ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1265 รนหาที่ตาย
เดิมทีเขาคิดว่า หากฉู่เยว่สามารถเอาตัวรอดได้ทั้งวันก็ไม่เลวแล้ว
แต่ใครจะรู้เล่าว่าจนถึงตอนนี้ฉู่เยว่ยังไม่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือใดๆ ออกมาเลย
อีกทั้งสังเกตจากสถานการณ์ในค่ายกลของสวนอสูรแล้ว เขาก็มั่นใจว่ามันไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นแน่นอน อีกทั้งเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งอยู่ตลอด
“หรือว่าเขาจะสามารถหาสถานที่ซ่อนตัวที่สมบูรณ์แบบได้แล้ว?”
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้คิดกับตัวเองในใจ
แต่ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในสวนอสูร ไม่ได้นิสัยดีขนาดนั้น…
แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดจนถึงวันนี้ยังไม่มีสัตว์อสูรก่อความวุ่นวายเลย…
เขาคิดไปคิดมา แล้วคิดว่าจะรอต่อไปอีกสักหน่อย
ถ้าฉู่เยว่สามารถอยู่ที่นี่หนึ่งเดือนด้วยตนเองได้จริงๆ ละก็ เขาคงต้องมองฉู่เยว่ใหม่แล้ว!
…
ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ภายในถ้ำ ก็ค่อยๆ หลงลืมวันเวลา
พลังแห่งสวรรค์และโลกไหลเวียนเข้าในร่างกายของนางจากสี่ทิศ มันไหลผ่านแขนขาทั้งสี่ สุดท้ายก็มารวมตัวกันภายในตันเถียน!
พลังที่อยู่โดยรอบแข็งแกร่งมากขึ้น ลวดลายทั้งเจ็ดเส้นที่อยู่บนไข่มุกธาราก็ส่องสว่างมากยิ่งขึ้น
แต่ว่าเมื่อรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวนี้ หัวใจของฉู่หลิวเยว่จึงสามารถผ่อนคลายลงได้
เพราะว่า…
จากการคำนวณแล้ว อีกไม่กี่วันนางน่าจะทะลวงเลื่อนขั้นได้แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด พลังทุกชนิดที่อยู่ภายในตันเถียนถึงวิ่งวนไปวนมาและลากยาวจนมาถึงวันนี้ โดยไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกสับสนเล็กน้อย
สำหรับนางแล้วการเลื่อนขั้นไปสู่ระดับเจ็ดขั้นสูงสุดไม่นับว่าเป็นเรื่องยากอันใด
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน นางก็สามารถเลื่อนขั้นได้สำเร็จแล้ว
แต่อย่างใดก็ตามในสถานการณ์ตอนนี้เริ่มพัฒนาไปในทิศทางที่นางไม่ทราบแล้ว
เมื่อทำการตรึกตรองแล้ว ฉู่หลิวเยว่จึงตัดสินใจรอต่อไปด้วยความอดทน และเริ่มกลืนพลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่บริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดภายในตันเถียนก็เกิดระลอกคลื่นออกมาเล็กน้อย!
หลังจากนั้นพลังอันทรงพลังก็พวยพุ่งออกมาจากมัน!
ภายในพลังส่วนนี้มีลมปราณที่คุ้นเคยแฝงอยู่
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
หลังจากนั้นนางถึงจะตระหนักได้ว่านี่เป็นพลังดั้งเดิมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรัชทายาทของเป่ยหมิงในครั้งแรกนั้น
หลังจากที่นางกลืนพลังเหล่านั้นลงไป ก็หายเข้าไปในไข่มุกธาราอย่างไร้เสียง และไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีก
ฉู่หลิวเยว่คิดไม่ถึงเลยว่า พลังเหล่านี้จะปะทุขึ้นมาในตอนนี้อย่างกะทันหัน!
หลังจากที่หลอมให้ไข่มุกธาราอุ่นขึ้นเป็นเวลานาน พลังเหล่านี้ก็บริสุทธิ์อย่างมาก และทันใดนั้นเองมันก็พุ่งไปยังร่างกายของฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
นางรู้สึกตกใจอย่างมากแต่ก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้
…พลังเหล่านี้สามารถช่วยให้นางทะลวงไปสู่จอมยุทธ์ระดับแปด!
หลังจากได้สติขึ้นมาแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ตัดสินใจในทันที และเริ่มนำทางให้พลังเหล่านี้โคจร!
แม้นางจะไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง!
ในเมื่อนางสามารถทะลวงสู่จอมยุทธ์ระดับแปดได้โดยตรง เช่นนั้น…
ก็ต้องขอลองเสียหน่อย!
ภายใต้การควบคุมของฉู่หลิวเยว่ พลังที่เคยวุ่นวายและสับสนก็เริ่มไหลผ่านสู่เส้นชีพจรของนางอย่างเป็นระเบียบ
เส้นชีพจรเทียนจิงสามารถรับพลังได้มากกว่าเส้นชีพจรตี้จิงมาก ดังนั้นหลังจากที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในครั้งแรก ร่างกายของฉู่หลิวเยว่ก็สามารถปรับเข้ากับแรงโจมตีของพลังเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างขั้นตอนนี้ยังมีพลังบางสายที่ไหลเข้าหลอมรวมกับเนื้อของนางได้อย่างไร้เสียง
ภายในไข่มุกธารามีพลังพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดแล้วนี่คือพลังของผู้แข็งแกร่งระดับเทพทิ้งไว้ให้ จึงไม่อาจดูเบาได้เลย!
ก่อนหน้านี้พลังเหล่านี้ถูกเก็บกักเอาไว้ภายในไข่มุกธารา ฉู่หลิวเยว่เองก็แทบจะไม่ได้ใส่ใจอันใดมันนัก แต่เมื่อถึงตอนนี้พลังเหล่านั้นที่นางเคยกลืนมันลงไป นางถึงเพิ่งรู้ว่ามันมีความน่ากลัวมากมายขนาดนี้!
ในขณะที่นางกำลังจะหลอมรวมพลังเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง ลมปราณบนร่างของนางก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!
หากมีคนอื่นอยู่ที่นี่ในตอนนี้ คนที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้จะต้องตกใจอย่างแน่นอน!
เพราะว่าในตอนนี้ความเร็วของฉู่หลิวเยว่ที่กลืนกินพลังดั้งเดิมนั้น มันสูงจนน่าตกใจจริงๆ!
ตอนที่ผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไปต้องการจะเลื่อนขั้นเข้าสู่จอมยุทธ์ระดับแปด จำเป็นจะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม
หากพูดตามตรงเลยก็คือ จะต้องสะสมพลังดั้งเดิมให้เพียงพอ เพื่อพุ่งสู่ขีดจำกัดของประตูจอมยุทธ์ระดับแปด
แต่สำหรับจอมยุทธ์แล้ว ยิ่งเขาทะลวงด่านมากเท่าไร เขาก็ต้องการประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฉู่หลิวเยว่ที่กำลังระดมพลังอยู่ในตอนนี้ มันห่างชั้นจากผู้บำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ มากแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่นางทำได้เพียงกระตุ้นการโคจรของพลังเหล่านี้ต่อไป!
นางรู้ตั้งนานแล้วว่าหากไข่มุกธาราต้องการจะทะลวงด่าน จำเป็นจะต้องใช้พลังมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว
จากขั้นต้นเลื่อนไปสู่ขั้นกลาง หรือขั้นกลางเลื่อนไปสู่ขั้นสูงสุด ร้ายดีอย่างใดมันก็อยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ยากขนาดนั้น
แต่ทุกครั้งที่มีการทะลวงด่าน สถานการณ์ก็จะยุ่งยากขึ้นอย่างมาก
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่การทะลวงด่านเข้าสู่ระดับเจ็ดเมื่อครั้งที่แล้ว นางต้องสูญเสียพละกำลังไปไม่รู้ตั้งเท่าไร
คิดไม่ถึงเลยว่าการกลืนกินอย่างไม่มีสิ้นสุดในครั้งนั้น จะมีประโยชน์ต่อการเลื่อนขั้นในครั้งนี้!
แกร๊ก!
เสียงที่แผ่วเบาสะท้อนออกมา!
ลวดลายเส้นที่เจ็ดบนไข่มุกธารา ในที่สุดก็สว่างสดใสเหมือนกับเส้นอื่นๆ แล้ว!
แต่นั่นมันเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น!
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจ ไม่กล้าที่จะหยุดยั้ง และใส่พลังลงไปอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้พลังดั้งเดิมที่อยู่ภายในร่างกายโคจร!
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าก็มีเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เมฆฝนรวมตัว เสียงลมพายุพัดผ่าน!
ท้องฟ้ามืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว!
อาฉยงที่เฝ้าอยู่หน้าปากถ้ำก็เงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นก็หันกลับไปมองภายในถ้ำอย่างไม่รู้ตัว
นี่มัน…ทะลวงด่านแบบต่อเนื่อง?
…
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ที่อยู่ห่างออกไป ได้ยินการเคลื่อนไหวเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เหตุใดท้องฟ้าถึงมืดลงเร็วขนาดนี้…ไม่ใช่สิ”
ทันใดนั้นหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีไปทันที
“เจ้าเด็กคนนั้นจะทะลวงด่านหรือ?”
เขาสะกิดปลายเท้าขึ้น แล้วพุ่งตัวไปทางทิศทางนั้นทันที!
จะทะลวงด่านภายในสวนอสูร…เด็กนั่นจะรนหาที่ตายหรือ!