ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1269 สละ
ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วป่า!
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้แค่มองเพียงครู่เดียวเขาก็รู้แล้วว่า นี่คือลูกที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานของอสูรสันหลังเหล็กตัวโตเต็มวัยตัวนั้น!
เหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ ตอนที่มันวิ่งมาขาของมันกะเผลก หลังของมันก็มีเลือดออกจางๆ
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ขยับเข้าใกล้เล็กน้อย และมองให้ละเอียด จากนั้นก็เห็นว่าที่ขาด้านหลังของอสูรตัวเล็กตัวนั้นมีรูเลือดอยู่หนึ่งรู
รอยนั้นเหมือนกับรอยฉีกกระชากเนื้อของสัตว์ร้าย เนื้อของมันแหว่งออกมาเป็นก้อนใหญ่ จนแทบจะมองเห็นกระดูกสีขาวแล้ว
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ตกใจอย่างมาก
ผิวหนังของอสูรสันหลังเหล็กทั้งหนาและหยาบ ในบรรดาของสัตว์อสูรที่อยู่ในสวนอสูรแห่งนี้ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของมันถูกจัดในสามลำดับแรก
สัตว์อสูรที่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ แต่ต้องไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาแน่นอน!
คิดดูๆ แล้ว แปดส่วนน่าจะเป็น…
โดยปกติแล้วความสัมพันธ์ของสัตว์อสูรเหล่านี้เป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง แต่เหตุใดมันถึงลุกขึ้นมาต่อสู้กันได้ล่ะ?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า มันเป็นเพียงแค่ลูกสัตว์ตัวเล็ก การที่ทำร้ายมัน จะต้องเป็นการล่วงเกินอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย!
ตอนนี้เกรงว่าถ้าไม่ตายก็คงไม่หยุดกันอย่างแน่นอน!
ตอนที่ผู้อาวุโสอวี๋อวี้กำลังครุ่นคิดถึงปัญหาเหล่านี้ ลูกอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นก็เริ่มวิ่งมาบนยอดเขาแล้ว
มันวิ่งไปด้วย กู่ร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย
อาฉยงที่ทำหน้าที่เฝ้าปากถ้ำเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ก็รีบหันไปมองทางลงเขาทันที
การมองเห็นในเวลากลางคืนของพวกมันนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้ฟ้าดินจะปกคลุมด้วยความดำมืด แต่อาฉยงก็สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ด้านล่างได้อย่างรวดเร็ว
กลิ่นคาวเลือดเข้มข้น
สายตาของอาฉยงเปลี่ยนไปในทันที จากนั้นมันก็สามารถมองเห็นบาดแผลบนขาของลูกตัวเอง!
พรึ่บ!
เข็มเหล็กที่อยู่บนหลังของมันชี้ตั้งขึ้นในทันที! แววตาของมันมีประกายจิตสังหารเข้มข้น!
“โฮก...”
มันเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธ จากนั้นก็คำรามออกมาหนึ่งเสียง
เสียงตะโกนนี้หนักแน่นและทรงพลัง และถูกส่งผ่านแมกไม้ที่หนาแน่นออกไป
สัตว์อสูรทุกตัวทราบดีว่านี่คือคำเตือน!
เมื่อได้ยินเสียงแม่ของตนเอง ลูกอสูรสันหลังเหล็กก็รู้สึกเบาใจขึ้นไม่น้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็พบว่า สัตว์อสูรที่ไล่ฆ่ามันตัวนั้น ไม่ยอมหยุด!
เหมือนว่าความเร็วจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเล็กน้อย!
พรึ่บ!
สัตว์อสูรที่ไล่ตามมาด้านหลังก็ลอยกระเด็นออกไป!
ลูกอสูรสันหลังเหล็กรีบหลบอย่างรวดเร็ว มันเกือบจะสะดุดล้มลงที่พื้นแล้ว
ในขั้นตอนนั้นเองร่างของมันก็ล้มทับต้นไม้ที่หักโค่น เศษกิ่งไม้ที่เหยียดยาวออกมา แทงเข้าที่แผลของมันในทันที!
“โฮก…”
ลูกอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
ในตอนนี้มันไม่สนใจอันใดทั้งนั้นแล้ว มันพยายามดิ้นรนลุกขึ้นยืน และวิ่งขึ้นภูเขาต่อไป
กลับบ้าน!
ตราบใดที่อยู่ข้างกายแม่ มันจะปลอดภัย!
ด้วยความเชื่อนี้ มันจึงวิ่งกลับมาอย่างสุดกำลัง
อาฉยงเห็นเหตุการณ์นั้นทั้งหมด
ในดวงตาทั้งสองข้างของมันนั้นมีเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นอยู่สองกอง ราวกับว่ามันจะเผาไหม้ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า!
มันสาวเท้าขึ้น ขณะกำลังจะพุ่งตัวออกไป ภายในถ้ำด้านหลังของมัน ฉู่หลิวเยว่ก็กำลังบำเพ็ญเพียร และเตรียมตัวจะทะลวงด่าน!
หากมันจากไปในตอนนี้ละก็ เช่นนั้นฉู่หลิวเยว่ก็จะตกอยู่ในอันตราย
มันรู้ดีว่า มนุษย์คนเดียวที่บุกเข้ามาในสวนอสูร จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมามากมาย!
ในใจของอาฉยงสับสนอย่างมาก
ด้านหน้าคือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของมัน ด้านหลังคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมัน
มันแทบจะตัดสินใจไม่ได้เลย
“โฮก!”
ด้านล่างของภูเขามีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าตอนนี้มันแผ่วเบาและอ่อนแรงกว่าแต่ก่อนมาก
มันไม่ต้องมองก็รู้ว่า ลูกของตนเองนั้นจะต้องอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่มันจึงทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและพุ่งลงไปด้านล่าง แต่ว่าสิ่งที่อยู่ภายในใจ
ลึกๆ กับเหนี่ยวรั้งมันเอาไว้ จนตรึงมันไว้กับที่
ในที่สุดมันก็กระทืบเท้าลงไปอย่างแรง!
โครม!
ด้วยฝีเท้านี้ ทำให้ภูเขาครึ่งลูกต้องสั่นสะเทือน!
รอยแยกปรากฏขึ้นตรงใต้ฝ่าเท้าของมัน!
แรงกดดันที่น่ากลัว เหมือนกับพายุหมุนที่ม้วนลงมา!
ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะทะลวงด่านได้สำเร็จ มันไม่สามารถจากที่นี่ไปได้!
หากเป็นเวลาปกติ สัตว์อสูรแต่ละตัวจะครอบครองพื้นที่ของตนเอง และไม่ก้าวก่ายกัน
แต่ถ้าหากมีพฤติกรรมก้าวล้ำ มันจะได้รับคำเตือนและภัยคุกคาม
ในสถานการณ์ทั่วไปแล้ว คำเตือนแบบนี้สามารถใช้ได้
เพราะว่าในสวนอสูร ไม่มีสัตว์อสูรตัวใดที่มีพลังยิ่งใหญ่และสามารถครอบครองได้ทั้งหมด
ทุกตัวต่างควบคุมซึ่งกันและกัน ซึ่งเกิดเป็นความสมดุลขึ้น
แต่ทว่าตอนนี้ความสมดุลถูกทำลาย
ฝ่ายตรงข้ามไม่สนใจคำเตือนของอาฉยง ไม่ว่าอันใดจะเกิดขึ้นก็ต้องโจมตีต่อไปแล้ว!
นอกจากต่อสู้ ก็ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว!
แต่…อาฉยงในตอนนี้ ไม่สามารถออกจากที่นี่ได้ แล้วจะต่อสู้อย่างใด?
เสียงคำรามของโลกอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นค่อยๆ เบาลง
อาฉยงหันหน้าลงไปมอง และเห็นว่าความเร็วของมันนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเลือดของมันก็ไหลท่วมร่างกาย เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถทนไหวอีกต่อไปแล้ว
ความโกรธปะทุขึ้นในใจ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด!
“โฮก!”
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและบ้าคลั่งอยู่หลายส่วน!
แต่มันก็ยังคงปักหลักอยู่หน้าถ้ำเช่นเดิม ไม่เดินออกไปเลยแม้แต่ก้าวเดียว!
…
“เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ล่ะ…”
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ที่มองภาพเหตุการณ์นั้นอยู่ไม่ไกล ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก
อสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นมันคิดจะทำอันใดกันแน่?
ลูกอสูรสันหลังเหล็กที่อยู่ตรงตีนเขากำลังจะตายอยู่แล้ว นั่นเป็นลูกของมันนะ!
ในเวลาแบบนี้มันควรจะพุ่งตัวลงไป แล้วทุ่มเทปกป้องอีกฝ่ายอย่างสุดกำลังไม่ใช่หรือ?
เหตุใดมันถึงยังอยู่ที่นี่ มันยังเฝ้าอยู่ที่ปากถ้ำไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย?
ภายในถ้ำนั้นคือ…ฉู่เยว่จริงๆ ใช่หรือไม่?
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ครุ่นคิดมากมายแต่ก็ยังไม่เข้าใจ
หรือว่าสำหรับมันแล้วฉู่เยว่นั้นสำคัญกว่าทายาทของตนเอง?
ถ้าเขาไม่ได้เห็นกับตา เขาจะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
หากพูดเรื่องนี้ออกไปเกรงว่าคนอื่นจะคิดว่าเขากำลังล้อเล่นอยู่แน่นอน
เขาขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับฉู่เยว่ขึ้นมาได้
เรื่องหลายอย่างทำให้คนเหลือเชื่อ
เดิมทีแล้วเขาไม่ได้ใส่ใจกับฉู่เยว่มากนัก อีกฝ่ายเป็นแค่เด็กที่ชอบก่อเรื่องเท่านั้น ถ้าพูดให้ดี เขาก็มีพรสวรรค์ที่ดีและโชคดี
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ตัวเองนั้นคิดผิด
สามารถทำให้อสูรสัตว์หลังเหล็กตัวโตเต็มวัยตัวหนึ่งสละเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้…
ช่วงเวลาที่ฉู่เยว่เข้ามาในสวนอสูร เขาทำอันใดไว้กันแน่?
…
ความจริงแล้วฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ทำอันใดเลย
นางแค่บำเพ็ญเพียร และตั้งใจจะทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปด!
เวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ต้นจนจบนางคงสภาพอยู่ท่านี้ไว้ตลอด
ทางหนึ่งคือกลืนกินพลังแห่งสวรรค์และโลก อีกทางหนึ่งคือนำพลังที่เก็บซ่อนในไข่มุกธารามาหลอมรวมกับตัวอย่างสมบูรณ์แบบ
แม้กระทั่งตัวนางเองก็ยังตกใจกับการพัฒนาในครั้งนี้
เพราะว่าสิ่งนี้มันเกินกว่าสมัยที่นางทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปดเมื่อชาติที่แล้วอย่างมาก
แต่นางก็พยายามอย่างสุดแรงโดยตลอด
ระหว่างนั้นนางสามารถสัมผัสได้ถึงกำแพงที่มองไม่เห็น
ในใจของนางคิดว่า…นั่นจะต้องเป็นประตูสู่จอมยุทธ์ระดับแปดอย่างแน่นอน!
นางกลั้นลมหายใจ รวบรวมพลัง แล้วพุ่งเข้าหากำแพงนั้น!
…