ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1273 ต่อไป
วิถีกระบี่นั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนตกใจ
บริเวณโดยรอบมีความเงียบเข้ามาปกคลุม
ในตอนนั้นเองอาฉยงก็เหมือนจะสัมผัสอันใดได้บางอย่าง จึงรีบหันหลังกลับไปดูด้วยความตื่นเต้น!
เงาร่างเพรียวบางกำลังเดินออกจากถ้ำมา!
คนผู้นั้นคือฉู่หลิวเยว่!
นางสาวเท้าเดินเข้ามาทีละก้าว ฝีเท้าไร้เสียง การเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ
ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความสง่างามและอิสระจนไม่สามารถอธิบายได้
แม้กระทั่งตอนที่ลมพัดผ่านรอบกายนาง ก็ดูเหมือนว่าจะอ่อนโยนลงเป็นพิเศษ
ในตอนนี้ท้องฟ้ามืดมาก ขณะที่นางปรากฏตัวขึ้น เหมือนกับทุกสิ่งรอบกายสว่างขึ้นโดยทันที
เมื่อดูแล้วนางเหมือนกับตอนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่ทว่าเหมือนมีอันใดบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
…หลังจากแข็งแกร่งขึ้น นั่นสิถึงเรียกว่าเกิดความเปลี่ยนแปลง!
“อาฉยง เหม่อเหตุใดเล่า ยังไม่รีบพาเขากลับมาอีก”
ฉู่หลิวเยวยืนนิ่ง แล้วยิ้มให้กับอาฉยง
อาฉยงถึงเพิ่งได้สติกลับคืนมา แล้วพยักหน้าอย่างแรง ก่อนจะวิ่งลงเขาไป!
ตึง!
ตึง!
มันมีร่างกายขนาดใหญ่ ตอนที่วิ่งมานั้น เหมือนว่าภูเขาทั้งลูกจะถูกเหยียบลงมา
แต่ว่ามันมีความเร็วสูงมาก กอปรกับระยะทางไม่ได้ไกลเท่าไรนัก ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงแล้ว
มันก้มตัวลงอย่างระมัดระวัง อีกทั้งยังประคองศีรษะของลูกอสูรสันหลังเหล็กที่นอนอยู่ที่พื้นด้วยความระมัดระวังและเจ็บปวด
บนเขาสีเงินมีลำแสงสว่างเจิดจ้า
มันขยับเข้าใกล้เล็กน้อย แล้วใช้เขาของตัวเองสัมผัสกับเขาของลูกมัน
พลังที่อบอุ่นไหลเข้าสู่ร่างกายของลูกอสูรสันหลังเหล็ก
เดิมทีลูกอสูรสันหลังเหล็กตัวนั้นสิ้นหวังและกำลังรอคอยความตาย ยังไม่ทันได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันก็สามารถสัมผัสกับลมปราณที่คุ้นเคย
มันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เห็นก็คือแม่ของตนเอง
มันเบิกตากว้างมอง ราวกลับยังไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอันใดขึ้น
อาฉยงพยุงมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และเดินถอยลงไปทีละก้าว
เมื่อมีพลังสนับสนุนของมัน เดิมทีลมหายใจที่โรยรินของลูกอสูรสันหลังเหล็กก็มีพละกำลังกลับมาหนึ่งส่วน
จนกระทั่งมันถูกวางลงที่หน้าปากถ้ำบ้านตนเอง มันถึงค่อยเข้าใจอันใดขึ้นมาบางอย่าง
“มันได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าจะให้ยามันก่อน เมื่อสถานการณ์สงบแล้ว หลังจากนั้นค่อยมาทำแผลดีๆ”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น แล้วหยิบขวดโอสถออกมาหนึ่งขวด เทโอสถออกมาห้าเม็ด แล้วป้อนให้กับลูกอสูรสันหลังเหล็ก
โดยปกติแล้วใช้แค่เม็ดเดียวก็เพียงพอ แต่ว่าอสูรสันหลังเหล็กมีร่างกายที่ขนาดใหญ่ ใช้ห้าเม็ดถึงจะใช้ได้
ลูกอสูรสันหลังเหล็กไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน และกลืนลงไปอย่างเชื่อฟัง
อาฉยงแนบใบหน้ากับลูกมัน ดวงตาของมันยังคงเป็นสีแดงก่ำอยู่ แต่ความสิ้นหวังและโกรธแค้นได้หายไปแล้ว
ในตอนนี้มีเพียงความซาบซึ้งและตื้นตันอย่างไร้ที่สิ้นสุด
แม่ลูกโอบกอดกันเงียบๆ เหมือนว่าจะไม่มีอันใดสามารถแยกพวกมันสองตัวได้อีกต่อไปแล้ว
ฉู่หลิวเยว่มองดูภาพนั้นแล้วรู้สึกแสบจมูก จึงหันไปพูดกับอาฉยงต่อว่า
“อาฉยง ครั้งนี้…ขอบคุณเจ้ามากนะ”
ความซาบซึ้ง รู้สึกขอบคุณ ละอายใจ และโล่งอก…มันรวมตัวกันอยู่ในคำพูดสั้นๆ เหล่านี้
แม้ว่าฉู่หลิวเยว่จะอยู่ในถ้ำโดยตลอด ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาตนเองว่าด้านนอกมันเกิดอันใดขึ้น แต่ทั้งก่อนและหลังที่นางจะทะลวงด่าน ความจริงแล้วนางก็ใส่ใจสถานการณ์ด้านนอกอยู่พอควร จึงสามารถเดาได้เก้าในสิบส่วน
นางคิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อปกป้องนาง อาฉยงถึงกับยอมสละเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง
เรื่องนี้ทำให้นางตกใจอย่างมาก ยังรู้สึกผิดและละอายใจเช่นกัน
“ข้าจะช่วยรักษาบาดแผลของมันเอง”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
“แล้วก็ ครั้งหน้า…อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
อาฉยงส่ายหน้า
หากว่ามีครั้งหน้า มันก็จะเลือกทำแบบเดิม
สำหรับเด็กน้อย มันสามารถเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อแก้แค้นได้
แต่มันอยากให้นางมีชีวิตอยู่
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เหมือนถูกอันใดบางอย่างกดทับเอาไว้ น้ำตารื้นขึ้น
นางสูดลมหายใจเข้า ริมฝีปากคลี่รอยยิ้มที่สดใส
“ข้าพูดผิดไปแล้ว ครั้งหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน!”
เรื่องแบบนี้ นางไม่อนุญาตให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง!
“เจ้าเฝ้าอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น แล้วสาวเท้าขึ้นไปหนึ่งก้าว ก่อนจะยกมือขึ้น
พรึ่บ!
กระบี่เล่มยาวที่ฆ่าเสือดาวสุวรรณเมฆาตัวนั้นลอยกลับมาอย่างรวดเร็ว!
แหลมคม เย็นยะเยือก น่าเกรงขาม!
…กระบี่เล่มนั้นคือกระบี่ชื่อเซียว!
ฉู่หลิวเยว่กำด้ามกระบี่แน่น และสัมผัสได้ถึงความเย็นเล็กน้อย หัวมังกรที่เกาะอยู่ตรงด้ามกระบี่ แววตาของมันมีประกายเย็นชา
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กลับร้อนรุ่มเป็นไฟ!
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะสามารถคาดเดาพลังของกระบี่ชื่อเซียวได้แล้ว แต่พลังของมันนั้นกลับยิ่งใหญ่กว่าอาวุธโบราณทุกชนิดที่นางครอบครองไว้เสียอีก อีกทั้งยังแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่าตัว ตอนที่แสดงพลังที่แท้จริงออกมา ประกายจิตสังหารที่น่ากลัวของมันยังทำให้ฉู่หลิวเยว่ตกใจ!
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ขว้างกระบี่ออกไป ความจริงแล้วยังไม่ได้ถ่ายเทพลังดั้งเดิมลงไปเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าในตอนนั้นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน นางขว้างลงไปด้วยความคิดที่ว่าต้องการจะฆ่าเสือดาวสุวรรณเมฆาเท่านั้น
ผลสุดท้าย ตายในดาบเดียว!
ต้องบอกก่อนว่าเสือดาวสุวรรณเมฆาตัวนั้น เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!
นี่คือพลังของกระบี่ชื่อเซียวที่แสดงให้เห็น!
อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ…สมคำร่ำลือจริงๆ
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงครู่หนึ่ง
หลังจากฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปตัวหนึ่ง กระบี่ชื่อเซียวก็ยังสะอาดสดใสดังเดิม ไม่มีคราบเลือดเกาะเลยแม้แต่น้อย
รอบข้างเงียบกริบ
ก่อนหน้านี้ยังมีเสียงคำรามของสัตว์อสูรนานาชนิด แต่ตอนที่เสือดาวสุวรรณเมฆาถูกฆ่า ทุกอย่างก็เงียบลงอย่างกะทันหัน
ในสถานที่แห่งนั้นสัตว์อสูรระดับต่ำสุดคือระดับเก้า และแน่นอนว่าพวกมันไม่ได้โง่
อย่างน้อยหลังจากที่มันเห็นภาพเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ มันก็จะไม่ยอมเป็นเนื้อบนเขียงของฉู่หลิวเยว่อีกต่อไป
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้น ในแววตาเย็นยะเยือก นางกวาดสายตามองสัตว์อสูรที่อยู่โดยรอบ ริมฝีปากยกยิ้มเยาะเย้ย
“คนต่อไป ใครจะเข้ามา?”