมา…มาแล้ว!
นางยืดหลังตรงขึ้นมาโดยทันที แล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง
…ช่วยไม่ได้ อีกฝ่ายมีรูปร่างใหญ่โตเกินไป ตอนที่ฉู่หลิวเยว่มองตรงๆ จะเห็นเพียงแค่น่องของอีกฝ่ายเท่านั้น
อสูรตัวโตเต็มวัยยืนนิ่งตรงหน้าอยู่ห่างจากนางไม่ไกล
แต่ลูกอสูรสันหลังเหล็กกำลังเดินเข้ามาหานางทีละก้าว
นางสามารถมองเห็นคำว่าไม่เต็มใจถูกเขียนเอาไว้บนหน้า
เหมือนว่าอสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยที่อยู่ด้านหลังรังเกียจกับท่าทางที่เชื่องช้าของลูกมัน จึงเตะตูดมันอีกครั้ง
“ฮือ!”
ลูกอสูรสันหลังเหล็กถูกถีบจนเกือบกระเด็น มันจึงหันหน้าไปมองทันที
เดิมทีเหมือนว่ามันต้องการจะคัดค้าน แต่เมื่อมันสบสายตาที่น่ากลัวคู่นั้น มันจึงหยุดชะงักในทันทีแล้วลังเลไปสักพัก ทำได้เพียงส่งเสียงทุ้มต่ำในลำคอ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก
อสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยไม่เปลี่ยนท่าทาง และยกศีรษะขึ้น
ลูกอสูรสันหลังเหล็กจึงได้แต่ถอนสายตากลับมา และสาวเท้าไปหาฉู่หลิวเยว่ทีละก้าว
หนึ่งอสูรหนึ่งมนุษย์สบสายตากัน
ลูกอสูรสันหลังเหล็กจ้องมองมาทางฉู่หลิวเยว่ จากนั้นก็ก้มหน้าลงด้วยความเสียใจ
ฉู่หลิวเยว่ไม่ค่อยแน่ใจว่าเหตุใด นางจึงเห็นว่าศีรษะของตัวเล็กยื่นออกมาด้านหน้า
เขาสีเงินอันนั้นอยู่ไม่ไกลจากสายตาของนาง!
แค่นางยืนมองไปก็สัมผัสได้แล้ว!
นี่มัน…
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เหมือนจะเข้าใจอันใดบางอย่างขึ้นมา
นี่มัน…กำลังขอโทษนางอยู่หรือ?
นางเพิ่งจะคาดเดาขึ้นมา ฉู่หลิวเยว่ก็ต้องการจะปฏิเสธขึ้นมาทันที
เพราะว่านี่มันไร้สาระมากเกินไปแล้ว!
ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้นางถูกลูกอสูรสันหลังเหล็กตัวนี้ไล่ฆ่าอย่างไม่ลดละ จนเกือบจะตายอยู่แทบเท้าของอีกฝ่ายแล้ว
แต่ทว่าตอนนี้…มันไม่เพียงหยุดโจมตี อีกทั้งยังขอโทษเช่นนี้ด้วย?
เรื่องนี้ทำให้คนตกใจมากเกินไปแล้ว
แต่นอกจากเหตุผลนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็คิดเหตุผลอื่นมาอธิบายไม่ได้แล้ว
นางเหลือบสายตาไปมองทางอสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวนั้น
นางมองไปทางแววตาคู่นั้น
ทั้งสงบนิ่ง เคร่งเครียด และมีร่องรอยของความคิดถึงที่นางไม่อาจสืบหาที่มาที่ไปได้
ความรู้สึกคุ้นเคยพวยพุ่งออกมาจากในใจของฉู่หลิวเยว่อย่างกะทันหัน
อสูรสันหลังเหล็กตัวนี้…
นางอ้าปากขึ้น แต่กลับพูดอันใดไม่ออก
ความคิดที่กล้าหาญพาดผ่านในสมองของนาง
บางที…
นางกับมัน อาจจะเคยเจอกันมาก่อน?
ราวกับสามารถสัมผัสความผันผวนทางอารมณ์ของนางได้ ในที่สุดอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นก็สาวเท้าเดินขึ้นมา
มันมองไปทางดวงตาของฉู่หลิวเยว่ และก้มหัวลง
น่าเสียดายที่ตัวของมันสูงใหญ่มากเกินไป ต่อให้ฉู่หลิวเยว่ยื่นแขนออกมา ก็ไม่มีทางสัมผัสตัวมันได้
หลังจากตระหนักถึงเรื่องนี้ มันก็กะพริบตาปริบๆ และคุกเข่าลงอย่างไม่ลังเล
จากนั้นก็โน้มตัวไปด้านหน้า ท่าทางอ่อนโยนและสามารถพึ่งพาได้
เหมือนมีอันใดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวใจของฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว
นางยื่นมือออกไปแล้วลูบหัวของมันโดยไม่รู้ตัว
ผิวหนังของอสูรสันหลังเหล็กนั้นทั้งแข็งและหยาบเป็นอย่างมาก เมื่อลูบไปแล้วเหมือนกับลูบเหล็กอย่างใดอย่างนั้น
แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด หัวใจของฉู่หลิวเยว่ถึงรู้สึกอ่อนยวบขึ้นมา
ทันใดนั้นเองสายตาของนางก็หยุดนิ่ง นางเห็นว่าบนเขาของอสูรสันหลังเหล็กตัวนี้เหมือนว่าจะมีรอยแผลเป็นอยู่
เหมือนว่ามันจะถูกคนเอาอาวุธมีคมฟันลงมา ทำให้มีรอยยาวประมาณครึ่งนิ้ว
หากมองจากระยะไกลยากจะสังเกตเห็น แต่เมื่อยืนในระยะใกล้กลับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ฉู่หลิวเยว่เอามือลูบรอยแผลนั้นอย่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็ไหลออกจากสมองของนางอย่างบ้าคลั่ง!
นางปวดหัวจนต้องขมวดคิ้วมุ่น จนเกือบจะล้มลงไปที่พื้นแล้ว
อสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นมองนางด้วยความกังวล
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง พร้อมสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ขยับเข้าใกล้มันมากกว่าเดิม
อสูรสันหลังเหล็กปล่อยให้นางกอดตัวมันไว้ โดยไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
ส่วนลูกอสูรสันหลังเหล็กที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มองมาอย่างทำอันใดไม่ถูก
ฉู่หลิวเยว่หลังจากผ่านไปสักพัก ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อาฉยง ข้ากลับมาแล้ว”